ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่601พ่อมาหาพวกเราหรือเปล่า (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่601พ่อมาหาพวกเราหรือเปล่า (3)
บทที่ 601 พ่อมาหาพวกเราหรือเปล่า(3)
เย่ซือเฉินหันสายตามามองไปที่เธอ หัวคิ้วขมวดเข้าหากันแน่น “ฉิงฉิง เวลาแบบนี้คุณมาบอกให้หยุด คุณคิดว่าว่ามันจะเป็นไปได้เหรอ?”
เขาจับมือของเวินลั่วฉิงเอาไว้ แล้วจับมือเลื่อนลงไปอย่างรวดเร็ว จนเลื่อนมาถึงตำแหน่งที่เกิดปฏิกิริยาขึ้นมาอย่างชัดเจนของเขา “คุณไม่กลัวว่ามันจะอัดอั้นจนพังเหรอ……”
ดวงตาของเวินลั่วฉิงสั่นไหวเล็กน้อย อยู่ ๆ ก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา ที่มือก็ยิ่งร้อนแรงเป็นอย่างมาก เวินลั่วฉิงอยากจะดึงมือของตัวเองกลับ แต่ว่าเขากลับจับเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“ฉิงฉิง คืนนี้คุณลงมาแล้ว ผมก็ไม่คิดจะปล่อยคุณกลับไปแล้วนะ” เย่ซือเฉินจ้องมองเธอ ดวงตามืดขรึมลง ในน้ำเสียงก็แอบแฝงไว้ด้วยความแหบแห้งอยู่ส่วนหนึ่ง ถ้าเธอไม่ลงมาก็ช่างเถอะ แต่ในเมื่อเธอลงมาแล้ว เขาก็ไม่คิดที่จะปล่อยเธอกลับไปหรอก
เธอลงมาแล้ว ก็ยิ่งแสดงให้เห็นได้ชัดว่าเธอห่วงใยเขา แสดงให้เห็นว่าเธอเองก็คิดถึงเขา
คำพูดของคุณชายสามเย่ในตอนนี้ฟังดูแล้วมีความรู้สึกเหมือนโจรเจ้าถิ่นอยู่บ้าง
ริมฝีปากของเขาชิดเข้ามาใกล้ใบหูของเธอ และจูบบางเบาลงบนติ่งหูของเธอ แล้วค่อย ๆ พูดเสียงต่ำขึ้นอีกครั้ง “เพราะฉะนั้น คุณจะยอมไปกับผมดี ๆ หรือว่าจะให้ผมใช้ความรุนแรงบีบบังคับ?”
คำพูดนี้ของคุณชายสามเย่รู้สึกเหมือนโจรขึ้นมาบ้างแล้ว ที่สำคัญยังเป็นโจรอันธพาลอีกด้วย
เวินลั่วฉิงอึ้งไปเล็กน้อย นี่เธอส่งตัวเองเข้ามาในดงหมาป่าเหรอ? ถ้ารู้อย่างนี้ เธอก็ไม่ควรเห็นใจเขาตั้งแต่แรกแล้ว
ความหมายของเขานี้คือ ถ้าเธอไม่ไปกับเขา เขาก็จะใช้กำลังจับตัวเธอไปเหรอ?
คนคนนี้ตั้งแต่เช้ายันเย็นจะสามารถทำเรื่องที่มันปกติบ้างได้ไหม?
