ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่896 เจ้าหญิงตัวจริงหรือตัวปลอม (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่896 เจ้าหญิงตัวจริงหรือตัวปลอม (1)
แต่เห็นได้ชัด ว่าที่เยว่หงหลิงบอกเมื่อครู่นี้ว่าเธอเคยไปในตำแหน่งของคลิปที่สองนั้น แต่หาตัวเยว่หงเจินไม่เจอ ถ้าอย่างนั้นคลิปที่สองนั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว
“ฉิงฉิง เธอดูออกไหม?” เยว่หงหลิงไม่ได้สนใจเมิ่งเฉิง แต่กลับมองตรงไปยังเวินลั่วฉิง
“ในคลิปพวกนี้ทั้งหมดนี่มีแต่คำพูดที่ไร้สาระของคนที่สวมหน้ากาก ส่วนอื่นนั้นดูอะไรไม่ออกเลย ถ้าต้องการหาตัวน้องสาวของคุณจากคลิปพวกนี้ล่ะก็? นอกจากเทพแล้วก็คงเป็นพวกที่มีตาทิพย์แล้วล่ะ” เมิ่งเฉิงคิดว่านั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
เวินลั่วฉิงไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่กดดูคลิปนั่นอีกครั้ง จากนั้นเธอก็หาสามคลิปนั้นเปิดต่อๆกันอีกสองสามครั้ง
“นี่มันดูอะไรไม่ออกอยู่แล้ว จะเปิดดูกี่ครั้งก็ไม่มีประโยชน์หรอกครับ ลูกพี่ ถ้าไม่อย่างนั้นให้คนของพวกเราออกไปหาสิครับ” นิสัยของเมิ่งเฉิงนั้นค่อนข้างใจร้อน เขารู้สึกว่านี่เป็นการเสียเวลาอยู่นั่นเอง
“นายรู้ว่าจะต้องไปหาที่ไหนอย่างนั้นหรือ?” เย่ซือเฉินเหลือบตามองเขาแวบหนึ่ง แววตานั้นนั้นเอ่ยถามและมีการตักเตือนอยู่ด้วยเช่นกัน
“แต่มันก็ดีกว่ามาดูคลิปที่ไม่มีประโยชน์พวกนี้นะครับ” เมิ่งเฉิงยังคงไม่ยอม เขาไม่เชื่อจริงๆว่าจะมองอะไรออกจากคลิปพวกนี้ได้
จู่ๆเวินลั่วแงก็เงยหน้าขึ้นมา มองไปยังเย่ซือเฉิน แล้วรีบพูดสถานที่หนึ่งออกมา
“อา? หมายความว่าอะไร?” เมิ่งเฉิงอึ้งไป : “พี่สะใภ้ที่พี่บอกมานั่นเป็นสถานที่ที่อยู่ใกล้ๆนี่เอง ทำไมหรือครับ?”
“เธออยู่ที่นั่น…….”เย่ซือเฉินมองไปยังเวินลั่วฉิง ถึงแม้ว่าเป็นประโยคแห่งความสงสัย แต่กลับไม่ได้มีน้ำเสียงที่ดูสงสัยจนมากเกินไป ที่เธอพูดนั้น เขาเชื่อ
“อืม” เวินลั่วฉิงพยักหน้าลงช้าๆ ด้วยความมั่นใจและไม่มีความลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว
“เมิ่งเฉิง ส่งคนไปที่นั่น แล้วช่วยคนออกมาให้ได้” เย่ซือเฉินรีบออกคำสั่งกับเมิ่งเฉิง
“ลูกพี่? ล้อเล่นหรือเปล่า?” เมิ่งเฉิงรู้สึกงง ปกติแล้วเขาจะไม่สงสัยในคำสั่งของเย่ซือเฉินเลย แต่ตอนนี้…..
ตอนนี้เป็นเพราะคำพูดประโยคเดียวของพี่สะใภ้ ? ถ้าหากคำพูดของพี่สะใภ้มีหลักฐานอ้างอิงก็ว่าไปอย่าง แต่นี่พี่สะใภ้ดูคลิปที่ไม่ได้มีประโยชน์พวกนั้นแล้วก็สามารถมองออกว่าคนถูกขังไว้ที่ไหนอย่างนั้นหรือ?
จะเป็นไปได้อย่างไร?
