ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่395 บิดาผู้ให้กำเนิดของเด็ก(5)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่395 บิดาผู้ให้กำเนิดของเด็ก(5)
บทที่395 บิดาผู้ให้กำเนิดของเด็ก(5)
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรอให้คุณสามารถติดต่อเธอก่อนแล้วค่อยว่ากัน”อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ สีหน้าของถังไป๋เชียนมืดมนและน่ากลัวมาก และน้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็นมากจนทำให้คนฟังรู้สึกตัวสั่น
เขาเองก็รู้ถึงผลที่จะตามมาหากเวินลั่วฉิงรู้เรื่องทั้งหมดนี้แล้ว แต่ว่าเขาก็ไม่อยากให้เธอรู้
และเขาก็จะไม่ให้ถังหลินมีโอกาสได้บอกกับเธอด้วย
“ถังไป๋เชียน อันที่จริงถ้าฉันจะติดต่อฉิงฉิงนั้นง่ายมาก คุณคิดว่าคุณรู้เรื่องทุกอย่างของฉิงฉิง แต่นั่นไม่ใช่อย่างนั้น มีเรื่องมีอีกมากมาย ที่ฉันรู้ดีมากกว่าที่คุณรู้”ถังหลินได้ยินคำพูดของถังไป๋เชียน มุมริมฝีปากของเขาก็ยกขึ้นเล็กน้อย
ถังไป๋เชียนมีความมั่นใจเกินไป และบางครั้งถ้ามั่นใจเกินไปก็จะกลายเป็นหยิ่งยโส
อีกอย่างความต้องการควบคุมของถังไป๋เชียนนั้นสูงมากเกินไป
เวินลั่วฉิงเป็นคนที่รักอิสระ เธอมีความคิดของเธอเอง มีชีวิตของเธอเอง และเธอก็มีอดีตของเธอ
ดังนั้น เป็นไปไม่ได้ว่าถังไป๋เชียนจะรู้ทุกเรื่องของเวินลั่วฉิง
ถังหลินเองก็คอยสืบเรื่องของเวินลั่วฉิงอยู่เสมอ และเพราะเป้าหมายไม่เหมือนกัน ดังนั้นการสืบของถังหลินและเย่ซือเฉินนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง
ดังนั้น เรื่องบางเรื่องที่ถังหลินสืบมาได้เย่ซือเฉินก็ไม่รู้ และยังมีอีกหลายอย่างเป็นเรื่องที่ถังไป๋เชียนเองก็ไม่รู้
“คุณรู้อะไร?”ถังไป๋เชียนตะลึง เขารู้ความสัมพันธ์ระหว่างถังหลินและเวินลั่วฉิง และตอนที่ถังหลินสืบเวินลั่วฉิงอยู่เขาก็รู้แล้ว จากนั้นเขาก็ตรวจพบความสัมพันธ์ระหว่างถังหลินและเวินลั่วฉิงได้อย่างรวดเร็ว
แต่ว่าเขานั้นปิดบังเวินลั่วฉิงมาโดยตลอด เขาไม่ต้องการให้เวินลั่วฉิงอยู่กับเย่ซือเฉิน และเขาก็ไม่ต้องการให้เวินลั่วฉิงกลับตระกูลถัง
เขาหวังเพียงให้เวินลั่วฉิงอยู่เคียงข้างเขาตลอดไป แม้ว่าเวินลั่วฉิงจะไม่ตกลงแต่งงานกับเขาก็ตาม เขาขอแค่ได้อยู่เคียงข้างเธอเขาก็พอใจแล้ว
“ถังไป๋เชียนคุณโง่หรือยังไง คุณคิดว่าฉันจะบอกให้คุณหรือเปล่า?”มุมริมฝีปากของถังหลินยังคงยิ้ม และคำพูดของเขานั้นฟังดูอึดอัดเป็นพิเศษ
เสี่ยวหู่ มองไปที่พี่ใหญ่ของเขาที่กำลังคุยโทรศัพท์อย่างตะลึง โอ๊ย พี่ใหญ่ของเขายังมีด้านนี้ด้วยเหรอ รู้สึกไม่คุ้นเคยจริง ๆ
“เตือนคุณในฐานะเพื่อนนะ อย่าบังคับให้เย่ซือเฉินต้องฆ่า มิฉะนั้น คุณจะแพ้โดยที่ไม่เหลือแม้แต่กางเกง”ถังหลินกล่าวตักเตือนถังไป๋เชียนอย่างหวังดี และรอยยิ้มบนในหน้าของเขาก็กระจายออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน จู่ ๆเขาก็รู้สึกว่า บางครั้งป่วนบ้างหน่อยๆก็ดี ไม่จำเป็นต้องเย็นชาอยู่ตลอด