เวินลั่วฉิงรู้จักเขาดี รู้ว่าถ้าเป็นเรื่องที่เขาอยากจะทำจริง ๆ ก็จะไม่มีใครสามารถขัดขวางเขาได้
มีความเป็นไปได้ ที่เขาอาจจะใช้กำลังบังคับให้เธอไปกับเขาจริง ๆ
เพราะฉะนั้น สำหรับเขา เธอจึงได้แต่ต้องใช้วิธีอื่นกับเขาแล้ว
เวินลั่วฉิงมองไปที่เขา แล้วยิ้มขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็โน้มตัวไปข้างหน้า ค่อย ๆ ชิดเข้าไปใกล้เขา ชิดเข้าไปใกล้เขา จากนั้นก็ประทับจูบลงบนริมฝีปากของเขาเบา ๆ ทีหนึ่ง
คุณชายสามเย่อึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นที่มุมปากก็คลี่ออก “เป็นเด็กดีจริง ๆ”
ดูท่า ผู้หญิงของเขาคงจะเริ่มมีความคิดความอ่านบ้างแล้ว ถึงกับเปลี่ยนเป็นเด็กดีเชื่อฟังขนาดนี้ และที่สำคัญยังเป็นฝ่ายรุกแบบนี้ ช่างดีจริง ๆ เลย
เพียงแต่ว่า วินาทีต่อมา อยู่ ๆ เวินลั่วฉิงก็เปิดประตูรถออก แล้วก็ไม่รอให้เขาตั้งสติได้ ก็รีบลงจากรถไปอย่างรวดเร็วเลย!
“เอาล่ะ ฉันควรกลับไปได้แล้ว” หลังจากที่เวินลั่วฉิงลงจากรถแล้ว ก็ปิดประตูรถเลย “คุณกลับไปได้แล้ว ระหว่างทางก็ระมัดระวังด้วยนะ บาย……”
“เวิน ลั่ว ฉิง……” คุณชายสามเย่เรียกชื่อของเธอออกมาทีละคำทีละคำ ผู้หญิงที่ไร้หัวจิตหัวใจคนนี้ นี่เธอกะว่าจะทิ้งเขาไว้แบบนี้โดยไม่สนใจเลยเหรอ
นี่เธอไม่กลัวว่าจะแกล้งเขาจนพังเลยเหรอ
เวินลั่วฉิงสะบัดมือเล็กน้อย แล้วก็หมุนตัวไปอย่างเร็ว และพุ่งตัวเข้าไปในประตูใหญ่เลย
ความเร็วของเธอนั้นเร็วมาก รอจนถึงตอนที่คุณชายสามเย่ลงมาจากรถได้นั้น เธอก็กลับเข้าไปในบ้านตระกูลถังแล้ว
เวินลั่วฉิงหมุนตัวกลับมาอีกครั้ง มองไปที่เขา ยื่นมือออกไปและโบกมือใส่เขาเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าโอ้อวดและได้ใจอยู่เล็กน้อย เหมือนกับเมื่อห้าปีก่อนตอนเธอที่จากไปยังไงอย่างงั้น
คุณชายสามเย่มองไปที่เธอ โมโหจนกัดฟันกรอก แต่ว่าเวลานี้เขาจะพุ่งเข้าไปจับตัวเธอในบ้านตระกูลถังออกมาก็ไม่ได้
และเธอก็ยึดจากจุดนี้ เพราะฉะนั้นถึงได้โอ้อวดและได้ใจขนาดนี้
แต่ว่าพอเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าเธอ ในที่สุดแล้วคุณชายสามเย่ก็ได้แต่ถอนหายใจอยู่เงียบ ๆ ช่างเถอะ สามารถทำให้เธอเล่นได้สนุกสนานขนาดนี้ วันนี้ก็ถือได้ว่าเขาไม่ได้มาเสียเที่ยวแล้ว
เพียงแต่ ไม่ว่ายังไงคุณชายสามเย่ก็ยังรู้สึกไม่ตายใจอยู่บ้าง ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ยิ่งอยู่เธอก็ยิ่งมีความรู้สึกต่อเขาแล้ว ตอนแรกเขานึกว่าวันนี้จะสามารถพาเธอออกไปได้สำเร็จ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้วเธอก็ยังกลับไปได้อีก
นี่เขาคิดไม่ตกแล้วจริง ๆ ทำไมเธอถึงได้รีบร้อนที่จะกลับไปขนาดนี้? ในห้องของเธอมีอะไรที่ดึงดูดจนทำให้เธอตัดใจไม่ได้ขนาดนี้เหรอ? มีแรงดึงดูดมากกว่าเขาอีกเหรอ?
