ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่485 คุณชายสามเย่เป็นพ่อแท้ๆของเด็ก(1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่485 คุณชายสามเย่เป็นพ่อแท้ๆของเด็ก(1)
บทที่485 คุณชายสามเย่เป็นพ่อแท้ๆของเด็ก(1)
“ไม่รู้ว่าซือเฉินรู้เรื่องนี้แล้วหรือยัง” แต่คุณย่าเย่กลับคิดไปถึงอีกปัญหาหนึ่ง คุณย่าเย่รู้ว่าปัญหานี้ต่างหากที่สำคัญที่สุด
“ถ้าหากซือเฉินไม่รู้เรื่องนี้ พวกเราก็บอกกับเขา เรื่องมันจะได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าหากซือเฉินรู้แล้ว กลัวว่าเรื่องนี้จะยุ่งยากกว่าเดิม นิสัยของซือเฉินคุณเองก็รู้”
“ฮึ่ย เรื่องอื่น ผมสามารถปล่อยเขาได้ แต่เรื่องนี้ผมปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด แต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่สามารถมีลูกให้ได้ เขาอยากจะทำให้ตระกูลเย่ของพวกเราไม่มีคนสืบตระกูลหรืออย่างไรกัน? เรื่องนี้ต่อให้ตายผมก็ไม่ยอม ถ้าหากเขายังกล้าแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นอีก ผมจะตายให้เขาดู” เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้คุณปู่เย่ไม่ยอมเปลี่ยนใจแล้ว แม้กระทั่งคิดถึงจะเอาความตายมาขู่เย่ซือเฉินเสียด้วยซ้ำ
“เดิมทีแล้วผมก็ไม่ได้ชอบเธอหรอก ทั้งขี้เหร่ ทั้งโง่ ตอนนี้ตระกูลเวินล้มละลายแล้ว ให้ซือเฉินตัดขาดจากเธอซะ ตัดให้ขาดซะ” คุณปู่เย่มองดูหนังสือวินิจฉัยโรคฉบับนี้ แล้วยิ่งมีอคติกับเวินลั่วฉิงมากขึ้นกว่าเดิม
“ผมจะโทรหาซือเฉินเดี๋ยวนี้เลย ให้เขาตัดขาดอย่าได้ไปพัวพันกับผู้หญิงคนนั้นอีก แล้วก็ คุณรีบไปเลือกคนที่เหมาะสมมาให้กับซือเฉิน ให้ซือเฉินแต่งงานเร็วๆ” ภายในเวลาสั้นๆคุณปู่เย่ได้จัดการทุกอย่างไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โจ๋วอันหนานที่อยู่ภายในห้องได้ยินคำพูดของคุณปู่แล้ว มือสั่นขึ้นมาเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกังวล หรือว่าตื่นเต้น หรือจะเป็นเพราะเรื่องอื่น…..
“คุณโทรไปหาซือเฉินตอนนี้ มันจะดูเป็นการรีบร้อนไปหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นพวกเราลองหยั่งเชิงซือเฉินดูก่อนดีไหมแล้วค่อยบอก” คุณย่าเย่ดูลังเลอยู่บ้าง เห็นได้ชัดว่าเธอดูคิดมากกว่าคุณปู่เย่เสียอีก
“ยังจะหยั่งเชิงทำอะไรอีก ผมจะบอกคุณให้นะ เรื่องนี้ซือเฉินจะต้องรู้แล้วแน่ๆ ซือเฉินคงจะต้องมาหาอันหนาน ไม่อย่างนั้น ผลวินิจฉัยของเวินลั่วฉิงจะมาอยู่ที่อันหนานได้อย่างไรกัน?” คุณปู่เย่ในเวลานี้สงบนิ่ง วิเคราะห์ได้อย่างรอบครอบยิ่งนัก
คุณย่าเย่ไม่ได้เอ่ยพูดออกมาอีก ความจริงแล้ว ตรงจุดนี้เธอเองก็คิดอยู่เช่นกัน ถ้าหากเป็นเช่นนี้ เกรงว่าเรื่องราวจะยิ่งยุ่งยากขึ้นไปอีก
