ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 877 เธอทำให้ผู้คนต้องตะลึงงันด้วยความช็อก (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 877 เธอทำให้ผู้คนต้องตะลึงงันด้วยความช็อก (1)
บทที่ 877 เธอทำให้ผู้คนต้องตะลึงงันด้วยความช็อก (1)
เธอยิ่งคิดไม่ถึงว่าเพียงแค่หนึ่งเดือนผลประกอบการก็สูงขนาดนี้แล้ว
เห็นทีเย่ซือเฉินจะช่วยบริษัทเวินซื่อกรุ้ปกว่าที่เธอรู้ มิหนำซ้ำอาจเกินจินตนาการของเธอไปแล้ว
เวินลั่วฉิงรู้สึกว่ามีจุดหนึ่งที่คุณย่าเย่พูดถูก เย่ซือเฉินทุ่มเงินจำนวนมากมายในบริษัทเวินซื่อกรุ้ปเพื่อเธอจริงๆ
นาทีนี้เธอเห็นผลประกอบการของบริษัทเวินซื่อกรุ้ปในเดือนนี้ ไม่รู้ว่าจะกล้าปะทะคารมกับคุณย่าอย่างเต็มปากเต็มคำอีกหรือเปล่า?
ทว่า หากมองอีกแง่หนึ่ง เงินเป็นของเย่ซือเฉิน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคุณย่าเย่เลย ฉะนั้นเธอรู้สึกว่าควรต่อกรเช่นไรก็จะสวนกลับเช่นนั้น
ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่เงิน แต่มันอยู่ที่คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ก่อกวนเกินเหตุ
“ประธานเวินครับ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งครับ เมื่อวานทางสถานีตำรวจท้องที่ได้โทรมาแจ้งว่า แจ้งว่า……”ผู้จัดการหลิวเห็นเวินลั่วฉิงอ่านงบการเงินอย่างใจลอย หลังคิดดูแล้ว จึงตัดสินใจรายงานเรื่องเมื่อวานให้เวินลั่วฉิงรับทราบ
“หืม?”เวินลั่วฉิงเงยหน้ามองเขา สถานีตำรวจท้องที่โทรศัพท์มาหรอกหรือ?
“สถานีตำรวจท้องที่บอกว่าเวินจื้อหลงตายแล้วครับ ก่อนหน้านี้ทางตำรวจโทรหาคุณชายเวินแล้วครับ แต่คุณชายเวินไม่ไปจัดการครับ ส่วนหลี่หยุนก็ถูกขังอยู่ในเรือนจำ คุณหนูหรวนหรวนได้รับบาดเจ็บ ทางตำรวจเลยจนปัญญา ได้แต่โทรมายังบริษัทครับ จะให้ส่งคนไปสะสางไหมครับ”ผู้จัดการหลิวรู้ว่าเวินจีหยันกับหลี่หยุนเคยก่อกรรมทำเข็ญกับเวินลั่วฉิงไว้มากมาย ดังนั้นเขาจึงพูดแบบหยั่งเชิงและระมัดระวังเป็นอย่างสูง
เวินจีหยันกับหลี่หยุนเคยทำร้ายท่านประธานมาก่อน หากท่านประธานไม่อยากไปจัดการงานศพของเวินจื้อหลงก็เป็นเรื่องสมควรแล้ว
“เวินจื้อหลงตายแล้วเหรอ?”เวินลั่วฉิงอึ้ง สีหน้าพลันเปลี่ยนไปมา เวินจื้อหลงยังไม่เคยไปเยี่ยมเยียนคุณปู่เวินที่ล้มป่วยนอนอยู่ในโรงพยาบาลเลยสักครั้ง เธอคิดว่าเวินจื้อหลงมัวแต่เถลไถลเที่ยวเล่นเรื่อยเปื่อยอยู่ด้านนอก แต่ที่ไหนได้เขากลับตามอยากคาดไม่ถึงซะแล้ว
“ขอที่อยู่ด้วย ฉันจะไป”ถึงแม้เธอจะไม่ชมชอบครอบครัวเวินจีหยัน ไม่ชอบเวินจื้อหลงด้วย แต่เวินจื้อหลงตายแล้ว ตอนนี้คุณปู่เวินนอนสลบอยู่ในโรงพยาบาล หลี่หยุนก็อยู่ในเรือนจำออกมาไม่ได้ ยิ่งเวินจีหยันก็อย่าได้ไปคาดหวังอะไรกับเขาเลย
เรื่องนี้จึงตกเป็นความรับผิดชอบของเธอโดยปริยาย
คนก็ตายไปแล้ว คงปล่อยให้ศพเน่าเหม็นอยู่ในสถานีตำรวจไม่ได้หรอก
“อ่อ ครับ ครับ”ผู้จัดการหลิวชะงัก รีบค้นหาวิธีติดต่อสถานีตำรวจท้องที่ออกมา:“ประธานเวินครับ ผมไปเป็นเพื่อนครับ”
“อืม ก็ดี”เวินลั่วฉิงไม่ได้ปฏิเสธ มีผู้จัดการหลิวคอยติดตามไปจัดการเรื่องนี้ก็ดี
การตายของเวินจื้อหลงเหนือความคาดหมายของเวินลั่วฉิง เธอรู้สึกว่าเรื่องคงไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอก
ตอนทางสถานีตำรวจท้องที่โทรมา คงไม่ได้แจ้งรายละเอียดอย่างชัดเจน ดังนั้นเธอไปดูให้รู้เรื่องจะดีกว่า
เวินลั่วฉิงเม้มปากเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เธอได้ตรวจดีเอ็นเอใหม่กับคุณปู่เวิน ซึ่งผลปรากฏว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวเวินจือฝางจริงๆ ไม่ใช่ลูกหลานตระกูลเวิน
ในเมื่อเธอไม่ใช่ลูกหลานตระกูลเวิน เช่นนั้นเธอก็ไม่อยากถือครองตำแหน่งประธานบริษัทเวินซื่อกรุ้ปอีกต่อไป ถึงแม้เย่ซือเฉินจะใช้เงินช่วยบริษัทกู้วิกฤติไว้ก็ตามที แต่ถึงอย่างไรก็เป็นน้ำพักน้ำแรงของคุณปู่เวินทั้งชีวิต
น้ำพักน้ำแรงของคุณปู่เวินควรจะสืบทอดให้แก่ทายาทตระกูลเวินถึงจะถูก
เพียงแต่คุณปู่เวินสลบไสลไม่รู้สึกตัว ส่วนเวินจีหยันเห็นแก่จนยากจะรักษา เวินหรวนหรวนก็บาดเจ็บหนัก จนต้องนอนพิการติดเตียงไปตลอดชีวิต ดังนั้นก็เหลือเพียงเวินจื้อหลงแล้วแหละ
ถึงแม้เวินจื้อหลงจะไม่เอาถ่าน แต่อย่างน้อยจนถึงตอนนี้ เขาก็ไม่ได้กระทำเรื่องชั่วช้าสามานย์แบบให้อภัยไม่ได้ อีกทั้งเวินจื้อหลงยังเป็นหลานชายที่เป็นสายเลือดคุณปู่เวินเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
เดิมทีเธอคิดว่าหลังเสร็จสิ้นคดีของถังหลิน เธอจะไปตามตัวเวินจื้อหลงกับมารับช่วงต่อในบริษัท
คาดไม่ถึงว่าเธอยังไม่ทันตามตัวเวินจื้อหลงเลย ก็ได้ข่าวการตายของเวินจื้อหลงเสียแล้ว?
เมื่อเวินลั่วฉิงกับผู้จัดการหลิวเดินทางมาถึงสถานีตำรวจท้องที่แล้ว ทั้งสองก็เข้าพบคุณตำรวจอู๋ผู้รับผิดชอบคดีเวินจื้อหลงโดยตรง
“ครอบครัวพวกคุณเป็นอะไรกัน?ก่อนหน้านี้ติดต่อไปหลายครั้งแล้ว ผ่านมากี่วันแล้ว พวกคุณถึงมาได้?”คุณตำรวจอู๋ขมวดคิ้วยุ่งราวกับสามารถบีบแมลงวันให้ตายได้เลย เผยความไม่พึงพอใจไว้บนใบหน้าอย่างเด่นชัด:“ผมยังไม่เคยเห็นครอบครัวอย่างพวกคุณมาก่อนเลย”
คนตายไปหลายวัน ซึ่งระหว่างนั้นทางตำรวจติดต่อญาติมาโดยตลอด แต่ญาติผู้ตายเพิ่งจะมาวันนี้?
มันเกินไปหน่อยแล้ว
“คุณตำรวจครับ ท่านนี้คือประธานบริษัทเวินซื่อกรุ้ปครับ ไม่ได้เกี่ยวพันกับเวินจื้อหลงทางสายเลือดครับ ซึ่งพ่อของเวินจื้อหยันพวกเราก็ติดต่อไม่ได้เหมือนกันครับ แม่ของเวินจื้อหลงทำผิดคดีถูกขังอยู่ในคุกครับ และพี่สาวเวินจื้อหลงก็บาดเจ็บสาหัสนอนอยู่ในโรงพยาบาลครับ ประธานเวินเป็นตัวแทนบริษัทเวินซื่อกรุ้ป เพื่อมาจัดการเรื่องนี้ครับ”ผู้จัดการหลิวเป็นคนชอบปกป้องคนอื่น เขาทนดูประธานของตนถูกปรักปรำเช่นนี้ ไม่ได้ ซึ่งต้องชมฝีมือการอธิบายของผู้จัดการหลิวที่นับว่าดีเยี่ยมมาก
ประธานเวินเป็นพี่สาวฝ่ายพ่อกับเวินจื้อหลง ถึงจะเป็นญาติกันก็ตามแต่ หากด้วยเรื่องนานัปการที่ครอบครัวเวินจีหยันเคยกระทำต่อท่านประธานเวิน ถึงจะเป็นญาติสนิทกันเพียงใดก็จะถูกเผาจนมอดไหม้แล้วละ ที่ประธานเวินยอมมาวันนี้ก็นับว่าไม่เลว
คุณตำรวจอู๋ได้ยินคำพูดของผู้จัดการหลิวก็ชะงัก:“อ่อ ขออภัยด้วยครับ ผมไม่รู้เลย ผมคิดว่าคุณเป็นพี่สาวแท้ๆของเวินจื้อหลงครับ”
เขารู้จากประวัติของเวินจื้อหลงว่ามีพี่สาวแท้ๆหนึ่งคน ดังนั้นเมื่อเห็นเวินลั่วฉิง จึงคิดว่าเวินลั่วฉิงก็คือพี่สาวแท้ๆของเวินจื้อหลง
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันขอทราบรายละเอียดหน่อยได้ไหมคะ?”เวินลั่วฉิงไม่ได้ถือสาหาความ งานของเธอมักจะต้องคลุกคลีอยู่กับตำรวจเสมอ ดังนั้นเธอจึงรู้ความลำบากของงานตำรวจเป็นอย่างดี
ทว่า คดีการตายของเวินจื้อหลงเธออยากรู้รายละเอียดเสียหน่อย เพราะเธอรู้สึกว่าการตายของเวินจื้อหลงไม่น่าจะเป็นเรื่องง่ายอย่างนั้น
“ได้อยู่แล้วครับ”ครั้งนี้คุณตำรวจอู๋ตอบทันทีทันใด ถึงแม้จะไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน แต่ในเมื่อมาจัดการเรื่องนี้ จึงมีสิทธิ์รับรู้รายละเอียดของคดีอยู่แล้ว
“งั้นผมขอเล่าให้คุณฟังนะครับ”คุณตำรวจอู๋นำเอกสารคดีเวินจื้อหลงออกมาวางไว้ตรงหน้าเวินลั่วฉิง เกรงว่าเวินลั่วฉิงจะอ่านไม่รู้เรื่อง คุณตำรวจอู๋จึงอธิบายให้เวินลั่วฉิงฟังด้วยตัวเอง
“คืนวันที่ 22 เวินลั่วฉิงรวมกลุ่มกันเสพสิ่งเสพติดกันที่คลับหมิงหวงครับ ซึ่งกลุ่มพวกเขามีกันทั้งหมดสิบกว่าคนครับ จากที่พวกผมไปทำคดีมา สรุปได้ว่า ตอนนั้นเวินจื้อหลงเสพสิ่งเสพติดเกินปริมาณ จากนั้นก็หาผู้หญิงร่วมหลับนอนด้วยกันหลายคนครับ เพราะด้วยสาเหตุที่เสพยาเสพติดเกินขนาด บวกกับการร่วมเพศที่รุนแรง ปลุกเร้าเกินไป ทำให้ตายเฉียบพลันครับ……”คุณตำรวจอู๋อยากอธิบายให้ละเอียดเข้าใจมากที่สุด เพื่อจะได้ปิดคดีโดยเร็วไว
เวินลั่วฉิงไม่ได้แทรกเขาพูด ผู้จัดการหลิวตั้งใจฟังเป็นอย่างดี ทว่าเวินลั่วฉิงอ่านเอกสารอย่างรัวเร็วหนึ่งจบ
ซึ่งบันทึกของทางตำรวจไม่พบสิ่งผิดแปลกเลย มีข้อสงสัยเดียว ซึ่งก็คือปริมาณที่เวินจื้อหลงเสพยาเสพติดเกินลิมิต
การเสพเกินขนาดนี้เกิดจากการที่เขาเสพเอง?หรือเป็นการกระทำของผู้อื่น?
“มีกล้องจับภาพเหตุการณ์ตอนนั้นในคลับหมิงหวงไหมคะ?”เวินลั่วฉิงรอให้คุณตำรวจอู๋กล่าวจบ พลางถามหนึ่งประโยค
ซึ่งตอนเวินลั่วฉิงอ่านสรุปผลคดีเมื่อกี้ เธอเห็นว่าเขียนถึงกล้องวงจรปิดในคลับหมิงหวงด้วย
“……มีครับ”คุณตำรวจอู๋ชะงักอย่างชัดแจ้ง เขาคาดไม่ถึงว่าเวินลั่วฉิงจะถามอย่างนี้กะทันหัน