วินาทีนี้ ในห้องนอนของเวินลั่วฉิง มีหัวเล็ก ๆ สองหัวกำลังสุมกันอยู่ที่หน้าต่างและมองลงไปที่ข้างล่าง
“พี่ นั่นคุณพ่อนี่ คือคุณพ่อจริง ๆ ด้วย” เห็นได้ชัดว่าในน้ำเสียงของถังจื่อซีเพื่อนตัวเล็กแฝงความดีใจไว้เล็กน้อย “คุณพ่อมาหาพวกเราใช่ไหม?”
“ไม่ใช่หรอก เขามาหาคุณแม่ต่างหาก” ถังจื่อโม่มองเห็น เย่ซือเฉินที่โมโหจนกัดฟันกรอกยืนอยู่ที่ข้างนอก แต่แม่ของตัวเองกลับยืนอยู่ในสวนด้วยใบหน้าได้ใจ ถังจื่อโม่รู้สึกว่าบททดสอบที่เขามีต่อใครบางคนนั้นควรจะลดต่ำลงหน่อยได้แล้วใช่ไหม
“คุณแม่ก็กลับเข้ามาแล้ว คุณพ่อยังจะมัวแต่มองอะไรอยู่? พี่ พี่ว่าถ้าหากคุณพ่อเกิดตามคุณแม่ขึ้นมา แล้วเห็นพวกเราเข้า จะเป็นยังไงบ้างนะ?” ในขณะที่ถังจื่อซีพูดไปนั้น ก็เห็นได้ชัดว่าบนใบหน้านั้นแฝงไว้ด้วยความดีใจอยู่เล็กน้อย
“เขาไม่เข้ามาหรอก” คำพูดของถังจื่อโม่นั้นมั่นใจมาก ก่อนหน้านั้นเย่ซือเฉินก็ไม่เคยเข้ามา เอาแต่รออยู่ข้างนอกมาตลอด ตอนนี้ก็ยิ่งไม่มีทางเข้ามาหรอก
“พี่ อยู่ ๆ หนูก็รู้สึกว่าคุณพ่อโง่นิดหน่อยนะ” ถังจื่อซีกะพริบตาปริบ ๆ จากนั้นก็พูดโพล่งออกมาประโยคหนึ่งแบบนี้
“ฮือ?” ถังจื่อโม่อึ้งไปเล็กน้อย และมองไปที่เธออย่างรู้สึกสงสัย
“พี่ดูซิ เขาเอาแต่จ้องมองคุณแม่ ถ้าสมมุติเขามองมาทางเราสักที ก็จะมองเห็นพวกเราแล้ว ไหนว่าสายตาจะต้องมองรอบสี่ทิศหูจะต้องฟังรอบด้านไง แต่เขากลับไม่ได้สังเกตเห็นพวกเราเลย” น้ำเสียงของถังจื่อซีนั้นฟังดูมีความรังเกียจอยู่เล็กน้อย และมีความไม่พอใจอยู่บ้าง แล้วก็ยังมีความผิดหวังอยู่บ้างด้วย
ถังจื่อโม่ฟังคำพูดของถังจื่อซีแล้ว จากนั้นก็มองไปที่เย่ซือเฉินที่อยู่ข้างล่างอีกครั้ง
แววตาของเย่ซือเฉินในตอนนี้จ้องมองไปที่เวินลั่วฉิงตรง ๆ ไม่มีความโอนเอียงแม้แต่นิดเดียว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะมองขึ้นมาข้างบนตึกเลย
เพราะฉะนั้น ก่อนที่คุณแม่จะขึ้นมา ไม่ต้องหวังหรอกว่าเย่ซือเฉินจะมองมาทางนี้
“คุณแม่ขึ้นมาแล้ว” ถังจื่อโม่เห็นเวินลั่วฉิงเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่แล้ว จากนั้นก็ลากถังจื่อซีออกห่างจากหน้าต่าง
