ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 850 เขามีลูกสาวหนึ่งคน (6)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 850 เขามีลูกสาวหนึ่งคน (6)
“ผมเข้าใจแล้วครับ”อะเหลียงเป็นคนเฉลียวฉลาด เข้าใจความหมายของผู้ดูแลจ้งทันที:“ผู้ดูแลจ้งวางใจได้เลยครับ ผมจะจัดคนไปตามหาสุดความสามารถในเมืองAเลยครับ ช่วงนี้ผมจะพยายามไปตามหาที่อื่นด้วยครับ เพื่อป้องกันมีคนเล่นไม่ซื่อในที่ลับครับ”
“อืม นายเป็นคนที่หัวหน้าเลือกเองกับมือ นายปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าต้องวางใจแน่ๆ”ผู้ดูแลจ้งพอใจมาก อะเหลียงเป็นคนภักดีมาโดยตลอด เวลาปฏิบัติหน้าที่ก็ไม่เคยขาดตกบกพร่องสักนิด ไม่เช่นนั้นหัวหน้าก็คงไม่มอบหมายงานสำคัญอย่างนี้ให้อะเหลียงทำหรอก
“เรื่องสาขาเมืองAกับถังหลิน ผมเกรงว่าคงไม่ธรรมดาครับ”ก่อนหน้านี้อะเหลียงก็เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้กับผู้ดูแลจ้งแล้ว ตอนนี้เอ่ยถึงอีกครั้ง แสดงว่าเป็นปัญหาใหญ่หลวงเลยทีเดียว
“ฮื่อ?มีปัญหาอะไรหรือ?”หลายปีมานี้งานหลักของผู้ดูแลจ้งคือตามหาคุณนายเป็นเพื่อนหัวหน้า เขาเข้าแทรกแซงเรื่องอื่นน้อยมาก อย่างไรเสียก็เป็นแค่สาขาที่เปิดในเมืองA เขาจึงยิ่งไม่รู้รายละเอียดอะไรเลย
“ผมได้ข่าวว่า สาขาเมืองAขององค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเราไม่เพียงแต่จะโจมตีถังหลินคนเดียวครับ”อะเหลียงขมวดคิ้วมุ่น สีหน้าหนักอึ้งหลายส่วน
“ไม่ใช่ถังหลินคนเดียว?ทำไมล่ะ?”ผู้ดูแลจ้งหรี่ตาขึ้นเล็กน้อย เป็นศัตรูกับตระกูลถังก็นับว่าเป็นเรื่องปวดหัวอยู่แล้ว ตอนนี้ยังบอกว่าไม่เพียงแต่ตระกูลถังเท่านั้น?
คนในสาขาเมืองAคิดจะทำอะไรกันแน่?
“พวกเขายังคิดโจมตีเย่ซือเฉินด้วยครับ”อะเหลียงคิดดูแล้ว เขาไม่เคยแทรกเรื่องนี้มาก่อน ดังนั้นจึงไม่รู้รายละเอียดมากนัก
เพียงแต่ตอนนี้เขาประเมินความเป็นไปได้หนึ่งขึ้นมากะทันหัน
“เย่ซือเฉิน?”ผู้ดูแลจ้งหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย:“อำนาจเย่ซือเฉินไม่ด้อยไปกว่าตระกูลถังเลย เย่ซือเฉินยุ่งยากกว่าตระกูลถังเสียอีก เย่ซือเฉินกับถังหลินเป็นสหายต่อกัน พวกเขาเป็นพวกเดียวกัน สาขาเมือง Aโจมตีถังหลิน เชื่อว่าเย่ซือเฉินก็คงไม่นิ่งดูดายหรอก”
“หากถังหลินกับเย่ซือเฉินร่วมมือกัน คาดว่าสาขาเมืองAคงไม่ได้เปรียบมากนะครับ”ผู้ดูแลจ้งพึ่งถึงเมืองA ดังนั้นไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง:“แต่ในเมื่อพวกเขากล้าโจมตีถังหลินกับเย่ซือเฉิน เกรงว่ายังมีคนอื่นคอยให้การสนับสนุนด้วยแน่ๆ เกรงว่าคงไม่ใช่เฉพาะอิทธิพลในเมือง Aอย่างเดียว แล้วภายหลังเรื่องนี้มีบทสรุปยังไงล่ะ?”
