ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่526 เปิดเผยตัวตนของเธอ ในที่สุดคุณชายสามเย่ก็ได้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเธอ （4）

บทที่526 เปิดเผยตัวตนของเธอ ในที่สุดคุณชายสามเย่ก็ได้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเธอ （4）

“สาวน้อยไม่ต้องกลั้นไว้ อยากหัวเราะก็หัวเราะ คนขี้ขลาด ตาขาวเช่นนี้ก็คงทำได้แค่ให้สร้างความบันเทิงเท่านั้น”

คำพูดของท่านปู่ถังถือว่า‘โหดเหี้ยมมาก’และน่าจะเป็นคำพูดที่แย่ที่สุดในชีวิตของเขาแล้ว

ในขณะนี้กู้เจิ้งฉุนโกรธจนหน้าดำหน้าแดง แทบจะอาเจียนเป็นเลือดแล้ว

“ยังจะยืนอยู่ตรงนี้อีกทำไม ควรทำอะไรก็ไปทำ อย่าอยู่รบกวนคุณถังเลย”

ดวงตาของท่านปู่ถังกวาดไปที่ทุกคน เริ่มไล่คนแล้ว

“ท่านปู่ นี่” คนแซ่กงตะลึง มองไปที่เวินลั่วฉิง เหมือนกำลังอยากจะพูดอะไร

“มีอะไรเหรอ คุณจะขัดขวางสาวน้อยคนนี้ตรวจสอบอีกเหรอ พวกที่ทำร้ายพวกเราแปดสุดยอดวงศ์ตระกูลให้ผลประโยชน์อะไรกับคุณ คุณถึงได้ช่วยพวกเขาขนาดนี้” ท่านปู่ถังสายตาจมลง ขณะนี้คำพูดนี้แรงพอสมควร

คนแซ่กงตะลึงมาก แอบถอนหายใจ ถึงแม้จะอดกลั้นไว้ แต่สุดท้ายก็โกรธเล็กน้อย “ท่านปู่ เอกสารเหล่านี้คุณถังมีสถานะพิเศษ ถ้าจำเป็นต้องตรวจสอบ แต่คนอื่นๆก็ไม่สามารถแตะต้องได้”

ความหมายของคนแซ่กงชัดเจนมาก ห้ามคนอื่นๆช่วยเวินลั่วฉิงตรวจสอบ เหลือเวลาอีกไม่ถึงสองวัน เขาไม่เชื่อว่าสาวน้อยคนนี้จะตรวจเจออะไรได้

“คุณไปได้แล้ว” ท่านปู่ถังมองเขาด้วยความเย็นชา คนคนนี้สามารถเพิกเฉยต่อชีวิตและความตายของทุกคนเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

เขารู้สึกรำคาญ

แต่ที่คนแซ่กงพูดนั้นก็เป็นไปตามกฎ

“ตั้งแต่แรกฉันก็จัดการให้กู้หนานช่วยคุณถัง เช่นนั้นกู้หนานก็ช่วยคุณถังต่อแล้วกัน” คนแซ่กงรีบพูดเพิ่มอีกประโยค

พูดว่ามาช่วย แต่ความจริงก็คือการเฝ้าระวัง แน่นอนว่าตอนนี้ท่านปู่ถังอยู่ตรงนี้ กู้หนานจึงไม่กล้าสร้างปัญหาอีก ไม่กล้าขัดขวางเวินลั่วฉิง แต่กู้หนานสามารถเฝ้าดูไม่ให้คนอื่นช่วยเวินลั่วฉิงได้

ในขณะที่คนแซ่กงพูดจบ ไม่รอให้ท่านปู่ถังต้องไล่อีกครั้ง รีบออกไปอย่างรวดเร็ว กู้เจิ้งฉุนและกู้เจิ้งหมิงก็เดินออกไปด้วยโดยปริยาย

เวินลั่วฉิงเริ่มดำเนินการตรวจสอบเอกสารต่อไปอย่างรวดเร็ว

ท่านปู่หลายท่านมองดูเธอไม่ทักทายกันแม้แต่นิดเดียว และไม่กล่าวอะไรด้วย เริ่มตรวจสอบเอกสารทันที พวกท่านปู่ตะลึง สาวน้อยคนนี้แน่จริงๆ

เวินลั่วฉิงตรวจสอบเป็นเวลาสองวันสองคืนสุดท้ายก็พบเบาะแส……….

