ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่905 เมื่อเห็นว่าเธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ก็ต้องตกใจจนขนลุกขนพอง(4)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่905 เมื่อเห็นว่าเธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ก็ต้องตกใจจนขนลุกขนพอง(4)
แน่นอน ว่าเวินลั่วฉิงรู้ว่าคนของตระกูลกู้นั้นไม่มีทางทำร้ายถังหยุนเฉิงจนถึงแก่ชีวิต เพราะมีอะไรทั่นโหดร้ายกว่าชีวิตของถังหยุนเฉิงอีก
ตอนนี้สิ่งที่เวินลั่วฉิงพนันว่าหัวหน้ากงจะไม่รู้แผนทั้งหมดของตระกูลกู้
“จะเป็นไปได้อย่างไร?ถังหยุนเฉิงไปที่หมู่บ้านยู่สุ่ยแท้ๆ ทำไมถึงไปเกิดเรื่องอะไรที่ภาคตะวันตกของเมืองไห่ได้นะ?” หัวหน้ากงไม่รู้แผนทั้งหมดของตระกูลกู้แน่นอน แต่เขารู้ว่าถังหยุนเฉิงไปที่หมู่บ้านยู่สุ่ยแล้ว เพราะเขาให้ถังหยุนเฉิงไปเอง ถังหยุนเฉิงจะไม่กล้าขัดคำสั่งของเขาแน่นอน
ถึงเรื่องของหมู่บ้านยู่สุ่ยนั้นจะไม่ได้ใหญ่อะไร แต่ระยะทางของเมืองไห่นั้นมันไกลไปหน่อย แถมถนนบนเขาก็เดินทางลำบากด้วย ถังหยุนเฉิงไม่มีทางกลับมาเร็วขนาดนั้น อีกอย่างคืนนี้ถังหยุนเฉิงน่าจะไม่มีทางกลับมา
หัวหน้ากงไม่รู้แผนทั้งหมดของตระกูลกู้ แต่เขาต้องรู้การกระทำของคนของตระกูลกู้อยู่แล้ว ดังนั้น เขาเลยตั้งใจจะทำไปตามแผนของตระกูลกู้ด้วย ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีทางให้ถังหยุนเฉิงไปที่หมู่บ้านยู่สุ่ยเด็ดขาด
ถึงจะเกิดเรื่องขึ้นกับถังหยุนเฉิง ก็น่าจะเกิดที่หมู่บ้านยู่สุ่ย ซึ่งมันไม่มีทางเกิดขึ้นที่ภาคตะวันตกของเมืองไห่เด็ดขาด
“โอเค ฉันรู้แล้ว” เวินลั่วฉิงวางสายไปทันที
หัวหน้ากงถูกวางสายไป เลยทำให้มึนงง นักข่าวคนนี้โทรมาหาเขากลางดึกแต่พูดอะไรไม่รู้เรื่องก็วางสายไปแล้วงั้นเหรอ?
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะเนี่ย?
หัวหน้ากงไม่มีทางโทรกลับไปอีกแน่นอน แต่ในใจเขาก็ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ เพราะว่าแผนของตระกูลกู้นั้นมีปัญหาหรือเปล่านะ?
เขาหาเบอร์ของกู้เจิ้งลุ่นก่อนจะโทรไป……
ตอนนี้เป็นเวลาราวๆ ตีสี่แล้ว แต่กู้เจิ้งลุ่นกลับรับสายทันที
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับถังหยุนเฉิงหรือเปล่า?” กู้เจิ้งลุ่นรับสายเร็วเหลือเกิน ทำให้แววตาของหัวหน้ากงนั้นวาวขึ้นทันที
“หัวหน้ากง คุณได้ยินอะไรมาหรือเปล่า?” กู้เจิ้งลุ่นเองก็แปลก เขาไม่นอนทั้งคืน เอาแต่นั้นรอข่าวของอีกฝ่าย เมื่อครู่อีกฝ่ายโทรมาหาเขา บอกว่าเรื่องผ่านไปได้ด้วยดี ทั้งหมดเป็นไปตามแผน
เขาเพิ่งได้รับสายจากอีกฝ่าย หัวหน้ากงรู้ได้อย่างไรกันนะ?
