ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 994 ถูกลูกชายจัดการซะแล้ว คุณชายสามเย่งัดกลยุทธ์เด็ด นี่สิถึงจะสนุก! (
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 994 ถูกลูกชายจัดการซะแล้ว คุณชายสามเย่งัดกลยุทธ์เด็ด นี่สิถึงจะสนุก! (
“จื่อโม่จ๊ะ พวกเราไม่ต้องแย่งประมูลกับคุณชายสามเย่แล้วดีไหม ให้คุณชายสามเย่ช่วยจ่ายเงินค่าภาพวาดนี้ให้พวกเราก็พอแล้ว” ฉู่หลิงเอ๋อเป็นห่วงจริง ๆ ว่าถึงเวลาพ่อลูกอาจจะทะเลาะกันขึ้นมาจริง ๆ ก็ได้
เธอชอบเรื่องสนุกครึกครื้นก็จริง แต่ถ้าหากเป็นเรื่องที่ทำให้จื่อโม่ของเธอเป็นอันตรายแม้แต่นิดเดียว เธอไม่มีทางทำเด็ดขาด
“ตอนที่ควรแย่งก็ยังต้องแย่ง” ปากที่เม้มอยู่ของถังจื่อโม่เปิดออกเล็กน้อย ดูเหมือนจะทำเสียงเหอะออกมาเล็กน้อยด้วย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ค่อยเชื่อคำพูดของฉู่หลิงเอ๋อ
เขาก็อยากจะคอยดูว่าเย่ซือเฉินจะทำอะไรเขา?
ขอชีวิตก็ไม่ได้?
ขอความตายก็ไม่ได้งั้นเหรอ?
เขารู้สึกว่าฉู่หลิงเอ๋อพูดเกินจริงไปหน่อย!!
ยิ่งฉู่หลิงเอ๋อพูดอย่างนี้ เขาก็ยิ่งไม่ยอมแพ้
ฉะนั้น แผนการของเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง ไม่เพียงแต่ไม่เปลี่ยนแผน แต่เขายังตัดสินใจว่าขอแค่มีโอกาส เขาจะต้องแย่งประมูลของกับเย่ซือเฉินอีกสองสามชิ้นแน่นอน
จากนั้นก็ให้เย่ซือเฉินจ่ายเงินให้หมด ให้เย่ซือเฉินกระอักเลือดดูสักครั้ง!!
คิดคิดดูแล้วก็รู้สึกสะใจ!!
ฉู่หลิงเอ๋อเห็นท่าทีของถังจื่อโม่ ก็อึ้งไปเลย จากนั้นเธอก็ถอนหายใจออกมาแรง ๆ ดูท่าวันนี้คงมีการปะทะที่ดุเดือด เป็นการปะทะที่ดุเดือดระหว่างพ่อลูก
จื่อโม่ของเธอไร้เดียงสาเกินไปแล้ว ไร้เดียงสาจนคิดว่าคุณชายสามเย่จะออมมือให้?
พ่อลูกกันในชาตินี้คือศัตรูกันในชาติก่อน ที่จริงประโยคนี้ไม่ใช่พูดเล่น ๆ นะ
ฉู่หลิงเอ๋อรู้จักถังจื่อโม่ดี เธอรู้ว่าสถานการณ์อย่างนี้ไม่ว่าเธอพูดโน้มน้าวยังไงก็ไร้ประโยชน์ ตอนนี้เธอแค่หวังว่าถึงเวลาคุณชายสามเย่จะไม่ลงมือโหดเหี้ยมเกินไป ได้แต่หวังว่าคุณชายสามเย่จะเห็นแก่ความเป็นลูกชายแท้ ๆ แล้วออมมือให้สักหน่อย!
“สิ่งของชิ้นถัดไป คือหยกแขวนจากราชวงศ์ถัง ราคาประมูลเริ่มต้นที่แปดสิบล้าน เสนอราคาแต่ละครั้งเพิ่มเงินครั้งละห้าล้านนะครับ” พิธีกรเริ่มแนะนำสิ่งของชิ้นถัดไป ราคาประมูลเริ่มต้นที่แปดสิบล้านเหมือนเดิม
ฉู่หลิงเอ๋อได้ยินราคาประมูลเริ่มต้นนี้ ก็รีบถอยไปด้านหลัง คราวนี้ต่อให้ตีเธอจนตาย เธอก็จะไม่มือลื่นอีกแล้ว
หลังจากเสียงพิธีกรเงียบลง สิ่งที่ได้กลับมาก็คือความเงียบ ตอนนี้ถึงกับไม่มีใครประมูลเลย
เป็นเพราะทุกคนต่างกำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวของคุณชายสามเย่และคุณมู่จากห้องหมายเลข 10 แน่นอนว่าไม่มีใครสนใจคนในห้องหมายเลข 11
ตอนนี้คนในงานวิตกกังวลกันมากเกินไป ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าประมูลกัน
พิธีกรตกตะลึงอีกครั้ง วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย? ของดีขนาดนี้กลับไม่มีใครประมูล?
ถ้าหากเป็นอย่างนี้ต่อไป สิ่งของชิ้นที่เหลือจะประมูลออกอีกเหรอ?
เมื่อเขาทำหน้าที่ในการดำเนินงานประมูลครั้งนี้เสร็จแล้วจะถูกเถ้าแก่ไล่ออกเลยหรือเปล่านะ?
พิธีกรในตอนนี้รู้สึกเหมือนร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมา
“ลูกพี่ครับ นี่มันอะไรกันเนี่ย? พวกเราจะลงมือไหมครับ?” กู้หวูเห็นสถานการณ์อย่างนี้ก็รู้สึกงงเล็กน้อย บรรยากาศงานประมูลวันนี้รู้สึกผิดปกติอยู่นะ
กู้หวูเข้าใจดี ว่าที่เกิดสถานการณ์เช่นนี้ ค่อนข้างเกี่ยวข้องกับลูกพี่ของตัวเองโดยตรง
บางคนไม่ขยับเลย เพราะต้องการดูความเคลื่อนไหวของลูกพี่เขา
ถ้าหากลูกพี่เขาไม่ประมูล สิ่งของชิ้นนี้จะไม่ถูกปล่อยผ่านไปเฉย ๆ เหรอ?
“ประมูลต่อ” แววตาของคุณชายสามเย่เป็นประกายเล็กน้อย : “ทำตามแผนการครั้งที่แล้ว”
สิ่งของชิ้นนี้เริ่มต้นด้วยราคาแปดสิบล้านพอดี เสนอราคาแต่ละครั้งเพิ่มเงินห้าล้าน แผนการรอบก่อนถูกคนจากห้องหมายเลข 11 ทำลายเสียแล้ว ครั้งนี้ก็ไม่มีคนประมูลอีก เขาจึงสามารถทำตามแผนที่วางไว้ครั้งก่อนได้
“ครับ เข้าใจแล้ว” กู้หวูได้รับคำสั่งจากลูกพี่ของตัวเองก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที พูดตามตรงเมื่อกี้นี้จู่ ๆ ก็ถูกคนจากห้องหมายเลข 11 แย่งไป เขารู้สึกอัดอั้นใจไม่ได้ระบายออกมา รู้สึกอึดอัดมาก
กู้หวูเริ่มกดกระดิ่งก่อน
ครั้งนี้คนจากห้องหมายเลข 10 ไม่ได้กดกระดิ่งตาม เหมือนกำลังรอดูความเคลื่อนไหวจากห้องหมายเลข 11 แต่เมื่อกี้นี้ฉู่หลิงเอ๋อมือลื่นไปจริง ๆ คราวนี้เธอไม่มีทางมือลื่นอีกเด็ดขาด โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ฟังแผนการของถังจื่อโม่ ต่อให้ตีเธอจนตายเธอก็ไม่กล้าแย่งของกับคุณชายสามเย่อีกแล้ว
แน่นอนว่าถ้าหากถังจื่อโม่ต้องการจะแย่งประมูล หากเธอสามารถขัดขวางได้เธอก็จะขัดขวาง ถ้าหากขวางไว้ไม่ได้งั้นก็คงทำอะไรไม่ได้แล้วจริง ๆ
เห็นสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว เธอคาดว่าถึงเวลาคงจะขัดขวางถังจื่อโม่เอาไว้ไม่ได้ ฉะนั้นการปะทะกันระหว่างพ่อลูกคงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ
ในที่สุดก็ได้ยินเสียงมีคนประมูลแล้ว พิธีกรจึงรู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อย
แต่ว่า หลังจากที่คุณชายสามเย่ประมูล กลับไม่มีใครประมูลต่ออีกเลย……
พิธีกรเบะปากแรง ๆ ถ้าหากไม่มีใครประมูลต่อ หยกแขวนชิ้นนี้ก็ต้องปล่อยออกที่ราคาแปดสิบห้าล้านงั้นเหรอ?
