ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 975 เทพธิดาเวินหึงด้วยวิธีการคุณชายสามเย่ (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 975 เทพธิดาเวินหึงด้วยวิธีการคุณชายสามเย่ (2)
“ฉิงฉิงอย่างอนสิ รอให้โทรติดแล้วคุณจะได้ฟัง……”เย่ซือเฉินรู้ว่าเรื่องนี้อธิบายยาก ให้เธอได้ยินเสียงคู่สายทุกอย่างก็กระจ่างแล้ว
เขาตั้งเสียงริงโทนนี้สำหรับสายเรียกเข้าจากเจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีโดยเฉพาะ เพราะครั้งนี้แล้วเขาติดธุระไม่ทันรับสายของเจ้าหญิงน้อยเจ้าหญิงน้อยก็โกรธ ดังนั้นเลขาหลิวจึงเสนอตัวตั้งเสียงแจ้งเตือนเป็นกรณีพิเศษ
เขาก็ไม่รู้ว่าเลขาหลิวตั้งเสียงพิเศษแบบนี้ให้เขา เขายิ่งคาดไม่ถึงว่าเจ้าหญิงน้อยจะโทรมาตอนที่เขากำลังจูบเวินลั่วฉิงอยู่
เดิมทีเจ้าหญิงน้อยบอกว่าจะปิดเรื่องนี้เป็นความลับ ไม่ให้เวินลั่วฉิงรู้ แต่ตอนนี้คงปิดไม่ได้แล้ว ซึ่งคงจะโทษเขาไม่ได้ ต้องโทษที่เจ้าหญิงน้อยโทรมาไม่เป็นเวลา
แน่นอน เพราะก่อนหน้านี้เขาไม่ได้บอกเวินลั่วฉิงเรื่องนี้ มาอธิบายตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์ ดังนั้นเขาจึงอยากให้เวินลั่วฉิงฟังด้วยหูตัวเอง
ทว่าไม่รู้ทำไมเจ้าหญิงน้อยถึงไม่รับสาย เขาโทรตั้งนานก็ไม่รับสาย
“ขออภัย ฉันไม่มีความสนใจ”เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของเย่ซือเฉินก็ชะงักอย่างเห็นได้ชัด อดรนทนไม่ไหวจนต้องใช้แรงกัด
เขาโทรหาสุดที่รัก ยังให้เธอรอฟังอีก?
ให้เธอฟังอะไร?ฟังพวกเขาหยอดคำหวานใส่กันเหรอ?
มีคนกล่าวว่าสติปัญญาของผู้หญิงด้านความรักเท่ากับศูนย์ คำนี้ไม่ผิดเลยสักนิด ถึงแม้ปกติเทพธิดาเวินจะฉลาดเป็นกรด สายตาเฉียบคม บัดนี้กลับคิดไม่ถึงว่าสุดที่รักที่เย่ซือเฉินบันทึกชื่อในมือถือคือลูกรักของเธอ
แน่นอน ประเด็นคือเวินลั่วฉิงไม่รู้ว่าถังจื่อซีแอบไปนับพ่อนับลูกกับเย่ซือเฉินมาแล้ว และเวินลั่วฉิงคาดไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินรู้ความจริงแล้วยังปิดบังเธออีก
ดังนั้นโทษเธอที่ไม่ได้คิดถึงแง่นี้ไม่ได้ และโทษเธอที่ไม่นึกว่าเป็นถังจื่อซีไม่ได้
เวินลั่วฉิงพูดจบก็ไม่อยากเสวนากับเย่ซือเฉินอย่างเห็นได้ชัด เธอใช้แรงสะบัดมือเขาออก เพื่อจะได้ออกไปโดยเร็ว
เย่ซือเฉินรั้งเธอไว้อีกครั้ง จากนั้นก็กดร่างกายเธอไว้ข้างกำแพง ไม่รอให้เวินลั่วฉิงตอบสนอง เย่ซือเฉินก็รีบก้มหน้าจูบเธอที่ริมฝีปากแล้วกล่าวว่า“อย่างอนสิ เชื่อฟังหน่อย”
ซึ่งระหว่างนั้น เย่ซือเฉินยังคงโทรกลับอยู่ตลอด เวลานี้เจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีไม่รับสาย เวินลั่วฉิงก็ไม่ได้ฟังแล้วสิ
ดังนั้นคุณชายสามเย่รู้สึกร้อนใจเล็กน้อย
“คำนี้คุณเอาไปใช้กับสุดที่รักของคุณเลย”เวินลั่วฉิงรู้สึกมีอะไรมาทับหน้าอก น้ำเสียงมีความหุนหันพลันแล่น ผู้ชายคนนี้โทรหาสุดที่รักของเขาในขณะที่กำลังจูบกับเธอไปด้วย แถมยังให้เธอรอฟังอีก
ให้เธอเชื่อฟัง?เขาอยากให้เธอเชื่อฟังยังไง?
