ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่904 เมื่อเห็นว่าเธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ก็ต้องตกใจจนขนลุกขนพอง(3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่904 เมื่อเห็นว่าเธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ก็ต้องตกใจจนขนลุกขนพอง(3)
ผู้ชายคนนั้นพาเด็กผู้หญิงออกจากประตูไป ก็พบกับเสี่ยวอู๋ที่กำลังเข้ามาพอดี
เมื่อเสี่ยวอู๋เห็นสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าก็ตกใจ: “ประธานถัง……นี่มันอะไรกัน?”
เพราะว่าไม่แน่ใจว่าคนเหล่านั้นเป็นใคร ดังนั้นเสี่ยวอู๋เลยเกิดความระวังขึ้นในใจ
“ครอบครัวของเด็กน้อยมารับแล้ว พลางจะรับเด็กกลับไปน่ะ” ถังหยุนเฉิงอธิบายอย่างง่ายๆ
ตอนนี้เด็กผู้หญิงฟื้นแล้ว ใครก็ดูออกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เกิดอะไรขึ้นมาก แต่ตอนนี้เด็กผู้หญิงถูกพ่อเขามารับไปแล้ว แถมยังมีเจ้าของของที่พักของชาวบ้านมายืนยันอีกด้วย
ถังหยุนเฉิงคิดว่าน่าจะไม่มีอะไรมาก
เสี่ยวอู๋ยังคงอึ้งอยู่ แต่เมื่อประธานถังพูดออกมาแล้ว เขาเองก็ไม่กล้าพูดอะไรไปมากกว่านี้ เลยได้แต่มองเด็กผู้หญิงถูกพาออกไป
เสี่ยวอู๋คิดว่าการที่เด็กผู้หญิงถูกครอบครัวพากลับไปนั้นก็ดี อยู่ที่นี่มีแต่จะทำให้คนอื่นเป็นกังวล
“ทำไมไปนานจังเลย?” ถังหยุนเฉิงกลับไปที่ห้องก่อนจะมองไปทางเสี่ยวอู๋ แล้วพูดเสียงต่ำ
เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้มันแปลกขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“เรียกอยู่นานกว่าจะมีคนออกมาเปิด คนที่ตื่นขึ้นมาเป็นคนชราเสียด้วย ตอนที่คุณตาชราคนนั้นเดินข้ามธรณีประตูของร้านขายยาก็สะดุดล้มด้วย แถมในร้านขายยายังไม่มียาลดไข้สำเร็จรูปด้วย คุณตาคนนั้นเลยเอายาจีนมาทำให้น่ะ” เสี่ยวอู๋อธิบายอย่างละเอียด เพราะว่าวันนี้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย ดังนั้นเขาเลยเล่าให้ถังหยุนเฉิงฟังอย่างละเอียด เกรงว่าจะเกิดอะไรขึ้นแล้วเขาจะมองไม่ออก หรือบางทีประธานถังอาจจะมองออกก็ได้
ถังหยุนเฉิงขมวดคิ้วเบาๆ เสี่ยวอู๋หายไปสองชั่วโมงมันก็แปลกพอแล้ว แต่ถ้าเป็นไปตามที่เสี่ยวอู๋บอกมันก็ไม่แปลกอะไรมาก
เพียงแต่ว่า ร้านขายยาที่ไม่มียาลดไข้แบบสำเร็จนั้น มันออกจะแปลกไปมากเลยล่ะ
“โทรศัพท์คุณเป็นอะไรเหรอ?ทำไมถึงปิดเครื่องไปล่ะ?” ถังหยุนเฉิงนึกถึงตอนที่โทรไปหาเสี่ยวอู๋แล้วเขาไม่รับสาย
“คุณตาคนชราล้มลงไป พอฉันไปพยุงคุณตาคนชราขึ้นมาโทรศัพท์ก็เลยตกลงไปในน้ำ ส่วนร้านขายยาก็ไม่มีโทรศัพท์ เลยไม่ได้รายงานคุณ……” เสี่ยวอู๋อธิบาย ก่อนจะหยุดพูดไป: “ประธานถัง เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?”
ถังหยุนเฉิงหรี่ตาลง ในสถานการณ์ปกติคงจะไม่มีอะไรมาก แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้มันไม่ปกติ
ดังนั้น เลยอาจจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นจริงๆ ก็ได้
แต่ถังหยุนเฉิงคิดไม่ออกว่าทำไมอีกฝ่ายต้องทำแบบนี้ด้วย?
