ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่394 บิดาผู้ให้กำเนิดของเด็ก(4)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่394 บิดาผู้ให้กำเนิดของเด็ก(4)
บทที่394 บิดาผู้ให้กำเนิดของเด็ก(4)
ถังไป๋เชียนบอกกับเวินลั่วฉิงว่าทางด้านประเทศMนั้นเขาพบเจอกับปัญหาที่ยุ่งยาก และคนของเขาทุกคนต่างก็อพยพไปหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องย้ายจื่อโม่ไปยังเมืองอื่น
เวินลั่วฉิงรู้ว่าคนในประเทศMที่ต้องการกำจัดถังไป๋เชียนนั้นเยอะมาก และถังไป๋เชียนได้อพยพคนของเขาออกที่นั่นทั้งหมดก็แสดงว่าเรื่องนี้ร้ายแรงมาก ซึ่งตอนนั้นเวินลั่วฉิงรู้สึกกังวลลูกทั้งสองของเธอ และเธอก็อยากจะเจอลูกทั้งสองของเธอก่อนเป็นเวลาอันดับแรก
ดังนั้น หลังจากที่รถของถังไป๋เชียนขับเข้าไปในฐานของเขา ต่อมาก็ขับออกจากประตูอีกทางด้านหนึ่งทันที และขับตรงไปที่ประเทศOโดยตรง
ประเทศOเป็นประเทศเล็ก ๆที่เงียบสงบ และห่างจากประเทศMไม่ไกลและไม่ใกล้มากนัก และถ้าถังไป๋เชียนอาศัยอยู่ที่นี่อย่างสันโดษ ก็ยากที่จะมีคนหาเขามาถึงที่ประเทศนี้
ถังไป๋เชียนได้วางแผนทุกอย่างไว้แล้ว แต่ว่าเขาคาดไม่ถึงว่าเวินลั่วฉิงจะไปสืบเรื่องของผู้ชายคนเมื่อ5ปีก่อน
หากว่าเวินลั่วฉิงให้เขาช่วยเธอสืบ แน่นอนว่าเธอจะไม่พบเบาะแสอะไร เพราะว่าเขาจะไม่ให้เธอค้นพบสิ่งที่เธอไม่ควรพบ
แต่ถ้าหากว่าเวินลั่วฉิงไปสืบด้วยตัวเองล่ะ?
เขารู้สึกมาตลอด ว่าเย่ซือเฉินนั้นมีความพิเศษโดยเฉพาะสำหรับเวินลั่วฉิง มิฉะนั้นเวินลั่วฉิงเองก็คงไม่แต่งงานกับเย่ซือเฉิน
และถ้าหากว่าปล่อยให้เวินลั่วฉิงค้นพบว่าผู้ชายเมื่อ5ปีก่อนก็คือเย่ซือเฉิน?
เขาไม่กล้านึกถึงผลที่ตามมา……
ดังนั้น เขาต้องหาวิธี
ณ ประเทศM
“หาคนที่เคยร่วมงานกับถังไป๋เชียนออกมาให้หมด แล้วนำรายชื่อที่ละเอียดมาให้ฉัน”การแสดงออกของเย่ซือเฉินในตอนนี้นั้นได้กลับสู่สภาวะเย็นชาแบบปกติแล้ว และในน้ำเสียงของเขาก็ฟังอะไรที่ผิดปกติไม่ออกเลย และมีเพียงแต่ความเย็นชาและความเย่อหยิ่งตามปกติของเขา
เขาจะคอยดูว่าถังไป๋เชียนนั้นจะหลบซ่อนได้นานแค่ไหน?
หลังจากจางผิงได้รับคำสั่งมาก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว
เย่ซือเฉินหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอีกครั้ง แล้วกดโทรออกไปอย่างรวดเร็ว:“สั่งให้ทุกคนตามหาถังไป๋เชียนให้ทั่วทุกมุมของโลก และส่งรูปถ่ายของถังไป๋เชียนให้ทุกคน ต่อให้ต้องพลิกแผ่นดินหา ก็หาถังไป๋เชียนออกมาให้ได้”
“พี่ใหญ่ ผมเอารูปถ่ายของคุณนายส่งให้พวกเขาทุกคนดีกว่าไหม และให้พวกเขาตามหาคุณนายโดยตรงเลยไม่ดีกว่าเหรอครับ?”คนที่อยู่ในสายอีกด้านของโทรศัพท์หยุดชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นจู่ ๆก็พูดขึ้นเช่นนี้
“คุณลองดูสิ?”เย่ซือเฉินหรี่ตาลงอย่างรวดเร็ว และน้ำเสียงของเขาก็เย็นชาขึ้นมากทันที รูปถ่ายของภรรยาเขาจะส่งให้คนอื่นดูได้อย่างไร?