วันที่สาม คดีที่เก็บมานานสามปีของแปดสุดยอดวงศ์ตระกูลก็คลี่คลายหัวหน้ากงโยนความผิดให้ถังหยุนเฉิงตระกูลกู้อยากจะใช้วิธีนี้โยนความผิดให้ตระกูลถัง คดีที่คิดจะทำลายตระกูลถังก็ถูกคลี่คลาย

คนที่คลี่คลายคดีนี้เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อว่าถังฉิ้นเอ๋อ กระบวนการคลี่คลายคดีไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่เหตุการณ์นี้ยังคงสร้างความตะลึงให้กับทุกคน

ในเวลานั้น ทุกคนพูดถึงแต่เรื่องนี้ ทุกคนอยากรู้ว่าคดีนี้ได้รับคลี่ลายได้อย่างไร และที่อยากรู้มากที่สุดก็คือชื่อถังฉิ้นเอ๋อเป็นใคร ทำไมถึงเก่งขนาดนี้

“ยังไง ฉิงฉิงเป็นอะไรเหรอ”ถังหลินคลี่คลายคดีแล้ว หลังจากรายงานผลให้ถังหยุนเฉิงแล้ว ก็ถามถึงเวินลั่วฉิง

“ใคร ฉิงฉิงเป็นใคร” เพียงแค่ถังหยุนเฉิงรู้สึกสับสน

“ผู้เชี่ยวชาญการแก้ปัญหาของครอบครัวเรา” ถังหลินอธิบายด้วยรอยยิ้ม

“เธอไม่ได้ชื่อถังฉิ้นเอ๋อเหรอ โอ้ ฉิงฉิงเป็นชื่อของเธอ” ถังหยุนเฉิงเข้าใจว่าคนอย่างเธอใช้นามแฝงในบางครั้งก็เป็นเรื่องปกติ

“ใช่” ถังหลินยอมรับ

“คนของบ้านฉัน ความหมายของคุณคือจะแต่งเธอเข้าบ้านแล้วเหรอ เมื่อไหร่ พวกเราจะได้เตรียมตัว” ถังหยุนเฉิงนึกถึงคำพูดของเขาที่พูดก่อนหน้านี้ มุมปากอดไม่ได้ที่จะยิ้ม นี่เป็นเรื่องมงคลเลยนะ

เฟิ่งเหมียวเหมียวที่ยืนอยู่ข้างๆก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม

“พ่อ ฉันไม่สามารถแต่งกับเธอได้” ถังหลินมุมปากกระตุกเล็กน้อย นั่นเป็นน้องสาวของเขา แต่ละคนกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงอยากให้เขาแต่งกับเธอ

“ไอ้คนเลว คุณหมายความว่าอย่างไร คุณกำลังหลอกลวงความรู้สึกของคนอื่น ถ้าคุณไม่อยากแต่งกับเธอ ที่ผ่านมาทำไมปฏิบัติต่อเธอเช่นนั้น ทำไมคุณถึงจงใจให้คนอื่นเข้าใจผิด คุณกำลังหลอกลวงผู้หญิงเขาคุณมันเลว ถ้าจะให้ดีคุณอย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก ถ้าคุณกล้ากลับมา ฉันจะตีขาคุณให้หัก” ปกติถังหยุนเฉิงจะเป็นคนอารมณ์ดี และใจเย็น แต่ ณ เวลานี้ได้ยินสิ่งที่ถังหลินพูด ก็ตะโกนด่ามาโดยตรง เขาโกรธจนมือไม้สั่น จนลืมควบคุมเสียง

ก่อนหน้านี้ถังหลินสนิทสนมกับเธอมาก ตอนนี้กลับบอกว่าจะไม่แต่งด้วย

ถ้าตอนนี้ถังหลินอยู่ตรงหน้าเขา คาดว่าเขาคงจะได้ลงมือตีคนแล้ว

“พ่อ คุณอย่าเพิ่งใจร้อนไป คุณให้เธอเอาความปลอมบนหน้าออกก่อน ถ้าคุณเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเธอแล้วจะเข้าใจเอง” ถังหลินแอบถอนหายใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นพ่อโกรธขนาดนี้ ทำไมเขารู้สึกว่าในใจของพ่อผู้หญิงคนนั้นมีความสำคัญกว่าตัวเขาอีก

ถ้าพ่อรู้สถานะของเธอ……….

“อะไร หมายความว่าอย่างไร แกอย่ามาหาข้ออ้างให้ฉัน คุณกลับมาเดี๋ยวนี้ ถ้าคุณไม่แต่งกับเธอ คอยดูว่าฉันจะตีขาคุณให้หักยังไง” ณ เวลานี้ถังหยุนเฉิงกำลังโกรธ จึงไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแค่ว่าถังหลินกำลังหาข้ออ้างอยู่

“คุณอย่าเพิ่งกังวล ฟังลูกพูดก่อน ถังหลินเป็นเด็กดีตั้งแต่เด็ก ไม่มีทางจะพูดไปเรื่อย” เฟิ่งเหมียวเหมียวเหมือนจะเข้าใจ เธอก็กังวลเช่นกัน แต่เธอก็รู้จักลูกชายตัวเองดี

