ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 782 นี่เป็นการใส่ร้าย (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 782 นี่เป็นการใส่ร้าย (3)
ในเมื่อคนพวกนั้นวางหลุมพรางไว้แล้ว พวกเขาต้องสังเกตเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา พวกเขาต้องรู้ว่าเย่ซือเฉินไม่ได้มาที่โรงแรม
หากคนพวกนั้นมีเป้าหมายเพียงเย่ซือเฉินคนเดียว เย่ซือเฉินไม่ได้มาที่โรงแรม แผนการก็ต้องยกเลิก คงไม่เปลี่ยนเป้าหมายไปยังถังหลินเด็ดขาด
ฉะนั้นคนพวกนั้นไม่เพียงแต่จะทำร้ายเย่ซือเฉินเท่านั้น เกรงว่ายังหมายรวมถึงถังหลินด้วย
สถานะของถังหลินกับเย่ซือเฉินนั้นต่างกัน พวกเขาทำเช่นนี้มันมีความเสี่ยงสูงมาก
แน่นอน เมื่อเกิดเรื่องขึ้น ผลที่ตามมาก็รุนแรงกว่าอีกด้วย เพราะเย่ซือเฉินมีสถานะเป็นเพียงนักธุรกิจ แต่สถานะของถังหลินนั้นพิเศษ
เพราะเชื่อมโยงไปถึงแปดตระกูลใหญ่
ถังหลินเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น เท่ากับเป็นการโจมตีขั้นทำลายล้างกันเลย
หากเรื่องนี้ไม่สืบให้กระจ่าง หากถูกลงความผิดตามกฎหมายจริงๆ ทุกอย่างของถังหลินก็จะต้องมลายไปหมดสิ้น
ไม่เพียงแต่ถังหลินเท่านั้น ถังหยุนเฉิงก็ต้องรับเคราะห์ด้วยอีกคน
หากตระกูลอื่นที่เป็นสมาชิกแปดตระกูลใหญ่จับมือกับกดขี่ตระกูลถัง หายนะคงเหนือความคาดหมาย
พอถึงเวลานั้นทุกคนในบ้านตระกูลถังก็ต้องถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้อง ข่าวอื้อฉาวเช่นนี้ถือเป็นการทำลายล้างทั้งถังหลินและตระกูลถังเป็นอย่างยิ่ง
คนวางแผนต้องเป็นคนโหดระดับเทพแน่เชียว
ใครเป็นคนวางแผนนี้กันแน่?ปกติถังหลินเป็นคนละเอียดรอบคอบ ระวังตัวตลอดเวลา คนทั่วไปไม่อาจวางแผนร้ายต่อเขาได้
“ใครเป็นคนจองห้องให้เย่ซือเฉิน?”เวินลั่วฉิงหรี่ตาอย่างรวดเร็ว คุณชายสามเย่ไม่ใช่ข้าราชการของประเทศและไม่ใช่แขก เหตุใดเมื่อคืนจึงต้องจองห้องให้เย่ซือเฉินด้วย?
ใครเป็นคนจองห้อง?
เวินลั่วฉิงรู้สึกว่านี่อาจเป็นเบาะแสได้
บอดี้การ์ดคนนี้มองเวินลั่วฉิงแวบหนึ่ง จากนั้นก็ตอบเสียงเบาว่า“องค์ชายใหญ่ของประเทศDเป็นคนเรียกร้องเองครับ เขากับคุณชายสามเย่มีสายสัมพันธ์ที่ดีงาม บอกว่าจะพบปะกับคุณชายสามเย่หน่อยครับ”
เวินลั่วฉิง“……”
คำตอบของเวินลั่วฉิงเกินความคาดหมายของเวินลั่วฉิงเล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังรู้สึกแปลกๆอีกด้วย
ผู้ชายสองคนเปิดห้องเจอกันที่โรงแรม?!
ผู้ชายสองคนนัดเจอกันก็ปกติอยู่
ซึ่งพวกเขาสามารถเจอกันที่ร้านเหล้า ภัตตาคารหรือคลับได้ ทำไมต้องเปิดห้องที่โรงแรมด้วย?แถมยังเป็นตอนกลางคืนอีก?
ประเด็นคือเป็นผู้ชายของเธอ ผู้ชายของเธอ!!
มีผู้ชายเปิดห้องที่โรงแรม นัดเจอผู้ชายของเธอตอนกลางคืน?!
