ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 972 เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้เขาที่เป็นคนใจดำอำมหิต จำเป็นต้องนอนด้วยกัน (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 972 เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้เขาที่เป็นคนใจดำอำมหิต จำเป็นต้องนอนด้วยกัน (2)
ด้วยความสามารถของไป๋หยูหนิง เธอต้องมีโอกาสงานที่ดีกว่าอยู่แล้ว แต่หลายปีมานี้ เธอกลับเลือกทำงานกับผู้ชายคนนี้ไม่ไปไหน
ถึงแม้ไป๋หยูหนิงจะแอบชอบ ทว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทำก็สามารถสื่อความในใจได้อย่างเด่นชัด เพราะไป๋หยูหนิงไม่ใช่คนกล้าๆกลัวๆที่ชอบปิดบัง ดังนั้นเธอไม่เคยเก็บความรู้สึกนั้นเลย
ไป๋หยูหนิงนอกจากไม่ได้สารภาพรัก อย่างอื่นก็เคยทุ่มเททำหมดแล้ว
ถึงผู้ชายคนนั้นจะเป็นท่อนไม้ก็คงเข้าใจแล้วละ
ทว่าหลายปีผ่านไป ผู้ชายคนนั้นไม่ยอมรับและไม่ได้ปฏิเสธ ปล่อยให้ไป๋หยูหนิงค้างคาอยู่อย่างนั้น ซึ่งเวินลั่วฉิงไม่ชอบผู้ชายอย่างนี้ที่สุด
ดังนั้นเธอหวังอยากให้ไป๋หยูหนิงคบกับคุุุณฟู่ แน่นอนเหนือสิ่งอื่นใด เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของไป๋หยูหนิง เธอเพียงแค่สร้างโอกาสเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นก็ต้องปล่อยให้ไป๋หยูหนิงเป็นคนตัดสินเลือกเอง
“ทำไมห้องของฉันถึงเป็นเขาที่จอง?”ไป๋หยูหนิงชะงัก กะพริบตารัวๆ ไม่รู้ว่าคิดอะไรออก เธอทำท่าเบะปากด้วยจิตใต้สำนึก
“ฉิงฉิง ฉันจะบอกให้ เขาเป็นคนต่ำทราม ทำไมคุณถึงปล่อยให้เขาช่วยฉันจองห้อง”ไป๋หยูหนิงเข้าใกล้เวินลั่วฉิง ก่อนจะกระซิบหนึ่งประโยค
เวินลั่วฉิงอึ้ง เธอรู้สึกไป๋หยูหนิงมานาน เป็นครั้งแรกที่ได้ยินไป๋หยูหนิงนินทาคนอื่นลับหลัง ดังนั้นช่วงนี้คุุุณฟู่ทำอะไรกับเธอ?
เวินลั่วฉิงมองไปยังไป๋หยูหนิง เธอไม่ใช่คนสอดรู้ แต่เวลานี้เธอเริ่มอยากรู้ขึ้นมาเล็กน้อย
ไป๋หยูหนิงเม้มปาก จากนั้นก็ค่อยๆละสายตาออกไป เรื่องอย่างนั้นเธอจะทำออกมาเต็มปากได้อย่างไร