เพื่อยื้อสี่ยวอู๋งั้นเหรอ?เพื่อไม่ให้เสี่ยวอู๋กลับมางั้นเหรอ?
แต่ภายในสองชั่วโมงนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น ทำไมอีกฝ่ายถึงไม่อยากให้เสี่ยวอู๋กลับมาล่ะ?
แถมตอนที่เสี่ยวอู๋กลับมานั้น เป็นเวลาที่พ่อของเด็กผู้หญิงกลับมาพาเด็กผู้หญิงกลับไปพอดีด้วยงั้นเหรอ?
นี่จะเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายจัดการเอาไว้หมดแล้วหรือเปล่านะ?
แต่การที่อีกฝ่ายจัดการแบบนี้เพื่ออะไรกันแน่นะ?
ถังหยุนเฉิงคิดไม่ออกจริงๆ
เขากังวลว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นจะเกิดเรื่องอะไรตอนที่อยู่กับเขา แต่ตอนนี้เด็กผู้หญิงถูกพ่อของเธอพากลับไปแล้ว โดยที่ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น……
หรือว่าเขาเดาผิดตั้งแต่แรก?
ถ้าเขาเดาทางผิด แล้วเป้าหมายของอีกฝ่ายคืออะไรงั้นเหรอ?
ถังหยุนเฉิงถอนหายใจเบาๆ เรื่องร้ายๆ แบบนี้เขาไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ ถ้าเป็นฉิงฉิงก็คงจะเรียบร้อยไปแล้ว
แต่ก็ไม่รู้ว่าฉิงฉิงจัดการเรื่องในประเทศMเสร็จหรือยัง?
เวินลั่วฉิงในตอนนี้ไปถึงเมืองไห่แล้ว ก่อนที่เครื่องบินจะขึ้น เธอโทรไปหาถังหยุนเฉิง แต่กลับโทรหาถังหยุนเฉิงไม่ติด
ตอนนี้ลงจากเครื่องแล้ว เธอก็โทรหาถังหยุนเฉิงอีกครั้ง แต่สายของถังหยุนเฉิงก็ยังคงโทรไม่ติดเหมือนเดิม
“โทรศัพท์ของลุงถูกบล็อกแล้ว เลยโทรไม่ได้” สีหน้าของเวินลั่วฉิงนั้นเคร่งเครียด เมื่อโทรหาถังหยุนเฉิงไม่ติด ก็กลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
มันชัดเจนว่าอีกฝ่ายไม่อยากให้เธอติดต่อถังหยุนเฉิงได้ ยิ่งเป็นแบบนี้ แปลว่าเรื่องมันน่าจะหนักมากกว่าเดิม
เมื่อติดต่อถังหยุนเฉิงไม่ได้ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน และยิ่งไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นด้วย
“พวกเราไปหาที่พักก่อนเถอะ เรื่องอื่นๆ ค่อยคุยพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” เย่ซือเฉินเองก็รู้ความรุนแรงของเรื่องที่เกิดขึ้นได้ อันที่จริงก่อนหน้านี้ที่เวินลั่วฉิงเตือนเขานั้น เขาได้ให้กู้หวูมาที่เมืองไห่เพื่อจัดการแล้ว
จนถึงตอนนี้กู้หวูยังไม่ได้รายงานอะไรเขาเลย เลยกลัวว่าจะหาถังหยุนเฉิงไม่เจอ!
เวินลั่วฉิงหรี่ตาลงเบาๆ จากนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาทันที ก่อนจะรีบใส่ตัวเลข
เบอร์ของตัวเลขที่เธอใส่นั้นมันเร็วมาก โดยไม่มีท่าทีจะหยุดเลย เย่ซือเฉินมองตัวเลขที่เธอใส่ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น แต่ว่าไม่ได้พูดอะไรออกไป
เวินลั่วฉิงโทรศัพท์อีกครั้ง อีกฝ่ายไม่ได้รับในครั้งแรก เวินลั่วฉิงเลยโทรต่อไป
ตอนที่เวินลั่วฉิงโทรไปเป็นครั้งที่สี่นั้น คนฝั่งนั้นก็ถูกเธอทำให้ตื่นขึ้นด้วยความหนวกหู ก่อนจะรับโทรศัพท์: “ฮัลโหล นั่นใคร?”
