ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่486 คุณชายสามเย่เป็นพ่อแท้ๆของเด็ก(2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่486 คุณชายสามเย่เป็นพ่อแท้ๆของเด็ก(2)
บทที่486 คุณชายสามเย่เป็นพ่อแท้ๆของเด็ก(2)
คุณย่าเย่รู้ว่าเรื่องนี้ยุ่งยากกว่าที่เธอคิดไว้ก่อนหน้านี้ เพราะถึงอย่างไรหลานของเธอ เธอเองก็รัก
“รอให้พวกเขากลับไปแต่งงานกันใหม่ตอนนั้นก็สายไปแล้ว เรื่องนี้จะต้องรีบจัดการให้เร็ว ฮึ่ย มันคิดว่าผมแค่จะทำให้มันตกใจอย่างนั้นหรือ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะอดอาหาร ถ้ามันไม่ยอมแต่งงาน ผมก็จะกระโดดตึกลงมาให้มันดู แล้วก็ไปรับโป๋เหวินกลับมา ดูซิว่าคำพูดของโป๋เหวินมันจะฟังหรือเปล่า? ดูว่ามันจะสนใจความเป็นความตายของโป๋เหวินไหม?” ตอนที่คุณปู่เย่เอ่ยพูดออกมานั้น สีหน้าท่าทางของเขานั้นดูน่ากลัวอยู่บ้าง เห็นแล้วดูไม่เหมือนกับพูดๆไปอย่างนั้นเลยจริงๆ
โจ๋วอันหนานที่อยู่ในห้องได้ยินคำพูดของคุณปู่แล้ว ดวงตาหม่นลงเล็กน้อย ในปีนั้น คุณปู่เย่บีบบังคับมารดาของเย่ซือเฉินจนจำเป็นต้องจากไป จำที่จะต้องแยกกันกับเย่ซือเฉิน โดยวิธีนั้นไม่ใช่ว่าจะโหดเหี้ยมธรรมดาๆเท่านั้น
ถ้าหากตอนนี้ คุณปู่จะบีบบังคับเย่ซือเฉินแบบนั้นอีก เย่ซือเฉินจะเป็นแบบนั้นหรือเปล่า?
โจ๋วอันหนานกำลังคิดอยู่นั้น แล้วรีบลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว คิดอยากจะออกไป
เพียงแต่เธอที่นั่งยองๆอยู่เป็นเวลานานเมื่อครู่นี้ ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วเกินไป ทำให้รู้สึกเวียนหัวเป็นอย่างมาก อีกทั้งขาก็รู้สึกชาอีกด้วย จึงต้องนั่งลงไปที่พื้นแทน
“อันหนานยังไม่กลับมา ร่างกายของคุณเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเรากลับกันก่อนเถอะนะ เรื่องนี้กลับไปค่อยคุยกัน” คุณย่าเย่รู้ว่าถ้าหากเรื่องนี้บานปลายขึ้นมา ในครอบครัวก็คงจะสงบลงยากแล้ว
“อืม หลังจากที่กลับไปแล้ว ผมจะรีบให้คนพาตัวโป๋เหวินกลับมา ส่วนเรื่องการแต่งงานของซือเฉินคุณเองก็รีบวางแผนเอาไว้ซะ” คุณปู่เย่ตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่มีช่องทางที่จะได้ปรึกษาใดๆทั้งสิ้น
เดิมทีคุณย่าเย่ก็ไม่ชอบเวินลั่วฉิง เพียงแต่เธอคิดว่าเธอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของเย่ซือเฉินได้ และเป็นเพราะการแสดงออกมาให้เห็นของเวินลั่วฉิงที่อยู่ในตระกูลกู้ เธอรู้ว่าเวินลั่วฉิงไม่ได้ซื่อ และไม่ได้โง่ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเดิมทีแล้วเธอคิดว่าเรื่องนี้เธอสามารถจะหลับหูหลับตายอมๆไปได้ แต่เวินลั่วฉิงไม่สามารถมีลูกได้ ถ้าหากซือเฉินแต่งงานกับลั่วฉิงแล้ว ชาตินี้ก็จะไม่สามารถมีลูกได้ ไม่สามารถเป็นพ่อคนได้ และตระกูลเย่ของพวกเขาก็คงจะต้องสิ้นสุดลง
ดังนั้น ครั้งนี้ คุณย่าเย่จึงไม่ได้คัดค้านวิธีของคุณปู่เย่
หลังจากที่ทั้งสองคนออกไปแล้ว โจ๋วอันหนานถึงได้ลุกขึ้นมา แล้วค่อยๆเดินออกมา แววตาของเธอนั้นมองไปที่ผลวินิจฉัยที่อยู่บนโต๊ะ แล้วแอบถอนหายใจออกมา
ออฟฟิศประธานบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป
หลังจากที่เย่ซือเฉินวางสายไปแล้วนั้น สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นดูอึมครึมมากกว่าเดิม หรือแม้กระทั่งดูจะน่ากลัวเสียด้วยซ้ำ
ก่อนหน้านี้เขาขอให้โจ๋วอันหนานดูสถานการณ์ของเวินลั่วฉิงว่าจะยังพอมีวิธีอยู่บ้างหรือไม่ คาดว่าผลเพิ่งจะออกมา และถูกคุณปู่เย่เห็นเข้าพอดี
เพียงแต่โจ๋วอันหนานจะทำอะไรนั้นละเอียดรอบคอบมาโดยตลอด ทำไมถึงได้เกิดความประมาทขึ้นมาแบบนี้กัน?
