ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 987 พ่อลูกดวลกัน วิธีขั้นเทพของคุณชายสามเย่ (6)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 987 พ่อลูกดวลกัน วิธีขั้นเทพของคุณชายสามเย่ (6)
และเวลานี้งานประมูลในสมาคมประมูลหงเยว่เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว……
ฉู่หลิงเอ๋อมองไปยังเวทีประมูลที่กำลังประมูลแจกันดอกไม้อยู่ ซึ่งพิธีกรดำเนินงานประมูลอธิบายว่าเป็นแจกันในราชวงศ์ชิง ทว่าเธอไม่รู้เรื่องพวกนี้เลยสักนิด เธอสนใจแต่เรื่องวัตถุระเบิด ไม่ค่อยสนใจเรื่องอื่นเลย
“ผมคิดว่าคุณชายสามเย่จะประมูลของอะไรเหรอจ๊ะ?”ฉู่หลิงเอ๋อจะประมูลสินค้าไหม จื่อโม่บอกว่าจะแข่งประมูลกับคุณชายสามเย่ แต่เงื่อนไขคือคุณชายสามเย่ต้องประมูลก่อนใช่ไหมล่ะ?
ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้ก็ไม่มีความหมายแล้ว
“ผมค้นหาของที่สมาคมประมูลหงเยว่จะประมูลขายในคืนนี้แล้วครับ มีหลายชิ้นเขาน่าจะสนใจนะครับ”เห็นได้ชัดว่าถังจื่อโม่เตรียมตัวมาดี
“ผมรู้ได้ยังไงว่าเขาสนใจ?”ฉู่หลิงเอ๋อรีบหันไปมองหน้าถังจื่อโม่ด้วยใบหน้าตกตะลึงหลายส่วน “ดูเหมือนผมจะรู้จักคุณชายสามเย่มากเลยนะ จื่อโม่สุดที่รักทำการบ้านมาดีใช่ไหมจ๊ะ?”
“แน่นอนครับ รู้เขารู้เรา ถึงจะมีโอกาสชนะครับ”ถังจื่อโม่ไม่ได้กลบเกลื่อนจุดนี้ เมื่อก่อนเขาเคยสืบประวัติของเย่ซือเฉิน ส่วนช่วงนี้สืบเรื่องงานอดิเรกและความชื่นชอบของเย่ซือเฉิน
“งั้นผมลองบอกหน่อยสิว่าของที่เข้าตาคุณชายสามเย่คืออะไร?”ฉู่หลิงเอ๋อไม่มีความรู้เรื่องวัตถุโบราณเลย ดังนั้นเธอไม่รู้ว่าควรเก็บสะสมชิ้นไหนถึงจะมีมูลค่า เสียเปรียบไหมล่ะ?
“ถึงเวลาก็รู้ครับ”ถังจื่อโม่ไม่ได้ตอบ อันที่จริงเขาไม่มีความมั่นใจว่าจะสำเร็จมากนัก ดังนั้นยังต้องคอยดูการเคลื่อนไหวของเย่ซือเฉินก่อน
ตอนนี้การประมูลขายกำลังดำเนินต่อไป วัตถุโบราณที่เป็นแจกันดอกไม้ในราชวงศ์ชิงอันนี้ไม่ได้ถือว่าพิเศษมากนัก ราคาเริ่มประมูลก็ไม่ได้สูงมาก มีผู้ที่อยู่ในห้องโถงไม่กี่คนกำลังแข่งกันประมูลอยู่ ซึ่งชั้นสองไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ แน่นอนเย่ซือเฉินก็เช่นกัน
ถังจื่อโม่มองไปยังห้องวีไอพีของเย่ซือเฉิน ถึงแม้จะมองอะไรไม่เห็น แต่เขาก็ยังคงมองด้วยจิตใต้สำนึกอยู่ร่ำไป