อีกอย่าง เขาเองก็ยังไม่เคยเห็นหน้าตาที่แท้จริงของเธอด้วยซ้ำ
ก็เป็นเพราะว่าถังไป๋เชียนจงใจห้ามเอาไว้ ทำให้เขานั้นยังไม่เคยเห็นหน้าตาที่แท้จริงของภรรยาเขาเลยจนตอนนี้
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ความโหดร้ายก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเย่ซือเฉินเล็กน้อย ถังไป๋เชียน แค้นเก่าและแค้นใหม่ของเราสองคนคิดบัญชีพร้อมกันเลย
“พี่ใหญ่ ผมรู้แล้วครับ”คนที่อยู่ในสายอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ถอนหายใจเบาๆ และน้ำเสียงก็เบาลงเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด
“จำไว้ ไม่ว่าสถานที่แห่งไหนก็ห้ามตกหล่น”ต่อมาเย่ซือเฉินก็สั่งและเตือนเขาอีกครั้ง
เขารู้ ว่าตอนนี้เวินลั่วฉิงนั้นไม่ได้อยู่ที่ประเทศMแล้ว และถังไป๋เชียนยอมละทิ้งรังเก่าของเขาทุกแห่งอย่างไม่ลังเล ดังนั้นต่อไป อาจเป็นไปได้ว่าถังไป๋เชียนจะไปสถานที่ใดที่หนึ่ง
ดังนั้น ต่อไป เขาอยากจะหาเธอให้เจอก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก
อย่างไรก็ตาม ต่อให้มันจะยากแค่ไหน เขาก็จะหาเธอให้เจอให้ได้
และในขณะเดียวกัน ถังหลินเองก็กำลังตามหาเวินลั่วฉิงอยู่เช่นกัน
ถังหลินนั้นรู้ข้อมูลการติดต่อของถังไป๋เชียนอยู่ เพราะว่าเมื่อก่อนเขาเคยร่วมมือกับถังไป๋เชียนมาก่อน
แต่ว่า ถังหลินโทรศัพท์หาถังไป๋เชียนแล้ว แต่ว่าถังไป๋เชียนนั้นไม่รับสายของเขาเลย
ถังหลินไม่ทราบเบอร์โทรศัพท์ของเวินลั่วฉิงที่ใช้ในประเทศM ส่วนเบอร์โทรศัพท์ที่เวินลั่วฉิงใช้ในเมืองAนั้นเธอเลิกใช้มันตั้งแต่เธอไปประเทศMแล้ว ดังนั้นถังหลินไม่สามารถติดต่อเวินลั่วฉิงโดยตรงได้
ดังนั้น สถานการณ์ของถังหลินนั้นไม่ได้ดีไปกว่าสถานการณ์ของเย่ซือเฉินมากนัก
“พี่ใหญ่ ทางด้านคุณชายสามเย่นั้นได้ออกคำสั่ง ให้ทุกคนตามหาคุณหนูใหญ่เวินให้ทั่วทุกมุมของโลก แล้วเรายังต้องหาอีกหรือเปล่า?” เสี่ยวหู่ รายงานทันทีที่ได้ข่าว และเสี่ยวหู่ รู้สึกว่า คุณชายสามเย่นั้นได้เริ่มอย่างจริงจังแล้ว เขาได้กระจัดกระจายไปทั่วทุกแห่งแล้ว แล้วยังต้องใช้พวกเขาหาอีกเหรอ?
ถังหลินตะลึงไปชั่วขณะ พร้อมกับแสดงรอยยิ้มเบาๆที่มุมริมฝีปากของเขา:“ดูเหมือนว่า พี่สามนั้นจะกระวนกระวายแล้วจริง ๆ ดูเหมือนว่าฉันจะประเมินความรู้สึกที่พี่สามมีต่อฉิงฉิงต่ำไป”
เห็นได้ชัดว่าถังหลินนั้นพอใจกับสิ่งนี้มาก
“พี่ใหญ่ เราร่วมมือกับคุณชายสามเย่ดีหรือเปล่า และนำเรื่องที่เรารู้บอกให้คุณชายสามเย่ น่าจะพอช่วยเหลือคุณชายสามเย่ได้นะครับ” เสี่ยวหู่ รู้สึกว่าในเมื่อคุณชายสามเย่นั้นตามหาเธอขนาดนั้น พวกเขาก็ไม่ต้องสั่งคนไปตามหาแล้ว แต่ว่าพวกเขาสามารถนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ในมือของพวกเขามอบให้กับเย่ซือเฉินได้
และเมื่อถึงเวลาก็สามารถช่วยคุณชายเย่สามได้อย่างแน่นอน
“คุณเป็นคนของฉันหรือคนของเขากันแน่?”ถังหลินเงยหน้าขึ้นมา แล้วเหลือบมองไปที่เสี่ยวหู่ ถังหลินรู้ ว่าอันที่จริงเรื่องของถังไป๋เชียนที่เขารู้นั้นไม่มากไปกว่าที่เย่ซือเฉินรู้เท่าไหร่นัก
กลัวว่าสิ่งที่จะรู้มากกว่าก็คงมากกว่าแค่มีข้อมูลการติดต่อของเขาเท่านั้น อีกอย่างโทรไม่ติดด้วย
สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้?
