ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่637 เทพธิดาเวินสวนกลับ ต้องสะเทือนฟ้าดินแน่(4)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่637 เทพธิดาเวินสวนกลับ ต้องสะเทือนฟ้าดินแน่(4)
บทที่637 เทพธิดาเวินสวนกลับ ต้องสะเทือนฟ้าดินแน่(4)
พี่หลิวโทรศัพท์เสร็จก็มองเวินลั่วฉิงอย่างจนปัญญา แต่กลับเห็นเวินลั่วฉิงกำลังเล่นมือถืออยู่
เวินลั่วฉิงเขียนข้อความบนมือถือ จากนั้นก็ส่งออกไป
ไม่นาน เวินลั่วฉิงก็ได้รับข้อความเข้าหนึ่งฉบับ เมื่อเวินลั่วฉิงเห็นเนื้อหาของข้อความแล้วชะงัก จากนั้นก็อดหัวเราะไม่ได้
อย่างนี้ก็ยอดเยี่ยมแล้ว!!
คนอื่นเห็นท่าทีของเวินลั่วฉิงก็ประหลาดใจ คนที่กล่าวหาว่าเวินลั่วฉิงเป็นคนขโมยของ เวลานี้ไม่มีซุ่มเสียงใดๆ
แต่กู่หยิงหยิงกลับคิดเองเอ่ยเองว่า เพราะเวินลั่วฉิงไม่รู้ว่ากระเป๋าตัวเองมีกำไรหยก ถึงได้สงบและยืนยันจะแจ้งความ
ตำรวจมาเมื่อไหร่ เวินลั่วฉิงไม่มีแม้กระทั่งที่ร้องไห้
กู่หยิงหยิงกำลังครุ่นคิด อดเผยรอยยิ้มเบาๆไม่ได้
ผู้จัดการร้านรู้ว่าเกิดเรื่อง จึงรีบมาถามถึงที่มาที่ไป
พี่หลิวแจ้งรายละเอียดให้ผู้จัดการทราบ ผู้จัดการพลันขมวดคิ้วเป็นปม
“คุณเวินครับ หรือจะไปห้องทำงานของผม พวกเราไปคุยตกลงกันเองดีไหมครับ”ผู้จัดการอยากให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก
เรื่องเล็กกลายเป็นไม่มี เพราะพวกเขาทำธุรกิจ หากเรื่องเอิกเกริกก็ไม่เป็นผลดีกับพวกเขา
“ไม่ต้องค่ะ ฉันรออยู่ตรงนี้”เวินลั่วฉิงปฏิเสธอย่างหนักแน่น
ผู้จัดการเห็นเธอปฏิเสธก็พูดอะไรมากไม่ได้ แต่ผู้จัดการไม่ได้จากไป เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น เขาต้องอยู่ดูแล
ตำรวจเดินทางมาถึงอย่างรวดเร็ว ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง
กลุ่มคนมุงดูเห็นตำรวจมา จึงเปิดทางให้ ซึ่งเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง แต่พวกเขาก็ไม่ได้จากไป กลับมีคนมามุงดูมากขึ้นเรื่อยๆ
ดูความคึกคักคือนิสัยแต่กำเนิดของมนุษย์เรา
“พวกคุณเป็นคนแจ้งความใช่ไหมครับ?”ตำรวจอายุประมาณสี่สิบเดินเข้ามาในร้าน กวาดสายตามองผู้คนอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงมีความสุขุมเข้มงวดหลายส่วน
มีตำรวจชั้นผู้น้อยอายุประมาณยี่สิบติดตามเขาอยู่ด้านหลัง
กู่หยิงหยิงเห็นตำรวจมา อดตื่นเต้นไม่ได้ ดีจังเลย จะได้เห็นภาพสะใจแล้ว
เมื่อกี้เธอแอบสำรวจเวินลั่วฉิงตลอดเวลา ซึ่งเวินลั่วฉิงยังไม่รู้ว่าภายในกระเป๋าของตนมีกำไรหยกอยู่ ดังนั้นตอนนี้กำไรหยกชิ้นนั้นยังคงอยู่ในกระเป๋าเวินลั่วฉิงอย่างแน่นอน!
