ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 996 ถูกลูกชายจัดการซะแล้ว คุณชายสามเย่งัดกลยุทธ์เด็ด นี่สิถึงจะสนุก! (5)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 996 ถูกลูกชายจัดการซะแล้ว คุณชายสามเย่งัดกลยุทธ์เด็ด นี่สิถึงจะสนุก! (5)
“หัวหน้าน้อยครับ ผมคิดว่าพวกเราไม่ต้องแย่งประมูลกับคุณชายสามเย่จะปลอดภัยที่สุดครับ” อะเฉียงไม่เชื่อคำพูดหัวหน้าน้อยของตัวเอง สถานการณ์อย่างนี้หัวหน้าน้อยบังคับตัวเองไว้ไม่ได้หรอก ไม่มีทางที่จะหยุดก่อนแน่นอน
และเห็นได้ชัดว่าคุณชายสามเย่มีแผนการไว้อยู่แล้ว
“ถ้าแกยังพูดมาก เชื่อไหมว่าฉันจะถีบแกออกไปเดี๋ยวนี้เลย” หัวหน้าน้อยไม่เคยฟังใครพูดอยู่แล้ว ถ้าหากคนอื่นไม่ยอมให้เขาทำในสิ่งที่เขาอยากทำ เขาก็ยิ่งจะทำให้ได้ ดังนั้นคำพูดของอะเฉียงจึงไม่มีประโยชน์อะไรเลย ทว่ากลับได้ผลตรงกันข้ามด้วยซ้ำ
อะเฉียงไม่กล้าพูดอะไรมากอีกแล้ว เขารู้ว่าหัวหน้าน้อยจะถีบเขาออกไปจากที่นี่จริง ๆ
“สามร้อยล้านครั้งที่หนึ่ง สามร้อยล้านครั้งที่สอง สามร้อยล้านครั้งที่สาม หยกแขวนชิ้นนี้ตกเป็นของคุณมู่ครับ” หลังจากที่พิธีกรตั้งสติได้ก็ประกาศผลออกมาทันที
ผลลัพธ์แบบนี้พิธีกรเองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน สามร้อยล้าน! สำหรับราคาหยกแขวนชิ้นนี้ถือว่าเป็นราคาที่สูงเสียดฟ้าเลยทีเดียว
เขารู้สึกว่าเขาไม่ต้องกังวลเรื่องจะถูกไล่ออกอีกแล้ว
เห็นได้ชัดมาก ว่าคุณชายสามเย่ขุดหลุมพรางเอาไว้ และคุณมู่จากห้องหมายเลข 10 ก็กระโดดลงไปโดยไม่ลังเลเลยสักนิด ไม่หยุดคิดทบทวนเลยแม้แต่น้อย
เขาเป็นพิธีกรในงานประมูลมาหลายครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เจอกับสถานการณ์อย่างนี้ และเป็นครั้งแรกที่ได้พบเจอคนแบบนี้
คุณชายสามเย่ขุดหลุมให้เห็นชัดเจนขนาดนี้ ขอแค่มีสมองสักหน่อยก็สามารถดูออกแล้ว แต่คุณมู่กลับตกหลุมพรางถึงสองครั้ง อีกทั้งเป็นเหตุการณ์ที่เหมือนกันทั้งสองครั้ง ทำให้พิธีกรเริ่มสงสัยในระดับไอคิวของคุณมู่ห้องหมายเลข 10 ขึ้นมา
คุณมู่คนนั้นคงไม่ได้ซื่อบื้อหรอกใช่ไหม?
ถ้าหากเป็นแค่ไอทึ่มคนหนึ่งขึ้นมาจริง ๆ ถึงเวลาเขาจะมีเงินจ่ายค่าหยกแขวนที่ราคาสูงเสียดฟ้านั่นหรือเปล่า?
