ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่396 บิดาผู้ให้กำเนิดของเด็ก(6)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่396 บิดาผู้ให้กำเนิดของเด็ก(6)
บทที่396 บิดาผู้ให้กำเนิดของเด็ก(6)
โดยเดิมทีเวิลั่วฉิงคิดว่าต่อให้เธอไม่สามารถช่วยแม่ของเธอตาหาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดได้ แต่เธอก็หวังว่าเธอจะสามารถช่วยเหลือเหยื่อเหล่านั้นได้
เพียงแต่ว่า เวินลั่วฉิงทิ้งข้อมูลของเธอไว้เมื่อสองปีก่อน และตอนนั้นเธอก็เพิ่งเรียนจบอาชญากรทางจิตวิทยา
เวินลั่วฉิงคาดไม่ถึงว่าเธอจะได้รับข้อความในตอนนี้อย่างกะทันหัน
“คุณถัง เรารบกวนคุณหรือเปล่า?”อาจเป็นเพราะฝ่ายนั้นเห็นว่าเวินลั่วฉิงไม่ได้ตอบอะไร จึงเอ่ยปากถามขึ้นอย่างสุภาพ
“เปล่าค่ะ แล้วไปที่ไหนคะ?”เวินลั่วฉิงดึงสติตัวเองกลับมา แล้วถามขึ้น ความหมายที่เวินลั่วฉิงถามคือถ้าเธอออกหน้าช่วยเหลือ เธอต้องไปที่ไหน?
“พวกเราอยู่เมืองA คุณถังสะดวกหรือเปล่าคะ?”ฝ่ายนั้นตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่เห็นเมืองA ดวงตาของเวินลั่วฉิงกะพริบอย่างรวดเร็ว เมืองAเหรอ มันช่างบังเอิญจริง ๆ
เธอเพิ่งออกมาจากเมืองAได้ไม่กี่วัน และตอนนี้เย่ซือเฉินก็คงกลับไปที่เมืองAแล้วมั้ง? เขาน่าจะรู้เรื่องหย่าร้างแล้วใช่ไหม?
และในเวลาเดียวกัน ทางด้านเย่ซือเฉินได้รับสายโทรศัพท์สายหนึ่ง:“พี่ใหญ่ เจอแล้ว เราเจอถังไป๋เชียนอยู่ที่ประเทศO”
เดินที เย่ซือเฉินสั่งให้ค้นหาทั่วทุกมุมโลก และโลกกว้างใหญ่ขนาดนี้ จะหาตัวคนที่หลบซ่อนไว้โดยเจตนา เป็นเรื่องที่ยากมาก
ดังนั้น ในเวลาเดียวกัน เย่ซือเฉินยังได้ใช้วิธีอื่น ๆในการตามหาถังไป๋เชียน และเวินลั่วฉิง
เย่ซือเฉินหาทุกคนที่เคยติดต่อเรื่องธุรกิจกับถังไป๋เชียน และขอให้พวกเขาติดต่อถังไป๋เชียน
เพื่อที่ถังไป๋เชียนจะซ่อนเวินลั่วฉิงไว้ เขาได้ละทิ้งรังของเขาทั้งหมด แต่ว่าถังไป๋เชียนยังต้องใช้ชีวิตในอนาคตอีก ดังนั้น ต่อให้ตอนนี้ถังไป๋เชียนไม่รับงาน ก็เป็นไปไม่ได้ว่าเขาจะทำให้ลูกค้าของเขาขุ่นเคืองทั้งหมด
และเย่ซือเฉินก็ให้ทุกคนติดต่อไปที่ถังไป๋เชียน เพื่อให้ถังไป๋เชียนออกมารับงาน
เย่ซือเฉินให้พวกเขาทุกคนบอกกับถังไป๋เชียนว่า หากครั้งนี้ไม่รับงาน ต่อไปพวกเขาก็จะไม่ร่วมมือกับถังไป๋เชียนอีก
เย่ซือเฉินไม่เชื่อว่าถังไป๋เชียนจะทำให้พวกเขาทุกคนขุ่นเคือง และตัดหนทางของเขาในอนาคตทั้งหมด
ถังไป๋เชี่ยนหาเลี้ยงชีพจากสิ่งนี้นะ
แต่ว่า แค่ระยะเวลาสามวันก็ได้ข่าวของเขาแล้ว ค่อนข้างไวจริง ๆ
เห็นได้ชัดว่าคนของเย่ซือเฉินนั้นทำงานมีประสิทธิภาพมาก
เพราะอย่างไรก็ตามถังไป๋เชียนนั้นไม่ใช่คนธรรมดา อีกอย่างความสามารถการหลบซ่อนตัวของถังไป๋เชียนนั้นสุดยอดมากเกินไป
ซึ่งแน่นอนว่า พวกเขาเจอถังไป๋เชียนถือว่าพวกเขาดวงดี และก็เป็นเพราะการโทรเข้าของถังหลิน ทำให้ถังไป๋เชียนกระวนกระวายเล็กน้อย
