ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 873 ขอบเขตตามใจลูกของคุณชายสามเย่?ไม่มีเลย (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 873 ขอบเขตตามใจลูกของคุณชายสามเย่?ไม่มีเลย (1)
บังเอิญที่เวลานี้ จู่ๆเย่ซือเฉินก็เห็นรถบ้านตระกูลถัง จึงอุ้มถังจื่อซีเข้ามา ทำให้หัวใจถังจื่อโม่เต้นตึกตักในทันทีทันใด……
ถังจื่อโม่เห็นเย่ซือเฉินอุ้มถังจื่อซีมายังรถที่เขานั่งอยู่ ซึ่งใกล้ขึ้นมาทุกนาที!!
จู่ๆถึงจื่อโม่ก็เริ่มตื่นเต้น ตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก เขาจึงนั่งและมองอย่างตะลึงอยู่อย่างนั้น……
ถังจื่อซีเห็นเย่ซือเฉินอุ้มเธอมายังรถของตระกูลถัง อยากขัดขวางเย่ซือเฉิน เพราะพี่ชายยังอยู่ในรถ แต่เธอก็หาเหตุผลที่เหมาะสมไม่ได้เสียที
คุณแม่เคยสอนว่าหากช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิด จะยิ่งทำให้สิ่งที่เราประสงค์จะปิดบังนั้นยิ่งเด่นชัด ยิ่งทำให้คนสงสัยมากขึ้น!
เพราะเมื่อคุณพ่อเห็นรถตระกูลถังแล้วอยากจะมาบอกลุงเสี่ยวหลิวสักคำนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา
เธอไม่มีเหตุผลขัดขวางจริงๆ
ดังนั้นเจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีจึงได้แต่เงียบเข้าไว้
แน่นอนเจ้าหญิงน้อยถังจื่อซียังคิดในใจอีกว่า ใช่อยู่ที่เธอรับปากพี่ชายว่าจะช่วยเก็บเป็นความลับ แต่หากคุณพ่อเห็นพี่ชายเอง งั้นก็ไม่เกี่ยวกับเธอ!
เจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีคิดว่าหากผลเป็นเช่นนี้ก็ไม่เลวเลย เธอรู้ว่าพี่ชายก็อยากนับพ่อเช่นกัน เพียงแต่พี่ชายคิดว่าคุณพ่อไม่ชอบเด็ก จึงเกิดปมในใจ
ความจริงพิสูจน์กว่าคุณพ่อชอบเธอมาก ดังนั้นพี่ชายไม่ต้องกังวลและไม่ต้องรู้สึกแย่อีกต่อไปแล้ว
ตอนแรกเย่ซือเฉินก็ไม่ได้อยู่ห่างจากรถตระกูลถังมากนัก พอก้าวไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถึงที่หมายแล้ว
ถังจื่อโม่ที่นั่งอยู่ในรถพลันนั่งตัวตรงด้วยจิตใต้สำนึก เขารู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ เขารู้สึกถึงจังหวะการเต้นเร็วของหัวใจตัวเอง คล้ายกับหัวใจจะกระโดดออกมาเสียอย่างนั้น
มืออันน้อยๆของถังจื่อโม่ก็กำแน่นขึ้น ซึ่งเวลานี้ได้เปิดแอร์ภายในรถไว้ อุณหภูมิจึงไม่ได้สูง แต่ฝ่ามือของถังจื่อโม่กลับมีเหงื่อซึมออกมา มีความชื้นและเหนียวหนึบๆเล็กน้อย
ทว่าเด็กน้อยถังจื่อโม่ไม่ได้สนใจต่อสิ่งเหล่านี้ เขายังคงมองเย่ซือเฉินผ่านกระจกรถเช่นเดิม เวลานี้ถังจื่อโม่จ้องแบบไม่กะพริบตาเลยสักครั้ง
ไม่รู้ว่าลืมกะพริบหรือไม่กล้ากะพริบกันแน่!
