ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 872 วิธีการพะเน้าพะนอลูกของตระกูลเย่ คุณชายสามเย่เอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันนี่? (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 872 วิธีการพะเน้าพะนอลูกของตระกูลเย่ คุณชายสามเย่เอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันนี่? (2)
“ค่ะ”ครั้งนี้เด็กน้อยถังจื่อซีใช้เวลาคิดเพียงหนึ่งวินาทีก็รับปากแล้ว
หากแม้เจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีจะฉลาดเพียงใด แต่ก็ยังเป็นเด็กอายุไม่ถึงห้าขวบอยู่ดี แล้วจะเป็นคู่ต่อสู้คุณชายสามเย่ผู้ร้ายกาจและมากด้วยเล่ห์กลได้อย่างไร
ดังนั้น เจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีหลงกลคุณชายสามเย่อย่างสิ้นเชิง
“ลูกรักเป็นเด็กดีมากเลยครับ”คุณชายสามเย่ยิ้มจนตาหรี่ขึ้นแล้ว
ลูกของเขาเชื่อฟังมาก น่ารักมาก
คุณชายสามเย่? หน้าคุณล่ะ คุณชายสามเย่ยังมีศักดิ์ศรีอยู่ไหม?
เป็นถึงประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่กลับมาหลอกใช้งานเด็ก มันจะดีหรือ?
ทว่าคุณชายสามเย่ไม่ได้รู้สึกเสียหายเลยสักนิด ทางกลับกันคุณชายสามเย่รู้สึกครึ้มใจยิ่งนัก มีลูกผู้ฉลาดช่วยเขาเฝ้าดูภรรยา เขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครหน้าไหนแอบพาตัวภรรยาของเขาไปแล้ว
“แดดดี้ หนูออกมานานแล้ว ควรกลับไปแล้วค่ะ”ถังจื่อซีเข้าใจว่าเมื่อนับพ่อนับลูกกันเรียบร้อยแล้ว คงต้องกลับไปหาพี่ชายที่ยังรอเธออยู่
ตอนเธอลงมาพี่ชายก็โกรธนิดหน่อยแล้ว ดังนั้นเธอจะปล่อยให้พี่ชายรอต่อไปไม่ได้
เธอนับพ่อเสร็จก็ต้องกลับไปอ้อนพี่ชายแล้วละ เฮ้ย เธอมีเรื่องต้องกลุ้มเยอะจังเลย!!
“ได้ แดดดี้จะส่งหนูกลับไปนะครับ”ถึงแม้คุณชายสามเย่จะไม่อยากให้เจ้าหญิงน้อยกลับไปเร็วเช่นนี้ แต่พวกเขาตกลงกันแล้วว่าจะปิดบังเวินลั่วฉิง และเจ้าหญิงน้อยก็รับปากว่าจะเป็นสายลับให้เขาแล้ว ดังนั้นจะให้ถูกเปิดโปงเร็วขนาดนี้ไม่ได้
เขาจะคอยดูว่าเวินลั่วฉิงจะบอกเรื่องลูกให้เขาทราบเมื่อไหร่?
เขาจะรอ รอให้เธอมาบอกเขาด้วยตัวเอง……
“แดดดี้ไม่ต้องทำงานเหรอคะ?”ถังจื่อซีคิดว่าตอนนี้พี่ชายยังรอเธออยู่ หากให้พ่อไปส่งคงต้องเห็นพี่ชายแน่ๆ
แต่เธอรับปากพี่ชายไว้ว่าจะช่วยพี่ชายเก็บการมีอยู่ของเขาเป็นความลับชั่วคราว
เธอต้องรักษาคำพูด!!
