ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่375 คุณชายสามเย่ ภรรยาของคุณกำลังจะไปแล้ว (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่375 คุณชายสามเย่ ภรรยาของคุณกำลังจะไปแล้ว (3)
บทที่375 คุณชายสามเย่ ภรรยาของคุณกำลังจะไปแล้ว (3)
ในขณะที่เวินลั่วฉิงทอดสายตาไปนั้น ทันใดนั้นก็เห็นโมเดลรถบนชั้นวางหนังสือของเขา ดวงตาเธอเป็นประกายและลืมความเขินอาย แล้วหลุดปากพูดขึ้น: “โมเดลรถบนฉันหนังสือของคุณยกให้ฉันได้ไหมคะ?”
เมื่อพูดอย่างนั้น น้ำเสียงของเวินลั่วฉิงมีความประหลาดใจอยู่ไม่น้อย
ลูกชายชอบรถรุ่นนี้มากแต่หาไม่เคยเจอก็เพราะเป็นรุ่น limited ระดับโลก ทั้งโลกมีเพียงแค่สองคันเท่านั้น
มีเงินก็ไม่สามารถจะหาซื้อได้ ตอนนั้นลูกชายยังขอให้รุ่นพี่และมู่หรงดัวหยางช่วยหาแต่ก็หาไม่เจอ
เพราะเรื่องนี้ลูกชายถึงกับเซ็งไปนาน ลูกชายชอบโมเดลรถรุ่นนี้มาก มากเป็นพิเศษ
แน่นอนว่าโมเดลรถรุ่นนี้ไม่สามารถคิดเป็นมูลค่าได้
วันนี้เธอเห็นมันในห้องทำงานของเย่ซือเฉิน ก็อยากจะลอง ไม่แน่ว่าเย่ซือเฉินจะใจกว้างและยอมยกมันให้เธอก็ได้นะ
“เอ๋?” เย่ซือเฉินอึ้งไป: “คุณชอบโมเดลรถเหรอ?”
เขาชอบโมเดลรถมาตั้งแต่เด็ก แต่ในห้องทำงานของเขาก็มีโมเดลรถคันนี้เพียงคันเดียวเท่านั้น โมเดลรถคันนั้นเป็นของขวัญวันเกิดที่แม่เขามอบให้เขา
ดังนั้นโมเดลรถคนนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเขามาก
“อือ” ไม่ใช่เธอที่ชอบเป็นลูกชขยของเธอต่างหากที่ชอบ แต่ว่าเวินลั่วฉิงก็ไม่ได้อธิบายออกไป
“ได้” ถึงแม้ว่าโมเดลรถนั่นจะสำคัญกับเขามาก แต่ในเมื่อเธออยากได้เขาก็ให้ได้อยู่แล้ว
แล้วมันจะเป็นอะไรไปเธอกับเขาคือครอบครัวเดียวกัน เธอครอบครอง กับเขาครอบครอง มันก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?
“ขอบคุณค่ะ” เวินลั่วฉิงยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่มีความสุขจากสิ่งที่เกินคาดหมาย คราวนี้ก็ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องของขวัญให้ลูกชายแล้ว
พอดีกับที่ลูกชายเขาโรงพยาบาล เขาจะต้องไปสบายและทุกข์ใจ ถ้าหากว่าเธอได้โมเดลรถนี้ไปให้ลูก ลูกชายคงจะต้องดีใจมากแน่ และคงจะลืมความเจ็บป่วยและไม่สบายไปได้แน่
อือ ดีจริง ๆ
เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของเธอ เย่ซือเฉินก็ยกมุมปากและมีรอยยิ้มในแววตาของเขา
“เจ้านาย” เสี่ยวลิ่วจื่อ เห็นเขาคุยหยอกเย้ากับผู้หญิงไม่จบไม่สิ้นเสียที ดูแล้วไม่มีทีท่าว่าจะวางสายเลย เขาจึงทนดูไม่ได้อีกแล้ว และอดไม่ได้ที่จะส่งเสียง
อีกฝ่ายนั้นก็กำลังถือปืน ตอนนี้กำลังล้อมพวกเขาไว้นะ เจ้านายเจ๋งจริง ในเวลาแบบนี้ยังมีแก่ใจป้อสาวได้ตลอด ๆ
“คุณทำธุระก่อนเถอะค่ะ” เวินลั่วฉิงได้ยินเสียงคนเรียกจากปลายสายแล้ว เวินลั่วฉิงฟังออกจากน้ำเสียงว่าเขากำลังเร่ง และยังไม่ความไม่พอใจอยู่ด้วย
“อือ” เย่ซือเฉินรับคำเบา ๆ ด้วยแววตายิ้มแย้มและกลับเคร่งขรึมลงมาก
แต่ว่าครั้งนี้เขาไม่ได้พูดอะไรและรีบวางสายไป
ในระหว่างที่วางสาย รอยยิ้มของเย่ซือเฉินก็หายไป ดวงตามีเพียงความเย็นยะเยือก มีแรงอาฆาตที่รุนแรงคุกรุ่นอยู่ทั่วร่างกาย
อีกฝ่ายได้แต่กลัวจนขาสั่น ไม่สามารถควบคุมร่างกายให้ไม่สั่นเทาได้
“ของก็ให้พวกแกแล้ว ฉันต้องการเห็นคนของฉันกลับมาอย่างไม่บุบสลาย” ดวงตาของเย่ซือเฉินจับจ้องไปที่คนที่อยู่ด้านหน้า ลมหายใจเย็นราวกับสามารถแช่แข็งคนได้ในทันที
อันที่จริงแล้วการช่วยคนนั้นไม่ยากเลย แต่ประเทศ C มีภูเขาและเหมืองมากมาย มีเหมืองทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ในสถานการณ์เช่นนี้การจะสืบหาคนกลุ่มหนึ่งนั้นไม่ง่ายเลย และที่สำคัญคือเสียเวลามาก
และอีกฝ่ายก็โหดร้ายเกินไป ถ้าหากพวกเขาผัดวันประกันพรุ่งอีกฝ่ายมีแนวโน้มที่จะฆ่าคนของตนทันที
หรวนจื้อคือตัวอย่าง อีกฝ่ายฆ่าหรวนจื้อไปแล้ว จากนั้นก็ส่งศพของหรวนจื้อกลับมาเพื่อข่มขู่พวกเขา
“ได้ ๆ แกวางใจ พวกเราจะปล่อยคนของแกทันที” อีกฝ่ายได้ของที่ต้องการแล้ว แน่นอนว่าก็ไม่อยากจะก่อปัญหาใหม่ขึ้นมาอีก เพราะพวกเขากลัวเย่ซือเฉิน
ในตอนนี้เอง เสียงโทรศัพท์ของเวินลั่วฉิงก็ดังขึ้นอีก
เวินลั่วฉิงนิ่งไปเพราะคิดว่าเย่ซือเฉินโทรเข้ามาอีก เธอแทบจะไม่ได้คิดอะไรมากและรีบหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ
เพียงแต่พอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วจึงพบว่าไม่ใช่เย่ซือเฉินโทรเข้ามาแต่เป็นคุณปู่เย่
เวินลั่วฉิงไตร่ตรองแล้วรับสาย: “ฮัลโหล”
น้ำเสียงนั้นสุภาพแต่กลับดูห่างเหิน
“เรื่องของผู้หญิงแซ่เมิ่งคนนั้น เธอรู้แล้วก็แล้วกัน แต่เธอจะบอกใครไม่ได้ รวมถึงคนในตระกูลเวินด้วย” คุณปู่เย่พูดจาโครม ๆ ใส่จนทำให้เวินลั่วฉิงต้องอึ้งไป
เวินลั่วฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อยอเรื่องของผู้หญิงแซ่เมิ่ง? เป็นเรื่องอะไรกัน?
ผู้หญิงแซ่เมิ่ง? ในตอนนี้เวินลั่วฉิงคิดว่าคนที่เกี่ยวข้องกับเย่ซือเฉินก็คือเมิ่งโร่ถิง
แต่ว่าเรื่องที่คุณปู่เย่ถึงมันคือเรื่องอะไร? ที่สุดแล้วมีเรื่องอะไรที่ทำให้คุณปู่เย่ต้องโทรมากำชับเธอเป็นพิเศษ?