“แต่ซือเฉินจะต้องอยากให้อันหนานดูว่าสถานการณ์ของเวินลั่วฉิงในตอนนี้จะยังพอมีวิธีรักษาได้หรือเปล่าแน่ๆ ผลการตรวจวินิจฉัยมาอยู่บนโต๊ะของอันหนานในตอนนี้ นั่นก็แสดงว่าอันหนานเองก็เพิ่งจะรู้ผลเหมือนกัน ตอนนี้ซือเฉินคงจะยังไม่รู้ผลสุดท้ายหรอกนะคุณ”
“ในเมื่อตอนนี้ซือเฉินยังไม่รู้ผลสุดท้าย ผมก็จะโทรบอกเรื่องนี้กับเขานี่ไง ให้เขาเลิกล้มความตั้งใจซะ” คุณปู่เย่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่กลับหยุดลงอีกครั้ง
“คุณโทรไปหาเขา คุณบอกเขาซะ คำพูดของผมเขาคงจะไม่เชื่อ คุณบอกเขาว่าโรคของเวินลั่วฉิงไม่สามารถรักษาให้หายได้ ถ้าหากเขาไม่ตัดขาดกับผู้หญิงคนนั้น ถ้าหากไม่แต่งงานตามที่ผมจัดการเอาไว้ให้ ก็รอจัดงานศพของคนแก่อย่างพวกเราได้เลย”
คุณปู่เย่เอาโทรศัพท์ยื่นให้ตรงหน้าคุณย่าเย่ ด้วยใบหน้าที่เหี้ยมโหด
มองออกว่าครั้งนี้คุณปู่เย่ไม่ได้แค่พูดๆไปเพียงเท่านั้น
คุณย่าเย่รับโทรศัพท์จากคุณปู่เย่มา มือสั่นเบาๆ : “คุณจะให้เขารีบแต่งงาน แต่เราจะไปหาตัวเลือกที่เหมาะสมให้เขาได้ที่ไหนล่ะ?”
ก่อนหน้านี้เธอค่อนข้างพอใจกับเฉียวหยูหนาน แต่หลังจากที่เกิดเรื่องครั้งนี้ขึ้นแล้ว เธอได้ยกเว้นเฉียวหยูหนานไปแล้ว
คุณย่าเย่เองก็ไม่อยากจะบีบเย่ซือเฉินมากเกินไป เธอเข้าใจนิสัยของเย่ซือเฉินดี เธอกลัวว่าถึงตอนนั้นแล้วเรื่องจะกลายเป็นตรงกันข้าม
“ถึงอย่างไรเป็นผู้หญิงก็ดีกว่าเวินลั่วฉิงทั้งนั้นแหล่ะ จากเงื่อนไขของตระกูลเย่ เงื่อนไขของซือเฉิน ใครจะไม่อยากแต่งเข้ามาบ้าง คุณลองคิดดูว่าลูกตระกูลไหนบ้างที่ค่อนข้างจะอ่อนโยน เชื่อฟัง ก็เลือกมาสักคน ให้เขาแต่งงานกันก่อนแล้วค่อยว่ากัน” ที่สำคัญที่สุดตอนนี้คุณปู่เย่คิดที่จะอยากให้เย่ซือเฉินตัดขาดกับเวินลั่วฉิงอย่างหมดจด ส่วนเย่ซือเฉินจะไปแต่งงานกับใครนั้นก็ไม่สำคัญ
ในห้อง ร่างของโจ๋วอันหนานขยับเล็กน้อย มุมปากปรากฏยิ้มบางๆออกมา
“อันหนานเจ้าเด็กนี่ทำไมยังไม่กลับมาอีก ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเรากลับไปกันก่อน กลับไปแล้วค่อยโทรหาสือเฉิน” คุณย่าเย่ยังคิดจะถ่วงเวลาเอาไว้ก่อน เรื่องนี้ถ้ารีบร้อนเกินไปก็คงจะไม่ดีแน่
“คุณอยากจะยืดเวลาออกไปสินะ ผมได้ยินมาว่าเขาเตรียมจะบริหารจัดการเรื่องของบริษัทเวินซื่อกรุ้ปแล้ว ถ้าหากเขาแทรกมือเข้าไปเกรงว่าคงจะสะบัดผู้หญิงน่าเกลียดนั่นไม่ได้แล้วนะ คุณรีบโทรหาเขาเลย” คุณปู่เย่จะมองความคิดของคุณย่าเย่ไม่ออกได้อย่างไรกัน เขาก็ไม่ได้อยากจะให้ยืดเวลาเรื่องนี้ออกไปอีก ยิ่งยืดออกไปก็ยิ่งไม่ดี
ในที่สุดคุณย่าเย่ก็ขัดคุณปู่เย่ไม่ได้ คิดแล้วนั้น จึงหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา แล้วกดโทรออกหาเย่ซือเฉิน