“ฮ่าฮ่า” เสี่ยวหู่ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาโดยตรง เขาไม่เคยรู้มาก่อน ว่าที่แท้พี่ใหญ่ของเขาเป็นคนแบบนี้
จู่ๆเสี่ยวหู่ ก็รู้สึกว่าพ่ายแพ้จนไม่เหลือแม้แต่กางเกงคำนี้พูดออกมาจากปากพี่ใหญ่ของเขา อันที่จริงมันก็ค่อนข้างกลมกลืนมาก
“ถังหลิน คุณจำเป็นต้องยุ่งเรื่องนี้ด้วยเหรอ?”ทางนั้น เห็นได้ชัดว่าถังไป๋เชียนนั้นมีความกังวลอยู่ และเห็นได้ชัดว่าน้ำเสียงของเขามีความเหี้ยมโหดอยู่เล็กน้อย
“คุณคิดว่าไงล่ะ ฉิงฉิงเป็นน้องสาวของฉันนะ น้องสาวแท้ๆด้วย เรื่องนี้คุณรู้ตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอ?”ถังหลินพูดคำนี้ ยังคงมีรอยยิ้มอยู่ และเป็นรอยยิ้มที่น่าภาคภูมิใจมาก
ฉิงฉิงเป็นลูกสาวของป้าเขา ซึ่งก็คือน้องสาวของเขาเอง และน้องสาว(ลูกพี่ลูกน้อง)ก็เหมือนกับน้องสาวแท้ๆของเขานั่นแหละ
ถังไป๋เชียนรู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ว่าถังไป๋เชียนนั้นปิดบังฉิงฉิงมาโดยตลอด ไม่สิ ถังไป๋เชียนยังดักข่าวสารมากมายไว้โดยเจตนาด้วย มิฉะนั้น เวินลั่วฉิงรู้ตัวตนของเธอตั้งนานแล้ว
ถังไป๋เชียนเป็นอะไรของเวินลั่วฉิง?มีสิทธิ์อะไรมาทำเช่นนี้?
เวินลั่วฉิงเป็นน้องสาวของเขานะ เป็นคนของตระกูลถัง และกลั่นแกล้งคนของตระกูลถัง พวกเขาจำต้องชดใช้ค่าเสียหาย
เหมือนว่าถังไป๋เชียนจะรู้สึกโกรธมาก เขากดวางสายโทรศัพท์โดยตรง
สามวันต่อมา หมายเลขโทรศัพท์โดยเฉพาะของเวินลั่วฉิงได้รับข้อความหนึ่งว่า——“คุณถัง สวัสดีค่ะ พวกเราอยากรบกวนคุณช่วยเราหน่อย”
“เรื่องอะไร?”หลังจากเวินลั่วฉิงเห็นข้อความก็ตะลึงไปชั่วขณะ หมายเลขนี้เธอเคยใช้มันมาทำแค่เรื่องหนึ่ง ดังนั้นหมายเลขนี้ติดต่อมาหาเธอมีความเป็นไปได้อย่างเดียวเท่านั้น
แต่ว่า ผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว เป็นไปได้เหรอ?
“เราเห็นว่าคุณให้ความสำคัญกับเรื่องการค้ามนุษย์ และยังได้ทิ้งข้อมูลไว้ในเว็บไซต์ทางการที่เกี่ยวข้อง และตอนนี้เราจับกุมองค์กรค้ามนุษย์รายใหญ่ได้แล้ว แต่ว่าเราประสบปัญหาเล็กน้อยระหว่างสืบสวน เราเห็นข้อมูลที่คุณทิ้งไว้ว่าคุณมีความรู้ด้านจิตวิทยาอาชญากร ดังนั้น เราอยากให้คุณช่วยเราหน่อย ไม่ทราบว่าคุณจะสะดวกหรือเปล่า?”ทางนั้นส่งข้อความตอบกลับมาในไม่ช้า
ดวงตาของเวินลั่วฉิงกะพริบ และบนใบหน้าของเธอก็มีความผิดหวังเล็กน้อยปรากฏออกมา เธอให้ความสนใจเรื่องการค้ามนุษย์เพราะว่าแม่ของเธอถูกคนอื่นลักพาตัวไปในตอนนั้น จากนั้นถูกขายไปในชนบทหนึ่งของเมืองลู่เฉิง แม่บอกว่า ตอนนั้นเธออายุเพียง5ขวบ แต่ไม่รู้ทำไม เธอจำเรื่องของอดีตไม่ได้แล้ว จำไม่ได้ว่าบ้านอยู่ที่ไหน จำไม่ได้ว่าพ่อแม่เป็นใคร แต่จำได้จางๆแค่ว่าตัวเองนามสกุลถัง และในชื่อของเธอก็มีคำว่าฉิ้นอยู่
