ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่393 บิดาผู้ให้กำเนิดของเด็ก(3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่393 บิดาผู้ให้กำเนิดของเด็ก(3)
บทที่393 บิดาผู้ให้กำเนิดของเด็ก(3)
ดูเหมือนว่า เธอควรที่จะไปตรวจสอบโม่เหยียนคนนั้นให้ละเอียดแล้ว
ดูเหมือนว่าเรื่องราวของ5ปีก่อน เธอเองก็ควรไปตรวจสอบให้ละเอียดหน่อยแล้ว
5ปีกว่าแล้ว ระยะเวลา5ปีกว่าที่ผ่านมานี้ เธอไม่เคยไปตรวจสอบเลย อันที่จริง เธอกังวลมาตลอดเกี่ยวกับการถูกค้นพบโดยผู้ชายคนนั้น
ตอนนั้น เธอเคยต่อสู้กับผู้ชายคนนั้น ดังนั้นเธอรู้ถึงความสุดยอดของผู้ชายคนนั้น และเธอก็รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนที่โหดร้ายและเอาแต่ใจ
เธอไม่อยากให้ผู้ชายคนนั้นพบเจอกับเธอมาตลอด โดยเฉพาะหลังจากที่เธอมีเด็กทั้งสองคนแล้ว
ใช่ เธอกังวลมาตลอดว่าผู้ชายคนนั้นจะแย่งลูกไปจากเธอ
แต่ว่าตอนนี้ลูกเติบโตแล้ว และลูกอยากจะเห็นหน้าพ่อของเขา ซึ่งแน่นอนว่าเธอจะเห็นแก่ตัวและห้ามพวกเขาไม่ได้
แม้ว่าเธอจะกังวลมาก แม้ว่าเธอจะลังเลใจ และแม้ว่าจริง ๆแล้วในใจของเธอไม่เต็มใจก็ตาม แต่ว่าเธอก็ตอบตกลงจื่อโม่
นอกห้องผู้ป่วย ทันทีที่ถังไป๋เชียนได้ยินการสนทนาของคู่แม่ลูก ร่างกายของเขาก็ค่อยๆผิงไปที่กำแพงอีกครั้ง และภายในดวงตาของเขาก็แสดงความซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย
ทันใดนั้นเขาค้นพบว่า เขาเฝ้ารอคอยมาเป็นเวลานานหลายปีขนาดนี้ แต่ในท้ายที่สุด เขากลับไม่ได้อะไรเลย
หัวใจของเวินลั่วฉิง เขาก็ไม่ได้ และเดิมทีเขาคิดว่าเด็กทั้งสองคนนี้ใกล้ชิดกับเขามากที่สุด แต่ว่าตอนนี้ดูแล้ว ในใจของเด็กทั้งสองคนนั้นพ่อผู้ให้กำเนิดของพวกเขามีความสำคัญมากกว่าเขามาก
ถังไป๋เชียนค่อยๆกำบุหรี่ที่อยู่ระหว่างนิ้วเข้าไปในกำมือของเขา แล้วบีบมันแน่นๆ จนบุหรี่ม้วนนั้นถูกบดจนหมด
และในตอนนี้ จู่ ๆเขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเขาทำมาทั้งหมดเป็นเพียงแค่เรื่องตลก
เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจัดการทั้งหมดนี้ แต่สุดท้าย……
เขารู้ว่าตอนนี้เย่ซือเฉินกำลังตามหาเธออยู่ในประเทศMอย่างบ้าคลั่ง เขาไม่ยอมให้เย่ซือเฉินหาเธอเจอแน่ ไม่ยอมแน่นอน และต่อให้ในใจของเธอไม่มีเขาอยู่ แต่เขาก็ไม่อยากปล่อยมือ และไม่สามารถปล่อยมือได้
ทุกสิ่งอย่างที่เขามอบให้เธอทำให้เขาไม่สามารถปล่อยมือได้!!
ถังไป๋เชียนไม่ได้เข้าไปในห้องผู้ป่วย แต่ว่าเขากลับเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
ณ ประเทศM
“พี่ใหญ่ ไม่เจอใครเลยครับ และไม่พบลูกน้องของถังไป๋เชียนเลยสักคน ถังไป๋เชียนพวกเขาจากไปอย่างไร้ร่องรอย” จางผิงรู้สึกกลัวในขณะที่เขามองเห็นการปรากฏตัวของเย่ซือเฉิน แต่ว่าเรื่องพวกนี้เขาไม่รายงานไม่ได้
บนใบหน้าของเย่ซือเฉินไม่มีอะไรที่น่าแปลกใจมากนัก เพราะว่าตั้งแต่ฐานแรกที่ไม่พบใคร เย่ซือเฉินก็เดาผลลัพธ์ออกแล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้
เพื่อเธอแล้ว ถังไป๋เชียนนั้นยอมจริง ๆ เขายอมละทิ้งรังเก่าของเขาทั้งหมด ดี ดีมาก
“รังเก่าของถังไป๋เชียน ที่สามารถระเบิดได้ระเบิดให้หมด และที่ไม่สามารถระเบิดได้ก็เก็บมันมาให้หมด”มุมริมฝีปากของเย่ซือเฉินแสยะยิ้มจางๆ ถังไป๋เชียนอยากจะต่อสู้กับเขา ก็ต้องเตรียมพร้อมที่จะมอบทุกอย่างด้วย
เขารู้ ว่ารังของถังไป๋เชียนนั้นอยู่ที่ประเทศMมาโดยตลอด และในสถานที่อื่น ๆนั้น ไม่มีอิทธิพลของถังไป๋เชียนเลย
มุมริมฝีปากของจางผิงกระตุกขึ้นเล็กน้อย พี่ใหญ่นั้นช่างโหดร้ายจริง ๆ นี่มันจะกำจัดกันให้สิ้นซากเลยนะเนี่ย!!