คืนวันซืน เธอรู้สึกเหนื่อยเต็มทน จึงไปนอนพักผ่อนที่เตียงสักครู่ เธอเป็นคนสะเพร่ามาโดยตลอด ถึงแม้ยังมีผู้ชายอยู่ในห้องอีกคนแต่เธอแค่ถือเป็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง
เมื่อก่อนตอนที่เธอทำงานกับเพื่อนร่วมงานชาย หากมีใครรู้สึกเหนื่อยก็จะไปนอนพักผ่อนที่เตียงเช่นกัน
ดังนั้นตอนนั้นไป๋หยูหนิงไม่ได้คิดอะไรมากนัก
ทว่าหลังจากที่เธอตื่นนอน เธอก็พบว่าข้างกายมีผู้ชายคนหนึ่ง แถมผู้ชายคนนี้ยังกอดเธอไว้อีกต่างหาก
มือของเขายังวางในตำแหน่งที่อ่อนไหวของเธอด้วย
เขาเอาเท้าทับเท้าของเธอ
วินาทีนั้นไป๋หยูหนิงรู้สึกมึนงง ดึงสติกลับมาไม่ได้ชั่วขณะ
เมื่อเธอได้สติกลับคืนมา เธอก็คิดจะลุกขึ้น แต่ผู้ชายคนนั้นกลับกอดเธอแนบแน่นกว่าเดิม ก่อนจะกดร่างเธอไว้ แล้วจูบลงที่ริมฝีปากเธอเบาๆ
จากนั้นผู้ชายที่ทาบร่างเธอก็ลืมตาอย่างเป็นธรรมชาติและพูดอย่างอ่อนโยนหนึ่งประโยค
“อารมณ์สวัสดิ์ คุณนายฟู่”ผู้ชายเพิ่งตื่น น้ำเสียงแหบพร่าเล็กน้อย แต่ไม่ส่งผลต่อการออกเสียง ดังนั้นไป๋หยูหนิงได้ยินอย่างชัดแจ๋ว
ชั่วพริบตานั้นไป๋หยูหนิงสงสัยว่าเกิดเรื่องลึกลับกับโลกใบนี้ เธอข้ามมิติแล้วใช่ไหม?
เธอแค่นอนไม่ถึงสองชั่วโมง เธอก็กลายเป็นคุณนายฟู่ซะแล้ว?
ไป๋หยูหนิงบังเกิดความคิดที่จะถีบผู้ชายคนนี้ออกไป อยากอัดเขาให้เละไปเลย แต่ผู้ชายคนนั้นก็ใช้แววตาไร้เดียงสาอันพร่ามัวเอ่ยว่า:“ขอโทษด้วย เมื่อกี้นอนจนมึนไปหน่อย”
วินาทีนั้นไป๋หยูหนิงรู้สึกปรี๊ดแตก!!
ฉะนั้น ความหมายของเขาก็คือเขานอนจนมึนเบลอ แล้วคิดว่าเธอเป็นภรรยาของเขา?
แต่เขามีภรรยาด้วยเหรอ?
ยิ่งไปกว่านั้นนี่มันใช่เหตุผลไหม?เขากอดเธอ จูบเธอแล้ว แค่ประโยคเดียวก็สิ้นเรื่องหรือ
“ขอโทษด้วย เมื่อกี้ผมก็เหนื่อยมาก ห้องนี้มีเตียงแค่เตียงเดียว ผมคงนอนที่พื้นไม่ได้”ผู้ชายสบตาเธอด้วยแววตาไร้เดียงสากว่าเดิม:“ผมก็ไม่รู้ว่าเวลาผมนอนจะเป็นแบบนี้……”
ไป๋หยูหนิง:“……”
ไป๋หยูหนิงรู้สึกโกรธมากมาย แต่เมื่อสบตากับแววตาไร้เดียงสาของเขาก็กลับทำอะไรไม่ออก
ต่อจากนั้นสองวัน ผู้ชายคนนี้มักจะใช้แววตาพิสดารมองเธอ ยังบอกว่าจะรับผิดชอบเธออีก
ซวยอะไรอย่างนี้ก็ไม่รู้!!