“แดดดี้อยากอยู่กับลูกรักของแดดดี้”คุณชายสามเย่อุ้มถังจื่อซีขึ้นมา พลางหอมแก้มเธออีกครั้ง เขายิ่งมองก็ยิ่งชอบลูกรักของเขา
เขาหอมแก้มเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกพอเสียที
แน่นอนคุณชายสามเย่ยิ่งอยากให้ลูกสาวอยู่ข้างกายเขา เขายิ่งอยากอุ้มลูกสาวไว้ในอ้อนแขนตลอดเวลา
แต่เพื่อแผนการระยะยาวของเขากับลูกสาว เขาจำเป็นต้องฝืนกลั้นความรู้สึกนี้ไว้
มีเสียถึงจะมีได้ จุดนี้คุณชายสามเย่รู้ดี
อันที่จริงถังจื่อซีก็อยากอยู่กับคุณพ่อนานๆ แต่เธอเลือกระหว่างคุณพ่อกับพี่ชายได้เพียงคนเดียว ถังจื่อซีครุ่นคิดดูแล้วก็เลือกพี่ชายในที่สุด
“แต่ถ้าเสียเวลางานของแดดดี้จะทำยังไงคะ?”ถังจื่อซีไม่อยากปฏิเสธตรงๆ จึงใช้งานเป็นเหตุผล
คุณอามู่หรงเคยบอกว่า คุณพ่อเป็นคนบ้างาน ไม่งั้นคุณพ่อก็คงไม่อาจสั่งสมทั้งบารมีและทรัพย์สินมากมายก่ายกองเช่นนี้ได้หรอก
ดังนั้นเจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีรู้สึกว่าเหตุผลนี้เข้าท่ามาก เพียงพอต่อการโน้มน้าวจิตใจคุณพ่อ
“เมื่อก่อนไม่มีหนูกับหม่ามี๊ แดดดี้ไม่มีเรื่องอื่นต้องทำ เลยทำงานสุดชีวิต ตอนนี้มีหนูกับหม่ามี๊ แดดดี้ก็ต้องอยู่กับหนูและหม่ามี๊สิครับ ลูกรักสำคัญกว่างานครับ!”คุณชายสามเย่อุ้มถังจื่อซี ใบหน้าอ่อนโยนและรู้สึกพอใจ
คุณชายสามเย่พูดอย่างหนักหน่วงมาก!!
เขาเชื่อในคำพูดนี้ อีกทั้งยังเชื่อมากๆอีกด้วย
ภายภาคหน้าเขาก็คิดจะทำเช่นนี้เหมือนกัน เงินหายังไงก็หาไม่หมด มันไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสุดที่รักของเขาทั้งสองคนเลย
สุดที่รักตัวโตของเขา สุดที่รักตัวน้อยๆของเขา แค่คิดก็รู้สึกพอแล้ว!
วินาทีนี้คุณชายสามเย่รู้สึกว่าสวรรค์ช่างดีต่อเขาเหลือเกิน ใช่ สวรรค์เมตตาเขามากจริงๆ ประทานสิ่งที่เขาปรารถนาทั้งหมดให้แก่เขา
ชีวิตนี้ แค่นี้เขาก็รู้สึกพอแล้ว!!ชีวิตนี้เขาก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจอีกแล้ว!!
เจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีชะงัก ถึงแม้เหตุผลของเธอใช้ไม่ได้ผล แต่เวลานี้เธอรู้สึกดีใจมาก ที่แท้ในใจคุณพ่อ เธอสำคัญมากๆ ถึงแม้เธอจะสำคัญสู้คุณแม่ไม่ได้ แต่เมื่อกี้คุณพ่อพูดแล้วว่าเธอสำคัญกว่างาน
เช่นนี้เธอก็รู้สึกพอเพียงแล้ว
เห็นได้ชัดว่าคุณพ่อนั้นชอบเธอและรักเธอ ซึ่งก่อนหน้านี้บอกว่าคุณพ่อไม่ชอบเด็กนั้นเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพ
ดังนั้น ความกังวลของพี่ชายเป็นเรื่องตีตนไปก่อนไข้ ในเมื่อคุณพ่อชอบเธอ งั้นก็ต้องชอบพี่ชายด้วยแน่ๆ
ต้องบอกว่าความคิดของเจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีนั้นใสซื่อเกินไป