“นอกจากนี้ สั่งคนให้แฮ็กบัญชีของถังไป๋เชียนด้วย……”ดวงตาของเย่ซือเฉินหรี่ลง และรอยยิ้มภายใต้ดวงตาของเขาทำให้คนที่เห็นแล้วรู้สึกขนลุกมาก
หากบัญชีถูกแฮ็ก ถ้าอย่างนั้นเงินในบัญชีก็……
เขานั้นจะกำจัดถังไป๋เชียนให้สิ้นซากจริง ๆ
ถังไป๋เชียนจะยอดเยี่ยมมากแค่ไหน แต่อิทธิพลของเขาก็ไม่ใหญ่กว่าของเย่ซือเฉิน
“รอบข้างของถังไป๋เชียนมีผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์อยู่คนหนึ่ง ชื่อว่ามู่หรงดัวหยาง เหลยไป๋เคยต่อสู้กับเขา แต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดังนั้นในส่วนนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจัดการเขา”จางผิงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วตอบกลับไปอย่างระมัดระวังว่า มู่หรงดัวหยางสุดยอดเกินไป และทางด้านคอมพิวเตอร์นั้นไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของมู่หรงดัวหยางเลย
ดังนั้นในส่วนที่พี่ใหญ่พูดมาส่วนนี้ พวกเขายากที่จะจัดการสำเร็จ
จางผิงคิดว่าเมื่อพี่ใหญ่ได้ยินคำพูดนี้แล้วจะรู้สึกโกรธมาก โกรธที่พวกเขาไม่เก่งเหมือนคนอื่น แต่ว่าเย่ซือเฉินนั้นกลับหัวเราะออกมาทันที:“จริงเหรอ?ถ้าอย่างนั้นเราก็มาทำอะไรที่มันโหดเหี้ยมกว่านี้หน่อย”
คำพูดที่จางผิงพูดมานั้นเขาเชื่อ เพราะว่าเขาเองก็เคยเห็นความสุดยอดของมู่หรงดัวหยาง
ตอนนั้นที่อยู่สถานีตำรวจ เขาไม่ได้หยุดเวินลั่วฉิงไว้ และหลังจากลับมาเวินลั่วฉิงบอกว่าเธอไปซื้อเสื้อผ้าที่ห้างสรรพสินค้ามา จากนั้นเขาให้เลขาหลิวไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด และก็ตรวจสอบเจอวิดีโอที่เวินลั่วฉิงกำลังเดินห้างสรรพสินค้าอยู่จริง ๆ
และคราวก่อน ตอนที่เขาไล่ตามรถของถังไป๋เชียน เขาให้จี้หซีไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แต่กลับไม่พบอะไรเลย
ดังนั้น เขารู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าถังไป๋เชียนมีบุคคลที่เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์คนหนึ่งอยู่ข้างกายเขา
และคำว่าโหดเหี้ยมที่เย่ซือเฉินหมายถึงนั้นไม่ใช่การแฮ็ก เขาไม่ใช้วิธีแบบลับๆ แต่เขาจะใช้วิธีแบบเปิดเผย อายัดบัญชีของถังไป๋เชียนโดยตรง
เรื่องที่ถังไป๋เชียนรับนั้น เดิมทีเขาก็ทำให้กองกำลังที่มีอิทธิพลจำนวนมากขุ่นเคืองแล้ว ดังนั้นในประเทศM อยากจะจัดการถังไป๋เชียนนั้นไม่ใช่เรื่องยาก
ภายในเวลาหนึ่งชั่วโมง บัญชีทั้งหมดของถังไป๋เชียนต่างก็ถูกอายัดจนหมดแล้ว
ซึ่งแน่นอนว่าทางด้านของถังไป๋เชียนนั้นได้รับข่าวสารอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของถังไปเชียนนั้นดูโหดเหี้ยมขึ้นเล็กน้อย แต่ก็มีรอยยิ้มที่แปลกประหลาดปรากฏออกมาเล็กน้อย
เย่ซือเฉินนั้นโหดเหี้ยมจริง ๆ แต่ว่า ต่อให้เย่ซือเฉินจะโหดเหี้ยมขนาดไหน แต่มีเขาอยู่ เย่ซือเฉินก็อย่าคิดว่าจะหาเวินลั่วฉิงเจอ