“เกิดเรื่องแล้วเหรอ?” หัวหน้ากงได้ยินน้ำเสียงของกู้เจิ้งลุ่น ก็หนักใจ: “กู้เจิ้งลุ่น ถ้าเกิดเรื่องอะไรกับถังหยุนเฉิงที่เมืองไห่ แล้วถ้าถึงชีวิต ในฐานะที่ฉันเป็นผู้นำของตระกูลสูงส่งทั้งแปดจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยก็ไม่ได้ คุณอยากให้ฉันตายหรือไง?”
“หัวหน้ากง คุณอย่าเพิ่งร้อนใจไปนะ ถังหยุนเฉิงคงจะไม่มีอันตรายอะไรหรอก แผนของพวกเรานั้นไปได้สวยเลย คุณวางใจเถอะ ฉันไม่มีทางให้เรื่องนี้มันสาวไปถึงคุณได้หรอก” กู้เจิ้งลุ่นได้ฟังคำพูดของหัวหน้ากงแบบนั้นก็วางใจลง หัวหน้ากงเองก็คงได้รับข่าวปลอมๆ อะไรสักอย่าง
“เมื่อครู่เจิ้งเยว่โทรหาฉัน บอกว่าเกิดเรื่องขึ้นกับถังหยุนเฉิงที่ภาคตะวันตกของเมืองไห่” หัวหน้ากงรู้ได้ว่าเรื่องนี้มันดูไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ เจิ้งเยว่แค่อยากจะยืนยันกับเรื่องของถังหยุนเฉิงสักหน่อย แต่ก็ไม่ควรโทรไปหาเขาโดยตรงใช่ไหม?
“เจิ้งเยว่งั้นเหรอ?ไม่มีทาง” กู้เจิ้งลุ่นอึ้งไป: “ตอนนี้ถังหยุนเฉิงยังอยู่ที่หมู่บ้านยู่สุ่ยแน่นอน แผนของพวกเราเรียบร้อยดี เจิ้งเยว่เป็นนักข่าวของเมืองไห่ ไม่มีทางได้รับข่าวผิดๆ แบบนี้แน่นอน ถึงเธอจะได้ข่าวมา แต่ก็คงจะไม่บอกทั้งๆ ที่ไม่มั่นใจแบบนี้”
“เรื่องนี้มันแปลกไปสักหน่อย คุณเองก็ระวังตัวหน่อยก็แล้วกัน” หัวหน้ากงรู้ได้ถึงปัญหา เสียงเลยดูหนักใจขึ้นเล็กน้อย คนของตระกูลกู้อยากจะทำอะไรนั้นเขาไม่สามารถไปยุ่งได้ แต่ก็ไม่มีทางสาวไปถึงเขาแน่นอน
เดี๋ยวเขาก็จะลาออกแล้ว เลยไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นในเวลาสำคัญแบบนี้
อันที่จริง ในสถานการณ์แบบนี้ เขาเองก็ไม่อยากจะช่วยตระกูลกู้แล้ว แต่เขาอยู่ผิดฝ่ายตั้งแต่เริ่ม เลยอยู่ฝั่งตรงข้ามกับถังหยุนเฉิงเสียอย่างนั้น ถ้าถังหยุนเฉิงได้เลื่อนขั้น อิทธิพลของเขาจะต้องถูกกดเอาไว้อย่างแน่นอน พอถึงตอนนั้นครอบครัวของเขาอาจจะยากที่จะมีที่ยืนไปด้วยได้
ดังนั้น ตอนนี้เขาเลยต้องช่วยตระกูลกู้ต่อไป ขอแค่กู้เจิ้งลุ่นขึ้นไปแทน แล้วตระกูลกงได้แต่งงานกับตระกูลกู้ ผลก็จะออกมาดี
ตอนนี้หัวหน้ากงหาทางลงไม่ได้แล้ว
หลังจากที่วางสายของหัวหน้ากงไป เวินลั่วฉิงก็มีแววตาแห่งความมืดมนเข้ามาเล็กน้อย
