ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 971 เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้เขาที่เป็นคนใจดำอำมหิต จำเป็นต้องนอนด้วยกัน (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 971 เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้เขาที่เป็นคนใจดำอำมหิต จำเป็นต้องนอนด้วยกัน (1)
แน่นอนเวินลั่วฉิงรู้ว่ามีคนสั่งการหลี่หมิงและเด็กผู้หญิงก็มีเป้าหมายในการพูดปด ดังนั้นเวินลั่วฉิงเดาถูกตั้งแต่แรกแล้วว่า เมื่อคุณหลิวพามูลนิธิพิทักษ์ประชาชาติมา หลี่หมิงกับเด็กผู้หญิงต้องปฏิเสธ
ซึ่งก่อนหน้านี้ เวินลั่วฉิงให้คนล้างสมองคุณหลิวอย่างไม่รู้ตัวและไร้ร่องรอย
ฉะนั้นสุดท้ายคุณหลิวจึงบอกหลี่หมิงว่าจะแจ้งความ เธออยากใช้วิธีนี้ช่วยลูกชาย
ต้องบอกเลยว่าวิธีการของคุณหลิว เวินลั่วฉิงรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง
แน่นอน นี่เป็นเพียงก้าวแรกของเวินลั่วฉิง ต่อจากนี้ยังมีสงครามดุเดือดเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
“ฉิงฉิง เตรียมการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ฉันติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหมดแล้ว พรุ่งนี้ก็ต้องสำนวนและตัดสินคดีได้แล้ว คุณรอดูสีสันของพรุ่งนี้ได้เลย”ไป๋หยูหนิงที่อดหลับอดนอนติดต่อกันหลายวัน ทว่าเวลานี้ก็ยังคงกระฉับกระเฉงเช่นเดิม
มีแผนการของเวินลั่วฉิง ผลงานที่เธอทุ่มเทแรงกายแรงใจตลอดหลายวันนี้ พรุ่งนี้ก็จะได้ใช้งานแล้ว
พรุ่งนี้ต้องเกิดเหตุระทึกขวัญ ผู้คนตกตะลึงด้วยความเหลือเชื่อแน่ๆ
พรุ่งนี้ทุกอย่างก็จะกระจ่างเสียที ถังหยุนเฉิงก็จะบริสุทธิ์แล้ว
“ถ้าไม่ใช่ฉันเป็นคนสืบข้อมูลเอง ฉันก็ไม่กล้าเชื่อเลยว่าโลกนี้ยังมีพ่ออย่างนี้อยู่อีก”ไป๋หยูหนิงนึกถึงข้อมูลที่ตนหาเจอ สีหน้าพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมในฉับพลัน:“เดรัจฉานสิ้นดี ไม่ เลวระยำกว่าเดรัจฉานอีก เขาทำเรื่องอย่างนั้นได้ยังไง มันเกินไปจริงๆ น่าขยะแขยงมาก ปล่อยคนแบบนี้ไปไม่ได้เด็ดขาด พรุ่งนี้ฉันจะต้องทำให้เขาถูกลงโทษอย่างสาสมเลย”
ไป๋หยูหนิงทำหน้าเกลียดชังราวกับมีความบาดหมางกัน ซึ่งเรื่องนี้สืบออกมาได้สักพักหนึ่งแล้ว เธอเอ่ยถึงเรื่องนี้เมื่อไหร่เป็นต้องขบเคี้ยวเขี้ยวฟันและนี่ก็เป็นนิสัยของเธอ