ตอนนั้น ผู้ค้ามนุษย์พาแม่ของเธอไปที่ชนบทเล็ก ๆของเมืองลู่เฉิง และขายให้กับชาวนาบ้านหนึ่ง
ชาวนามีนามสกุลว่าหลี่ และมีลูกชายคนหนึ่งอายุ13ปี และที่พวกเขาซื้อแม่ไปเพราะต้องการให้แม่เป็นเจ้าสาวเด็ก และสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาในชนบทในเวลานั้น
แต่ว่าหลังจากนั้น ลูกชายของชาวนาบ้านนั้นก็เสียชีวิตด้วยอาการป่วย ชาวนาบ้านนั้นมีลูกชายแค่คนเดียว และลูกชายของพวกเขาก็เสียชีวิต และพวกเขาก็ไม่มีลูกคนอื่น ๆอีกเลย เพราะว่าชาวนาคนนั้นเหมือนว่าจะเคยป่วยเป็นโรคบางอย่างหลังจากที่ได้ลูกคนหนึ่ง จากนั้นเขาก็ไม่สามารถมีลูกได้อีก
เพราะแม่มีรูปร่างหน้าตาที่สวยงามตั้งแต่เด็ก และเป็นคนที่ประพฤติเรียบร้อย ดังนั้นชาวนาบ้านนั้นจึงดีกับแม่มาโดยตลอด และเลี้ยงดูแม่เหมือนเป็นลูกสาวของพวกเขา
แต่หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาในภายหลังจนทำให้ชะตากรรมของแม่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง และทำให้แม่กับชาวนาบ้านนั้นต้องแยกจากกัน
รูปลักษณ์ของแม่นั้นสวยงามมากเกินไป ต่อให้แม่เป็นชาวนา ต่อให้แม่ไม่แต่งตัว และต่อให้แม่สวมเสื้อผ้าเก่าๆ แต่แม่ก็ยังคงสวยและสะดุดตา
ในปีนั้นที่แม่อายุ15ปี แม่ถูกลูกคนรวยคนหนึ่งในชนบทตกหลุมรัก และถูกไอ้สารเลวคนนั้นข่มขืน หลังจากเกิดเรื่องแม่ก็โทรแจ้งตำรวจ แต่ตอนนั้นทางบ้านของลูกคนรวยคนนั้นให้เงินกับพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงของแม่ก้อนใหญ่ ดังนั้นพ่อและแม่เลี้ยงของแม่จึงถอนคำร้องทุกข์ อีกทั้งยังจะวางแผนให้แม่แต่งงานกับผู้ชายคนนี้อีกด้วย
ซึ่งแม่ก็ออกมาจากชนบทในเวลานั้นนั่นเอง และเป็นเพราะสาเหตุนี้ ตอนที่เธอยังเด็กแม่ของเธอก็จับเธอแต่งตัวให้ดูน่าเกลียด
ตอนเธอเด็กเธอไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ แต่เมื่อเธอโตขึ้น เธอก็ไม่ยอมแต่งตัวให้ดูน่าเกลียดอีก และก็เป็นตอนนั้นเอง ที่แม่เล่าเหตุการณ์บางอย่างในอดีตให้เธอฟัง
อันที่จริงแม่ของเธอนั้นอยากจะหาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของตัวเองมาโดยตลอด แต่เพราะว่าเธอจำเรื่องของสมัยตอนเด็กไม่ได้ และตอนนั้นหลายอย่างก็ด้อยพัฒนา ดังนั้นตอนที่แม่ของเธอเสียชีวิตก็จากไปด้วยความเสียใจ
จะว่าไป เรื่องมันก็ผ่านไปหลายปีแล้ว แต่ว่าเวินลั่วฉิงนั้นยังคงจำคำพูดที่แม่ของเธอพูดก่อนเสียชีวิตได้อย่างแม่นยำ
แม่บอกว่า หากว่าพ่อแม่ของแม่ยังอยู่ ไม่รู้ว่าพ่อแม่ของแม่จะจำได้หรือเปล่าว่ายังมีลูกสาวอย่างแม่อยู่คนหนึ่ง
ดังนั้น หลังจากนั้นเวินลั่วฉิงก็เริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ และเวินลั่วฉิงก็รู้ว่าเรื่องมันผ่านไปหลายปีแล้ว ไม่สามารถหาผู้ค้ามนุษย์ที่ค้าแม่ของเธอในตอนนั้นได้แล้ว แต่ว่าเวินลั่วฉิงก็ยังคงทิ้งข้อมูลของเธอไว้บนเว็บไซต์ทางการ
แต่เธอคาดไม่ถึงว่าพวกเขาจะติดต่อมาหาเธอกะทันหันในตอนนี้!