เมื่อตระหนักถึงเรื่องวันนั้น ไป๋หยูหนิงก็ยิ่งระวังตัวจากเขามากขึ้น
เสียงพูดของไป๋หยูหนิงเบามาก แต่คุุุณฟู่หูดีจึงพอจะได้ยินบ้าง ซึ่งเขาไม่ได้รู้สึกโกรธ หางคิ้วยกขึ้นเล็กน้อย:“ห้องนี้ผมจองให้คุณ ดังนั้นคุณไม่ต้องไป”
“แล้วห้องคุณล่ะ?งั้นคุณออกไป ฉันจะนอน”ไป๋หยูหนิงกะพริบตาปริบๆ จากนั้นก็ดึงตัวเวินลั่วฉิงไว้ด้วยจิตใต้สำนึก แสดงให้รู้ว่าพอผู้ชายคนนี้ออกไปแล้ว เวินลั่วฉิงค่อยออกไปทีหลัง
“เหมือนคุณจะลืมอะไรบางอย่าง”คุุุณฟู่ไม่ใช่คนที่ไล่ไปได้ง่ายๆ เขาจองแค่ห้องเดียว ดังนั้นเขาคงไม่ไปไหนหรอก
แน่นอน เขาก็ไม่มีทางปล่อยไป๋หยูหนิงออกไป
“อะไรนะ?”ไป๋หยูหนิงหน้าเปลี่ยนสี พลางขมวดคิ้วแน่นเป็นปม หลังจากอยู่กับผู้ชายคนนี้มาหลายวัน เธอยิ่งสัมผัสถึงความร้ายกาจของผู้ชายคนนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“พวกเราตกลงกันไว้ว่า หากคุณหนีผมไปได้ เรื่องคุณทำแฟนสาวผมหนีก็ถือเป็นโมฆะ”รอยยิ้มคุุุณฟู่บานสะพรั่งอย่างงดงาม
ทว่าเมื่อไป๋หยูหนิงเห็นรอยยิ้มของเขาก็ขดตัวด้วยจิตใต้สำนึก ทุกครั้งที่ผู้ชายคนนี้ยิ้มอย่างนี้ มันไม่ใช่เรื่องดีเลย
“ดังนั้น นับจากนาทีที่พวกเราคุยกัน ผมต้องระวังไม่ให้คุณหนี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา รวมทั้งเวลากินเวลางาน แน่นอนยังรวมไปถึงเวลานอนอีกด้วย”
คุุุณฟู่เอ่ยถ้อยคำอย่างมีเหตุมีผล
ไป๋หยูหนิง:“……”
เธออยากลากผู้ชายคนนี้ออกไปกระทืบจังเลย ได้ไหม?
ทำไมคนนี้หน้าไม่อายขนาดนี้?
ยังคิดจะนอนด้วยกันอีก?!
ทำไมเขาไม่ลอยถึงสวรรค์ไปเลยล่ะ?
“นับจากตอนที่คุณรับปาก คุณก็น่าจะคิดถึงสถานการณ์แบบนี้ด้วย ตามข้อตกลงของพวกเรา เรื่องนี้ก็เป็นสิ่งจำเป็นและสมควร”ใบหน้าไร้เดียงสาของคุุุณฟู่เพิ่มโทสะของใครบางคน:“คุณรับปากเอง ตอนนี้ไม่ใช่ว่าจะกลับคำนะ?”
“ฉันรับปากคุณไว้ แต่ก็ไม่ต้องนอนด้วยกันหรือเปล่า?”ไป๋หยูหนิงถอนหายใจแรงๆ พยายามควบคุมความโกรธ เพียงแต่เห็นทีใกล้จะถึงขีดความอดทนสูงสุดเสียแล้ว
“ถ้าเกิดคุณหนีตอนผมหลับ จะทำยังไง?”คุุุณฟู่ยิ่งมีเหตุผลที่เข้าท่า เขายังรู้สึกว่าใช้เหตุผลนี้ได้อย่างเหมาะสมอีกต่างหาก:“เวลานอนหลับคือโอกาสหนีที่ดีที่สุด ดังนั้นผมไม่ระวังไม่ได้”
ไป๋หยูหนิงอัดอั้นตันใจ พูดไม่ออกตั้งนาน ซึ่งสาเหตุเป็นเพราะโกรธและไม่รู้ว่าควรต่อกรเช่นไร
“ไม่งั้น คุณให้คุณถังลองตัดสินดูสิ”คุุุณฟู่หันกลับมามองเวินลั่วฉิงที่กำลังดูสีสันอยู่กะทันหัน
เวินลั่วฉิงชะงัก กระตุกมุมปากด้วยจิตใต้สำนึก เธอพบว่าผู้ชายคนนี้ร้ายกาจอำมหิตจริงๆ!