ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่639 เทพธิดาเวินสวนกลับ ต้องสะเทือนฟ้าดินแน่(6)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่639 เทพธิดาเวินสวนกลับ ต้องสะเทือนฟ้าดินแน่(6)
บทที่639 เทพธิดาเวินสวนกลับ ต้องสะเทือนฟ้าดินแน่(6)
“ต้องเป็นหนังสือแสดงความรับผิดชอบที่เวินลั่วฉิงสารภาพผิดหน่ะสิ ไม่ค้นตัว ไม่ตรวจสอบก็ตัดสินโทษเวินลั่วฉิงเสียแล้ว เก่งจังเลย มีอำนาจมาก ไม่เสียทีที่เป็นคุณชายซือถู”กู่หลิงหลิงได้สติ พลางกล่าวออกไป
กู่หลิงหลิงโพนทะนาเองว่าเวินลั่วฉิงเซ็นหนังสือแสดงความรับผิดชอบต่อความผิด
ซึ่งขณะที่กู่หลิงหลิงพูดอยู่นั้น ดวงตาทั้งคู่ย้ายไปยังตัวของมู่หรงซือถู ท่าทางหลงใหลชวนให้สะอิดสะเอียนเป็นอย่างยิ่ง
คนอื่นได้ยินคำพูดของกู่หลิงหลิงกันหมด ต่างก็คิดว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ
เวินลั่วฉิงรับเอกสารจากผู้จัดการทั่วไปมา มองแวบหนึ่งก็เซ็นชื่อลงไป
ถังหลินเป็นคนจัดการสักอย่างไม่มีข้อบกพร่องแน่นอน ดังนั้นเธอไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปอ่านรายละเอียดเลย
มู่หรงซือถูเห็นเธอเซ็นชื่อเร็วขนาดนี้ ดวงตาพลันกะพริบเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ใจกล้าจริงๆ เธอไม่กลัวถูกขายเหรอ
แน่นอน เมื่อทุกคนเห็นเวินลั่วฉิงเซ็นชื่ออย่างรวดเร็วก็ตกตะลึงเช่นกัน ทำไมเวินลั่วฉิงไม่คัดค้านอะไรสักหน่อย?เธอรับผิดง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ?
“ขอบคุณคุณเวินที่ให้ความร่วมมือกับพวกเรานะครับ”ผู้จัดการทั่วไปรับเอกสารมาจากเวินลั่วฉิง พลางกล่าวหนึ่งประโยคอย่างแย้มยิ้ม
หากคำพูดนี้อยู่ในเหตุการณ์ปกติก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่สถานการณ์เช่นนี้ หลังจากฟังแล้วง่ายต่อการคิดไปอีกแง่หนึ่ง
ให้ความร่วมมือกับหน้าที่การงาน?ความหมายก็คือการรับผิดในความผิดของเวินลั่วฉิงทำได้ดีมาก
หากมองในแง่นี้ ความหมายก็คือไม่อยากให้เรื่องบานปลายเกินไปใช่ไหม?
เวินลั่วฉิงท่วงเวลาก็เพราะสาเหตุนี้หรือไม่?
ทุกคนรู้สึกผิดหวัง ยังไม่ได้ดูสีสันอะไรเลย?
เวินลั่วฉิงพยักหน้าให้ผู้จัดการทั่วไปอย่างมีมารยาท จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินออกไป เมื่อเธอเดินมาต้อง บังเอิญต้องผ่านกู่หยิงหยิงไป
กู่หยิงหยิงเห็นเธอจะไปง่ายๆอย่างนี้ ดวงตาทั้งคู่พลันกะพริบปริบๆ ยังไม่ได้ค้นตัวเลย ยังค้นของกลางออกจากตัวเวินลั่วฉิงไม่ได้เลย
หากเรื่องนี้จบอย่างนี้ ก็ไม่อาจทำให้เวินลั่วฉิงขายหน้าต่อผู้คนมากมายได้
ยังไม่บรรลุตามเป้าหมายที่เธอตั้งไว้ แล้วจะปล่อยเวินลั่วฉิงไปได้อย่างไร?