เวินลั่วฉิงรู้สึกเสียวซ่านกะทันหัน
“แต่เมื่อคืนคุณชายสามเย่ไม่ได้มาครับ ผมเพิ่งสืบเจอเมื่อสักครู่นี่เองครับ หลังจากองค์ชายใหญ่ของประเทศ Dเข้าไปถึงในห้องก็โทรหาคุณชายสามเย่ครับ นัดคุณชายสามเย่มาครับ แต่คุณชายสามเย่ไม่ได้มา”บอดี้การ์ดคงสังเกตเห็นสีหน้าเวินลั่วฉิงไม่สู้ดีนัก จึงเสริมอีกหนึ่งประโยคอย่างฉับไว
บอดี้การ์ดรายงานถึงคำว่าคุณชายสามเย่ปฏิเสธการนัดเจอก็เน้นย้ำเป็นพิเศษ เห็นได้ชัดว่าพูดให้เวินลั่วฉิงฟัง
เวินลั่วฉิงชะงักมองไปยังบอดี้การ์ดอย่างรวดเร็ว เห็นสีหน้าของบอดี้การ์ดเวินลั่วฉิงก็รู้ตัวว่าเสียมารยาทแล้ว
“พวกเขาคงมีงานต้องคุยกันมั้ง”เวินลั่วฉิงอธิบายหนึ่งประโยคด้วยสีหน้าเป็นธรรมชาติ เป็นธรรมชาติจนเหมือนเธอคิดเช่นนั้นจริงๆ
บอดี้การ์ด“……”
ปฏิกิริยาของคุณหนูใหญ่เมื่อสักครู่ คงไม่ได้คิดเช่นนั้นแน่ๆ สีหน้าเมื่อสักครู่ของคุณหนูใหญ่น่ากลัวมาก!!
“ทำไมเขาไม่มา?”เวินลั่วฉิงนึกถึงคำถามนี้กะทันหัน อีกฝ่ายเป็นถึงองค์ชายใหญ่ของประเทศ D อีกฝ่ายอุตส่าห์เปิดห้องให้เย่ซือเฉิน แล้วทำไมเย่ซือเฉินถึงไม่มาล่ะ?
“อันนี้ต้องถามเย่ซือเฉินเองแล้วล่ะ”ถังหยุนเฉิงก็สงสัยเหมือนเวินลั่วฉิง ในเมื่อองค์ชายใหญ่ประเทศ Dจองห้องให้เย่ซือเฉิน ดังนั้นต้องแจ้งบอกเย่ซือเฉินแน่นอน
ในเมื่อเย่ซือเฉินกับองค์ชายใหญ่เป็นเพื่อนสนิทกัน แล้วเหตุใดจึงไม่มาตามนัด?
เขารู้สึกว่าเรื่องนี้ก็พิกลอยู่ แต่ปกติเย่ซือเฉินมักเป็นคนทำตามใจ อาจเป็นเพราะไม่อยากมาเฉยๆ ดังนั้นจึงไม่ได้มา
“หากเมื่อคืนคุณชายสามเย่มา เช่นนั้นพระเอกในวันนี้ต้องเป็นคุณชายสามเย่แน่ๆเลยใช่ไหมครับ?เพราะเป็นห้องที่จองกับคุณชายสามเย่”ไม่รู้ว่าบอดี้การ์ดไม่มีเจตนาหรือว่าจงใจเสริมประโยคเช่นนี้ แน่นอนความหมายของบอดี้การ์ดนั้นชัดเจนมาก
เวินลั่วฉิง“……”
เวินลั่วฉิงมองไปยังถังหลินด้วยสัญชาตญาณอีกครั้ง ถังหลินยังคงนั่งอยู่ท่าเดิมอย่างไร้อารมณ์ แบบไม่มีการตอบสนองใดๆ
เวินลั่วฉิงละสายตาไปมองผู้หญิงที่นั่งอยู่บนโซฟา ผู้หญิงคนนี้หน้าตาดี รูปร่างก็ดีมาก……
เมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรกันแน่?
“หากเย่ซือเฉินมา พวกเขาคงมีแผนการอื่นแน่ๆ”ถังหยุนเฉิงไม่เห็นด้วยกับบอดี้การ์ด เขารู้ว่าเรื่องมันไม่ได้ง่ายอย่างนี้หรอก
หากเย่ซือเฉินมาเมื่อคืน คงต้องเกิดเหตุการณ์อื่นขึ้นแน่ๆ
“หาภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมได้ไหม?”เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าค้นหาภาพจากกล้องวงจรปิด อาจจะได้เบาะแสบ้าง?