อีกฝ่ายถูกทำให้ตื่น อารมณ์เลยดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แถมน้ำเสียงก็ดูกระแทกอีกด้วย
“หัวหน้ากง เกิดเรื่องขึ้นกับถังหยุนเฉิงแล้ว” เมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่าย แววตาของเวินลั่วฉิงก็หรี่ลงอีกครั้ง
“หมายความว่าอย่างไร?เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอ?คุณเป็นใคร?” อีกฝ่ายเงียบไปสักพัก จากนั้นก็พูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความจริงจังและระวังตัว
“ฉันเป็นนักข่าวจากเมืองไห่ชื่อเจิ้งเยว่ฉันเพิ่งได้รับข่าว ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับถังหยุนเฉิงที่เมืองไห่ภาคตะวันตก ทางนั้นรายงานผ่านนักข่าว เหมือนเรื่องมันจะหนักหนามากๆ เลยล่ะ ได้ยินว่าตายแล้ว น่าจะเป็นถังหยุนเฉิง……” คำพูดของเวินลั่วฉิงนั้นตั้งใจหยุดไป ให้พูดไม่จบ แต่สิ่งที่จะสื่อออกไปนั้นมันชัดเจนมากแล้ว
เวินลั่วฉิงหยุดพูดไปสักพัก ยังไม่ทันรอให้หัวหน้ากงตอบอะไร ก็พูดต่อไปว่า: “หัวหน้ากงไปกับถังหยุนเฉิงด้วย เกิดเรื่องกับถังหยุนเฉิงแล้ว หัวหน้ากงคงจะไม่มีทางไม่รู้ใช่ไหมล่ะ?ดังนั้นฉันเลยอยากจะมายืนยันกับทางหัวหน้ากงสักหน่อย” เวินลั่วฉิงตั้งใจเปลี่ยนน้ำเสียง เสียงนั้นเย็นชาและแหบแห้งมากกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด ถ้าไม่ใช่ว่าเย่ซือเฉินนั่งอยู่ข้างเธอในตอนนี้ ถ้าได้ฟังแค่เสียง คงฟังไม่ออกว่าเป็นเธอ
ถึงเวินลั่วฉิงจะไม่ได้รู้เรื่องจองทางเมืองไห่ แต่เธอก็หาเรื่องที่เธอคืดว่าสำคัญมาได้ เจิ้งเยว่เป็นนักข่าวของเมืองไห่ เธอกล้าที่จะทำทุกอย่าง พูดได้ว่า ไม่มีเรื่องอะไรที่เธอไม่กล้ารายงาน และไม่มีเรื่องอะไรที่เธอไม่กล้าพูด
มีคนไม่น้อยในเมืองไห่เลยที่ถูกเจิ้งเยว่รายงานเรื่องน่าอายจนเสียชื่อเสียงไปหมด ในคนเหล่านั้นมีแต่คนที่เป็นคนใหญ่คนโตด้วยกันทั้งนั้น
มีคนมากมายที่เกลียดเจิ้งเยว่เข้ากระดูก จนอยากจะหั่นศพเธอเป็นชิ้นๆ แต่เธอกลับอยู่ดีมาตลอด ไม่เคยได้เจ็บปวดอะไรเลยแม้แต่น้อย คนมากมายเลยลือกันไปว่าคนที่อยู่เบื้องหลังของเธอนั้นใหญ่มาก
ครั้งนี้ หัวหน้ากงกับถังหยุนเฉิงไปที่เมืองไห่ เจิ้งเยว่ก็รับผิดชอบการสัมภาษณ์ทั้งหมด
ดังนั้น เวินลั่วฉิงเลยใช้เจิ้งเยว่ในตอนนี้ คำพูดอื่นๆ นั้นหัวหน้ากงคงไม่มีทางเชื่อ แต่พอเป็นคำพูดของเจิ้งเยว่นั้น หัวหน้ากงกลับไม่เอามาใส่ใจไม่ได้
เธอรู้ว่าหัวหน้ากงช่วยคนของตระกูลกู้มาตลอด หัวหน้ากงน่าจะรู้ว่าการมาเมืองไห่ครั้งนี้ตระกูลกู้จะแก้แค้นถังหยุนเฉิง หัวหน้ากงน่าจะอยากหลับตาข้างหนึ่งเท่านั้นเอง
แต่ ถ้าเกิดว่าตายไป หรือว่าเกิดอันตรายขึ้นกับชีวิตถังหยุนเฉิง หัวหน้ากงก็ยากที่จะคิดถึงแต่ตัวเอง
ดังนั้น คำพูดของเวินลั่วฉิงในตอนนี้มันโกหกเขาทั้งเพ และหวังว่าจะได้ข่าวคราวอะไรที่เป็นประโยชน์บ้าง!