ก่อนที่เขาจะทำเรื่องเหล่านี้ เขาได้เตรียมการสำหรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดไว้ก่อนแล้ว เขาจากไป ก็เท่ากับว่าเขาละทิ้งทุกอย่างที่อยู่ในประเทศMแล้ว เขาสั่งให้คนของเขาทุกคนไม่ให้รับงานใด ๆทั้งสิ้น และงานในมือของเขาทุกอย่างเขาก็จัดการมันเรียบร้อยอย่างรวดเร็วแล้วด้วย
ต่อให้เย่ซือเฉินพลิกประเทศMกลับหัว ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะพบเวินลั่วฉิง เพราะว่าเวินลั่วฉิงนั้นไม่ได้อยู่ที่ประเทศMแล้ว
ตอนนี้ เขาและทุกคนที่อยู่ภายใต้เงื้อมมือของเขาต่างก็ได้ล่าถอยอย่างสมบูรณ์แล้ว และจะไม่ติดต่ออะไรกับโลกภายนอกอีกต่อไป
ดังนั้น ต่อให้เย่ซือเฉินจะสุดยอดมากแค่ไหนก็เป็นไปไม่ได้ที่จะพบเจอเธอได้
และต่อให้เย่ซือเฉินอายัดบัญชีของเขาแล้วก็ตาม เขาถังไป๋เชียนก็ไม่ถึงกับต้องอดตาย เขาออกมาอยู่ในสังคมนานขนาดนี้ หากว่าเรื่องแค่นี้เขาก็ไม่สามารถจัดการได้ เขาก็ไม่ใช่ถังไป๋เชียนแล้ว
ในโรงพยาบาล
เยว่หงหลิงเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย และไม่เห็นถังไป๋เชียน เธอก็ตะลึงไปชั่วขณะ แต่ว่าเธอก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองไปที่ถังจื่อโม่ จากนั้นยิ้มเบาๆและกล่าว:“เด็กจื่อโม่รู้สึกอย่างไรบ้าง?”
“ดีขึ้นแล้วครับ ไม่เจ็บมากแล้ว”บนใบหน้าของถังจื่อโม่ก็มีรอยยิ้มออกมาเบาๆ
“อืม แม่ผู้ให้กำเนิดมาเองก็จะต่างกันแบบนี้แหละ ญาติที่ใกล้ชิดที่สุดยังไงก็คือแม่ผู้ให้กำเนิด”เยว่หงหลิงจงใจแกล้งเล่น
“แม่หงหลิงก็ใกล้ชิดครับ”ยังไม่รอให้ถังจื่อโม่อ้าปากพูด ถังจื่อซีก็รีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว
“อุ้ย จื่อซีของเราปากหวานจริง ๆเลย”รอยยิ้มบนใบหน้าของเยว่หงหลิงเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และเธอก็อดไม่ได้ที่จะอุ้มถังจื่อซีมาอยู่ในอ้อมกอดของเธอ
“พี่หงหลิง ขอบคุณนะคะ”เวินลั่วฉิงรู้ว่าเมื่อตอนที่เธอไม่อยู่คนที่ดูแลเด็กสองคนนี้ก็คือเยว่หงหลิง และเธอเองก็รู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งในน้ำใจของเยว่หงหลิงมาก
“คุณจำเป็นต้องพูดเรื่องพวกนี้กับฉันเหรอ?”เยว่หงหลิงเหลือบมองไปที่เธอเบาๆ จากนั้นก็นั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้าง
เมื่อตอนที่ดวงตาของเยว่หงหลิงลดลงเล็กน้อยนั้น อารมณ์ซับซ้อนก็ถูกซ้อนลงเล็กน้อย โดยเดิมทีที่เธอโทรหาเวินลั่วฉิงเพื่อให้เวินลั่วฉิงกลับมา ก็เพราะว่าเธอสงสารจื่อโม่
แต่ว่าเธอคาดไม่ถึงจริง ๆว่า จะมีเรื่องเกิดขึ้นในภายหลังเยอะขนาดนี้
เธอคาดไม่ถึงว่าถังไป๋เชียนนั้นจะวางแผนสิ่งเหล่านี้ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
หลังจากที่เยว่หงหลิงโทรศัพท์หาเวินลั่วฉิงเสร็จแล้ว ถังไป๋เชียนก็ย้ายโรงพยาบาลให้จื่อโม่ทันที จากนั้นถังไป๋เชียนก็ได้อพยพทุกคนออกจากประเทศM และถังไป๋เชียนก็รอเวินลั่วฉิงโดยลำพังตัวเขาเองที่นั้น
และเมื่อเวินลั่วฉิงมาถึงประเทศMถังไป๋เชียนก็ไปรับเธอด้วยตัวเอง และถังไป๋เชียนแสร้งทำเป็นว่าจะพาเวินลั่วฉิงกลับไปที่ฐานก่อน จากนั้นคอยบอกเรื่องที่เขาย้ายโรงพยาบาลให้ถังจื่อโม่ให้เวินลั่วฉิงฟัง