“ชั้นแปดไม่มีกล้องวงจรปิดครับ”แววตาถังหยุนเฉิงเคร่งขรึมอย่างเห็นได้ชัด เพราะไม่มีกล้องวงจรปิด ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่เป็นผลดีต่อถังหลินเอามากๆ
เวินลั่วฉิงหน้าเปลี่ยนสี ชั้นแปดไม่มีกล้องวงจรปิด?
“ชั้นแปดไว้ต้อนรับแขกต่างชาติโดยเฉพาะ เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของแขกต่างชาติ จึงไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดครับ แต่ทางขึ้นชั้นแปดมีกล้องวงจรปิดอยู่ครับ ผมตรวจดูกล้องวงจรปิดแล้วครับ พบว่าเมื่อคืนมีผู้หญิงคนนี้กับองค์ชายทั้งสองขึ้นมาพร้อมกับคุณชายถัง ต่อมาก็ไม่มีใครลงไปเลยครับ”บอดี้การ์ดรีบเสริม
“ขึ้นมาด้วยกัน?”เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของบอดี้การ์ด ดวงตาพลันกะพริบปริบๆ
ถังหยุนเฉิงกับเวินลั่วฉิงยืนอยู่ด้านนอกสุด เสียงพวกเขาเบามาก ทำให้คนด้านหน้าไม่ได้ยิน
ซึ่งในเวลาเดียวกัน ด้านในห้อง กู้ฉิ้งหยู่ได้ยินหมอนิติเวชพูดก็รีบเอ่ยเสียงดังว่า “ในเมื่อพิสูจน์แล้วว่าเป็นของถังหลิน เช่นนั้นก็มีหลักฐานแน่นหนาแล้ว แสดงว่าถังหลินเป็นผู้กระทำความผิดจริงๆ”
ตอนที่เขาประกาศผลออกมา เห็นได้ชัดว่าน้ำเสียงมีความเซอร์ไพรส์หลายส่วน
เวินลั่วฉิงกวาดสาวตามองกู้ฉิ้งหยู่ครู่หนึ่ง จากการตอบสนองของกู้ฉิ้งหยู่ รู้ได้ว่าก่อนหน้านี้เขาไม่ทราบผลตรวจล่วงหน้า ก่อนหน้านี้เขาอาจจะคิดว่าคราบอสุจิพวกนั้นไม่ใช่ของถังหลิน ดังนั้นเมื่อผลตรวจออกมาเขาจึงเซอร์ไพรส์เช่นนี้
“โอ้พระเจ้า ถังหลินทำเรื่องอย่างนี้จริงๆ?”บัดนี้มีคนอุทานออกมาอย่างห้ามใจไม่ได้ ซึ่งเสียงช็อกของเขาแหลมมาก
“ถังหลิน เมื่อคืนคุณทำอย่างนั้นกับคุณกงจริงๆเหรอ?”
“ถังหลินก็บอกหน่อยได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?ทำไมคุณต้องทำอย่างนี้ด้วย?”
“พูดได้แต่เพียงว่าถังหลินเป็นสัตว์เดรัจฉาน สัตว์เดรัจฉานที่มีหนังคนหุ้มไว้!”
“เลวระยำกว่าสัตว์เดรัจฉานอีก พวกคุณดูสิทำร้ายคุณกงสาหัสปานนี้?”
หลังนักข่าวได้ฟังผลตรวจจากหมอนิติเวชแล้ว ต่างก็ตกใจไปตามๆกัน อาจเป็นเพราะตกใจเกินและประกอบกับเกรงขามฐานะของตระกูลถัง
จึงไม่กล้าปริปากพูดเรื่อยเปื่อยในตอนแรก
แต่นาทีนี้กู้ฉิ้งหยู่ได้ลั่นวาจาออกมาแล้ว พวกเขาจึงพุ่งเข้าไปในห้องอย่างบ้าคลั่ง
และเริ่มมีคนกำเริบเสิบสาน พูดจาหยาบคายออกมา
แน่นอน ผู้บงการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้อาจส่งนักข่าวที่พูดจาหยาบคายมาก็เป็นได้ ซึ่งผู้อยู่เบื้องหลังคนนี้วางแผนได้แยบยลมาก!!