ภาพวาดมีชื่อเสียงเมื่อครู่นี้อย่างน้อยก็ประมูลได้ถึงหนึ่งร้อยล้าน ตอนนี้หยกแขวนชิ้นนี้ได้แค่แปดสิบห้าล้าน?
พิธีกรคิดว่าอีกเดี๋ยวคงจะถูกไล่ออกจริง ๆ แน่เลย
แต่พิธีกรนึกขึ้นได้ว่าเดิมทีเถ้าแก่ของตัวเองก็ตั้งใจจะเอาใจคุณชายสามเย่อยู่แล้ว ถ้าหากของประมูลชิ้นนี้ถูกคุณชายสามเย่ประมูลไป ก็ถือว่าเป็นสินน้ำใจล่ะมั้ง? บางทีเถ้าแก่อาจจะไม่โทษเขาก็ได้
หลังจากที่คุณชายสามเย่กดประมูลแล้ว คนอื่น ๆ ก็ไม่ค่อยกล้าประมูลต่อ ถ้าหากเป็นปกติก็คงไม่มีอะไร ยังประมูลต่อไปได้ แต่สถานการณ์วันนี้แปลกประหลาดมากเกินไป ทุกคนในงานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
หัวหน้าน้อยในห้องหมายเลข 10 กำลังรอคนในห้องหมายเลข 11 อยู่ แต่ครั้งนี้คนที่อยู่ในห้องหมายเลข 11 กลับนิ่งเงียบมาก
“คราวนี้ทำไมคนในห้องหมายเลข 11 ถึงไม่เคลื่อนไหวแล้วล่ะ?” หัวหน้าน้อยรู้สึกคาดไม่ถึงอยู่บ้าง เขาไม่คิดว่าการคาดเดาของตัวเองจะผิดพลาด คนที่อยู่ในห้องหมายเลข 11 ต้องคิดที่จะต่อกรกับเย่ซือเฉินแน่นอน ที่มาในคืนนี้ก็น่าจะมาเพราะเย่ซือเฉิน
แต่ทำไมคราวนี้คนในห้องหมายเลข 11 ถึงไม่ทำอะไรเลยล่ะ?
“แปดสิบห้าล้านครั้งที่หนึ่ง แปดสิบห้าล้านครั้งที่สอง แปดสิบห้าล้าน……” พิธีกรรออยู่สักพักหนึ่งแล้ว แต่ยังคงไม่มีใครประมูลต่อ พิธีกรจึงได้แต่เปล่งเสียงออกมา ถ้าหากไม่มีใครเสนอราคาอีก งั้นหยกแขวนชิ้นนี้ก็คงต้องให้คุณชายสามเย่ไปในราคาแปดสิบล้านแล้วล่ะ
แต่ผลที่ได้มันยากเกินจะบรรยายออกมาจริง ๆ!!
ขณะที่หัวหน้าน้อยได้ยินพิธีกรกำลังจะพูดออกมาเป็นครั้งที่สาม เขาก็นั่งไม่ติดแล้ว เขารีบยื่นมือออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วกดกระดิ่งให้ดังขึ้นทันที
พิธีกรโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด ยังดี ยังดี ยังดีจริง ๆ ที่มีคนประมูลแล้ว
ตอนที่พิธีกรรู้ว่าคนที่ประมูลคือคุณมู่จากห้องหมายเลข 10 สีหน้าก็ดูคิดไม่ตกขึ้นมาทันที คนจากห้องหมายเลข 10 คิดจะต่อกรกับคุณชายสามเย่อีกแล้วเหรอ?