คุณชายสามเย่มองเห็นเวินลั่วฉิงเข้าไปในบ้านแล้ว จากนั้นถึงได้ขึ้นรถ แล้วก็จากไป
“อืม ไม่เลว ยังดีที่ไม่โดนหลอกไป ความเร็วที่กลับมาก็เร็วใช้ได้” พอเวินลั่วฉิงกลับเข้ามาถึงในห้อง ถังจื่อโม่ก็จ้องมองเธอ เห็นได้ชัดว่าพอใจอยู่ไม่น้อย
เพียงแต่ว่า วินาทีต่อมา หัวคิ้วของถังจื่อโม่ก็ขมวดเข้าหาขึ้นมา “แต่ว่า ในขณะเดียวกันนี้ก็สามารถพูดได้ชัดถึงปัญหาอย่างหนึ่ง”
“ปัญหาอะไร?” เวินลั่วฉิงมองไปที่เขา เห็นได้ชัดว่ามีท่าทางสงสัย เจ้าเด็กนี่หมายความว่ายังไงกัน?
“พูดได้ชัดว่าเย่ซือเฉินนั้นอ่อนแอมาก แม้แต่ผู้หญิงคนเดียวก็เอาไม่อยู่” ปากของถังจื่อโม่เบ้ขึ้นเล็กน้อย ในท่าทางนั้นเหมือนกับว่าแฝงไว้ด้วยความรังเกียจอยู่เล็กน้อย
ดวงตาทั้งคู่ของเวินลั่วฉิงกะพริบขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วริมฝีปากก็คลี่ออก อยู่ ๆ ก็หัวเราะขึ้น “ถังจื่อโม่ หรือไม่เรามาประลองกันหน่อยดีไหม?”
ไม่เจอกันมาหลายวัน ถังจื่อโม่เพื่อนตัวเล็กเหมือนกับว่าจะไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำขึ้นมาบ้างแล้ว
ด้วยความสามารถของเธอแล้ว คนที่สามารถปะทะชนะเธอได้น่าจะมีไม่เยอะ แต่พอดีเย่ซือเฉินกลับเป็นคนคนนั้นที่ทำให้เธอรู้สึกกลัว
เมื่อกี้ถ้าไม่ใช้เพราะว่าเธอใช้เล่ห์เหลี่ยมเล็กน้อย และสุดท้ายแล้วเย่ซือเฉินก็ตั้งใจปล่อยตัวเธอมา เธอจะสามารถกลับมาได้เร็วขนาดนี้เหรอ?
“พอเจอความรักแล้วก็ลืมลูก” ถังจื่อโม่ถลึงตาใส่เธอทีหนึ่ง ยังอดไม่ได้ที่จะทำหึเสียงเย็นไปทีหนึ่ง บนใบหน้ากลับมีแววระแวดระวังมากขึ้นมาเล็กน้อย ความสามารถของแม่เขานั้นมองข้ามไม่ได้จริง ๆ และไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบกับผู้หญิงทั่วไปได้ด้วย
พอได้ยินคำพูดของเขา เวินลั่วฉิงก็อดไม่ได้ที่จะขำขึ้นมา ศัพท์ของเจ้าเด็กนี่ยังใหม่เอี่ยมมากเลยนี่
แต่ว่า ไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่ เพื่อพวกเขาสองคนแล้วเธอถึงได้ทิ้งเย่ซือเฉินไปต่างหาก!
จะมาเรียกว่าเจอความรักแล้วลืมลูกได้ยังไง?
แน่นอนว่า เวินลั่วฉิงนั้นเข้าใจดีว่าปมในใจของถังจื่อโม่นั้นอยู่ตรงไหน