ตอนนี้คุณปู่เย่รู้สถานการณ์ของเวินลั่วฉิงแล้ว ยังไม่รู้ว่าจะทำเรื่องอะไรอีก
คุณปู่เย่นั้นจะทำอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น ทั้งวิธีที่โหดร้าย เล่นแง่ เพียงแค่ใช้ได้ผล คุณปู่ก็จะใช้
ลองถามดูได้ว่ามีแม่คนไหนที่จะยอมแยกกับลูกตัวเองบ้าง แต่ตอนนั้นแม่ของเขาถูกคุณปู่บีบบังคับให้ไป
เห็นได้ว่าวิธีการของคุณปู่ที่เจอนั้นโหดร้ายเพียงใด!
ในปีนั้น เพียงแค่แม่มีวิธีเพียงเล็กน้อยก็จะไม่สามารถออกไปจากเมืองAได้ และเป็นไปไม่ได้ที่จะไปจากเขา
หรือแม้กระทั่งในตอนนั้นแม่รับปากคุณปู่ด้วยว่าจะไม่มาเจอหน้าลูกชายแท้ๆของตัวเองอีก เป็นการคาดเดาที่ยากมาว่าตอนนั้นคุณปู่ทำอะไรลงไปกันแน่ถึงได้ทำให้แม่รับปากเงื่อนไขแบบนั้น
ตอนนั้นเขาเพิ่งจะอายุเก้าขวบ ดังนั้นเรื่องบางเรื่องเขาเองก็รู้ได้ไม่ครอบคลุมสักเท่าไหร่ แต่เพียงแต่สิ่งเหล่านั้นที่คุณปู่ทำนั้นก็เพียงพอที่จะทำให้รู้สึกใจหายได้แล้ว
วันนี้ คุณปู่รู้เรื่องที่เวินลั่วฉิงไม่สามารถมีลูกได้แล้ว เพื่อจะบังคับให้เขาแยกออกจากเวินลั่วฉิง สิ่งที่จะทำนั้นเกรงว่าจะโหดร้ายกว่าในตอนนั้นเสียอีก
ถ้าหากคุณปู่เย่จะซุ่มโจมตีหรือจะโจมตีเขาอย่างเปิดเผยนั้น เขาเองก็ไม่กลัว กลัวแค่ว่าคุณปู่จะใช้วิธีเล่นแง่เหล่านั้นเสียมากกว่า ที่เอาวิธีไม่เธอตาย ฉันก็ตายมาขู่เขา กลัวแค่……
แต่ไม่ว่าเขาจะทำอย่างไร ก็ยังคงเป็นคนของตระกูลเย่อยู่ดี
สีหน้าของเย่ซือเฉินนั่นเคร่งขรึมมากขึ้นไปอีก แต่ความแน่วแน่ในแววตานั้นกลับไม่ไหวติง เขาไม่ใช่พ่อกับแม่ในตอนนั้น ไม่ว่าคุณปู่เย่จะทำอะไร เขาก็จะแต่งงานกับเวินลั่วฉิง
เพียงแต่ว่า ต่อไปเขาก็คงจะต้องป้องกันคุณปู่เอาไว้บ้างเสียแล้ว
เวลานี้เวินลั่วฉิงกำลังรีบไปหาถังหลิน ที่อยู่ที่ถังหลินส่งมาให้เธอนั้นค่อนข้างไกล เกือบจะอยู่นอกเมือง เวินลั่วฉิงขับรถไปเอง เป็นเวลาสองชั่วโมงกว่าถึงจะถึงที่หมาย
ส่วนถังหลินนั้นถึงจุดนัดพบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขากำลังยืนรอเธออยู่ตรงลานกว้าง
เมื่อเห็นเวินลั่วฉิงแล้ว ถังหลินมองไปยังรถที่เธอขับมา : “นี่รถของเย่ซือเฉินนี่ อะไรกัน? พวกเธอคืนดีกันอีกแล้วหรือ?”