“คุณชายซือถูค่ะ เรื่องนี้ยังไม่ได้ตรวจสอบให้แน่ชัดเลยค่ะ คุณเวินอาจจะไม่ได้ขโมยของก็ได้ค่ะ ฉันรู้สึกว่าควรตรวจสอบเรื่องนี้ให้กระจ่างจะดีกว่าค่ะ จะได้ไม่ปรักปรำคุณเวินค่ะ”กู่หยิงหยิงไม่เต็มใจปล่อยเวินลั่วฉิงไปอย่างนี้ เธออยากให้เวินลั่วฉิงอับอายต่อหน้าสาธารณะ ดังนั้นต้องเอาของกลางออกจากตัวเวินลั่วฉิงให้ได้
แต่กู่หยิงหยิงพูดประโยคนี้ได้ดีมาก เหมือนกำลังช่วยเวินลั่วฉิงพูดอยู่
เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของเธอก็หยุดเดิน หันไปมองกู่หยิงหยิงแวบหนึ่ง มุมปากเผยรอยยิ้มที่ลุ่มลึกยากจะหยั่งถึง
เมื่อสักครู่เธอแกล้งเดินออกไป เธอคาดคะเนไว้แล้วว่ากู่หยิงหยิงไม่ปล่อยเธอไปแน่ อืม คุณกู่ไม่ทำให้เธอผิดหวังจริงๆ
ถ้างั้นเรื่องต่อจากนี้ก็สนุกกันใหญ่แล้วล่ะสิ
“ใช่ค่ะ เรื่องนี้ควรตรวจสอบให้กระจ่าง ให้พวกเราเห็นความจริง จบแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ถือว่าเป็นอะไร?”กลุ่มคนมุงดู นักเสือกตัวยงกล่าวขึ้นมา
“ใช่ ใช่ พวกเราจะดูความจริง”
“เรื่องนี้ควรตรวจสอบให้กระจ่าง กำไรหยกยี่สิบกว่าล้านหายไป พวกคุณปล่อยโจรไปอย่างนี้ เท่ากับเลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้นะ”กู่หลิงหลิงยิ่งไม่อยากให้จบเรื่องเท่านี้
“คนบางคนเหมือนสันดานหมากลับไปกินขี้ของตน พวกคุณปล่อยหล่อนไปครั้งนี้ คราวหน้าหล่อนก็จะขโมยอีก เพราะของพวกนี้แพงมาก มันยั่วใจให้ทำผิดมากๆเลย”กู่หลิงหลิงพูดเสียมารยาทมาก แต่เธอไม่รู้สึกตัว ยังคงลำพองใจยิ่งนัก เห็นได้ชัดว่าปกติเธอก็เป็นคนเช่นนี้
ลูกคุณหนูคนหนึ่งทำตัวอย่างกับอันธพาล น่าขำมาก
“ผู้จัดการทั่วไปค่ะ ฉันรู้สึกว่าพวกคุณควรตรวจสอบดีๆนะคะ ปรักปรำไม่ได้นะคะ”กู่หยิงหยิงมีใบหน้าผดุงคุณธรรมอย่างจริงจังหากเทียบกันแล้ว กู่หยิงหยิงฉลาดกว่ากู่หลิงหลิงจริงๆ
“อืม ต้องจัดการดีๆอยู่แล้วครับ สำหรับเรื่องจะจัดการอย่างไร……”ผู้จัดการทั่วไปพยักหน้าเล็กน้อย พูดมาถึงกลางคันก็หยุดลง
ทุกคนได้ยินเขาพูดได้ครึ่งหนึ่งแล้ว ต่างรู้สึกสงสัยว่าจะจัดการอย่างไร?
กู่หยิงหยิงได้ยินว่าจะจัดการ แอบดีใจไม่ได้ แต่เธอเก็บความรู้สึกไว้ไม่ได้แสดงออกมา แต่ใบหน้าของกู่หลิงหลิงมีรอยยิ้มหลายส่วนและความได้ใจอย่างเห็นได้ชัด!
ภายใต้แววตาสงสัยของทุกคน ผู้จัดการทั่วไปเดินไปด้านหน้าเวินลั่วฉิงอีกครั้ง ยืนตัวตรง จากนั้นพูดอย่างนอบน้อมทีละถ้วนคำว่า “คุณเวินครับ เมื่อสักครู่คุณเซ็นสัญญาโอนกรรมสิทธิ์แล้ว ตอนนี้ร้านนี้เป็นของคุณแล้วครับ ทั้งร้านและของภายในร้านเป็นของคุณทั้งหมด ดังนั้นคุณจะจัดการยังไงดีครับ?”
ทุกคนได้ยินคำพูดของผู้จัดการทั่วไป ต่างอึ้งและโง่ไปเลย?
เกิดอะไรขึ้น?!
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!
เมื่อสักครู่เวินลั่วฉิงไม่ได้เซ็นหนังสือแสดงความรับผิดชอบต่อความผิด?แต่เซ็นสัญญาโอนย้ายกรรมสิทธิ์?
ชั่วพริบตาเดียว ร้านนี้ก็กลายเป็นของเวินลั่วฉิง?
โอ้สวรรค์?
ราคาหยกในร้านทุกชิ้นสูงจนน่าตกใจมากนะ หยกมากมายเช่นนี้ ยังมีร้านขนาดใหญ่เช่นนี้ จะมีมูลค่าเท่าไหร่กัน?
เวลานี้เรื่องราวดำเนินการไปในทิศทางที่ทุกคนไม่อาจจินตนาการได้
ขอเรียนถามหน่อยว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
กู่หยิงหยิงก็งวยงง เธอคาดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะพลิกแพลงเป็นเช่นนี้ แต่ห้างสรรพสินค้านี้เป็นของมู่หรงซือถู มู่หรงซือถูไม่น่ารู้จักเวินลั่วฉิง ทำไมมู่หรงซือถูต้องมอบร้านขนาดใหญ่เช่นนี้ให้เวินลั่วฉิงด้วย?
ยิ่งไปกว่านั้นด้านในยังมีหยกมากมายก่ายกอง
หยกพวกนั้น อย่างมากสุดเธอก็มีปัญญาซื้อแค่ชิ้นสองชิ้น หยกภายในร้านทั้งหมดมีเป็นพันๆชิ้น เธอไม่มีปัญญาซื้อแน่นอน
ตอนนี้ของพวกนี้กลับกลายเป็นของเวินลั่วฉิง
กู่หยิงหยิงไม่พอใจ
แต่เรื่องที่เธอไม่พอใจมากที่สุดก็คือ วันนี้เวินลั่วฉิงยังไม่ได้ขายหน้าเลย หากร้านนี้กลายเป็นของเวินลั่วฉิง ถึงจะค้นกำไรหยกจากตัวเวินลั่วฉิงได้ เวินลั่วฉิงก็สามารถบ่ายเบี่ยงได้ว่าเอาของในกรรมสิทธิ์ตัวเอง
กู่หยิงหยิงนึกถึงจุดนี้ คนอื่นก็คิดได้เหมือนกัน
“เรื่อง เรื่องนี้เป็นยังไงกันแน่?ทำไม?ทำไมจู่ๆร้านนี้ก็กลายเป็นของเวินลั่วฉิงได้?”กู่หลิงหลิงคิดไม่ตกจริงๆ แน่นอน ไม่เพียงแต่กู่หลิงหลิงเท่านั้น ทุกคนที่มามุงดูเหตุการณ์ก็เช่นเดียวกัน
“หรือเวินลั่วฉิงหว่านเสน่ห์แบบน่าไม่อายอีก กับ……”เวลานี้กู่หลิงหลิงไม่เต็มใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมาก เธออยากให้เวินลั่วฉิงอับอาย แต่เธอนึกได้กะทันหันว่าห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เป็นของมู่หรงซือถู และเวลานี้มู่หรงซือถูก็อยู่ด้วย ดังนั้นจึงกล้ำกลืนคำพูดกลับเข้าไป