การประมูลขายด้านล่างดำเนินตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ ของที่เริ่มประมูลจำนวนหลายชิ้นถือว่าเป็นวัตถุโบราณธรรมดา ดังนั้นมีแต่คนในห้องโถงแข่งกันซื้อ คนบนชั้นสองไม่ได้ร่วมแจงด้วย
เย่ซือเฉินไม่เคลื่อนไหว ถังจื่อโม่ก็ไม่เคลื่อนไหวตาม แน่นอนหัวหน้าน้อยก็เช่นกัน
“ทำไมคุณชายสามเย่ยังไม่เคลื่อนไหวอีกนะ ประมูลของไปหลายชิ้นแล้วนะ”ปกติฉู่หลิงเอ๋อก็ไม่มีความอดทนอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเธอรีบร้อนอยากดูความคึกคักเต็มประดา ดังนั้นเย่ซือเฉินไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เธอจึงรู้สึกร้อนรนเล็กน้อย
“ใกล้แล้ว เขาน่าจะเริ่มชิ้นต่อไปแล้วครับ”ถังจื่อโม่มองไปยังห้องวีไอพีของเย่ซือเฉินอีกครั้ง ระวห่างที่พูดระดับเสียงแผ่วเบามากแต่กลับแฝงความมั่นใจมากมาย หากข่าวที่เขาค้นมาไม่ผิดพลาด เขารู้สึกว่าเย่ซือเฉินต้องสนใจของประมูลชิ้นต่อจากนี้แน่
“ชิ้นต่อไปเป็นอะไรจ๊ะ?”ฉู่หลิงเอ๋อสนใจขึ้นมาทันที รีบเอารายการประมูลขายมาดู เมื่อเห็นว่ารายการต่อไปคือของอะไรแล้วฉู่หลิงเอ๋อก็ต้องอึ้ง “ผมว่าคุณชายสามเย่จะประมูลของชิ้นนี่เหรอ?อันนี้คืออะไรเอ่ย?ดูแล้วเหมือนจานขาดธรรมดา ดูสีสิเทาจนไม่สดใสเลย ไม่รู้ว่าทำจากอะไร”
“ยิ่งไปกว่านั้นราคาเริ่มประมูลชิ้นนี้ก็ไม่สูงมากนัก ผมคิดว่าคุณชายสามเย่จะชอบหรือ?”ฉู่หลิงเอ๋อแสดงท่าทางสงสัย สินค้าที่ประมูลขายก่อนหน้านี้ทั้งหมดมีราคาเริ่มต้นสูงกว่าชิ้นนี้เล็กน้อย
เธอดูไม่ออกว่าของชิ้นนี้จะมีมูลค่าตรงไหน ของที่ประมูลก่อนหน้านี้อย่างเช่นแจกันดอกไม้ดูแล้วยังรู้สึกสวยงามจนทำให้เบิกบานใจได้ แต่ของชิ้นนี้ไม่เห็นจะสวยตรงไหนเลย
“ชิ้นนี้ทำมาจากทองสำริดในราชวงศ์ชิง แต่ไม่ได้ประณีตมากนัก ไม่น่าจะใช่ของขุนนางหรือตระกูลผู้สูงส่งครับ น่าจะเป็นของใช้ของประชาชนทั่วไปครับ แต่ผมค้นข้อมูลที่เย่ซือเฉินเคยประมูลแล้วรู้สึกว่าเขาน่าจะชอบสิ่งนี้ครับ”ถังจื่อโม่อธิบายอย่างละเอียดถี่ถ้วน เห็นได้ชัดว่าศึกษามาจริง อีกทั้งยังทุ่มเทมากๆอีกด้วย
“ทำไมคุณชายสามเย่จึงสนใจของพวกนี้ล่ะ?”ฉู่หลิงเอ๋อมองของในรูปภาพ พลางเบะปากเล็กน้อย “ของชื่นชอบของคุณชายสามเย่พิเศษตรงไหนเหรอ บรรดาของที่นำมาประมูลขายในสมาคมประมูลหงเยว่ถือว่าแย่สุดแล้วมั้ง?คาดว่าคงไม่มีใครแย่งประมูลกับคุณชายสามเย่หรอก?”