ความปรารถนาที่จะควบคุมของถังไป๋เชียนแข็งแกร่งเกินไป สำหรับความรู้สึกชอบของเขาแล้ว เขาพยายามควบคุมเธออย่างสมบูรณ์ แต่ว่าเวินลั่วฉิงนั้นไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไป จิตสำนึกของเวินลั่วฉิงนั้น แข็งแกร่งเกินกว่าจะควบคุมได้อย่างง่ายดาย
ดังนั้น หลานปีที่ผ่านมานี้ ถังไป๋เชียนได้ปิดบังสิ่งต่าง ๆที่เขาทำกับเวินลั่วฉิงหลายอย่าง แต่เรื่องทั้งหมดของเวินลั่วฉิง เขาเองก็คอยควบคุมมันอย่างลับๆ
เขาคิดว่า เรื่องของเวินลั่วฉิงเขารู้ดีหมดทุกอย่าง แต่ว่าคำพูดของถังหลินนั้นเป็นเหมือนหนามและได้ทิ่มแทงหัวใจของเขา และเมื่อเขาขยับความเจ็บปวดก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น
การแต่งงานระหว่างเวินลั่วฉิงและเย่ซือเฉินถือเป็นข้อยกเว้นแล้ว ดังนั้นเขาไม่สามารถปล่อยให้สิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของเขาเกิดขึ้นอีกต่อไป
ดังนั้น เขาอยากจะตรวจสอบเรื่องราวทั้งหมดให้ละเอียดในขณะที่เวินลั่วฉิงยังดูแลจื่อโม่อยู่
เขาจะตรวจสอบ แน่นอนว่าเขาจะอยู่แบบซ่อนตัวอย่างสมบูรณ์ไม่ได้ และเขาจำเป็นต้องออกไปข้างนอก และต้องปรากฏตัวอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงถูกคนของเย่ซือเฉินเห็นเข้าโดยบังเอิญ
“ถังไป๋เชียนนี่มัน พยายามจริง ๆ ”เย่ซือเฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย และแสดงรอยยิ้มจางๆออกมาเล็กน้อย แต่ว่าดูแล้วมันไม่เหมือนยิ้ม และดูน่ากลัวเป็นพิเศษ
เย่ซือเฉินคิดว่าถังไป๋เชียนจะหาสถานที่หลบซ่อนตัวไว้ แต่ว่าเขากลับมาพบเจอถังไป๋เชียนอยู่ที่ประเทศO ซึ่งทำให้เขารู้สึกชื่นชมความฉลาดแกมโกงของถังไป๋เชียนจริง ๆ
ประเทศOเป็นประเทศเล็ก ๆ แต่ว่าเป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรืองมาก และการคมนาคมก็สะดวกเป็นพิเศษ มีคำกล่าวกล่าวว่าซ่อนตัวธรรมดาให้ซ่อนที่เมืองใหญ่ และซ่อนตัวอย่างมิดให้ซ่อนที่ป่า และถังไป๋เชียนก็นำคำกล่าวสองคำนี้มารวมเข้ากันเป็นอย่างดี
ในเมื่อถังไป๋เชียนอยู่ที่ประเทศO ถ้าอย่างนั้นเวินลั่วฉิงก็ต้องอยู่ที่ประเทศOแน่นอน
“ถังไป๋เชียนเห็นพวกคุณหรือเปล่า?”แววตาของเย่ซือเฉินมืดมนลง และน้ำเสียงของเขาก็เย็นชาลงเล็กน้อย เพราะนี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ด้วยความระมัดระวังของถังไป๋เชี่ยนมีความเป็นไปได้ว่าเขาจะพบความผิดปกติ และเมื่อถังไป๋เชี่ยนพบความผิดปกติ เขาจะจะหาวิธีเคลื่อนย้ายอย่างแน่นอน
“ไม่เห็นครับ พี่ใหญ่สั่งว่าให้รีบรายงานทันทีที่ได้เบาะแส และห้ามแหวกหญ้าให้งูตื่น พวกเขาต่างก็จะไม่ทำอะไรผลีผลามแน่นอน และในตอนนั้นถังไป๋เชียนดูเหมือนจะรีบร้อนเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงไม่เห็นพวกเรา”
“ดีมาก”มุมริมฝีปากของเย่ซือเฉินยกขึ้นเล็กน้อย และในครั้งนี้เขาก็แสดงรอยยิ้มขึ้นมาจริง ๆ แต่ว่ารอยยิ้มนั้นย่อมไม่มีความอบอุ่นอยู่เลย
ในเมื่อเจอตัวแล้ว งั้นสิ่งต่อไปก็เป็นเรื่องง่ายแล้ว
“พี่ใหญ่ จะย้ายคนไปที่ประเทศOหรือเปล่าครับ?”คนที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ถามขึ้นอย่างระมัดระวัง เพราะคำว่าดีมากคำนั้นของพี่ใหญ่ฟังดูน่ากลัวมาก
“ไม่ต้อง”เย่ซือเฉินกลับปฏิเสธโดยตรง สถานการณ์แบบนี้จะแหวกหญ้าให้งูตื่นไม่ได้
ความระมัดระวังของถังไป๋เชี่ยนนั้นสูงมาก และถ้าเขาเคลื่อนย้ายคนไปล่ะก็ ถังไป๋เชี่ยนต้องรู้ตัวแน่นอน
เขาไม่อยากให้ถังไป๋เชี่ยนพาเวินลั่วฉิงเคลื่อนย้ายไปที่อื่นแล้ว
“คุณส่งที่อยู่ที่พบถังไป๋เชี่ยนมาให้ฉันอย่างละเอียด ฉันไปเอง”เย่ซือเฉินตัดสินใจไปที่นั่นด้วยตัวเอง เพราะถ้าให้คนอื่นไปเขารู้สึกไม่วางใจ อีกอย่างเขาอยากเห็นเวินลั่วฉิงก่อนเป็นอันดับแรก
ไม่เจอหลายวัน เขาพบว่าเขายิ่งอยู่ยิ่งคิดถึงเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ และคิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ!
และในเวลานี้เอง เวินลั่วฉิงก็กำลังมองดูข้อความบนมือถือของเธอด้วยความงุนงง เมืองA?
ไม่รู้ทำไม เมื่อเธอนึกถึงเธอต้องกลับไปที่เมืองA จู่ ๆในใจของเธอก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย เหมือนกับว่าถ้าเธอกลับไปแล้วจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น
“คุณถัง คุณสะดวกมาหรือเปล่า?”ทางนั้นไม่ได้รับการตอบกลับของเวินลั่วฉิง จึงถามขึ้นอีกครั้ง
“ฉันขอคิดดูก่อน”เวินลั่วฉิงถอนหายใจ และลังเลไปชั่วขณะ จากนั้นส่งข้อความตอบกลับไปให้ทางนั้น
ตอนนั้นเธอทิ้งข้อมูลไว้เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือคนที่ต้องการช่วยเหลือ ตามหลักแล้วเหตุการณ์แบบนี้ เธอควรจะกลับไป แต่ไม่รู้ทำไม เธอรู้สึกลังเลเล็กน้อยในขณะนี้
“คุณถัง อาชญากรหลักของการค้ามนุษย์ที่เราจับกุมมาในครั้งนี้มีหลายคนเป็นคนของเมืองลู่เฉิง และหนึ่งในนั้นเป็นมาจากหมู่บ้านซิงหูในเมืองลู่เฉิง เราเห็นข้อมูลที่คุณถังทิ้งไว้ว่าคุณมาจากหมู่บ้านซิงหูในเมืองลู่เฉิง และที่พวกเราติดต่อที่คุณถัง ก็เพราะเหตุผลนี้”หลังจากผ่านไปสักพัก คนนั้นก็ส่งข้อความกลับมาอีกครั้ง
เมื่อเวินลั่วฉิงเห็นหมู่บ้านซิงหูแห่งเมืองลู่เฉิง ดวงตาของเธอก็กะพริบอย่างรวดเร็ว และในตอนนั้น แม่ของเธอก็ถูกขายไปยังหมู่บ้านซิงหูที่เมืองลู่เฉิงนั่นเอง
แม่บอกว่า ตอนที่แม่ตื่นขึ้นมาก็ถูกตระกูลหลี่ซื้อกลับไปที่หมู่บ้านแล้ว ดังนั้น แม่ไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนขายเธอในตอนนั้น
หากว่าผู้ค้ามนุษย์คนนั้นมาจากหมู่บ้านซิงหูในเมืองลู่เฉิง เขาจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับแม่ของเธอหรือเปล่า หรือเป็นไปได้หรือไม่ว่าแม่ของเธอถูกขายโดยผู้ค้ามนุษย์คนนี้
“ผู้ค้ามนุษย์ที่มาจากหมู่บ้านซิงหูคนนั้นอายุเท่าไหร่?”เวินลั่วฉิงรีบถามกลับอย่างรวดเร็ว จะว่าไป เรื่องที่แม่ของเธอถูกขายผ่านไป40ปีแล้ว และอันที่จริงความหวังในเรื่องนี้ก็ค่อนข้างน้อยมาก แต่เมื่อพบกับความบังเอิญเช่นนี้ ภายในใจของเวินลั่วฉิงก็อดไม่ได้ที่จะมีความหวังขึ้นมาเล็กน้อย