งั้นครั้งนี้จะตามประมูลเหมือนกับเครื่องสำริดครั้งก่อนหรือเปล่านะ?
แต่เครื่องสำริดชิ้นนั้นราคาประมูลเริ่มต้นที่หนึ่งแสนเอง ประมูลแต่ละครั้งเพิ่มเงินครั้งละหนึ่งหมื่นเท่านั้น แต่หยกแขวนชิ้นนี้ราคาประมูลเริ่มต้นที่แปดสิบห้าล้าน เพิ่มเงินครั้งละห้าล้าน ฉะนั้นคนจากห้องหมายเลข 10 น่าจะไม่บ้าตามประมูลเหมือนกับครั้งที่แล้วหรอกมั้ง?
หลังจากที่เสียงกระดิ่งจากห้องหมายเลข 10 ดังขึ้น คราวนี้กู้หวูก็กดกระดิ่งตามทันที
ดังนั้นพิธีกรที่เดิมทีตะลึงงันอยู่เล็กน้อยจึงไม่ทันได้เอ่ยพูด
และหลังจากที่กู้หวูกดกระดิ่งแล้ว คราวนี้หัวหน้าน้อยจากห้องหมายเลข 10 ก็ไม่รอคนจากห้องหมายเลข 11 อีกต่อไป และไม่ลังเลอีกด้วย เขารีบกดกระดิ่งต่อทันที
กู้หวูกดกระดิ่งอีกครั้ง คนจากห้องหมายเลข 10 ก็กดตามอีก เป็นแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา จากนั้นเสียงกระดิ่งก็ดังติดกัน จนแยกไม่ออกว่าใครนำใครตาม
ดังนั้น สถานการณ์ในตอนนี้จึงกลับเป็นเหมือนตอนที่ประมูลเครื่องสำริดก่อนหน้านี้
แต่ว่ายังไงเครื่องสำริดชิ้นนั้นก็ราคาถูก วันนี้คนที่มางานได้ล้วนแต่เป็นคนมีฐานะทั้งนั้น ฉะนั้นเงินหนึ่งล้านจึงไม่ถือว่ามากมายอะไร
แต่ตอนนี้หยกแขวนชิ้นนี้ต่างกับชิ้นนั้นโดยสิ้นเชิง
ในระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ถึงหนึ่งนาที คุณชายสามเย่กับคนจากห้องหมายเลข 10 ได้กดกระดิ่งติดต่อกันสิบกว่าครั้งแล้ว มูลค่าของหยกแขวนถูกประมูลไปถึง 160 ล้านแล้ว
และทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลย ยังคงกดกระดิ่งกันต่อไปเรื่อย ๆ
พิธีกรตามประกาศราคาไม่ทันแล้ว ดังนั้นจึงได้แต่ฉายราคาผ่านทางจอภาพขนาดใหญ่แทน
บนจอภาพขนาดใหญ่ ราคาประมูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 180ล้าน 190ล้าน 200ล้าน……
ในตอนนี้นอกจากเสียงกระดิ่งก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นอีกเลย ดูเหมือนว่าคนที่อยู่ในงานต่างพากันกลั้นหายใจไปด้วย
เห็นตัวเลขบนหน้าจอเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วไม่หยุดหย่อน ทุกคนก็ต่างใจเต้นแรงมากขึ้นไปตาม ๆ กัน
สถานการณ์อย่างนี้น่าตื่นเต้นเกินไปแล้ว
เครื่องสำริดก่อนหน้านี้สุดท้ายคุณชายสามเย่หยุดประมูล ทำให้คุณมู่จากห้องหมายเลข 10 ประมูลได้ของชิ้นนี้ไป
แล้วครั้งนี้ล่ะ?
ครั้งนี้สุดท้ายใครจะเป็นคนประมูลไปได้? !