ถ้าหากคุณมู่ไม่มีเงิน ต่อให้สมาคมประมูลหงเยว่กักตัวเขาเอาไว้ก็ไม่มีประโยชน์ แล้วคืนนี้จะเหนื่อยเปล่าไหมเนี่ย?
พิธีกรรู้ว่าคุณมู่คนนี้ไม่ได้อยู่ในรายชื่อแขกที่ถูกเชิญมา เรื่องตัวตนของคุณมู่ เขารู้เพียงแค่แซ่ เท่านั้น ส่วนเรื่องอื่น ๆ ไม่รู้อะไรเลย
“เธอไปบอกเถ้าแก่ ให้เถ้าแก่สืบฐานะและตัวตนของคุณมู่ดูสักหน่อย” พิธีกรพูดกับคนที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยเสียงเบา : “สืบเรื่องเงินทุนของเขาให้แน่ชัด”
เขากลัวว่าคุณมู่คนนั้นจะมาก่อกวนงาน พอถึงเวลาก็ไม่มีเงินมาจ่าย
ถึงแม้คนที่มางานประมูลของสมาคมประมูลหงเยว่จะเตรียมเงินมาพร้อม หรือนำสิ่งของที่มีมูลค่าสูงมาด้วย แต่ก็มีบางคนที่แฝงตัวเข้ามาฉกฉวยผลประโยชน์ขณะที่เกิดความวุ่นวาย
ถ้าหากคุณมู่คนนั้นไม่ได้ประมูลของไป พวกเขาก็คงไม่ต้องสนใจ แต่ตอนนี้คุณมู่ประมูลหยกแขวนไปในราคาถึงสามร้อยล้าน และดูเหมือนไม่มีทีท่าจะหยุดลงเลย ดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นต้องป้องกันไว้ก่อน
จะรอให้ถึงเวลาแล้วเหนื่อยเปล่าทั้งคืนไม่ได้
ผู้ช่วยได้ไปหาเถ้าแก่ทันที
“ตอนนี้พัก 10 นาทีนะครับ ทุกท่านสามารถดื่มชา ทานของว่าง พักผ่อนกันสักครู่นะครับ” พิธีกรคิดว่าสถานการณ์แบบนี้จำเป็นต้องยืดเวลาไปสักหน่อย อย่างน้อยรอให้สืบเรื่องการเงินของคุณมู่คนนั้นให้แน่ชัดเสียก่อนแล้วค่อยเริ่มประมูลต่อ
“นี่ต้องพักผ่อนด้วยเหรอ เสียเวลาชะมัด” หัวหน้าน้อยรู้สึกไม่พอใจ เขากำลังรู้สึกตื่นเต้นสนุกสนานอยู่เลยนะ เขากำลังร้อนใจอยากเอาชนะเย่ซือเฉินอยู่เลย ทำไมถึงหยุดพักเสียล่ะ?
“หัวหน้าน้อยครับ ผมคิดว่าพวกเขาคงกลัวว่าถึงเวลาคุณจะไม่มีเงินจ่าย ฉะนั้นจึงต้องไปตรวจสอบการเงินของคุณให้แน่ใจก่อน” เมื่อครู่อะเฉียงเห็นพิธีกรกระซิบกระซาบกับผู้ช่วย อะเฉียงจึงเดาว่าคนอื่นอาจจะคิดว่าหัวหน้าน้อยไม่มีเงินจ่ายค่าของที่ประมูลมา
หัวหน้าน้อยมองอะเฉียง นัยน์ตาดอกท้อที่สวยงามคู่นั้นกะพริบปริบ ๆ : “พูดเป็นเล่นไปได้น่า?”
อย่างเขาเนี่ยนะจะไม่มีเงิน? !
“จริงสิ ตอนนี้ในบัญชีของฉันมีเงินอยู่เท่าไหร่?” หัวหน้าน้อยเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถามขึ้นมา
แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลย ตอนนี้ในบัญชีของเขามีเงินอยู่เท่าไหร่เขาเองก็ไม่แน่ใจ
แน่นอนว่าก่อนหน้านี้เขาเองก็ไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะแย่งประมูลของกับเย่ซือเฉินแบบนี้
“ในบัญชีของหัวหน้าน้อยไม่มีเงินครับ” อะเฉียงเบ้ปากเล็กน้อย คำถามนี้ที่หัวหน้าน้อยถามออกมาทำให้เขายากที่จะอธิบาย
“เพราะอะไร?” หัวหน้าน้อยตกตะลึง มองไปทางอะเฉียงด้วยท่าทีสับสน นี่เขาไม่มีเงินเหรอ?
“เพราะหัวหน้าน้อยไม่มีบัญชีส่วนตัวของตัวเองครับ” อะเฉียงมองหัวหน้าน้อยของตัวเอง จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าบางครั้งหัวหน้าน้อยดูเหมือนจะซื่อบื้อไปหน่อย
หัวหน้าน้อยควบคุมดูแลองค์กรโกสต์ซิตี้มาหลายปี การใช้จ่ายทั้งหมดทำผ่านบัญชีขององค์กรโกสต์ซิตี้ และไม่มีบัญชีส่วนตัวเป็นของตัวเอง
ที่สำคัญคือหัวหน้าน้อยไม่เคยสนใจเรื่องเงินมาก่อนเลย ดังนั้นจึงไม่มีบัญชีส่วนตัวของตัวเอง ไม่อย่างนั้นหลายปีที่ผ่านมาหัวหน้าน้อยคงมีเงินเก็บเป็นจำนวนมากแล้วล่ะ
เรียกว่าหัวหน้าน้อยมีความเที่ยงตรงไม่เห็นแก่ตัวได้หรือเปล่านะ? ไม่หรอก หัวหน้าน้อยก็แค่ไม่ค่อยเฉลียวฉลาดเท่านั้นเอง
แม้ว่าหัวหน้าน้อยคอยควบคุมดูแลองค์กรโกสต์ซิตี้มาโดยตลอด แต่ยังไงหัวหน้าก็ยังคงอยู่ และหัวหน้าก็ยังไม่ได้ยกองค์กรโกสต์ซิตี้ให้กับหัวหน้าน้อยโดยตรง หัวหน้าน้อยไม่เคยคิดบ้างเหรอว่าสักวันอาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นก็ได้?
เหมือนอย่างตอนนี้ จู่ ๆ หัวหน้าก็มีลูกสาวโผล่มาคนหนึ่ง
นั่นเป็นถึงลูกสาวแท้ ๆ ของหัวหน้า ต่อให้หัวหน้ารักและเอ็นดูหัวหน้าน้อยแค่ไหน แต่ยังไงก็ต่างกันอยู่ ต่อไปทุกอย่างขององค์กรโกสต์ซิตี้คงต้องตกเป็นของเจ้าหญิงทั้งหมด
เท่ากับว่าหลายปีที่ผ่านมาหัวหน้าน้อยทำงานไปฟรี ๆ
หัวหน้าน้อยกะพริบตาอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่ายังไม่ค่อยเข้าใจความหมายของอะเฉียง : “ฉันไม่มีบัญชีส่วนตัวเหรอ? แล้วปกติเงินที่ฉันใช้มันมาจากไหน?”