คุณชายสามเย่ชอบลูกสาวก็ไม่แสดงว่าคุณชายสามเย่จะชอบลูกชายด้วย แถมยังเป็นลูกชายที่คอยแต่ขุดหลุมให้เขาอีกต่างหาก
เย่ซือเฉินอุ้มถังจื่อซีไว้ในอ้อมแขน รอยยิ้มเบ่งบานบนใบหน้าไม่ขาดสาย:“ลูกรักครับ ให้คนขับรถเสี่ยวหลิวกลับไปก่อน แดดดี้จะส่งหนูกลับไปเอง”
เย่ซือเฉินไม่อยากจากลูกสาวไป ดังนั้นจึงอยากส่งลูกสาวกลับบ้านด้วยตัวเอง อย่างนี้เขาถึงจะมีเวลาอยู่ใกล้ชิดลูกสาวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ตอนแรกถังจื่อซีอยากคัดค้าน แต่เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเย่ซือเฉินก็ไม่ได้ปฏิเสธต่อ ในเมื่อคุณพ่อจะส่งเธอกลับไป ซึ่งไม่ได้ส่งเธอเข้าไปยังรถ งั้นก็ไม่ต้องกังวลว่าคุณพ่อจะเห็นพี่ชายแล้วสิ
“งั้นหนูโทรหาลุงเสี่ยวหลิวนะคะ”ถังจื่อซีตามไปอย่างนี้ไม่ได้ แน่นอนถังจื่อซียังกังวลว่าหากคุณพ่อไปบอกลุงเสี่ยวหลิวเองคุณพ่อก็จะเห็นพี่ชายแน่ๆ
เพราะพี่ชายยังอยู่ในรถ
ถังจื่อซีไม่รอให้เย่ซือเฉินตอบพลันนำมือถือออกมาโทรไปยังหมายเลขหนึ่ง อันที่จริงเธอไม่มีเบอร์ของคนขับรถเสี่ยวหลิว เบอร์ที่เธอโทรหาเป็นของพี่ชาย
บัดนี้ถังจื่อโม่กำลังรออยู่บนรถ เขามองเย่ซือเฉินอุ้มถังจื่อซีไว้ในอ้อมแขนด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม
ถังจื่อโม่ตกใจกับเสียงมือถือที่ดังขึ้น มองมือถือแวบหนึ่ง จากนั้นก็รีบรับสาย
“แดดดี้จะส่งหนูกลับไปค่ะ คุณอากลับไปก่อนเลยค่ะ”เพราะต้องช่วยพี่ชายปิดบังความลับ ดังนั้นถังจื่อซีเลยไม่ได้เรียกว่าพี่ชายและไม่ได้ใช้น้ำเสียงสนิทสนมเฉกเช่นปกติ
เพราะเธอต้องแสร้งทำเหมือนโทรหาลุงเสี่ยวหลิว
เพราะกังวลเย่ซือเฉินจะสังเกตถึงความผิดแปลก ถังจื่อซีจึงไม่ได้พูดมาก สิ้นประโยคนี้ก็วางสายทันที
ถังจื่อโม่จับมือถือที่ถูกวางสายแล้ว ดวงตาทั้งคู่จับอยู่ที่เย่ซือเฉินกับถังจื่อซี เขาเห็นเย่ซือเฉินยิ้มด้วยความรักและเมตตา เมื่อยามอุ้มถังจื่อซี เขายังเห็นถังจื่อซีก็ยิ้มอย่างมีความสุขเป็นพิเศษ
เด็กน้อยถังจื่อโม่รู้สึกอารมณ์ซับซ้อนกะทันหัน
เวลานี้ใบหน้าเย่ซือเฉินประดับรอยยิ้ม ซึ่งดูแล้วอ่อนโยนและเต็มไปด้วยรักอันเมตตาเป็นพิเศษ เขายังหอมแก้มถังจื่อซีตลอด และตอนที่ถังจื่อซีพูด เขามองถังจื่อซีด้วยแววตายิ้มแย้ม
ถังจื่อโม่เห็นเย่ซือเฉินเช่นนี้ก็รู้สึกอึ้ง จริงหรือที่เย่ซือเฉินไม่ชอบเด็ก?
ดูแล้วไม่เหมือนเลยสักนิด
ท่าทางในตอนนี้ของเย่ซือเฉินนั้นชอบเด็กมากๆ ชอบน้องสาวมากๆ
หรือตอนนั้นเย่ซือเฉินพูดคำเหล่านั้นเพื่อปลอบใจคุณแม่จริงๆ?
ถังจื่อโม่ยิ่งรู้สึกสับสนมากขึ้น
บังเอิญที่เวลานี้ จู่ๆเย่ซือเฉินก็เห็นรถบ้านตระกูลถัง จึงอุ้มถังจื่อซีเข้ามา ทำให้หัวใจถังจื่อโม่เต้นตึกตักในทันทีทันใด……