“คนขององค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้เปรียบครับ เรียกได้ว่าแพ้อย่างราบคาบเลยครับ แพ้อย่างอนาถครับ”อะเหลียงหัวเราะออกมากะทันหัน ตามหลักแล้ว คนขององค์กรโกสต์ซิตี้พ่ายแพ้ เขาน่าจะโกรธไม่ใช่หรือ ดังนั้นเสียงหัวเราะของเขาในตอนนี้ทำให้ผู้ดูแลจ้งประหลาดใจยิ่งนัก
“คนองค์กรโกสต์ซิตี้ออกตัวเอง แต่ถึงกลับแพ้อย่างราบคาบ?”ผู้ดูแลจ้งรับผลเช่นนี้ไม่ได้ คนในองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเขาทำไมอ่อนแอขนาดนี้?
ถึงแม้ถังหลินกับเย่ซือเฉินจะเก่งกาจ แต่เมื่อคนของพวกเขาลงมือก็ไม่น่าจะแพ้อนาถขนาดนั้นนี่นา?
“ครับ ตระกูลถังพึ่งตามตัวหลานสาวกลับมาได้หนึ่งคนครับ เป็นดร.ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาครับ ได้ยินมาว่าเก่งมากๆครับ
คุณหนูตระกูลถังคนนี้แหละครับที่เป็นคนเปิดโปงแผนร้ายขององค์กรโกสต์ซิตี้ในโรงแรม อยากโจมตีถังหลินกับเย่ซือเฉิน เมื่อโอกาสก้าวแรกจู่โจมไม่สำเร็จ เลยทำให้พ่ายครับ”ระหว่างที่อะเหลียงพูดสีหน้าล่องลอย เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดเรื่องอื่นอยู่
“คุณหนูตระกูลถัง?เก่งขนาดนั้นเลยหรือ?มีประวัติความเป็นมายังไง?”ผู้ดูแลจ้งก็รู้สึกสนใจขึ้นมา เขารู้พลังอำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้ดี แต่ผู้หญิงตัวคนเดียวกลับทำลายแผนการขององค์กรพวกเขาได้อย่างง่ายดาย?!
ทำไมเขาไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าใดนัก?
“ได้ยินว่าพลัดพรากจากกันหลายปีครับ เพิ่งหาตัวเจอครับ”สายตาของอะเหลียงหันไปมองผู้ดูแลจ้งกะทันหัน:“ผู้ดูแลจ้งครับ คุณว่ามีคนอยากกำจัดคุณหนูตระกูลถังคนนี้หรือเปล่าครับ ใช่เบื้องบนขององค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเราทำหรือเปล่าครับ?”
“อะไรนะ?”ผู้ดูแลจ้งตามไม่ทันกับคำพูดนี้“ทำไมนายถึงคิดแบบนี้?”
“จู่ๆผมก็รู้สึกว่า เป้าหมายโจมตีของพวกเขาอาจไม่ใช่ถังหลินและเย่ซือเฉินครับ แต่เป็นคุณหนูตระกูลถังครับ”อะเหลียงเป็นคนคิดรอบคอบ เรื่องที่เขาคิดปกติจะมักสรุปจากเรื่องหนึ่งได้ ก็สามารถอนุมานไปถึงเรื่องอื่น ๆ:“คุณหนูถังคนนี้เป็นน้องสาวของถังหลิน ในเวลาเดียวกันก็เป็นเจ้าของหัวใจเย่ซือเฉินด้วยครับ”
“อิทธิพลของถังหลินกับเย่ซือเฉิน ผู้ที่เป็นสมาชิกองค์กรโกสต์ซิตี้ต้องรู้เรื่องแน่ๆครับ แต่พวกเขากล้าเสี่ยงไปบาดหมางกับถังหลินและเย่ซือเฉินในเวลาเดียวกัน?ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำแน่ๆครับ”
“เงื่อนงำอะไร?”ผู้ดูแลจ้งรู้สึกว่าการวินิจฉัยของอะเหลียงมีเหตุผลมาก ดังนั้นผู้ดูแลจ้งอยากรู้ผลวิเคราะห์ของอะเหลียง
“เป็นไปได้ไหมครับที่คุณหนูถังจะเป็นเจ้าหญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเราครับ?”อะเหลียงลังเลสักพัก เสียงเบาลงเล็กน้อย เพียงแต่สีหน้าเกิดความหนักอึ้งขึ้นหลายส่วน
“คุณหนูถังเป็นเจ้าหญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเรา?นายได้ข้อสรุปนี้อย่างไร?”ผู้ดูแลจ้งตะลึงงัน สีหน้าเปลี่ยนไปมาหลายอารมณ์ พวกเขาเริ่มคิดตามหาเจ้าหญิงน้อย ตัวเลือกความเป็นไปได้ของเจ้าหญิงน้อยก็ปรากฏทันตา?