“ยังไม่รีบไปอีก” เย่ซือเฉินเห็นว่าเมิ่งเฉิงยังยืนอยู่ไม่ขยับนั้น ก็มองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา : “ถ้าช่วยคนกลับมาไม่ได้ ฉันจะเล่นงานนาย”
“อา ผมไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ” เมิ่งเฉิงได้สติกลับมาแล้ว ถึงแม้ว่าในใจจะยังไม่เชื่อ แต่คำสั่งของลูกพี่ เขาเองก็ไม่กล้าที่จะไม่ไปตามนั้น
“ฉันไปด้วย” เยว่หงหลิงเองก็รีบลุกขึ้น เธอรอมาหลายวันแล้ว ตอนนี้ในที่สุดมีข่าวคราว เธอเองก็ไม่สามารถรออยู่ที่นี่ได้เหมือนกัน
“พี่หงหลิง พี่ไม่ต้องไปปรากฏตัวจะดีที่สุดนะคะ ฉันกลัวว่าพอพี่เข้าไปใกล้สถานที่ที่พวกนั้นอยู่ พวกนั้นจะรู้ตัวน่ะค่ะ” เวินลั่วฉิงขวางเยว่หงหลิงเอาไว้
“ถ้าอย่างนั้นผมเองก็ไม่ออกหน้าเหมือนกันนะครับ ที่ประเทศMนี่ผมเองก็เป็นคนที่มีสถานะเหมือนกัน ถ้าหากจู่ๆผมปรากฏตัวขึ้น จะต้องทำให้พวกนั้นตกใจแน่ๆ ผมให้ลู่เหลียงไป ทางนั้นเป็นพื้นที่ที่ลู่เหลียงรับผิดชอบอยู่” เมิ่งเฉิงเองก็หยุดลงเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้เชื่อคำพูดของเวินลั่วฉิง ดังนั้นจึงไม่ได้ให้ความสำคัญนัก
“ก็ดีเหมือนกัน” เวินลั่วฉิงตกลงทันที ถ้าหากเธอเดาไม่ผิด สถานที่นั้นคงจะไม่มีคนเฝ้าคุ้มกันไว้มากนัก อยากจะช่วยคนออกมานั้นไม่น่ายาก ให้คนไปจากทางนั้นเลย เพื่อหลีกเลี่ยงเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น นั่นก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเลยเช่นกัน
“ได้ครับ ผมจะโทรหาลู่เหลียงตอนนี้เลย” เห็นว่าเวินลั่วฉิงตกลง เมิ่งเฉิงก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดโทรออก
เห็นได้ชัดว่าทางนั้นก็งงอยู่เช่นกัน แต่ถึงแม้เมิ่งเฉิงจะไม่เชื่อคำพูดของเวินลั่วฉิง แต่อยู่ต่อหน้าเย่ซือเฉินและเวินลั่วฉิง ก็ยังคงพูดออกมาอย่างดูร้ายแรง แล้วกำชับอย่างให้ความสำคัญอย่างจริงจัง
ถึงแม้ลู่เหลียงทางปลายสายนั้นจะดูงุนงงเสียจนไม่รู้ทิศรู้ทางแล้ว แต่หลังจากที่วางายไปก็เรียกรวมคนให้มาตาคำสั่งของเมิ่งเฉิงไปช่วยคนออกมา
ในห้องใต้ดินนั้นเงียบสงบมากเป็นพิเศษ สองสามคนนั้นรอผลกันอย่างเงียบๆ
สิ่งที่เยว่หงหลิงรู้สึกกังวลที่สุดก็คือ ถึงแม้ว่าเธอจะเชื่อในความสามารถของเวินลั่วฉิง แต่เธอกลัวว่าผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว น้องสาวของเธอจะ……
ใบหน้าของเย่ซือเฉินและเวินลั่วฉิงนั้นมองไม่เห็นถึงความผิดปกติเท่าไหร่นัก
เมิ่งเฉิงนั้นดูผ่อนคลายมากที่สุด ยังคงไม่เห็นด้วยอยู่เช่นเคย เนื่องจาก เขาไม่เชื่อว่าเวินลั่งฉิงจะหาตัวคนเจอในสถานที่แห่งนั้น
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง ทันใดนั้นเองโทรศัพท์ของเมิ่งเฉิงก็ดังขึ้น
สองสามคนนั้นแทบจะมองมาทางเมิ่งเฉิงพร้อมๆกัน เยว่หงหลิงดูร้อนใจมากที่สุด รีบพุ่งตรงเข้ามาตรงหน้าของเมิ่งเฉิงอย่างรวดเร็ว
เมิ่งเฉิงกระพริบตา จากนั้นก็กดรับสาย
“เมิ่งเฉิง ช่วยคนออกมาได้แล้วนะ ผู้หญิงคนนี้ได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ได้อันตรายถึงชีวิต เธอได้สติอยู่” ภารกิจของลู่เหลียงนั้นสำเร็จไปด้วยความราบรื่น ดังนั้นน้ำเสียงของเขานั้นจึงดูผ่อนคลายมาก เพียงแต่ในใจนั้นมีความสงสัยอยู่บ้าง : “เมิ่งโถว เธอคือใครน่ะ? สาวน้อยคนนี้หน้าตาสวยสดงดงาม แต่ดูยังเด็กอยู่เลย เมิ่งโถวแบบนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ”
“ถามเธอสิว่าชื่ออะไรน่ะ?” เมิ่งเฉิงหายใจแรง ได้สติขึ้นมาแล้วนั้น เขาดูไม่อยากจะเชื่ออย่างเห็นได้ชัด
“ชิบ เมิ่งโถว ไม่ใช่แล้วล่ะ? แม้แต่ชื่อสาวน้อยคนนี้นายยังไม่รู้เลย แล้วก็ให้ฉันเสี่ยงตายไปช่วยเนี่ยนะ?” ลู่เหลียงทางปลายสายส่งเสียงออกมาด้วยความตกใจ ตอนที่เมิ่งโถวสั่งเมื่อครู่นี้จริงจังเป็นอย่างมาก เขายังคิดว่าเป็นคนสำคัญมากกับเมิ่งโถวเสียอีก
“เมื่อกี้เธอบอกออกมาแล้ว ว่าเธอชื่อเยว่หงเจิน” ลู่เหลียงพูดเสริมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นเมิ่งเฉิงก็วางสายไป ทางลู่เหลียงที่อยู่ทางปลายสายนั้นก็รู้สึกงงอีกครั้ง
นี่มันอะไรกัน?
“พี่สะใภ้ ต่อไปผมขอติดตามพี่ได้ไหม?” เมิ่งเฉิงวางสายแล้วก็มองมาทางเวินลั่วฉิง แววตาเต็มไปด้วยความเลื่อมใส
ได้ยินคำพูดของเมิ่งเฉิงแล้ว สองสามคนนั้นก็รู้แล้วว่าเรื่องราวเป็นไปอย่างราบรื่น
“นายไสหัวไปได้แล้ว” เย่ซือเฉินเริ่มไล่เขาไปอย่างไม่ไว้หน้า เมื่อครู่ที่ยอมให้เมิ่งเฉิงอยู่นั้นเป็นเพราะเวินลั่วฉิงตกลง ตอนนี้เขายิ่งเห็นเมิ่งเฉิงก็ยิ่งรู้สึกขัดหูขัดตาไปหมด
“ลูกพี่ นี่พี่……” เมิ่งเฉิงคิดจะต่อต้าน เพียงแต่เมื่อสบเข้ากับสายตาที่ดูอันตรายของเย่ซือเฉินแล้ว ก็ยังอดทนเอาไว้
“ฉิงฉิง ขอบคุณเธอมากนะ” เสียงที่ดูตื่นเต้นของเยว่หงหลิงนั้นสั่นเล็กน้อย
“ระหว่างเรายังจะต้องมาเกรงใจอะไรกันอีกล่ะคะ พี่หงหลิง ฉันไปเป็นเพื่อนพี่ไม่ได้ ฉันยังมีธุระต้องไปทำอีก จึงต้องรีบกลับ” เรื่องทางนี้จัดการไปได้อย่างราบรื่นแล้ว เวินลั่วฉิงนับว่ารู้สึกโล่งใจขึ้นมา แต่เธอยังจำเรื่องที่เฟิ่งเหมียวเหมียวบอกกับเธอไว้ก่อนหน้านี้ได้
ตอนนี้เรื่องทางนี้จัดการเสร็จแล้ว เธอจะต้องรีบกลับไป
เย่ซือเฉินใช้เครื่องบินส่วนตัวมา ดังนั้นเวินลั่วฉิงเองก็ไม่ต้องรอสายการบินแล้ว สามารถประหยัดเวลาไปได้อีก
แต่ตอนนี้เวลาก็นับว่าเย็นแล้ว จากที่นี่ไปถึงเมืองไห่อย่างเร็วที่สุดก็ต้องใช้เวลาหกถึงเจ็ดชั่วโมง ถึงที่เมืองไห่ก็เป็นเวลาดึกดื่นเที่ยงคืนแล้ว หวังว่าถังหยุนเฉิงจะไม่เกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นเสียก่อน
เปลือกตาของเวินลั่วฉิงกระตุก ในใจของเธอนั้นมีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก