ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่372 นางฟ้าเวินเก่งเกินไปแล้ว ปลาติดเบ็ดแล้ว (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่372 นางฟ้าเวินเก่งเกินไปแล้ว ปลาติดเบ็ดแล้ว (2)
บทที่372 นางฟ้าเวินเก่งเกินไปแล้ว ปลาติดเบ็ดแล้ว (2)
เย่ซือเฉินเชื่อใจผู้หญิงคนนี้ขนาดนี้?
“ไม่นะคะ เขาไปไหนก็พาฉันไปด้วย อันที่จริงฉันก็ไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอกค่ะ ไม่อยากจะวิ่งไปทั่วกับเขา มันเหนื่อยเกินไป แต่เขาก็ยังอยากจะพาฉันไปมาก” คำพูดพวกนี้เวินลั่วฉิงล่วนพูดความจริง ปกติเธอก็เคยบ่นเรื่องนี้กับเย่ซือเฉิน แต่ตอนนี้ที่พูดกับคุณปู่เย่แบบนี้แน่นอนว่ามีอีกนัยหนึ่ง
เธออยากให้คุณปู่เย่รู้ว่าเย่ซือเฉินไว้ใจเธอและไม่ปิดบังอะไรเธอ
ขอเพียงเท่านี้เรื่องก็จะยิ่งราบรื่น
อันที่จริง เธอรู้สึกว่าเย่ซือเฉินแทบจะไม่ได้ตั้งแง่อะไรกับเธอเลย
คุณปู่เย่หงุดหงิดใจเล็กน้อย แบบนี้ก็ชัดเจนว่าเย่ซือเฉินไว้ใจเธอ ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้ความแถมยังกลัวเหนื่อย?
เย่ซือเฉินปิดเรื่องพวกนี้จากเขามาตลอด เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย
เขามองเวินลั่วฉิงแล้วถามขึ้นอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก: “ช่วงนี้เขาเดินทางด้วยเรื่องธุรกิจส่วนตัวงั้นเหรอ?”
“อืม สามีหนูบอกว่า บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปเองนั้นก็ไม่ใช่ของเขา ดังนั้นสามีของหนูบอกว่าเขาไม่จำเป็นต้องเสียเวลาให้กับบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป สู้ทุ่มแรงกายและเวลาให้กับธุรกิจของตัวเองจะดีกว่า” นาทีนี้เวินลั่วฉิงคำก็สามีสองคำก็สามีของฉัน เธอเรียกอย่างสนิทสนม
ตอนนี้คุณปู่เย่มั่นใจแล้วว่าเย่ซือเฉินไม่มีเรื่องปิดบังเวินลั่วฉิง ดังนั้นเวินลั่วฉิงพูดอะไรเขาก็เชื่อหมด นับประสาอะไรเมื่อสิ่งที่เวินลั่วฉิงพูดนั้นสมเหตุสมผล
ถ้าหากว่าเป็นเขาแล้วตัวเองมีธุรกิจมากมายขนาดนั้น ก็คงไม่มีทางจะไปเสียเวลาไปจัดการกับบริษัทที่ไม่ได้เป็นของตัวเอง
ใครจะไปยอมทำเรื่องที่เสียเวลาเปล่ากันล่ะ
ดังนั้นที่เย่ซือเฉินพูดว่าไม่ต้องการบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปคงจะไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแต่เป็นความจริง
ถึงแม้ว่าคุณปู่เย่จะลังเลเรื่องวางมือมาตลอดแต่ในใจก็รู้ดีว่าต่อให้เขาออกหน้า เขาเองก็ไม่สามารถบริหารบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปในตอนนี้ได้แล้ว ถ้าไม่มีเย่ซือเฉิน เกรงว่าบริษัทเย่ซื่อกรุ้ปก็คงจะอยู่ได้อีกไม่นาน
“อันที่จริง ฉันเองก็ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะยกบริษัทให้เขา เพียงแต่ไม่กี่วันก่อนเขาโอนหุ้นบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปให้…” คุณปู่เย่หรี่ตาเล็กน้อยและดูเหี้ยมโหด และหยุดพูดกลางคัน
นี่คือเรื่องที่คุณปู่เย่เป็นกังวลมากที่สุด แท้จริงแล้วเขาไม่อยากบอกเรื่องนี้กับเวินลั่วฉิงเลย ในตอนนี้ในใจเขาช่างสับสนเหลือเกิน จึงได้โพล่งออกมา
ถึงแม้ว่าคุณปู่เยะจะพูดไม่หมด แต่เวินลั่วฉิงกลับเข้าใจได้
เมื่อหลานวันก่อนเย่ซือเฉินโอนหุ้นบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปในมือเขาให้คนอื่น? เรื่องนี้เธอไม่รู้เรื่องเลยจริง ๆ
ทำไมเย่ซือเฉินจะต้องโอนหุ้นในมือตัวเองให้คนอื่นในเวลานี้ด้วย? เย่ซือเฉินโอนหุ้นไปให้ใครกัน?