หากไม่ใช่อะเหลียงเป็นคนพูด เขาต้องสงสัยว่ามีเจตนาแอบแฝงเป็นแน่
“ผมเดาเองครับ เรื่องเจ้าหญิงรั่วไหลไปถึงหูใครบางคน ซึ่งคนพวกนั้นรู้ว่าคุณหนูถังก็คือเจ้าหญิง จากนั้นพวกเขาจึงสรรหาวิธีกำจัดคุณหนูถังครับ?”อะเหลียงเพิ่งนึกถึงจุดนี้ได้เมื่อสักครู่นี้เอง:“นอกจากสาเหตุนี้ ผมก็นึกเหตุผลที่คนในองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเราไปบาดหมางกับถังหลินและเย่ซือเฉินในเวลาเดียวกันครับ”
“เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางรั่วไหลเรื่องเจ้าหญิงเด็ดขาด”ผู้ดูแลจ้งอึ้ง แต่เขารีบปฏิเสธการสมมุติฐานของอะเหลียงทันที เขาเป็นคนเอ่ยถึงเจ้าหญิงเมื่อตะกี้เอง จากนั้นหัวหน้าก็เชื่อเสียสนิทใจว่ามีเจ้าหญิงจริงๆ
ซึ่งก่อนหน้านี้ กระทั่งหัวหน้าก็นึกไม่ถึง แล้วจะมีข่าวให้รั่วไหลได้อย่างไร?
“ผู้ดูแลจ้ง ไม่มีอะไรเด็ดขาดเสมอไปนะครับ คุณมั่นใจเหรอครับว่าจะไม่รั่วไหลเรื่องเจ้าหญิงก่อนหน้านี้?”อะเหลียงยังคงหนักแน่นในความคิดของตัวเอง เขายิ่งคิดก็ยิ่งเป็นไปได้
“เรื่องอื่นผมไม่กล้ามั่นใจ แต่เรื่องเจ้าหญิงไม่มีทางรั่วไหลเป็นอันขาด จุดนี้นายหายสงสัยได้เลย อย่าได้ทำให้กระทบต่อส่วนรวม”บัดนี้น้ำเสียงของผู้ดูแลจ้งหนักแน่นมาก เขาไม่อยากให้อะเหลียงบังเกิดความคิดเช่นนี้ เพราะมันจะพลอยส่งผลกระทบต่อการตามหาตัวเจ้าหญิงด้วย
ดวงตาอะเหลียงเปล่งประกาย มุมปากขยับ ราวกับอยากพูดอะไร แต่สุดท้ายก็อดกลั้นไว้ ในเมื่อผู้ดูแลจ้งยืนยันขนาดนี้แล้ว เขาก็ควรเชื่อฟังผู้ดูแลจ้ง เพราะความหมายของผู้ดูแลจ้งก็เหมือนเป็นความหมายของหัวหน้า
เขาเชื่อมั่นในตัวหัวหน้า
“แต่ถ้านายสงสัยว่าคุณหนูถังคือเจ้าหญิงพวกเรา นายก็ไปสืบดู ตามหาเจ้าหญิงง่ายกว่าตามหาคุณนายเยอะ ขอเพียงหาวิธีตรวจดีเอ็นเอก็เรียบร้อยแล้ว”ผู้ดูแลจ้งเห็นอะเหลียงอยากพูดแต่ไม่พูด จึงรู้ว่าอะเหลียงมีความคิดอื่น