หากว่าเขาจะช่วยเย่ซือเฉิน ถ้าอย่างนั้นเขาทำบางอย่างที่มีประโยชน์มากกว่านี้ไม่ดีกว่าเหรอ เพียงแต่ว่าถึงเวลาไม่รู้ว่าน้องสาวของเขาจะตำหนิเขาหรือเปล่า?
ด้านหนึ่งเป็นพี่น้อง อีกด้านหนึ่งเป็นน้องสาว เลือกยากจริง ๆ แต่ว่าน้องสาวนั้นมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกว่า และเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ……
ถังหลินตัดสินใจแล้ว เขาควรหาวิธีหลอกล่อน้องสาวของเขากลับมาที่เมืองAก่อน เขาไม่ได้ช่วยเย่ซือเฉิน แต่เขาแค่อยากให้น้องสาวของตัวเองกลับมายังตระกูลเท่านั้น
ถังหลินพยายามโทรหาถังไป๋เชียนอีกครั้ง และครั้งนี้ ถังไป๋เชียนนั้นกดรับสายแล้ว
“ถังไป๋เชียน คุณซ่อนฉิงฉิงไว้ที่ไหน?”ทันทีที่รับสาย ถังหลินที่คำพูดมีค่าดั่งทองมาตลอดก็ริเริ่มเอ่ยปากพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“คนที่โตแล้วอย่างฉิงฉิง เป็นคนที่ฉันสามารถซ่อนไว้ได้เหรอ?”ถังไป๋เชียนหัวเราะเยาะอย่างเย็นชา ที่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์
“ถังไป๋เชียน คนเที่ยงธรรมบอกความจริงไม่อ้อมค้อม อย่ามาพูดเรื่องพวกที่มันไม่เป็นจริงกับฉัน”ถังหลินหัวเราะเบาๆ และคำพูดของเขาก็หยุดชั่วคราว จากนั้นเขาก็ค่อยๆพูดขึ้นอีกครั้งว่า:“คุณซ่อนฉิงฉิง แต่ฉิงฉิงนั้นไม่รู้”
ถังหลินรู้ว่าเวินลั่วฉิงไม่รู้ว่าเย่ซือเฉินนั้นตกหลุมรักเธออย่างจริงจังแล้ว ดังนั้นเวินลั่วฉิงคิดมาตลอดว่าเธอกับเย่ซือเฉินหย่ากันแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเย่ซือเฉินก็สิ้นสุดลง และทั้งหมดก็จบลง
เวินลั่วฉิงไม่รู้ว่าเย่ซือเฉินนั้นจะตามหาเธอ อีกทั้งยังตามหาเธออย่างบ้าคลั่ง
ดังนั้น เวินลั่วฉิงไม่มีเหตุผลที่จะหลบซ่อนตัวเลย และคำอธิบายหนึ่งเดียวที่อธิบายได้ก็คือถังไป๋เชียนซ่อนตัวของเวินลั่วฉิงไว้โดยที่เธอไม่รู้ตัว
“ถังไป๋เชียน คุณว่าถ้าให้ฉิงฉิงรู้เรื่องราวทั้งหมดเหล่านี้ ฉิงฉิงจะทำอย่างไร?”ถังหลินพูดเสริมช้า ๆอีกครั้ง และในครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่าในน้ำเสียงของเขามีรอยยิ้ม
แม้ว่าเขากับเวินลั่วฉิงจะใกล้ชิดกันไม่มาก แต่ว่าเขานั้นยังพอรู้จักเวินลั่วฉิงดี
เวินลั่วฉิงทำอะไรก็มักจะชอบความชัดเจนอยู่เสมอ ดังนั้น หากว่าเวินลั่วฉิงรู้ว่าถังไป๋เชียนเจตนาสร้างเรื่องเข้าใจผิดมากมายขนาดนี้ ต่อให้เธอไม่พูด แต่ในใจของเธอก็มีความคิดอยู่
เวินลั่วฉิงเป็นคนที่แบ่งแยกบุญคุณและความแค้นชัดเจน เวิยลั่วฉิงเชื่อถังไป๋เชียน เพราะว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ถังไป๋เชียนนั้นปฏิบัติต่อเธอได้ ดีจริง ๆ และเธอก็นับถังไป๋เชียนเป็นญาติ แต่ถ้าเธอรู้ว่าถังไป๋เชียนปิดบังเธอและทำหลายสิ่งอย่างมากมายขนาดนี้ ต่อให้เธอคิดถึงความสัมพันธ์ครั้งเก่า ไม่โทษตำหนิถังไป๋เชียน แต่ว่าความเชื่อใจขั้นพื้นฐานในใจของเธอที่เธอมีต่อเขาก็จะไม่มีอีกแน่นอน
และถังหลินรู้ ว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่ถังไป๋เชียนกลัวมากที่สุด