“มาจากฝ่ายการเงินขององค์กรโกสต์ซิตี้ทั้งนั้นครับ เป็นบัญชีของฝ่ายการเงิน ก็คือเงินพวกนั้นเป็นเงินขององค์กรโกสต์ซิตี้” อะเฉียงได้ยินคำพูดของหัวหน้าน้อยของตัวเอง ก็แอบถอนหายใจ หัวหน้าน้อยไม่ใช่แค่ไม่เฉลียวฉลาดแล้วล่ะ แต่เรื่องการเงินนี่เรียกได้ว่าซื่อบื้อเลยทีเดียว
“งั้นก็ไม่มีปัญหาแล้วสิ แกให้คุณอาต่งเตรียมเงินให้พร้อมแล้วกัน” หัวหน้าน้อยได้ฟังที่อะเฉียงอธิบายก็ปรายตามองอะเฉียงแวบหนึ่ง ที่พูดออกมามันคือเรื่องที่ควรจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เขาไม่ได้เข้าใจความหมายของอะเฉียงเลยสักนิด
อะเฉียง : “……”
หัวหน้าน้อยที่เขาติดตามมาตั้งหลายปีอาจจะเป็นแค่ไอทึ่มคนหนึ่งงั้นเหรอ?
“หัวหน้าน้อยครับ ตอนนี้หัวหน้ามีลูกสาวขึ้นมาคนหนึ่ง ต่อไปองค์กรโกสต์ซิตี้มีโอกาสตกเป็นของเจ้าหญิงสูงมากนะครับ ผมคิดว่าหัวหน้าน้อยควรจะมีบัญชีส่วนตัวเอาไว้สักบัญชี หรือหัวหน้าน้อยอาจจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองสักส่วนหนึ่ง” อะเฉียงคิดว่าเขาจำเป็นต้องเตือนหัวหน้าน้อยของตัวเองเอาไว้สักหน่อย
ถ้าในอนาคตเจ้าหญิงที่หัวหน้าตามกลับมาเป็นคนที่รู้ผิดชอบชั่วดีก็แล้วไป แต่ถ้าหากเจ้าหญิงเป็นจอมเผด็จการ ถึงตอนนั้นหัวหน้าน้อยจะไปแย่งชิงขึ้นมา ก็คงพลาดโอกาสไปแล้ว
ต่อให้ตอนนั้นหัวหน้าน้อยแย่งชนะมาได้ แต่ถึงตอนนั้นสถานการณ์คงดูแย่แน่นอน
หัวหน้าน้อยสู้เตรียมการไว้ล่วงหน้าจะดีกว่า ก่อตั้งธุรกิจของตัวเอง ด้วยความสามารถของหัวหน้าน้อย ถ้าคิดจะสร้างอำนาจให้ตัวเองคงไม่ใช่เรื่องยาก
อะเฉียงไม่ได้ต้องการยุแยง เขาเพียงแค่เห็นหัวหน้าน้อยของตัวเองไม่ให้ความสำคัญเรื่องเงินเลย เขาเลยร้อนใจแทนหัวหน้าน้อย
การพูดเตือนของอะเฉียงชัดเจนเป็นอย่างมาก ต่อให้ใช้นิ้วเท้าคิดก็สามารถเข้าใจได้
“ไม่ต้องหรอก ยุ่งยากวุ่นวาย” แต่ว่าหัวหน้าน้อยกลับไม่คิดอะไรเลย ปฏิเสธอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด
เหตุผลที่หัวหน้าน้อยปฏิเสธก็แปลกประหลาดมาก คือขี้เกียจยุ่งยากวุ่นวาย? !
อะเฉียงหมดคำพูดแล้ว เขารู้สึกว่าหัวหน้าน้อยที่เขาคอยติดตามมานานหลายปี คงจะเป็นแค่ไอทึ่มคนหนึ่งจริง ๆ นั่นแหละ
ต่อให้หัวหน้าน้อยไม่คิดจะสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง งั้นก็ควรจะมีบัญชีส่วนตัวสักหน่อยไหม?
แต่หัวหน้าน้อยพูดว่าอะไรนะ?
ขี้เกียจยุ่งยากวุ่นวาย? !
ไม่อยากวุ่นวายเรื่องเงิน?
มีคนที่ขี้เกียจวุ่นวายเรื่องเงินด้วยเหรอเนี่ย? !
เขาโตมาขนาดนี้แต่ไม่เคยพบเจอใครที่ซื่อบื้อแบบนี้เลย