“คุณยังจะปกป้องเขาอีก ขนาดนี้แล้วยังพูดว่าดีอยู่เหรอ เขาหลอกลวงความรู้สึกของคนอื่น นี่เป็นคุณสมบัติที่แย่มาก” ถังหลินโกรธมากในขณะนี้ แม้แต่เฟิ่งเหมียวเหมียวก็โดยตวาดไปด้วย

“พ่อ คุณทำตามที่ฉันบอกก่อน รอคุณเห็นรูปลักษณ์ของเธอแล้ว พวกเราค่อยมาว่ากันใหม่” ทันใดนั้นถังหลินก็รู้สึกพูดไม่ออกอยากจะถามฟ้า พ่อของเขากำลังโกรธมากขนาดไหนถึงกับตวาดแม่ไปด้วย

“ฮึ ถ้าให้ดีคุณอย่ามาเล่นตุกติก” ถังหยุนเฉิงน้ำเสียงเย็นชา หลังจากนั้นวางสายอย่างแรง

“สาวน้อยคนนั้นยังไม่ตื่นใช่ไหม” หลังจากถังหยุนเฉิงวางสายโทรศัพท์ ตอนถามถึงเวินลั่วฉิง น้ำเสียงก็เบาลงทันที

ถังหยุนเฉิงคิดถึงตอนออกมาจากทำเนียบประธานาธิบดี หลังจากขึ้นรถ เธอหลับตาแล้วหลับไปเลย ถึงบ้านก็ยังไม่ตื่น เขาเป็นคนอุ้มเธอเข้ามาเอง

สาวน้อยคนนี้หลายวันนี้คงเหนื่อยมาก นอนดึกไม่ว่า แต่สิ่งที่เธอทำจะต้องระดมความคิดอย่างมาก ลำบากเธอจริงๆ

“เดิมทีอาจจะไม่ตื่น แต่เมื่อครู่ที่คุณตะโกนเสียงดังขนาดนั้น คิดว่าน่าจะทำให้เธอตื่นแล้ว” เฟิ่งเหมียวเหมียวมองไปที่เขาอย่างไม่พอใจเล็กน้อย

“ถ้าเช่นนั้น คุณไปดูหน่อย ดูสิว่าเธอตื่นหรือยัง” ถังหยุนเฉิงคิดถึงเมื่อครู่ที่ตัวเองเสียงดัง ก็ยังรำคาญเล็กน้อย แต่เมื่อครู่เขาโกรธมากจริงๆ

“ถังหลินบอกว่า บนใบหน้าของสาวน้อยปลอมมา ให้ฉันไปดูรูปลักษณ์ของเธอ บอกว่าถ้าฉันเห็นแล้วก็จะเข้าใจ นี่มันเรื่องอะไรกัน คุณว่าถังหลินหมายความว่าอย่างไร” ณ เวลานั้นถังหยุนเฉิงไม่ได้คิดอะไรมาก ดังนั้นจึงไม่เข้าใจความตั้งใจของถังหลิน

“ฉันก็ไม่เข้าใจ หรือสาวน้อยคนนี้มีความลับอะไรบนใบหน้า” เฟิ่งเหมียวเหมียวดวงตากะพริบอย่างรวดเร็ว อดไม่ได้ที่จะคาดเดา

“จะมีความลับอะไรบนใบหน้า” ถังหยุนเฉิงขมวดคิ้ว ใครจะซ่อนความลับบนใบหน้าได้

“เป็นไปได้ไหมว่าสาวน้อยคนนั้นอาจจะเป็นคนที่คุณรู้จัก” จากนั้นเฟิ่งเหมียวเหมียวก็คิดถึงความเป็นไปได้อีกอย่าง

“คนที่ฉันรู้จัก เป็นไปไม่ได้ ถ้าเป็นคนที่ฉันเคยเจอ คนที่รู้จักไม่ว่าเธอจะปลอมตัวอย่างไร ฉันก็ต้องจำได้ ดังนั้น ที่ผ่านมาฉันต้องไม่เคยเจอเธอมาก่อน และไม่รู้จักเธอ” ถังหยุนเฉิงเพียงแค่ปฏิเสธการคาดเดาของเธอ ณ ตอนนี้น้ำเสียงของถังหยุนเฉิงยืนยัน แน่นอนเป็นอย่างมาก

“เช่นนั้นฉันไปดูสาวน้อยตื่นหรือยัง” เฟิ่งเหมียวเหมียวคิดว่าไม่สามารถหาคำตอบได้ถ้ายังเดาอย่างนี้ ไปดูกันเลยดีกว่า แต่ก็ต้องรอสาวน้อยตื่นก่อน