ฟังคำหวานของเขากับสุดที่รักของเขาแล้ว เธอยังต้องรอเขาอยู่ที่เตียงเหรอ?
ปกติเวินลั่วฉิงจะโมโหน้อยมาก บัดนี้กลับรู้สึกข่มกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ซะแล้ว
“สุดที่รักเชื่อฟังมากเลยนะ”เย่ซือเฉินได้ยินเวินลั่วฉิงพูดก็ชะงัก จากนั้นก็ยิ้มตอบหนึ่งประโยค เวลานี้เย่ซือเฉินยิ้มอย่างมีความสุขและรู้สึกพอเพียง
ใช่ คือความสุขอย่างรู้สึกพอเพียง!!
จื่อซีสุดที่รักของเขาเชื่อฟังมากจริงๆ เขารู้สึกว่าจื่อซีสุดที่รักของเขาเป็นเด็กที่รู้ความ เชื่อฟังที่สุดในโลก
เวินลั่วฉิงมองเย่ซือเฉิน เห็นใบหน้าเขาประดับไปด้วยรอยยิ้ม เธอเห็นอะไรบนใบหน้าเย่ซือเฉิน?ความสุข?ความพอเพียง?
เวินลั่วฉิงสับสนเล็กน้อย แต่มั่นใจว่าตัวเองดูไม่ผิด!
เย่ซือเฉินไม่เคยมีสีหน้าเช่นนี้กับเธอมาก่อน
ทว่าเมื่อเขาเอ่ยถึงสุดที่รักก็เต็มไปด้วยความสุข!!ความพอเพียง!!
ฉะนั้นเธอคือส่วนเกินเหรอ?
อีกอย่างเมื่อสักครู่เขาพูดอะไรกับเธอนะ?
เขาพูดว่าสุดที่รักเชื่อฟังมาก
ดังนั้นเธอไม่เชื่อฟังอย่างนั้นหรือ?
เขาหมายถึงอย่างนี้หรือเปล่า?
“คุณเย่ เชิญคุณปล่อยฉันด้วย”แววตาเวินลั่วฉิงฉาบฉายความโกรธเคือง บัดนี้เธอรู้สึกโกรธมากจริงๆ โกรธเย่ซือเฉินมาก?
หรืออาจจะโกรธตัวเองมากกว่า
เธอคิดว่าตัวเองโอ่อ่า ทำตัวสบายๆ ไม่ว่าจะเรื่องไหนเธอก็ใจเย็นได้หมด เพราะมีได้ก็ต้องมีเสีย เธอสามารถเผชิญหน้าอย่างมีสติปัญญา
ทว่าตอนนี้เธอกลับพบว่าตัวเองทำไม่ได้อย่างนั้น เธอรู้ตัวว่าตอนนี้เธอใจเย็นไม่ไหวแล้ว ไม่มีสติปัญญาเพียงพอ เธอกำลังโกรธจัดเธอรู้ว่าหากตัวเองยิ่งโกรธก็เท่ากับยิ่งใส่ใจ ยิ่งไม่อาจเผชิญหน้ากับการได้มาและเสียไปด้วยจิตใจเงียบสงบ
อันที่จริงตอนแรกที่เธอได้ยินเสียงริงโทนสายเรียกเข้าของเย่ซือเฉิน เธอไม่ได้คิดอะไรมาก แค่พูดหยอกๆไปเท่านั้น
แต่เธอคิดไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินจะทิ้งเธอไปรับสายของสุดที่รักจริงๆ
ทั้งที่เธอแคร์มากขนาดนี้ แต่เย่ซือเฉินกลับไม่มีคำอธิบายเลยสักคำ แถมเย่ซือเฉินยังบอกว่าไม่ต้องงอน เชื่อฟังหน่อย?
ตลกสิ้นดี
“โกรธแล้วเหรอ?”เย่ซือเฉินยกคิ้วมองเธอโกรธ เขาเหมือนจากดีใจมากเลย
“หลีกไป”เวินลั่วฉิงเห็นการตอบสนองของเขา เพลิงโกรธที่ระงับไว้เมื่อกี้ตอนนี้ทำไม่ได้อีกแล้ว อารมณ์โกรธของเธอระเบิดออกมาในที่สุด
แต่ด้วยการฝึกวางกิริยาในยามปกติของเวินลั่วฉิง ตอนนี้ถึงแม้เธอจะโกรธจัด แต่ก็ไม่ได้ทำเรื่องที่เกินเหตุเกินควร
เรื่องความรักก็ควรจากกันด้วยดีอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร โลกไม่ได้หยุดหมุนเพราะการจากไปของใครสักคน ดังนั้นไม่มีใครสักคนก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่ได้
เธอไม่ใช่คนที่เที่ยวตามตอแยไปทุกที่ เธอกับเย่ซือเฉินก็หย่ากันแล้วด้วย ตอนนี้ไม่ได้มีสถานะอะไรเลย ดังนั้นเย่ซือเฉินไปหาสุดที่รักก็เป็นอิสระของเขา
“หึงเหรอ?”เย่ซือเฉินเห็นท่าทางของเธอ มุมปากก็ยกขึ้นไม่ขาดสาย ใบหน้าเผยรอยยิ้มอย่างเด่นชัด ตั้งแต่ที่รู้จักเธอมา เขาเห็นเธอหึงเป็นครั้งแรก ถึงแม้จะหึงลูกสาวของตัวเองก็ตาม แต่ความรู้สึกนี้มันช่างดีงามเหลือเกิน
เมื่อก่อนเขาหึงเธออยู่ฝ่ายเดียว เธอหึงเป็นครั้งแรก ซึ่งไม่ได้ใจเย็นเหมือนปกติแล้ว ทางกลับกันเธอโกรธอย่างไม่คิดบดบังเสียด้วย
เย่ซือเฉินรู้สึกว่าท่าทางเช่นนี้ของเธอน่ารักยิ่งนัก เขารักท่าทางขณะนี้ของเธอมากๆ
เย่ซือเฉินกดเธอไว้แนบแน่น ไม่ปล่อยให้เธอไป เขาก้มหน้าจูบเธออีกครั้ง
เวินลั่วฉิงหรี่ตารีบเอียงหน้าหนี
เวินลั่วฉิงยิ่งรู้สึกโกรธเข้าไปใหญ่ เวลานี้เขายังคิดจะจูบเธออีกเหรอ?
เขาหมายความว่ายังไงกันแน่?
คบกันด้วยดีก็จากกันด้วยดี หากคบกันไม่ได้ก็เลิกกันไป แต่เขาอยากจับปลาสองมือ?ฝันกลางวันไปเถอะ
เวินลั่วฉิงเอียงหน้าเอาริมฝีปากหลบไปได้ แต่ริมฝีปากของเย่ซือเฉินหยุดอยู่ที่คอของธอแทน เขาอ้าปากแล้วกัดที่คอเธอเบาๆหนึ่งครั้ง
เขาไม่กล้ากัดแรงๆอยู่แล้ว จึงไม่รู้สึกเจ็บ แค่รู้สึกคันนิดๆ อีกทั้งยังรู้สึกไม่ดี เวินลั่วฉิงรู้สึกไม่สบายเป็นพิเศษ
ริมฝีปากของเขาย้ายมากัดใบหูของเธอ จากนั้นก็ยิ้มพูดเสียงต่ำว่า:“คุณไม่จำเป็นต้องหึงกับเธอ จริงๆ คุณกับเธอไม่ได้ขัดแย้งกัน”