ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 929 เข้าข้างเจ้าหญิง มีเรื่องสนุกแล้วสิ (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 929 เข้าข้างเจ้าหญิง มีเรื่องสนุกแล้วสิ (1)
หลังจากที่ไป๋หยิงเห็นเจ้าเก้ากลับไป ก็ดีใจจนแทบจะหลุดหัวเราะเสียงดังออกมา ขอแค่แผนการของเธอสำเร็จ ขอแค่หัวหน้ายอมรับ “ลูกสาว” คนนี้ ถึงเวลานั้นเธออยากทำอะไรก็สามารถทำได้ตามใจชอบ
อย่าว่าแต่เวินลั่วฉิงเลย แม้แต่ถังหลินกับเย่ซือเฉินเธอก็ไม่กลัว
ถึงตอนนั้น ถ้าเธออยากจัดการกับเวินลั่วฉิง ถังหลินกับเย่ซือเฉินก็ปกป้องเวินลั่วฉิงไม่ได้แล้ว
ตอนนั้น เธอก็จะสามารถเหยียบขยี้เวินลั่วฉิงลงไปกองกับพื้นได้ตามอำเภอใจ
ไป๋หยิงยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกได้ใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้นดีใจ ดูเหมือนจะมองเห็นชัยชนะแล้ว
“ลุงเหลียงคะ หนูพบผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่คล้ายกับภาพเหมือนของหัวหน้ามากเลยค่ะ อายุน่าจะประมาณ 24-25 ปี หนูสงสัยว่าเธออาจจะเป็นลูกสาวของหัวหน้า เลยเอาเส้นผมสองเส้นของเธอกลับมาตรวจดีเอ็นเอ” ตอนที่กลับไป เจ้าเก้าพบกับลุงเหลียงพอดี เจ้าเก้าจึงได้รายงานให้ลุงเหลียงทราบเรื่อง
ลุงเหลียงอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วเงยหน้ามองเจ้าเก้า : “ไปเจอที่ไหน?”
“ตอนทานข้าวค่ะ” เจ้าเก้าไม่ได้คิดอะไรมาก และก็ไม่ได้สงสัยอะไรด้วย ถึงแม้เรื่องนี้จะค่อนข้างบังเอิญไปนิดก็ตาม
แต่เธอได้ไปตรวจดีเอ็นเอแล้ว เรื่องอื่นไว้รอผลตรวจดีเอ็นเอออกมาแล้วค่อยว่ากัน ต่อให้มีคนวางแผนจัดฉาก แต่มีผลตรวจดีเอ็นเอยืนยัน ก็ไม่มีทางวางแผนทำอะไรได้หรอก
ลุงเหลียงมองเธอ แล้วเงียบไปครู่หนึ่ง
“ลุงเหลียง หนก็รู้ค่ะว่าเรื่องนี้มันบังเอิญเกินไปหน่อย หนูเลยไปตรวจดีเอ็นเอก่อน ผลตรวจดีเอ็นเอปลอมขึ้นมาไม่ได้อยู่แล้ว” เจ้าเก้าเมื่อถูกลุงเหลียงมองอย่างนั้น ก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก
แต่ว่า เธอไม่ได้ทำผิดอะไร ทำไมลุงเหลียงต้องมองเธออย่างนั้นด้วย?
“อืม งั้นก็รอผลตรวจออกมาก่อน” ลุงเหลียงไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่ตอนที่ละสายตาไป เขาเม้มปากเล็กน้อย ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
เจ้าเก้ามองแผ่นหลังลุงเหลียงที่เดินจากไปแล้วขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย ทำไมเธอรู้สึกว่าลุงเหลียงดูเหมือนไม่ค่อยดีใจเลย
กว่าจะได้ข้อมูลของลูกสาวหัวหน้ามานั้นไม่ง่ายเลย ทำไมลุงเหลียงถึงมีปฏิกิริยาแบบนี้ล่ะ?
นี่มันปกติเหรอ?
“ลุงเหลียง คุณหนูใหญ่ตระกูลถังกลับเมือง A แล้ว พวกเราต้อง……” ลุงเหลียงกลับมาถึงห้อง ชายหนุ่มอายุน้อยที่อยู่ในห้องก็ได้รายงานข่าวให้เขารู้
“ถังหยุนเฉิงเกิดเรื่องที่เมืองไห่แล้ว เรื่องนี้ร้ายแรงมาก?” ลุงเหลียงไม่ได้ตอบคำถามของชายหนุ่ม แต่จู่ ๆ ถามออกมาประโยคหนึ่ง
“ครับ” ชายหนุ่มอึ้งไป จากนั้นก็รีบตอบคำถาม : “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตระกูลกู้ แต่ว่าคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ที่เมืองไห่ก็ได้เข้าร่วมด้วย”
“รู้ไหมว่าทำไมคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ต้องเข้าร่วม?” ลุงเหลียงหรี่ตาลงเล็กน้อย คนขององค์กรโกสต์ซิตี้มีปัญหากับคนของตระกูลถังครั้งแล้วครั้งเล่า มันดูแปลกไปหน่อยนะ
“ครั้งก่อนเรื่องคนที่เมือง A ก็เป็นเพราะตระกูลกู้เรียกตัวคนขององค์กรโกสต์ซิตี้มาช่วย เรื่องที่เมืองไห่คราวนี้ก็น่าจะเป็นแบบเดียวกัน หลายปีมานี้ภายใต้การควบคุมดูแลของหัวหน้าน้อย กฎระเบียบในการรับงานด้านนอกขององค์กรโกสต์ซิตี้หละหลวมลงไปมาก ดูภายนอกเหมือนไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร ก็พอจะมองข้ามไปได้” ชายหนุ่มพูดจาค่อนข้างคลุมเครือ
ลุงเหลียงมองเขา สีหน้าดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
“ลุงเหลียง หลายปีที่ผ่านมาพวกเรารับผิดชอบเรื่องการตามหาคนให้หัวหน้า เรื่องงานภายในองค์กรโกสต์ซิตี้พวกเราไม่ได้มีส่วนร่วมเลย ตอนนี้เป็นหัวหน้าน้อยคอยควบคุมดูแลองค์กร ต่อให้จู่ ๆ หัวหน้าหรือผู้ดูแลจ้งอยากจะเข้ามาก้าวก่ายเรื่องในองค์กรขึ้นมา ก็เกรงว่าจะ……” ชายหนุ่มหยุดพูด แต่ความหมายที่สื่อออกมานั้นชัดเจนมาก
หลายปีมานี้องค์กรโกสต์ซิตี้อยู่ภายใต้การดูแลของหัวหน้าน้อย หากคนอื่น ๆ ต้องการจะควบคุมเรื่องภายในองค์กรคงทำได้ยาก
เดิมทีเรื่องพวกนี้ปกติแล้วเขาก็ไม่ได้สนใจหรือถามอะไรมากมาย แต่ตอนนี้เป็นเพราะลุงเหลียงสงสัยว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะเป็นเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ และเรื่องที่เกิดขึ้นสองครั้งนี้ก็เกี่ยวข้องกับตระกูลถัง ดังนั้นเขาจึงสืบข้อมูลมาพอสมควร
ถึงแม้ว่าเขาอยากสืบหาข้อมูล แต่ในระยะเวลาสั้น ๆ ก็ได้ข้อมูลมาไม่มากนัก
“แกไปสืบเรื่องนี้มาให้ละเอียด” ลุงเหลียงเข้าใจความหมายของเขาดี : “ถ้าหากคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้จริง ๆ ตอนนี้องค์กรโกสต์ซิตี้คอยหาเรื่องตระกูลถังอยู่อย่างนี้ ต่อไปจะชี้แจงกับเจ้าหญิงยังไงล่ะ?”
การที่ลุงเหลียงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ก็เป็นเพราะสาเหตุนี้แหละ ถ้าไม่ใช่เพราะสงสัยว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจะเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ล่ะก็ เขาก็ไม่ไปก้าวก่ายเรื่องอื่น ๆ ขององค์กรโกสต์ซิตี้หรอก
หลายปีมานี้แม้แต่หัวหน้าก็ไม่ก้าวก่ายเรื่องในองค์กรโกสต์ซิตี้ แล้วเขามีสิทธิ์อะไรไปก้าวก่ายล่ะ
“ลุงเหลียง ตอนนี้ไม่ใช่ควรจะยืนยันตัวตนของเจ้าหญิงก่อนเหรอ?” ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย ลุงเหลียงเรียงลำดับความสำคัญผิดไปหรือเปล่า
“ฉันจะไม่รู้ว่าต้องยืนยันตัวตนของเจ้าหญิงก่อนได้ยังไง? แต่ฐานะของตระกูลถังนั้นไม่ธรรมดา การรักษาความลับของตระกูลถังทำได้อย่างรัดกุมมาก และคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็ฉลาดรอบคอบมาก ฉันก็คอยหาโอกาสเหมาะ ๆ มาตลอดไม่เห็นเหรอ” ลุงเหลียงพูดถึงเรื่องนี้ว่ามันค่อนข้างซับซ้อน
เขาในฐานะที่เป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ คอยจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้หัวหน้ามานานหลายปี ความสามารถของเขาเป็นที่ยอมรับของหัวหน้า แต่ตอนนี้เรื่องนี้เรื่องเดียวผ่านมาหลายวันแล้วเขากลับยังสะสางไม่ได้
เขารู้สึกเหมือนถูกจี้ปม รู้สึกหดหู่ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกภาคภูมิใจอยู่บ้าง เพราะถ้าหากคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นเจ้าหญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเขาขึ้นมาจริง ๆ เขาก็ต้องรู้สึกภาคภูมิใจมากอยู่แล้วที่เจ้าหญิงของพวกเขาเก่งกาจขนาดนี้
ชายหนุ่มเบ้ปากเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดไม่ได้ ที่สำคัญคือไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ยังไงเรื่องประจบสอพลอนั้นเขาก็ทำไม่เป็นอยู่แล้ว
“ฉันจะไปลากคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมาตรวจดีเอ็นเอเลยก็คงไม่ได้ใช่ไหมล่ะ? ถ้าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเป็นเจ้าหญิงของพวกเราจริง ๆ ก็คงดี แต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?” ลุงเหลียงจัดการเรื่องนี้ด้วยความรอบคอบมาก ที่สำคัญฐานะของตระกูลถังนั้นไม่ธรรมดาเลย ฐานะของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็ยิ่งไม่ธรรมดาไปอีก ดังนั้นเรื่องพวกนี้จะทำอย่างโผงผางไม่ได้
แต่ลุงเหลียงพบว่าการที่จะแอบทำเรื่องนี้ก็ยิ่งยากเย็นแสนเข็ญมากขึ้นไปอีก เพราะตระกูลถังรักษาความลับกันเป็นอย่างดี คุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็ระมัดระวังตัวมาก คิดจะเข้าใกล้ตัวคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็ว่ายากแล้ว หากจะเอาอะไรจากบนตัวคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมาก็ยิ่งยากไปกันใหญ่
“เอาล่ะ เรื่องนี้ฉันจะไปจัดการด้วยตัวเอง แกไปสืบเรื่องที่เมืองไห่มาหน่อย ดูสิว่าจะช่วยอะไรได้บ้างไหม” ลุงเหลียงไม่อยากให้คนอื่นมาแทรกแซงเรื่องนี้ เพราะคนยิ่งมาก บางครั้งก็ยิ่งทำให้เสียเรื่อง
แน่นอนว่า ถ้าไม่ใช่เพราะช่วงนี้คุณหนูใหญ่ตระกูลถังไปประเทศ M หลายวัน กลับมาก็รีบไปเมืองไห่อีก เขาก็คงได้รู้ฐานะที่แท้จริงของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังไปแล้ว
“ถังหยุนเฉิงเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นขนาดนี้ ปฏิกิริยาของตระกูลถังกลับดูแปลก ๆ ปฏิกิริยาของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็ยิ่งดูแปลกมากไปอีก” ชายหนุ่มครุ่นคิด ท่าทางดูลังเลเล็กน้อย : “ด้านนอกลือกันว่าเพราะเรื่องของถังหยุนเฉิงคราวนี้เลวร้ายเกินไป คุณหนูใหญ่ตระกูลถังเลยป้องกันตัวเองไว้ก่อน”
ชายหนุ่มเงียบไปครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าลุงเหลียงไม่พูดอะไร เขาก็พูดต่อไปว่า : “ตอนนั้นที่ถังหยุนเฉิงเกิดเรื่องขึ้นที่เมืองไห่ คุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็รีบไปที่เมืองไห่ทันที แต่เมื่อทราบเรื่องที่ถังหยุนเฉิงทำ คุณหนูใหญ่ตระกูลถังก็กลับเมือง A ทันที”