เวินลั่วฉิงไม่ให้พนักงานค้นหา ยืนยันว่าจะแจ้งความ เมื่อตำรวจมา ดูสิว่าเวินลั่วฉิงจะปฏิเสธอย่างไร
“ค่ะ ดิฉันเป็นคนแจ้งความเองค่ะ”พี่หลิวรีบตอบ สีหน้ามีความเครียดหลายส่วน
“ของอะไรหายครับ?”ตำรวจต้องซักถามรายละเอียดให้กระจ่าง จึงถามขึ้นมา
“กำไรหยกมูลค่ายี่สิบกว่าล้านค่ะ”ขณะที่พี่หลิวพูด ดวงตาอดมองเวินลั่วฉิงไม่ได้ ถึงแม้ไม่ได้พูดชัดเจน แต่ความหมายนั้นชัดเจนมาก
“เหตุการณ์ตอนนั้นเป็นยังไงครับ?”ตำรวจก็มองเวินลั่วฉิงแวบหนึ่ง เห็นเวินลั่วฉิงกำลังเล่นมือถืออย่างตั้งใจ เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขามีอาชีพเป็นตำรวจหลายปี เคยเห็นขโมยเล็กขโมยน้อยนับไม่ถ้วน แต่เพิ่งเคยเห็นคนใจเย็นราวกับไม่มีเรื่องเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก
“ตอนนั้น คุณกู่มาซื้อกำไรหยก พวกเราเอากำไรหยกออกมาให้เลือกหลายชิ้นค่ะ ระหว่างนั้นคุณเวินได้เดินวนดูตลอดค่ะ ต่อมาก็พบว่ามีกำไรหยกหายไปหนึ่งชิ้นค่ะ”พี่หลิวเล่าเหตุการณ์คร่าวๆให้ฟัง
“ตอนนั้น นอกจากพวกเราพนักงานสามคน คุณหนูกู่ทั้งสองท่านและคุณเวินแล้ว ก็ไม่มีใครอื่นค่ะ และพวกเราอยู่กับคุณกู่ตลอดเวลาค่ะ……”พี่หลิวคิดทบทวนดูแล้ว พลางเสริมอีกหนึ่งประโยค ซึ่งเสริมประโยคนี้ได้อย่างมีระดับ ความหมายก็คือพวกเธอรับรองความบริสุทธิ์ให้กู่หยิงหยิงได้
ระหว่างที่ตำรวจคุยกับพี่หลิวอยู่ เวินลั่วฉิงเล่นแต่มือถือตลอด ไม่ได้ตอบสนองอะไร แม้แต่เงยหน้าก็ไม่มี
“คุณเวินครับ ผมขอถามคุณไม่กี่ประโยคได้ไหมครับ?”ตำรวจหันไปมองเวินลั่วฉิง ดวงตากะพริบเบาๆ แต่ยังคงเปิดปากพูดออกมา
“รอแป๊ปหนึ่ง ให้ฉันเล่นเกมส์นี้ให้จบก่อน”เวินลั่วฉิงยังคงไม่ได้เงยหน้า ตอบกลับทันทีหนึ่งประโยค
“คุณ?”ตำรวจชะงัก คาดไม่ถึงว่าเขาเอ่ยปากถามเธอแล้ว เธอยังมีอารมณ์มานั่งเล่นเกมส์อีก
เธอทำอย่างนี้ในสถานการณ์เช่นนี้ มันเหมาะสมหรือไม่?
“คุณเวินครับ เชิญคุณให้ความร่วมมือกับพวกเราด้วยครับ ไม่เช่นนั้น พวกผมต้องเชิญคุณไปที่โรงพักแล้วนะครับ”ตำรวจแอบถอนหายใจ น้ำเสียงกลายเป็นเข้มงวดมากขึ้น
เวินลั่วฉิงถึงเงยหน้ามองเขา พลางหัวเราะ“วางใจเถอะ ฉันให้ความร่วมมือกับตำรวจอยู่แล้ว”
ตำรวจเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ ต้องชะงักอีกครั้ง
“ถ้าเช่นนั้นเชิญคุณเวินตอบคำถามผมหน่อยครับ”สีหน้าของตำรวจดีขึ้นเล็กน้อย
“คุณตำรวจ รออีกสักครู่ได้ไหมคะ?”เวินลั่วฉิงมองเขาพร้อมกับยิ้มอีกครั้ง ยังคงมีน้ำเสียงหัวเราะอยู่หลายส่วน
“รออะไรเหรอครับ?”ครั้งนี้ตำรวจมึนงงมากๆ สถานการณ์อย่างนี้เธอยังรออะไรอีก?