“คุณชายถังมีธุระอะไรก็ว่ามาเลยเถอะค่ะ” เห็นได้ชัดว่าเวินลั่วถิงไม่อยากคุยถึงประเด็นนี้ รถคันนึงเท่านั้น วันนี้ก็ถูกถามถึงสองครั้งแล้ว ครั้งแรกเป็นคุณปู่ และตอนนี้ก็กลายมาเป็นถังหลินอีก ไม่จบไม่สิ้นเสียที
“ได้ เธอเข้ามาสิ” ถังหลินไม่ได้เอ่ยถามอีก เนื่องจากว่าเขามีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่านั่นเอง
เวินลั่วฉิงเดินตามเขาเข้ามาในห้อง
และเมื่อถังหลินเข้ามาในห้องนั้น ก็เอาผลตรวจDNAทั้งสองฉบับยื่นมาตรงหน้าของเวินลั่วฉิง : “เธอลองดูสิ”
เวินลั่วฉิงรีบรับมา ตอนที่เห็นผลที่อยู่ด้านบนนั้น ก็แอบถอนหายใจออกมา ผลการวินิจฉัยคือความสัมพันธ์แบบญาติพี่น้องทางสายเลือด นั่นก็คือแม่ของเธอนั้นเป็นลูกสาวคนเล็กที่หายตัวไปของตระกูลถังนั่นเอง
ในเมื่อแม่เป็นคนของตระกูลถัง ทำไมถังหลินถึงได้เพิ่งจะมาติดต่อเธอในตอนนี้กัน?
“ความจริงแล้วผลออกมาในวันที่สองแล้วล่ะ พอผลออกมา ฉันก็โทรหาเธอเลย” ถังหลิงเห็นถึงความสงสัยของเธอ เขารู้สึกว่าเรื่องราวเหล่านั้นควรจะต้องให้เวินลั่วฉิงได้รับรู้แล้ว
เวินลั่วฉิงรู้สึกงงงวย ดวงตาคู่นั้นมองไปที่เขาอย่างรวดเร็ว : “ฉันไม่ได้รับโทรศัพท์จากคุณนี่คะ?”
เป็นเพราะเรื่องเกี่ยวกับแม่ ช่วงสองสามวันนั้นเธอเองก็รอให้ถังหลินโทรมาตลอด
“ฉันรู้ เป็นเพราะว่าโทรศัพท์มือถือของเธอถูกบล็อกเอาไว้ ก็เลยรับสายนอกไม่ได้” คำพูดนี้ของถังหลินนั้นพูดออกมาอย่างชัดเจนแล้ว
ดวงตาของเวินลั่วฉิงเป็นประกายขึ้นมาอย่างรวดเร็ว สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อย บล็อกโทรศัพท์ของเธออย่างนั้นหรือ?
ตอนนั้นเธออยู่ที่ประเทศM อยู่ด้วยกันกับพวกรุ่นพี่ คนที่จะสามารถบล็อกโทรศัพท์ของเธอได้ก็อาจจะมีเพียงรุ่นพี่เท่านั้น
เวินลั่วฉิงไม่ได้สงสัยในคำพูดของถังหลิน เนื่องจากว่าเธอรู้ว่าถังหลินไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องโกหกเธอ และเธอเองก็มองออกเช่นกันว่าถังหลินไม่ได้โกหก
“ทำไมเขาต้องทำแบบนี้?” เวินลั่วฉิงเม้มปาก น้ำเสียงทุ้มต่ำลง เธอไม่เข้าใจว่าทำไมรุ่นพี่ถึงทำแบบนี้
ถังหลินผงะไปเล็กน้อย แล้วก็ยิ้มออกมา เด็กคนนี้ฉลาดอย่างที่คิดไว้จริงๆ เพียงแค่แป๊ปเดียวก็เข้าใจแล้ว และที่ทำให้เขารู้สึกปลื้มใจก็คือ เธอเชื่อเขา
“เขาไม่อยากให้เธอกลับมาที่ตระกูลถังยังไงล่ะ” ในเมื่อเวินลั่วฉิงเชื่อในคำพูดของเขา ถังหลินเองก็ไม่มีอะไรให้กังวลแล้ว จึงพูดความจริงออกมา
ดวงตาของเวินลั่วฉิงหรี่ลงเล็กน้อย : “ฉันกลับไปที่ตระกูลถังแล้วจะเป็นการทำร้ายเขาอย่างนั้นหรือคะ?”
จุดนี้เวินลั่วฉิงยิ่งไม่เข้าใจขึ้นไปอีก ระหว่างถังหลินกับรุ่นพี่มีการทะเลาะอะไรกันอย่างนั้นหรือ?
“เขาอยากจะให้เธออยู่ข้างๆเขาตลอดไป” ดวงตาของถังหลินเองก็ปรากฏความเคร่งขรึมขึ้นมา เรื่องเหล่านั้นที่ถังไป๋เชียนทำดูเกินไปอยู่จริงๆ
ร่างของเวินลั่วฉิงแข็งทื่อ เพื่อที่จะให้เธออยู่ข้างๆกายเขา ดังนั้นจึงหลอกเธอ ปิดบังเธอ แม้กระทั่งบล็อกโทรศัพท์ของเธอด้วยอย่างนั้นหรือ?