ถังจื่อโม่หันไปมองหน้าฉู่หลิงเอ๋อแวบหนึ่ง
“ทำไมเหรอ?ไม่เชื่อเหรอ?”ฉู่หลิงเอ๋อมองหน้าถังจื่อโม่พร้อมกับอธิบายด้วยรอยยิ้ม“อันนี้ไม่ใช่ของสะสมพิเศษอะไรผู้ที่มาร่วมงานในสมาคมประมูลหงเยว่น่าจะรู้เรื่องพวกนี้ดี หากคุณชายสามเย่ชอบชิ้นนี้จริง คงไม่มีใครล่วงเกินคุณชายสามเย่เพราะของชิ้นนี้หรอก ยิ่งไปกว่านั้น คนที่รวยกว่าคุณชายสามเย่ก็คงมีไม่มาก ใครจะมีทนไปแย่งประมูลซื้อกับคุณชายสามเย่ล่ะ?ดังนั้นน้าคิดว่าหากคุณชายสามเย่เสนอราคาซื้อจริงๆ คาดว่าคนอื่นคงไม่กล้าแย่งกับเขาแน่ๆ”
“อย่างนี้ก็ดีมากเลยครับ”ดวงตาถังจื่อโม่ส่องแสงประกายแวววาว วันนี้เขามาก็เพื่อดึงดูดความสนใจของเย่ซือเฉิน หากคนอื่นไม่แย่งประมูล แล้วมีแต่เขาแย่งประมูลคนเดียว เย่ซือเฉินไม่สนใจเขาก็ยาก
“จื่อโม่สุดที่รัก สู้ๆจ้ะ”ดวงตาฉู่หลิงเอ๋อก็เกิดแสงเปล่งประกายจากความตื่นเต้นดีใจหลายส่วน คนอื่นไม่กล้าแย่งซื้อ มีเพียงพวกเขาสองพ่อลูกแย่งกันประมูลซื้อ ไม่รู้ว่าสุดท้ายใครจะเป็นฝ่ายชนะ?
เธอรอคอยอย่างคาดหวังมาก
“รายการต่อไปเป็นเครื่องทองสัมฤทธิ์ในราชวงศ์ชิงครับ ซึ่งเป็นของใช้ของประชาชนในยุคสมัยนั้นครับ ราคาเริ่มประมูลอยู่ที่หนึ่งแสนหยวนครับ”พนักงานนำเครื่องทองสัมฤทธิ์วางไว้ที่เวที พิธีกรนำเสนอสินค้าอย่างเรียบง่าย และราคาเริ่มต้นก็ไม่ได้สูงจริงๆ
เป็นราคาที่ต่ำที่สุดในค่ำคืนนี้จริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้นด้วยรูปแบบธุรกิจของสมาคมประมูลหงเยว่ของประเภทนี้เกือบจะไม่ปรากฏในการประมูลขายสินค้าเลย
“ผมว่าสมาคมประมูลหงเยว่เตรียมชิ้นนี้เพื่อคุณชายสามเย่โดยเฉพาะหรือเปล่าจ๊ะ?”ฉู่หลิงเอ๋อได้ยินราคาเริ่มต้นการประมูล ดวงตาพลันกะพริบปริบๆ ในเมื่อจื่อโม่ค้นหาความชื่นชอบของคุณชายสามเย่เจอ งั้นสมาคมประมูลหงเยว่ก็คงสืบค้นข้อมูลได้เช่นกัน
การประมูลขายสินค้าของสมาคมประมูลหงเยว่ครั้งนี้เชื้อเชิญคุณชายสามเย่เป็นการเฉพาะ ในเมื่อสมาคมประมูลหงเยว่เชิญคุณชายสามเย่มาแล้วคงต้องแสดงความเคารพสักหน่อย ดังนั้นของชิ้นนี้สมาคมประมูลหงเยว่เตรียมมาให้คุณชายสามเย่โดยเฉพาะหรือเปล่า?
ระหว่างที่ฉู่หลิงเอ๋อพูดเห็นพิธีกรมองมายังห้องวีไอพีของเย่ซือเฉินแวบหนึ่งพอดี
“โอ้โห น้าทายถูกจริงๆด้วย”ถึงแม้ฉู่หลิงเอ๋อจะช่างสังเกตสู้เวินลั่วฉิงไม่ได้ แต่เธอก็ฉลาดคล่องแคล่ว สามารถสังเกตและวิเคราะห์เหตุการณ์ได้รอบด้าน ดังนั้นเธอสามารถรับรู้ผลคาดเดาได้จากท่าทางของพิธีกรทันที
ถังจื่อโม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย“ทำไมครับ?”
เพราะอย่างไรเสียถังจื่อโม่ก็ยังคงเป็นเด็กอยู่ เรื่องบางเรื่องเขาจึงยังไม่เข้าใจ
“ทำไมเหรอจ๊ะ?”ฉู่หลิงเอ๋อหันไปมองถังจื่อโม่พลันหัวเราะคิกคัก“จื่อโม่สุดที่รักจ้ะ ผมไม่ใช่สืบค้นเรื่องคุณชายสามเย่มาเยอะเหรอ?งั้นก็ต้องรู้ความสามารถและอิทธิพลของคุณชายสามเย่สินะ ในเมืองAมีนักธุรกิจคนไหนไม่อยากประจบคุณชายสามเย่ล่ะ?สมาคมประมูลหงเยว่เชิญคุณชายสามเย่มาโดยเฉพาะ งั้นก็ต้องแสดงความจริงใจหน่อย แน่นอนอาจเป็นเพราะเจ้าของสมาคมประมูลหงเยว่มีเรื่องต้องการให้คุณชายสามเย่ช่วยเหลือ”
“ผู้ใหญ่มารยาทจริงๆเลยครับ”ถังจื่อโม่เบะปาก ฟังแล้วรู้สึกแปลกประหลาด
“จื่อโม่น้อย ผมอิจฉาเหรอ?”ฉู่หลิงเอ๋อเห็นถังจื่อโม่โตแล้ว เธอรู้จักถังจื่อโม่ดี เมื่อได้ยินน้ำเสียงของถังจื่อโม่ เธอก็รู้ว่าถังจื่อโม่กำลังคิดอะไรอยู่
“ผมอิจฉาเหรอครับ?มีอะไรให้ผมอิจฉากันครับ ผู้ใหญ่อย่างพวกน้าช่างเสแสร้งเกินไปครับ”ใบหน้าเล็กของถังจื่อโม่เผยความเคร่งขรึมอย่างฉายชัด น้ำเสียงมีความหดหู่หลายส่วน ถึงแม้เขาจะไม่ยอมรับ แต่สีหน้าและน้ำเสียงก็บ่งบอกได้มากเลย
ถึงอย่างไรเขาก็แค่เด็กอายุห้าขวบ ถึงแม้จะรู้จักปิดบัง แต่ก็ปิดได้ไม่ดีพอ ยิ่งต่อหน้าฉู่หลิงเอ๋อแล้ว เขาก็ไม่ได้ปิดบังหรือระวังจนเกินไป
“จื่อโม่สุดที่รัก ผมกำลังอิจฉาอยู่เห็นๆ ผมอิจฉาที่คุณชายสามเย่ได้รับการปฏิบัติดูแลเป็นพิเศษ”ฉู่หลิงเอ๋อมองเขาด้วยใบหน้าตลกขบขัน
ถังจื่อโม่เม้มปากเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร
“จื่อโม่สุดที่รัก ผมต้องเข้าใจนะว่า หลายๆเรื่องที่ผมรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมแต่ความจริงแล้วมันยุติธรรมมาก หากความสามารถของใครคนหนึ่งยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ จะทำให้เขาได้รับอะไรหลายๆมากขึ้นตามไปด้วย อาทิ ความเคารพ การปรนนิบัติดูแล ซึ่งได้มาจากความพยายามของตัวเองทั้งสิ้น”ถึงแม้ฉู่หลิงเอ๋อจะชอบให้โลกเกิดความวุ่นวาย ทว่าไม่ใช่อยากดูความคึกคักแล้วจึงให้ความรู้ผิดๆกับถังจื่อโม่