“รออีกสักครู่ คุณตำรวจก็รู้แล้วค่ะ”ไม่ใช่เวินลั่วฉิงจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับทางตำรวจ แต่เป็นเพราะมีเรื่องกรณีพิเศษ
เธอต้องการเวลาอีกสักหน่อย!!
เธอจะรอ……
“เวินลั่วฉิง คุณจงใจท่วงเวลาหรือเปล่า?”กู่หลิงหลิงอดส่งเสียงไมได้“เวินลั่วฉิง คุณบอกจะแจ้งความ แต่ตำรวจมาคุณก็ไม่ให้ความร่วมมืออีก คุณกำลังทำให้พวกเราเสียเวลาอยู่นะรู้ไหม?”
“ฉันทำให้พวกคุณเสียเวลา?ฉันให้พวกคุณอยู่ตรงนี้เหรอ?”เวินลั่วฉิงมองกู่หลิงหลิงด้วยแววตาไร้เดียงสาที่สุด
“พวกเราอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เรื่องยังตรวจสอบไม่ได้ พวกเราจะออกไปได้ยังไง?”กู่หลิงหลิงชะงัก จากนั้นก็โต้กลับด้วยจิตใต้สำนึก
“ความหมายของคุณก็คือ พวกคุณก็เป็นผู้ต้องสงสัย อันที่จริงกำไรหยกพวกคุณเป็นคน……”ดวงตาทั้งคู่ของเวินลั่วฉิงเบิกกว้าง
ทำสีหน้าราวกับเข้าใจสักที
“เวินลั่วฉิง คุณพูดเหลวไหลอะไร พวกเราจะขโมยของได้ยังไง?ตระกูลกู่ของพวกเราไม่เหมือนตระกูลเวินของคุณนะ อย่าว่าแต่ยี่สิบล้านเลย สองร้อยล้านพวกเราก็มีปัญญาซื้อ”เพราะกู่หลิงหลิงกินปูนร้อนท้อง ได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิง จึงรู้สึกร้อนใจ ตะโกนออกไป
คนส่วนมากไม่รู้ฐานะของบริษัทเวินซื่อกรุ้ป รู้แต่ว่าคุณชายสามเย่ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อช่วยบริษัทเวินซื่อกรุ้ปไว้ ซึ่งตอนนี้บริษัทเวินซื่อกรุ้ปมีมูลค่ามาก แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าหุ้นส่วนร้อยละเก้าสิบสามอยู่ในนามของเวินลั่วฉิง ทุกคนคิดว่าบริษัทเวินซื่อกรุ้ปเป็นของเย่ซือเฉิน
ตอนนี้คุณชายสามเย่จะแต่งงานกับคุณกู่ ดังนั้นบริษัทดังกล่าวก็ไม่เกี่ยวข้องกับเวินลั่วฉิงอีก
ฉะนั้นทุกคนมองตรงกันว่าเวินลั่วฉิงไม่มีเงิน คิดว่าเวินลั่วฉิงยากจนมาก
“หลิงหลิง อย่าพูดซี้ซั้ว”กู่หยิงหยิงดึงปลายเสื้อของกู่หลิงหลิง
“พี่กลัวอะไร ฉันไม่ได้พูดผิดเสียหน่อย สภาพหล่อนในตอนนี้ อย่าว่าแต่ยี่สิบล้านเลย แค่สองล้าน ไม่สิ สองหมื่นเธอก็ยังเอาออกมาไม่ได้เลย เวินลั่วฉิงขัดสนเงินทอง จึงมาขโมยของที่นี่”กู่หลิงหลิงนึกถึงว่าเธอเป็นคนเอากำไรหยกเข้ากระเป๋าของเวินลั่วฉิงเอง ซึ่งระหว่างนี้ไม่เห็นเคยเอาออกมา ดังนั้นเธอไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร
ตอนนี้เธอรอดูงิ้วเด็ดก็พอ!