เวินลั่วฉิงเห็นคุณปู่เย่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วดูเหี้ยมโหดและเกลียดชัง แต่ดูแล้วเห็นได้ชัด ๆ เลยว่าคุณปู่เย่คงจะเกลียดคนคนนั้นมาก
จู่ ๆ เวินลั่วฉิงก็คิดถึงเมิ่งโร่ถิง เย่ซือเฉิงจะโอนหุ้นของเขาให้เมิ่งโร่ถิงหรึอเปล่านะ?
ถ้าหากในสถานการณ์แบบนี้เย่ซือเฉินโอนหุ้นในมือให้เมิ่งโร่ถิง เช่นนั้นคุณปู่เย่ก็จะยิ่งมั่นใจที่จะไม่ยกบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปให้เย่ซือเฉิน
เย่ซือเฉินคิดอะไรของเขาอยู่นะ?
แต่ว่าเวินลั่วฉิงเห็นถึงแม้คุณปู่เย่จะดูเกลียดชังแต่กลับมองเห็นความปรีดา
จะพูดให้ชัดก็คือถึงแม้ว่าเย่ซือเฉินจะเปลี่ยนโอนให้แล้วแต่อีกฝ่ายก็ไม่รับ
ดวงตาของเวินลั่วฉิงกะพริบและพูดช้าๆตามการคาดเดาในใจของเธอ: “เขาโอน อีกฝ่ายก็ต้องอยากได้ถึงจะโอเค”
ทันใดนั้นดวงตาของคุณปู่เย่ก็เป็นประกาย ใช่สิ เย่ซือเฉินโอนหุ้นให้ผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงคนนั้นไม่มีทางรับแน่
ในตอนที่ผู้หญิงคนนั้นออกจากตระกูลเย่ไปเธอได้สาบานว่าจะไม่มีทางรับอะไรจากตระกูลเย่อีก
ผู้หญิงคนนั้นรักษาคำพูดมาตลอด ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องเป็นกังวลว่าสิ่งนี้จะเป็นปัญหา
“เขาไม่ปิดเธอแม้แต่เรื่องของเธอด้วยซ้ำ” ดวงตาของคุณปู่เย่หรี่ลงเล็กน้อยมีความอันตรายและเย็นชาไม่น้อย แต่เมื่อเขามองไปที่เวินลั่วฉิงกลับซ่อนความสับสนเอาไว้
เย่ซือเฉินบอกแม้กระทั่งเรื่องของคนคนนี้กับเธองั้นเหรอ? เห็นได้ชัดว่าเย่ซือเฉินนั้นเชื่อใจเวินลั่วฉิงในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
เวินลั่วฉิงไม่รู้ว่าคนที่คุณปู่เย่พูดถึงเป็นใคร แต่ปฏิกิริยาของคุณปู่เย่กลับทำให้เวินลั่วฉิงมั่นใจ คนคนนั้นไม่เพียงแต่จะไม่เคยต้องการหุ้น และไม่มีทางจะต้องการในอนาคตด้วย
เวินลั่วฉิงจู่ ๆ ก็รู้สึกขึ้นมาว่าคนที่เย่ซือเฉินโอนหุ้นบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปให้อาจจะไม่ใช่เมิ่งโร่ถิง เมิ่งโร่ถิงอาจจะรับไว้
ดังนั้นคนคนนั้นคงจะไม่ใช่เมิ่งโร่ถิง
ยิ่งกว่านั้นคำพูดของคุณปู่เย่ฟังดูแปลก ๆ เวินลั่วฉิงแอบรู้สึกว่าคนคนนี้จะต้องเป็นคนที่มีความสนิทชิดเชื้อกับเย่ซือเฉิน
แต่ว่าตอนนี้นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นหลักตอนนี้คือช่วยเย่ซือเฉินให้ได้มาซึ่งหุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปเสียก่อน
“เดิมทีตระกูลเวินก็แทบจะล้มละลายเต็มที เย่ซือเฉินก็ใช้เงินของตระกูลเย่ช่วยเหลือตระกูลเวินไว้เสมอ” เพียงแต่ว่าในเวลานี้
