ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่903 เมื่อเห็นว่าเธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ก็ต้องตกใจจนขนลุกขนพอง(2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่903 เมื่อเห็นว่าเธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ก็ต้องตกใจจนขนลุกขนพอง(2)
ถังหยุนเฉิงส่งเงินให้ผู้หญิงคนนั้นราวๆ หนึ่งร้อย: “เด็กคนนี้มีไข้ ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรมากหรอก ฉันให้คนไปเอายามาแล้ว เพียงแค่เด็กคนนี้เสื้อผ้าเปียกแถมยังสกปรกด้วย ฝากคุณช่วยหาเสื้อผ้า แล้วเปลี่ยนให้หน่อยเถอะ”
ถ้าเสื้อผ้าของเด็กผู้หญิงคนนั้นทั้งเปียกทั้งสกปรก จะต้องป่วยหนักกว่าเดิมแน่นอน
“ก็ได้” เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นเงินก็ตาลุกวาว เลยไม่ได้อิดออดอะไรต่อ ก่อนจะให้ถังหยุนเฉิงเข้าไปได้
“มีเพียงห้องเดียวแล้ว คุณอุ้มเธอเข้าไปก่อนเถอะ ฉันจะไปหาเสื้อผ้ามาให้” หญิงคนนั้นเห็นแก่เงินเลยพูดอะไรง่ายขึ้นเยอะ
ในสถานการณ์แบบนี้ ถังหยุนเฉิงเองก็ไม่อยากจะอะไรมากมาย เลยได้แต่พาเด็กผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในห้อง
หญิงถือว่าพูดรู้เรื่องทีเดียว เพราะผ่านไปไม่นานก็เอาเสื้อผ้าเข้ามาในห้อง
ที่พักของชาวบ้านนั้นมันไม่ดีเท่าไหร่ แต่ว่าในห้องก็ยังมีที่ให้อาบน้ำ หญิงเลยช่วยเด็กผู้หญิงคนนั้นอาบน้ำ ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้า
อาจจะเป็นเพราะได้อาบน้ำ เด็กผู้หญิงเลยฟื้นตอนออกมาพอดี
“อาบน้ำออกมาแล้วดูน่ารักไม่เบาเลยนะ” หญิงพาเด็กผู้หญิงที่เสื้อผ้าเสร็จแล้วออกมา ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ดูแล้วเป็นมิตรมากเลยล่ะ
เสื้อผ้าที่หญิงคนนี้หามามันใหญ่ไปหน่อย มือเท้าของเด็กผู้หญิงเลยเหมือนถูกห่ออยู่
“เธอฟื้นแล้วน่าจะไม่เป็นอะไรมาก แค่ไข้ขึ้นเท่านั้น กินยาลดไข้หน่อยก็น่าจะหายแล้ว” น่าจะเพราะเห็นว่าเด็กฟื้นแล้ว เลยไม่น่าจะมีอะไรมาก ตอนนี้หญิงคนนี้ถือว่าใจดีแล้วล่ะ
“โอเค ขอบคุณนะ” ถังหยุนเฉิงเห็นเด็กคนนี้ฟื้นขึ้นมาก็วางใจ เขากังวลตลอดว่าเด็กผู้หญิงคนนี้จะมีปัญหาอื่นขึ้นมา ตอนนี้เห็นท่าทีของเด็กผู้หญิงคนนี้ก็คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไรมาก
“เด็กน้อย คุณชื่ออะไรเหรอ?แล้วบ้านอยู่ที่ไหนเหรอ?” หลังจากที่หญิงคนนี้ออกไป ถังหยุนเฉิงก็มองเด็กผู้หญิงคนนี้ พลางถามคำถามเล็กน้อยๆ
ถังหยุนเฉิงอยากจะถามให้ชัดเจนเสียหน่อย ถ้าจะให้ดีก็พาเด็กผู้หญิงไปส่งที่บ้านจะดีกว่า
เด็กผู้หญิงสลบอยู่กลางถนนบนเขา ไม่แน่ว่าบ้านอาจจะอยู่แถวๆ หมู่บ้านก็ได้
แต่เด็กน้อยไม่ตอบเลย เอาแต่ส่ายหัว ดูท่าทีเหมือนจะยังมึนๆ แถมยังดูกังวลและกลัวด้วย
ถังหยุนเฉิงถามคำถามนิดหน่อย เด็กผู้หญิงเอาแต่ส่ายหัว โดยที่ไม่พูดอะไรเลย ถังหยุนเฉิงก็ทำอะไรไม่ได้ เลยให้เธอไปนอนพัก
เด็กผู้หญิงนอนบนเตียงด้วยความกลัว ถังหยุนเฉิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้อง ก่อนจะรอให้เสี่ยวอู๋เอายากลับมา
เด็กผู้หญิงไม่ได้นอน พลางเอาแต่นั่งอยู่บนเตียง อาจจะเป็นเพราะว่ากำลังกังวลอยู่
เด็กผู้หญิงตื่นอยู่ตลอด แต่ก็ไม่บอกว่าไม่สบายตรงไหน กลับทำให้ถังหยุนเฉิงไม่สบายใจขึ้นมาไม่น้อยเลย
เวลาค่อยๆ ผ่านไป แต่ตอนนี้เป็นเวลาตีหนึ่งกว่าแล้ว แต่เสี่ยวอู๋กลับยังไม่กลับมาเลย
ถึงแม้ว่าถนนในหมู่บ้านมันจะเดินทางไม่สะดวกเท่าไหร่ แต่เวลาหนึ่งชั่วโมงนั้นเหลือเฟือ แถมร้านขายยาก็อยู่ไม่ไกลเหมือนกัน
ถังหยุนเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเอาโทรศัพท์ออกมาโทรหาเสี่ยวอู๋
แต่โทรศัพท์ของเสี่ยวอู๋นั้นกลับขึ้นว่าปิดเครื่องอยู่
ถังหยุนเฉิงหนักใจ เสี่ยวอู๋นั้นตื่นตัวตลอดเวลา ปกติไม่เคยปิดเครื่องเลย เพราะว่าเสี่ยวอู๋จะเอาพาวเวอร์แบงค์ติดตัวไปด้วยเสมอ
ดังนั้น จึงตัดเรื่องแบตหมดออกไปได้เลย
ความเป็นไปได้ในการที่โทรศัพท์จะเสียก็ไม่ได้มีมากขนาดนั้น
เกรงว่า……
ถังหยุนเฉิงมองเด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเตียง เขารู้ว่าเรื่องนี้มีปัญหาแล้วล่ะ
ถ้าเขาออกไปหาเสี่ยวอู๋ตอนนี้ล่ะ?
เขาไม่กล้ารับประกันว่าถ้าเขาออกไปแล้วจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเด็กผู้หญิงคนนี้
ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเด็กผู้หญิงคนนี้ที่นี่ ผลลัพธ์คงจะคาดไม่ถึงเลยล่ะ ถึงอย่างไรก็เป็นเขาที่พาเด็กผู้หญิงมา
ถึงจะให้หญิงเมื่อครู่มาดูแลเด็กผู้หญิงคนนี้ ถังหยุนเฉิงก็ยังไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่
ตอนนี้ถังหยุนเฉิงคิดว่าคนของตระกูลกู้อาจจะอยากให้เด็กผู้หญิงคนนี้เกิดอันตรายขึ้นในมือเขา
ดังนั้น ตอนนี้ถังหยุนเฉิงเลยอยากจะมั่นใจว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับเด็กผู้หญิงคนนี้ก่อน
แต่ถังหยุนเฉิงเป็นคนระแวงระวังเป็นอย่างมาก
ผ่านไปอีกราวๆ ชั่วโมงหนึ่ง เสี่ยวอู๋ก็ยังไม่กลับมา แต่จู่ๆ ก็มีคนเข้ามาในที่พักของชาวบ้าน
คนที่นำเข้ามานั้นเป็นชายที่ไม่สูงมาก แต่กลับมีใบหน้าโหดเหี้ยม เขาปรี่เข้ามาในห้องของถังหยุนเฉิงทันที
“ลูกสาวฉันล่ะ คุณทำอะไรลูกสาวฉัน?” ชายที่ปรี่เข้ามาในห้องรีบพูดขึ้น
ถังหยุนเฉิงอึ้งไป ยังไม่ทันจะตอบอะไร คืนนี้มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่นะ?
ผู้ชายคนนี้เข้ามาหาลูกสาวงั้นเหรอ?
เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสาวของเขาเหรอ?
เมื่อเด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเตียงเห็นชายคนนั้นเข้ามาก็อึ้งไป ก่อนจะลงจากเตียงทันที
“เขาใช่พ่อคุณหรือเปล่า?” ถังหยุนเฉิงมีสีหน้าหนักใจ พลางรู้สึกไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่ เพราะเด็กผู้หญิงนอนหมดสติอยู่กลางถนนตั้งนานแต่ก็ไม่มีใครสนใจ
ครอบครัวที่ไม่เห็นเด็กผู้หญิงคนนั้นตั้งนานถึงมาหา
เรื่องที่เขาพาเด็กผู้หญิงกลับมานั้นไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำ แล้วคนพวกนี้มาหาได้อย่างไรกันนะ?
เรื่องนี้มันดูไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ มันมีคำถามมากมายอยู่ภายในนั้น
แต่เด็กผู้หญิงกลับพยักหน้าเต็มแรง จากนั้นก็เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าชายคนนั้น ก่อนจะเกาะขาชายคนนั้น แล้วพูดขึ้น: “พ่อ”
ตอนนี้เด็กผู้หญิงดูกลัวๆ พูดด้วยเสียงที่ไม่ดัง แต่กลับชัดพอสมควร ถังหยุนเฉิงจึงได้ยินอย่างชัดเจน
แววตาของถังหยุนเฉิงนั้นเปล่งประกาย เด็กน่าจะไม่มีทางโกหก ในเมื่อเด็กผู้หญิงคนนี้บอกว่าชายคนนี้เป็นพ่อของเธอ แถมยังกอดขาแล้วเรียกว่าพ่อ ก็น่าจะไม่ได้โกหกอะไร
ถึงถังหยุนเฉิงจะรู้สึกไม่ชอบมาพากลเท่าไหร่ แล้วก็รู้สึกไม่สบายใจ แต่พ่อของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาหา เขาจะไม่ให้พวกเขาพาเด็กผู้หญิงคนนั้นไปก็ไม่ได้
“เดี๋ยวก่อน ฉันต้องให้เจ้าของที่พักของชาวบ้านมายืนยันก่อน ยืนยันว่าเธอถูกครอบครัวของเธอพาไปแล้ว” ถังหยุนเฉิงจะให้พวกเขาพาไปแบบนี้ไม่ได้ ถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นคนในครอบครัวของเด็กผู้หญิง เขาเองก็ทำอะไรไม่ได้
ชายที่ปรี่เข้ามาเมื่อครู่กลับไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่เอาเด็กคนนั้นมากอดเอาไว้
คนต่างปรี่เข้ามา หญิงเมื่อครู่ก็ลุกขึ้นมาเหมือนกัน เมื่อเห็นฉากเมื่อครู่ก็งงไปเลย เมื่อได้ยินเสียงของถังหยุนเฉิง เธอก็ค่อยๆ มีสติกลับมา ก่อนจะพยักหน้าหงึกๆ : “อ๋อ อ๋อ ฉันเป็นพยานให้ได้”
“ไปกันเถอะ พ่อจะพาคุณกลับไป” ชายที่ปรี่เข้ามาเมื่อครู่อุ้มเด็กผู้หญิงคนนั้นเอาไวแน่น ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เด็กผู้หญิงยื่นมือออกไปกอดคอชายคนนั้น ก่อนจะพยักหน้าอีกครั้ง
ร่างกายของเด็กผู้หญิงคนนั้นสั่นเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเป็นหวัด หรือเพราะอะไร
“เด็กกำลังป่วยอยู่ เลยตัวสั่นมาก พาไปตรวจหน่อยเถอะ” หญิงคนนั้นก็หวังดี เพราะกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กผู้หญิง
“น่าจะตกใจนะ ตอนนี้ฉันอยากจะพาเธอไปตรวจร่างกาย” ชายคนนั้นก้มหน้ามองเด็กผู้หญิงตัวสั่นที่อยู่ในอ้อมกอด ก่อนจะพูดเสียงต่ำด้วยความกังวลเล็กน้อย
ถึงถังหยุนเฉิงจะรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนี้มันแปลกๆ แต่เขาก็ขวางสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้เหมือนกัน
จากนั้นชายคนนั้นก็อุ้มเด็กผู้หญิงออกไปจากห้อง…