เย่ซือเฉินกดรับสายอย่างรวดเร็ว : “คุณย่า มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“ซือเฉิน ย่ากับคุณปู่อยู่กับอันหนานนะตอนนี้” น้ำเสียงของคุณย่าเย่ดูมีความลังเล ดังนั้นจึงเอ่ยพูดออกมาอย่างเชื่องช้า
“เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ?” ดวงตาของเย่ซือเฉินหนักหน่วงขึ้นมาเล็กน้อย คิดว่าทั้งสองคนเป็นโรคอะไรร้ายแรง
“ย่าเห็นผลวินิจฉัยฉบับนึงวางอยู่บนโต๊ะของอันหนาน”
“ของใครครับ?” เย่ซือเฉินเอ่ยถามต่อ ตอนนี้เย่ซือเฉินคิดเพียงว่าเป็นของคุณปู่ หรือของคุณย่าเท่านั้น เขาไม่ได้คิดไปถึงคนอื่นเลยเสียด้วยซ้ำ
“เป็นของเวินลั่วฉิง” คุณย่าเย่แอบถอนหายใจออกมา ในที่สุดก็พูดออกมาแล้ว
เย่ซือเฉินรู้สึกอึ้งไปสองวินาที หลังจากนั้นจู่ๆก็เข้าใจขึ้นมาแล้ว
“แล้วยังไงครับ?” ในเมื่อเข้าใจแล้ว เย่ซือเฉินเองก็เข้าใจถึงเจตนาที่คุณย่าโทรมาหาเขาแล้วเช่นกัน น้ำเสียงของเขานั้นดูหนักแน่นอย่างเห็นได้ชัด
“ผลตรวจวินิจฉัยของอันหนานเขียนระบุเอาไว้ว่าเวินลั่วฉิงไม่สามารถมีลูกได้ แล้วก็ไม่มีวิธีรักษาด้วย” คุณย่าเย่เอ่ยพูดตามเนื้อหาของผลวินิจฉัยนี้ขึ้นมา
“แล้วยังไงครับ?” ทางปลายสาย ดวงตาของเย่ซือเฉินหรี่ลงเล็กน้อย มือที่ถือโทรศัพท์มือถืออยู่นั้นกำแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
คุณย่าเย่ได้ยินน้ำเสียงของเขาในตอนนี้แล้ว ก็ไม่สามารถเอ่ยพูดต่อได้
“เจ้าเด็กบ้า แกรีบตัดขาดความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้นซะ แล้วรีบกลับมาแต่งงานให้ฉันเดี๋ยวนี้” คุณปู่เย่หยิบโทรศัพท์มือถือมาจากมือของคุณย่าเย่ แล้วพูดตวาดขึ้นมา
“แต่งงาน? กับใครครับ?” มุมปากของเย่ซือเฉินปรากฏรอยยิ้มเย็นชาออกมา พลางเอ่ยถามอย่างไม่เร่งรีบเท่าไหร่นัก
“ย่าแกจะเลือกคนที่เหมาะสมมาให้แกคนนึง แกเตรียมตัวไว้แล้วกัน รีบกลับมาแต่งงานก็พอ”
“แล้วถ้าหากผมไม่รับปากล่ะครับ?” เย่ซือเฉินได้ยินคำพูดของคุณปู่เย่ ดวงตายิ่งมืดมนลงและเย็นชามากขึ้น
“แกไม่รับปากก็เตรียมจัดงานศพฉันได้เลย” คุณปู่เย่ตะคอกกลับไป เห็นได้ชัดว่าเป็นคำขู่นั่นเอง
“ได้ครับ คุณปู่วางใจได้ ผมจะจัดให้เป็นอย่างดีเลยครับ” อีกทางด้านหนึ่ง จู่ๆเย่ซือเฉินกลับหัวเราะออกมา เพียงแต่เสียงหัวเราะนั้นดูเย็นชาอย่างเห็นได้ชัด เป็นความเย็นชาที่ให้ความรู้สึกขนลุกแบบนั้น
หลังจากนั้นเย่ซือเฉินก็วางสายไปเลย
“เจ้าเด็กบ้านี่ นี่จะให้โมโหจนตายไปเลยรึไง มัน มัน……” คุณปู่เย่รู้สึกโมโหเสียจนแทบจะหายใจหอบถี่ขึ้นมาแล้ว
“นี่คุณ ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ก็ปล่อยๆไปเถอะ ตอนนี้ซือเฉินเองก็ไม่ได้บอกว่าจะกลับไปแต่งงานกับเวินลั่วฉิงอีก พวกเราไม่ต้องไปบังคับเขาให้แต่งงานหรอก” เมื่อครู่นี้คุณยายเย่อยู่ใกล้ จึงได้ยินคำพูดของเย่ซือเฉิน