ตอนนี้เย่ซือเฉินอุ้มน้องสาวอยู่นอกรถ ซึ่งระยะห่างระหว่างเขากับเย่ซือเฉินนั้นไม่ถึงสองเมตร
เขาใกล้ชิดเย่ซือเฉินอย่างนี้เป็นครั้งแรก ทำให้หัวใจเขายิ่งเต้นเร็วอย่างรุนแรงกว่าเดิม ตึก ตึก ตึก ตึก คล้ายกับกำลังตีกล่องก็ไม่ปาน
บัดนี้ถังจื่อโม่รู้สึกสับสน สับสนจนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ดังนั้นเขาจึงได้แต่นั่งตัวตรงมากขึ้น ทำอย่างนี้แล้วราวกับเขาจะสามารถรักษาความทะนงตนและพลานุภาพในยามปกติของตนได้
เย่ซือเดินมาอยู่ด้านหน้ารถแล้ว เมื่อคนขับรถเสี่ยวหลิวเห็นคุณชายสามเย่ก็รีบลดกระจกรถลง
ชั่ววินาทีที่กระจกรถเปิดออก เด็กน้อยถังจื่อโม่ก็รู้สึกหัวใจที่กำลังเต้นแรงเหมือนตีกลองได้หยุดนิ่ง ณ ตอนนี้ เขารู้สึกว่าโลกทั้งใบได้เงียบกริบในอย่างฉับพลัน
เงียบจนไม่ได้ยินเสียงใดๆ!!
บัดนี้เด็กน้อยถังจื่อโม่นั่งอยู่ในตำแหน่งหลัง เขาไม่ได้หลบ แต่เป็นเพราะตอนนี้อารมณ์เขาสับสนและซับซ้อน จึงไม่มีการตอบสนองในชั่วขณะนี้
ปกติเด็กน้อยถังจื่อโม่จะฉลาดเพียงใด แต่เขาก็เป็นเพียงเด็กอายุไม่ถึงห้าขวบ เขาพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้เป็นครั้งแรก ถึงแม้ปากเขาจะพูดตลอดว่าจะให้บททดสอบคุณพ่อ บอกว่ายังไม่อยากนับพ่อ แต่อันที่จริงหัวใจของเขาโหยหาความรักจากพ่อเสมอมา
โดยเฉพาะเมื่อเห็นเย่ซือเฉินอุ้มถังจื่อซีอย่างอ่อนโยนและเอ็นดูรักใคร่ หัวใจของเขาก็ยิ่งคลั่งไคล้มากขึ้น
ยิ่งรู้สึกเช่นนี้ เด็กน้อยถังจื่อโม่ก็ยิ่งตื่นเต้น ยิ่งตื่นเต้นก็ยิ่งไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรในขณะนี้ ไม่รู้ว่าตัวเองควรพูดอะไรในตอนนี้
ดังนั้นเขาจึงได้แต่นั่งตัวตรงและเงียบสงบอยู่ในตำแหน่งที่นั่งด้านหลัง ไม่ขยับเขยื้อน ไม่ส่งเสียงใดๆ
“คุณกลับไปก่อน ผมจะส่งเธอกลับไปเอง”คุณชายสามเย่มองคนขับรถเสี่ยวหลิวแวบหนึ่ง โดยไม่ได้สังเกตเห็นเด็กน้อยถังจื่อโม่ที่นั่งอยู่ในช่วงหลังของรถเลย
เพราะก่อนหน้านี้เด็กน้อยถังจื่อโม่เฝ้าจับตาเหตุการณ์นอกรถมาโดยตลอด ดังนั้นตอนนี้เขานั่งชิดประตูรถ และบังเอิญนั่งอยู่ข้างที่เย่ซือเฉินยืนพอดี
ถังจื่อโม่ยังเด็กอยู่ ร่างกายเล็ก ตอนนี้เขานั่งชิดขอบประตูรถ จึงถูกเบาะนั่งด้านหน้าบังพอดี หากไม่สังเกตดีๆก็ยากต่อการพบเห็นจริงๆ
แน่นอนคุณชายสามเย่ในยามปกติจะเป็นคนสังเกตทุกรายละเอียดยิบย่อยได้ดี แต่ ณ เวลานี้ สาเหตุที่คุณชายสามเย่ไม่เห็นเด็กน้อยถังจื่อโม่
เพราะในสายตาคุณชายสามเย่ ในหัวใจคุณชายสามเย่มีเพียงลูกสาวสุดที่รักของเขาคนเดียวเท่านั้น คนและสิ่งอื่นไม่ได้อยู่ในสายตาการมองเห็นของเขาเลย
คุณชายสามเย่พูดจบ สายตาก็มองไปยังถังจื่อซีอย่างเป็นธรรมชาติ รอยยิ้มบนใบหน้านั้นอ่อนโยนและสดใสเหลือเกิน
คุณชายสามเย่ไม่เห็นถังจื่อโม่ ส่วนถังจื่อโม่กลับจับจ้องอยู่แต่คุณชายสามเย่ เห็นรอยยิ้มของคุณชายสามเย่ ดวงตาถังจื่อโม่พลันกะพริบด้วยจิตใต้สำนึก รอยยิ้มของเย่ซือเฉินในเวลานี้ช่างหวานละมุนละไมเหลือเกิน คงจะต้องกำลังมีความสุขมากๆอย่างแน่นอน!!
“ห้ะ?หา”คนขับรถเสี่ยวหลิวชะงัก เมื่อเห็นรอยยิ้มอันอ่อนนุ่มของคุณชายสามเย่ก็รู้สึกมหัศจรรย์มาก ซึ่งดูจากสถานการณ์แล้ว คุณหนูน่าจะนับพ่อกับคุณชายสามเย่เรียบร้อยแล้ว
คุณชายสามเย่เป็นพ่อของคุณหนู ดูออกว่าคุณชายสามเย่ชอบคุณหนูมาก ดังนั้นเมื่อคุณหนูอยู่กับคุณชายสามเย่ จึงไม่ต้องเป็นห่วงอะไร
อันที่จริงเด็กน้อยถังจื่อซีรอให้คุณพ่อเห็นพี่ชายอย่างใจจดใจจ่อ แต่เธอรอตั้งครึ่งค่อนวัน กลับพบว่าคุณพ่อไม่ได้มองด้านหลังรถเลยคุณพ่อไม่เห็นพี่ชายเลย
ถังจื่อซีอยากสะกิดเย่ซือเฉิน แต่เมื่อนึกถึงคำกำชับของพี่ชาย และพี่ชายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอจึงไม่ได้สะกิดเตือน
“ลุงเสี่ยวหลิว บอกหม่ามี๊กับคนอื่นไม่ได้นะคะ”ทว่าเจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีนึกถึงเรื่องอื่น พลางกำชับอย่างไม่วางใจ
คุณพ่อบอกว่าจะส่งเธอกลับไปเอง ดังนั้นเธอกังวลว่าลุงเสี่ยวหลิวจะเผลอหลุดปาก
เธอกับพี่ชายแอบออกมา ซึ่งคนในบ้านไม่มีใครรู้ หากพวกท่านรู้เมื่อไหร่ เธอกับพี่ชายก็อย่าหวังจะได้ออกมาง่ายๆอีกเลย
เธอรับปากคุณพ่อไว้แล้วว่าจะมาเยี่ยมท่านอีก
“ไปกันเถอะกัน แดดดี้ไปส่งหนูกลับบ้าน”คุณชายสามเย่มองถังจื่อซีตลอด ไม่ได้มองภายในรถอีกเลย ดังนั้นจึงยิ่งไม่มีทางเห็นถังจื่อโม่เป็นอันขาด
คุณชายสามเย่ที่มีรอยยิ้มบางเต็มหน้าหอมแก้มถังจื่อซีอีกครั้ง จากนั้นก็อุ้มถังจื่อซีหันหลังเดินจากไป
เมื่อกี้เย่ซือเฉินหันหน้าเข้าหารถก็ยังไม่เห็นเด็กน้อยถังจื่อโม่เลย นับประสาอะไรกับตอนนี้ ตอนที่คุณชายสามเย่หันหลังให้ จึงยิ่งไม่มีทางเห็นถังจื่อโม่แล้วแหละ
ถังจื่อซีมองไปยังด้านหลังด้วยจิตใต้สำนึก มองไปยังทิศทางของถังจื่อโม่
“ทำไมหรือครับ?”เย่ซือเฉินเห็นท่าทางเธอก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย