ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 934 ชายขี้หึงเผยความองอาจ โอหัง (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 934 ชายขี้หึงเผยความองอาจ โอหัง (3)
ไป๋หยูหนิงหายโกรธในชั่วพริบตา ความเคียดแค้นบนใบหน้าจางหายเป็นปลิดทิ้ง:“ไม่ ไม่มีปัญหาค่ะ”
เสียงไป๋หยูหนิงยังคงเบามาก คล้ายกับคนที่ใกล้จะคลั่งเมื่อกี้ไม่ใช่เธอ
“อืม งั้นก็ทำต่อ แค่พึ่งเอกสารพวกนี้ช่วยถังหยุนเฉิงพลิกสถานการณ์มันยังห่างไกลเกิน”ผู้ชายเก็บเอกสาร เสียงที่ราบเรียบฟังอารมณ์ไม่ค่อยออก
“ฉันรับทราบค่ะ”ไป๋หยูหนิงรู้ว่าเอกสารพวกนี้ไม่เพียงพอให้ถังหยุนเฉิงพลิกคดีได้ ถึงแม้เวินลั่วฉิงจะมีแผนสำรองก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อจะได้ไม่แพ้ในศึกครั้งนี้
ไป๋หยูหนิงยิ่งรู้ว่าหากครั้งนี้รบแพ้ อย่าว่าแต่ถังหยุนเฉิงเลย แม้กระทั่งตระกูลถังก็ต้องบรรลัยไปด้วย
“ต้องการให้ผมช่วยไหม?”ผู้ชายมองเธอ มุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยมีอารมณ์ซับซ้อนอยู่เลือนราง
“ไม่ต้องค่ะ ฉันทำเองได้ คุณช่วยฉันตรวจสอบก็พอค่ะ”ไป๋หยูหนิงรีบปฏิเสธโดยพลัน เธอกล้าให้เขาช่วยได้อย่างไร เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนดูเอกสาร ไป๋หยูหนิงก็ยิ่งคัดค้านมากขึ้น
“เหมือนจะมีเวลาไม่มากแล้ว”ใบหน้าผู้ชายยังคงประดับรอยยิ้มเช่นเดิม ไม่มีความผิดหวังหรือหดหู่ใจเลยสักนิด
รอยยิ้มบนใบหน้าเขาสามารถบดบังอารมณ์อื่นเป็นอย่างดี
“หรือคุณให้คุณชายสามเย่เปิดห้องให้คุณ ฉันหาของฉัน คุณหาของคุณ พอพวกเราหาเจอแล้วค่อยมาปรึกษาด้วยกัน……”ไป๋หยูหนิงเผยความคิดตัวเองเสียงเบา ซึ่งเธอมีความคิดนี้ตั้งนานแล้ว เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ชายคนนี้ไม่ต้องมาอยู่ร่วมห้องเดียวกับเธอ
รอยยิ้มที่แม้โดนฟ้าผ่าก็ไม่เปลี่ยนแปลง ยามที่แข็งค้างกะทันหัน ซึ่งชั่วอึดใจนี้รอยยิ้มที่มีจุดเปลี่ยนไม่ได้บดบังอารมณ์อื่นบนใบหน้าได้ดีเท่าที่ควร สามารถเห็นความรู้สึกเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันได้อย่างเด่นชัด
ทว่า วินาทีต่อมารอยยิ้มเบ่งบานอีกครั้ง สามารถกลบเกลื่อนทุกอย่างได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ:“คุณหาเองเลย ผม……”
ยังไม่ทันสิ้นเสียงของผู้ชาย มือถือไป๋หยูหนิงก็ดังขึ้นกะทันหัน
ไป๋หยูหนิงรีบเอามือถือขึ้นมา เห็นเบอร์ที่ปรากฏอยู่บนจอ เธอที่ทำหน้าระมัดระวังเมื่อกี้ตอนนี้มีรอยยิ้มเข้ามาแทน:“ฮัลโหล รุ่นพี่”
เสียงของไป๋หยูหนิงยังคงเบาเช่นเดิม แต่มีความอ่อนโยนเพิ่มขึ้นหลายส่วนอย่างแจ่มชัด เป็นความอ่อนโยนในเฉพาะตัวผู้หญิง
ดวงตาดอกท้อคู่งามที่กำลังยิ้มพลันหรี่ขึ้น รุ่นพี่?
เขารู้ว่ารุ่นพี่ของเธอคนนี้คือใคร คือผู้ชายที่ไป๋หยูหนิงชอบนั่นเอง!!
ตอนนั้นก็เพราะสาเหตุนี้ถึงทำให้เธอเลือกทำงานกับผู้ชายคนนี้
อืม ให้ความหมายว่าหอคอยที่ใกล้น้ำ ได้พระจันทร์ก่อน!
หลายปีผันผ่าน เข้าใกล้หอคอยแล้ว ไม่รู้ว่าเด็ดพระจันทร์ไปถึงไหนแล้ว?!
“อืม รู้สึกยากนิดหนึ่ง มีไม่เข้าใจหลายที่เลย……”เสียงของไป๋หยูหนิงส่งมาอีกครั้ง ทำลายความคิดของผู้ชาย ดวงตาหรี่ของผู้ชายเผยอันตรายหลายส่วน
ไป๋หยูหนิงเป็นคนพึ่งตัวเอง แข็งแกร่งกว่าผู้ชายด้วยซ้ำ เธอไม่ชอบยอมแพ้และไม่อ่อนข้อ แต่เสียงของเธอในยามนี้เผยการอ่อนข้ออย่างเด่นชัด ในความอ่อนข้อนี้ให้ความรู้สึกออดอ้อนเจืออยู่ด้วย
อีกทั้งเมื่อกี้เขาบอกว่าเขาช่วยเธอ เธอก็รีบปฏิเสธอย่างไม่รักษาน้ำใจทันที บอกว่าเธอทำเองได้ แต่ตอนนี้เธอกลับขอความช่วยเหลือจากคนอื่น?
อืม ดีมาก!
เห็นเขาเป็นคนตายหรือไง?
“อืม รุ่นพี่ว่ามาเลย ฉันฟังอยู่”ไม่รู้อีกฝ่ายพูดอะไร ไป๋หยูหนิงรีบขานรับ ซึ่งน้ำเสียงยังเจือรอยยิ้มไว้หลายส่วน
ไป๋หยูหนิงคุยโทรศัพท์ไปพลาง เดินไปยังโต๊ะคอมพิวเตอร์ไปพลาง ซึ่งไม่แม้แต่จะมองผู้ชายในห้องสักแวบเดีว เห็นผู้ชายคนนี้เป็นอากาศธาตุไปแล้ว
“อืม ฉันรู้แล้ว”ไป๋หยูหนิงนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็ค้นหาอะไรบางอย่างในคอมพิวเตอร์ ซึ่งเห็นได้ชัดว่อีกฝ่ายกำลังสอนเธอทำอยู่
“ฉันเข้าใจแล้ว รุ่นพี่เก่งจริงๆ”สักพัก ไป๋หยูหนิงก็ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจที่ไม่อาจปิดบังได้ หรือเธอไม่คิดจะปิดบังเลย
ตอนแรกเธอกลัวผู้ชายในห้องจนไม่กล้าพูด แต่ตอนนี้เธอไม่เห็นการมีตัวตนของผู้ชายในห้องเสียแล้ว ถือผู้ชายเป็นอากาศธาตุ
ตอนที่คุุุณฟู่ได้ยินเธอพูดว่ารุ่นพี่เก่งจริงๆ ใบหน้าก็มืดครึ้มทันที ไม่มีรอยยิ้มอีกต่อไป
เธอชมผู้ชายคนอื่นว่าเก่งต่อหน้าเขาเชียวหรือ?
ไป๋หยูหนิงคุยโทรศัพท์กับรุ่นพี่ต่อ ไม่รู้ว่าผู้ชายมาอยู่ข้างเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ ยืนด้วยระยะไม่ถึงครึ่งเมตร
ไป๋หยูหนิงกลับไม่รับรู้
“ไป๋หยูหนิง”ดวงตาดอกท้อคู่งามของผู้ชายไม่มีรอยยิ้มอีกต่อไป มีเพียงความมืดมนเข้ามาปกคลุม
ร่างกายไป๋หยูหนิงแข็งค้าง เหมือนเพิ่งนึกออกว่ายังมีคนอยู่ในห้อง แถมยังเป็นบุคคลที่เธอกลัวที่สุดอีกด้วย เธอมือลั่นไปโดนมือถือของตน คงอยากกดสายทิ้ง แต่เพราะความลุกลน ทำให้ไปกดโดนลำโพงเข้า
“หยูหนิง ข้างๆคุณมีคนเหรอ?”เสียงคุ้นเคยและหนักแน่นส่งมาตามสาย
ได้ยินวิธีเรียกชื่อที่สนิทสนมขนาดนั้น บัดนี้ใบหน้าคุุุณฟู่ดำเสียสนิทเลย
“คือ คือคนที่คุณชายสามเย่ส่งมา ฉัน ฉันไม่รู้จัก”ไป๋หยูหนิงกะพริบ ตอบหนึ่งประโยคด้วยจิตใต้สำนึก
ตอนที่ไป๋หยูหนิงตอบประโยคนี้ แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าสมองเธอกำลังคิดอะไรอยู่
ช่วงวินาทีนั้น ดวงตาดอกท้อคู่งามของคุุุณฟู่เกาะกุมไปด้วยความเย็นยะเยือก อุณหภูมิในห้องลดลงหลายองศาในชั่วพริบตา
ไม่รู้จัก!!
เธอพูดว่าไม่รู้จักเขา!
ดี ดีมาก!!
“รุ่นพี่ ฉันวางสายก่อนนะ”ไป๋หยูหนิงรับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่ไม่ปกติ สถานการณ์อย่างนี้เธอก็ไม่สะดวกคุยกับรุ่นพี่ต่อ
มองไป๋หยูหนิงวางสายอย่าง‘อาลัยอาวรณ์’ ร่างกายผู้ชายโน้มมาด้านหน้ากะทันหัน เอามือจับเก้าอี้ที่ไป๋หยูหนิงนั่ง ส่วนอีกข้างก็จับโต๊ะคอมพิวเตอร์ เขาทิ้งตัวลงมาจ้องเธอด้วยระยะกระชั้นชิด บัดนี้ใบหน้าของเขาไม่มีรอยยิ้มเฉกเช่นปกติแล้ว มุมปากมองแล้วรู้สึกเย็นเยียบเล็กน้อย:“ไม่รู้จักผม?”
เสียงของผู้ชายค่อยๆส่งออกมาอย่างเบาๆช้าๆ เจืออันตรายที่ชวนให้หายใจไม่สะดวกไว้ด้วย
ไป๋หยูหนิงอยากหลบ แต่ไร้ที่หลบหนี เธอมองใบหน้าที่เข้ามาใกล้ทุกที รู้สึกว่าหายใจลำบากมากเลยทีเดียว
“ไป๋หยูหนิง ทางที่ดีคุณควรคิดให้รอบคอบก่อนพูด”เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายไม่ได้อ่อนนุ่มเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว แต่เป็นการข่มขู่ที่อันตรายมาก
เขาพบว่าไม่ควรใช้วิธีอ้อมค้อมกับผู้หญิงคนนี้เลย
เขารู้สึกว่าเขาควรอุ้มผู้หญิงคนนี้ขึ้นเตียง ง่ายและตรงไปตรงมา คงได้ผลดีที่สุดสำหรับเธอแล้ว
หากเธอกล้าบอกว่าไม่รู้จัก เขาจะทำอย่างนั้นจริงๆ
ไม่รู้จักเขา?ไม่เป็นไร เขาไม่ถือสาที่จะให้เธอรู้จักเขาใหม่อีกครั้ง
ไป๋หยูหนิงกลืนน้ำลายด้วยจิตใต้สำนึก:“รู้ รู้จัก”
อันที่จริงไป๋หยูหนิงอยากแกล้งทำเหมือนไม่รู้จักกันเอามากๆ อยากบอกว่าไม่รู้จักสักเต็มประดา แต่เมื่อคำพูดมาถึงปลายลิ้นเธอก็เปลี่ยนคำกะทันหัน
“อืม ลองพูดมาสิว่าพวกเรารู้จักกันได้ยังไง?”มุมปากผู้ชายยกโค้งขึ้นทีละนิด