เวินลั่วฉิงคิดขึ้นได้ที่คุณปู่เย่พูดก่อนหน้านี้ เรื่องที่เย่ซือเฉินโอนหุ้นบริษัทบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปในมือให้คนอื่นเมื่อหลายวันก่อน ตอนนั้นเธอเองก็คิดถึงเมิ่งโร่ถิงเป็นคนแรก จากนั้นเธอก็รู้สึกว่าน่าจะไม่ใช่เมิ่งโร่ถิง
แต่ตอนนี้คุณปู่เย่โทรมาเพื่อกำชับเรื่องผู้หญิงแซ่เมิ่งเป็นพิเศษ? ถ้าอย่างนั้นดูเหมือนจะมีความเป็นไปได้เพียงเมิ่งโร่ถิงแล้ว
“ค่ะ ฉันทราบแล้ว” เวินลั่วฉิงรับคำเบา ๆ เรื่องของเมิ่งโร่ถิงเธอบอกใครไม่ได้แน่นอนอยู่แล้ว อันที่จริงเรื่องส่วนตัวของเย่ซือเฉินเธอก็ไม่สามารถจะพูดจามั่วซั่วได้ แล้วยิ่งเรื่องเกี่ยวกับเมิ่งโร่ถิงด้วยแล้วเธอก็รู้อะไรไม่เยอะ
“งั้นก็ดี” คุณปู่เย่ตอบกลับมาแล้ววางสายไป
เวินลั่วฉิงขมวดคิดเล็กน้อย คุณปู่เย่นี่ประหลาดจริง ๆ
เวินลั่วฉิงหยิบโมเดลรถแล้วคิดว่าจะไปแล้ว เพียงแต่ในเวลานั้นประตูห้องทำงานของเย่ซือเฉินก็ถูกเปิดออก
เวินลั่วฉิงตัวแข็งทื่อ เมื่อครู่เธอปลีกตัวเข้ามาโดยไม่มีใครเห็น ตอนนี้มีคนเห็นแล้วจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?
แต่ว่า เมื่อเวินลั่วฉิงเห็นคนที่ผลักประตูเข้ามาก็ถอนหายใจ
“คุณนาย คุณมาได้ยังไงครับ?” เลขาหลิวเข้ามาในห้องทำงานแล้วเห็นเวินลั่วฉิงก็ประหลาดใจ
แต่ว่าเขาคิดว่าท่านประธานโทรหาเขาให้เขารีบกลับมา เรื่องนี้คงจะเป็นเรื่องเร่งด่วน
แต่ไฟล์ทของเขาดีเลย์ ประธานจี้ก็ไม่อยู่ที่บริษัทพอดี เรื่องการเข้ามาในห้องของท่านประธานเปิดตู้เซฟของท่านประธาน เรื่องแบบนี้ท่านประธานคงไม่ให้ใครอื่นทำแน่นอน
ดังนั้นคุณนายมาที่บริษัทก็คงจะเป็นเรื่องเดียวกันกับเรื่องที่ท่านประธานให้เขารีบกลับมาก่อนหน้านี้
เลขาหลิวค้นพบอย่างละเอียดว่าคอมพิวเตอร์ของท่านประธานถูกเปิดใช้งาน ดังนั้นจึงได้มั่นใจเพิ่มขึ้นอีก
ดูแล้ว คุณนายคงจะส่งเอกสารไปเรียบร้อยแล้ว
คงจะเป็นเพราะไฟล์ทของเขาดีเลย์แน่ ๆ ทำให้มาช้าไป ดังนั้นท่านประธานจึงให้คุณนายมาแทน
เวินลั่วฉิงที่ตอนแรกคิดว่าจะไปแล้ว เพียงแต่เมื่อเธอเห็นเลขาหลิวแล้วก็หยุด เธอคิดถึงสัญญาเรื่องหุ้นบริษัทที่คุณปู่เย่มอบให้เธอเมื่อครู่
คุณปู่เย่นั้นเป็นคนไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนัก บางครั้งก็ชอบทำอะไรโดยอาศัยความชอบของตัวเอง อันที่จริงเธอกังวลว่าถึงเวลาคุณปู่เย่จะเปลี่ยนใจและจะกลับคำ
ดังนั้นเพื่อเป็นการรับประกัน ทางที่ดีที่สุดคือต้องรีบดำเนินการให้เรื่องทั้งหมดจบโดยไว
แน่นอนว่ายังมี…