“โอเค รู้ว่าคุณเก่งมากเลย ตอนนี้คุณควรพักผ่อนได้แล้ว” คุุุณฟู่ที่ยืนอยู่ด้านข้างเธอส่ายหัวด้วยความเบื่อหน่าย แต่แววตาที่มองเธอกลับเปี่ยมไปด้วยความเอ็นดู
แต่เวลานี้ไป๋หยูหนิงกำลังรู้สึกโกรธอยู่ ไม่ได้มองเขา ดังนั้นจึงไม่รับรู้ความรู้สึกในแววตา
เวินลั่วฉิงที่หันไปมองพอดีเลยรู้สิ่งนี้ เธอกระตุกมุมปาก เธอรู้สึกว่าสองคนนี้ทะแม่งๆตั้งแต่แรกแล้ว ตอนนี้ความคิดของคุุุณฟู่ไม่อาจปิดบังได้อีกต่อไป
เสียดายที่คนสะเพร่าอย่างไป๋หยูหนิงไม่ได้สังเกตเห็น
“ฉันไม่เหนื่อย ฉันไม่เหนื่อยเลยสักนิด ฉันนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนั้น ฉันก็แทบอยากจะ……”ไป๋หยูหนิงอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นกว่าเดิม เพียงแต่วินาทีต่อมาใบหน้าเธอมีความหนักอึ้งหลายส่วน:“เฮ้อ ยังมีเด็กผู้หญิงคนนั้นอีก เธอเพิ่งสิบเอ็ดขวบ เธอเด็กขนาดนั้น น่าจะเป็นวัยที่ใสซื่อบริสุทธิ์ ทำไมเธอถึงทำเรื่องอย่างนั้นได้ก็ไม่รู้ ทำไมเด็กผู้หญิงอายุสิบเอ็ดปีที่จอมวางแผนขนาดนี้ ฉันไม่กลิ้คิดเลย”
“ฉิงฉิง คุณว่าทำไมเด็กผู้หญิงคนนั้นถึงทำแบบนี้……”ไป๋หยูหนิงไม่เข้าใจเจตนาที่หลี่หมิงทำ ยิ่งไม่เข้าใจการกระทำของเด็กผู้หญิงคนนี้
เวินลั่วฉิงย้อนนึกถึงแววตาครั้งแรกของเด็กผู้หญิงตอนไลฟ์สด ดวงตาเธอหรี่ขึ้นความคิดของเด็กคนนี้ลุ่มลึกจริงๆ
สิ่งที่ทำให้เวินลั่วฉิงตกตะลึงก็คือเด็กคนนี้สามารถใช้แววตาไร้เดียงสาพูดปดได้ และเด็กผู้หญิงก็ถนัดสร้างความสงสาร ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้จักใช้สภาพร่างกายให้เป็นประโยชน์อีกด้วย
ทุกครั้งที่สื่อมาสัมภาษณ์ เด็กคนนี้แสดงได้ยอดเยี่ยมมาก
เด็กคนนี้ใช้บาดแผลบนกาย ใช้อายุของตนเป็นเครื่องมือในการดึงความเห็นอกเห็นใจจากผู้คนได้อย่างง่ายดาย
ต้องมีคนสอนเธออยู่เบื้องหลังเป็นแน่และอาจมีคนบีบบังคับเธอก็เป็นได้เช่นกัน แต่เด็กผู้หญิงคนนี้ทำได้ถึงขั้นนี้ แสดงแรงปรารถนาเกินขอบเขตของคุณธรรมไปแล้ว
แรงปรารถนานี้ทำให้เด็กทำอะไรก็ได้โดยไม่คำนึกถึงความผิดชอบชั่วดี
จุดนี้ทำให้จิตใจเวินลั่วฉิงหนักอึ้งและทำให้เวินลั่วฉิงรู้สึกกลัวเล็กน้อย
อธิษฐานขออย่าให้พรุ่งนี้เกิดเหตุไม่คาดฝันเลย เธอไม่ควรผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง แต่เธอกังวลเด็กผู้หญิงคนนี้มากเลย!
“ไป๋หยูหนิง ตอนนี้คุณควรไปนอนได้แล้ว”คุุุณฟู่มองไป๋หยูหนิงที่ยังมีพลังเต็มเปี่ยม น้ำเสียงมีความเคร่งขรึมกับการบังคับหลายส่วน
“คุณไม่ต้องมายุ่ง?คุณอยากนอนก็ไปนอนสิ มาจุ้นจ้านฉันอยู่ได้?”ไป๋หยูหนิงหันไปทำจ้องตาถลน หลังจากรู้อยู่ด้วยกันมาหลายวัน ไป๋หยูหนิงไม่ได้กลัวเขาขนาดนั้นอีกแล้ว
ประเด็นสำคัญคือพวกเขาได้ข้อตกลงอย่างเห็นชอบกันทั้งสองฝ่ายแล้ว ขอเพียงเธอหนีเขาได้สำเร็จ เรื่องในอดีตก็ถือว่าจบ ซึ่งเขาเป็นคนรับปากเอง
งานนี้ใกล้จะเสร็จอยู่รอมร่อแล้ว เรื่องสะสางเมื่อไหร่ เธอก็สามารถหนีไปได้แล้ว ด้วยความสามารถของเธอการหนีจึงเป็นสิ่งที่ง่ายมาก
ถึงเวลานั้นก็ไม่ต้องพบเจอกันอีก เธอไม่สนว่าเขาจะเป็นใคร
อีกทั้งตอนนั้นเธอก็ไม่ติดค้างเขาอีกต่อไป!
“คุุุณฟู่พูดถูก คุณควรพักผ่อนได้แล้ว พักผ่อนเอาแรงไปร่วมสนามรบพรุ่งนี้ พรุ่งนี้พวกเราต้องเจอศึกดุเดือดนะ”เวินลั่วฉิงลุกขึ้นเตรียมจะออกไป เธอรู้สึกว่าควรเว้นช่องว่างให้พวกเขาสองคน
“ได้ ฉันจะไปพักผ่อน แล้วห้องนอนฉันล่ะ?หรือฉันนอนกับคุณ?”ไป๋หยูหนิงก็ลุกขึ้นเตรียมตัวออกจากห้องตามเวินลั่วฉิง
เมื่อวานพวกเขาเดินทางมาถึงเมืองไห่ ไป๋หยูหนิงก็มุ่งหน้าไปหมู่บ้านที่เกิดเหตุคดีเด็กผู้หญิงคนนี้ทันที ไป๋หยูหนิงใช้เวลาหนึ่งคืนกับหนึ่งวันในการกู้คืนเหตุการณ์คืนนั้น
ไป๋หยูหนิงที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ร่องรอย เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่เธอถนัดที่สุด ซึ่งเป็นสาเหตุที่เวินลั่วฉิงเชิญเธอมาช่วยงาน
พวกเขาเพิ่งมาถึงโรงแรม คุณหลิวก็ไลฟ์สดที่โรงพยาบาลพอดี ไป๋หยูหนิงจึงชวนเวินลั่วฉิงดูด้วยกัน แน่นอนคุุุณฟู่ก็ร่วมแจมด้วย
ตอนนี้ถึงเวลานอน ไป๋หยูหนิงต้องกลับห้องตัวเองอยู่แล้ว
“คุุุณฟู่เป็นคนจองห้องของคุณ”เวินลั่วฉิงหยุดเดิน ก่อนจะเหลือบไปมองผู้ชายที่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น:“คุณถามคุุุณฟู่ดู”
คุุุณฟู่แสดงท่าทีชัดเจนมากแล้ว แต่ไป๋หยูหนิงยังไม่รู้ตัวเลยสักนิด เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าต้องช่วยคุุุณฟู่สักครั้ง
เย่ซือเฉินเป็นคนเชิญคุุุณฟู่คนนี้มา ต้องไม่เลวแน่นอน ซึ่งเธอเองก็คอยสังเกตมาโดยตลอด จึงรู้สึกว่าดีใช้ได้
เธอรู้จักไป๋หยูหนิงในภารกิจครั้งหนึ่ง ถึงแม้เวลาอยู่ด้วยกันจะน้อย แต่เธอกับไป๋หยูหนิงก็เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย เธอก็หวังให้ไป๋หยูหนิงมีความสุขในชีวิต
แน่นอนเวินลั่วฉิงก็รู้ว่าไป๋หยูหนิงกำลังแอบชอบคนอื่น ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของไป๋หยูหนิง เพื่อผู้ชายคนนั้น เธอลงทุนทำเรื่องมากมาย เพื่อผู้ชายคนนั้นเธอถึงกลับไปทำงานที่เดียวกับเขา ซึ่งสามารถเรียกได้ว่าไป๋หยูหนิงช่วยผู้ชายคนนั้นทำงาน