จู่ ๆ คุณปู่เย่ก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาไป
เวินลั่วฉิงได้ยินสิ่งที่คุณปู่เย่พูดแล้วก็ยิ้มขึ้นทันที: “ถ้าสามีของหนูจะช่วยตระกูลเวินอาจจะไม่ต้องใช้เงินของตระกูลเย่ก็ได้ค่ะ ด้วยความสามารถของสามีหนู เงินที่เสียไปมันจะทำกำไรกลับมาได้มากกว่าเท่าตัว ดังนั้นจึงยอมใช้เงินของตัวเอง”
“แก แก แก” คุณปู่เย่หงุดหงิดและจ้องเวินลั่วฉิงด้วยแววตาถมึงทึง: “แกมันแน่”
เวินลั่วฉิงยิ้มและไม่พูดอะไร แค่นี้ก็แน่แล้วเหรอ? คุณปู่เย่ยังไม่เคยเห็นเวลาเธอเป็นคนดุร้ายจริง ๆ เสียหน่อย
คุณปู่เย่ใคร่ครวญ จากนั้นก็หยิบสัญญาฉบับหนึ่งออกมาจากตู้เซฟ เขาเซ็นชื่อและลงตราประทับเอาไว้ แล้วโยนลงตรงหน้าเวินลั่วฉิง: “ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว เธอเอาไปให้เย่ซือเฉิน”
ในตอนแรกคุณปู่เย่เข้าใจว่าที่เย่ซือเฉินพูดว่าไม่ต้องการบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปนั้นเพียงแค่ต้องการประชดเขาเท่านั้น แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเย่ซือเฉินไม่ต้องการมันจริง ๆ
คุณปู่เย่เข้าใจนิสัยของเย่ซือเฉินดี ในเมื่อเย่ซือเฉินไม่อยากได้มันจริง ๆ แล้ว ต่อให้เขามอบให้ตอนนี้ เย่ซือเฉินก็ต้องปฏิเสธแน่ ดังนั้นจึงจะต้องผ่านทางเวินลั่วฉิง
เย่ซือเฉินเชื่อใจเวินลั่วฉิงขนาดนั้นจะต้องให้ความสำคัญกับเวินลั่วฉิงมากแน่นอน ดังนั้นเรื่องนี้ให้เวินลั่วฉิงออกหน้า ยังจะพอทำให้มีความเป็นไปได้ที่เย่ซือเฉินจะยอมรับ
ด้วยเรื่องที่เกิดขึ้นที่ตระกูลกู้ ก่อนหน้านี้ คุณปู่เย่จะทำกับเวินลั่วฉิงเป็นเด็กโง่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
“เขาไม่ได้เดินทางไปทำงานหรอกเหรอ? เธอเองก็ไปช่วยงานเขาที่บริษัทได้แล้ว เขาเชื่อใจเธอขนาดนั้น เรื่องเล็กแค่นี้คงไม่เป็นปัญหาหรอก” ครั้งนี้กลับเป็นคุณปู่เย่ที่รีบร้อน เขากลัวจริง ๆ ว่าถึงเวลานั้นเย่ซือเฉินจะปฏิเสธ
มนุษย์เราก็แบบนี้ อะไรที่อยู่ตรงหน้าก็ไม่เคยเห็นค่า แต่เมื่อกำลังจะหรือใกล้จะสูญเสียมันไปแล้วถึงเพิ่งคิดได้แล้วฉุดรั้งเอาไว้
เวินลั่วฉิงรีบรับเอกสารมาและเปิดดู คุณปู่เย่โอนหุ้นทั้งหมดหกสิบเปอร์เซ็นต์ให้กับเย่ซือเฉิน เขาจะเหลือหุ้นอยู่เพียงสิบเปอร์เซ็นต์ คงจะเหลือไว้ให้เย่ซือฉุนและนี่ก็ถือเป็นเรื่องปกติ
ทั้งหมดนี้ถือว่าราบรื่นมาก มากกว่าที่เธอคาดการณ์ไว้มาก มากเลยทีเดียว
เธอช่วยเย่ซือเฉินให้ได้หุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปได้แล้ว งั้นต่อไปก็…