“คุณลุงไปหมู่บ้านยู่สุ่ยแล้ว เป็นไปได้ว่าอาจจะถูกกักเอาไว้ที่นั่น เลยกลับมาไม่ได้” ถึงแม้ว่าเมื่อครู่หัวหน้ากงจะไม่ได้อธิบาย แต่เวินลั่วฉิงกลับเดาออกมาได้ไม่ยาก
“หมู่บ้านยู่สุ่ยงั้นเหรอ?พวกเขากักคนอื่นๆ เอาไว้ที่นั่นทำไม?” เย่ซือเฉินที่เจ้าเล่ห์กว่าหมาจิ้งจอก กลับเดาอีกฝ่ายไม่ออกเสียอย่างนั้น
“ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน” เวินลั่วฉิงกำลังวิเคราะห์ตามจิตวิทยาอยู่ ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเมื่อคืน เธอเลยตอบอะไรไม่ได้
“พวกเราไปที่หมู่บ้านยู่สุ่ยตอนนี้ดีไหม?” เย่ซือเฉินมองเธอสักพัก จากนั้นก็มองเวลา:” ตอนนี้จะตีสี่แล้ว ไปตอนนี้จะมีประโยชน์อะไรอีกเหรอ?”
“ยังไม่ไปดีกว่า รอข่าวดีกว่านะ” เวินลั่วฉิงรู้ว่าถ้าอีกฝ่ายอยากจะทำอะไรถังหยุนเฉิง เกรงว่าจะทำลงไปแล้ว ในเมื่อถังหยุนเฉิงไม่ออกมา เธอเองก็เข้าไปไม่ได้แน่นอน
ถึงแม้ว่าเวินลั่วฉิงจะไม่รู้เป้าหมายของอีกฝ่าย แต่เธอกลับมั่นใจได้ ว่าอีกฝ่ายจะต้องใช้สื่อเป็นเครื่องมือแน่นอน
เป้าหมายของอีกฝ่ายจะต้องเป็นการใช้สื่อเพื่อทำให้ถังหยุนเฉิงเสียชื่อเสียง
สิ่งที่เธอทำได้ในตอนนี้คือการตรวจสอบสถานการณ์ไปเรื่อยๆ จะได้แก้ไขปัญหาที่พบได้ทันท่วงที
ตอนนี้อยู่ที่เมืองไห่ พวกเขาไม่คุ้นกับที่เลย ทำอะไรหลายๆ อย่างไม่ถนัด แต่ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเองก็ต้องหาวิธีแก้ไขมันให้ได้
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นตระกูลกู้ หรือเป็นคนที่องค์กรโกสต์ซิตี้ เวินลั่วฉิงเองก็ไม่กลัว!
แต่ หลังจากที่เรื่องของวันที่สองแดงขึ้น เวินลั่วฉิงก็พบว่าเธอประเมินแผนชั่วร้ายของคนพวกนั้นต่ำไป
“ฉันอยากจะหาทางติดต่อเจิ้งเยว่” ดูจากข้อมูลที่หามาได้นั้น การรายงานข่าวของเจิ้งเยว่นั้นมันถูกต้อง เย่ซือเฉินเลยคิดว่าบางทีอาจจะหาจุดเปิดโปงจากเธอได้
เขากับถังหลินไม่มีอิทธิพลอะไรในเมืองไห่เลย ตอนแรกเป็นเพราะถังหลินนั้นอ่อนไหวเกินไป แต่เขารวมเป็นหนึ่งเดียวกับถังหลิน ดังนั้นเขาเลยอยากจะออกจากเมืองไห่สักที
นี่อาจจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ตระกูลกู้เลือกมาที่เมืองไห่เพื่อทำร้ายถังหยุนเฉิงก็ได้
ในเมืองไห่นั้น อิทธิพลของตระกูลกู้ไม่น้อยเลยล่ะ
“อือ ถ้าติดต่อเธอได้ แล้วถ้าจะให้ดีก็ทำให้เธอมาอยู่ข้างพวกเราด้วย” เวินลั่วฉิงรู้ว่าในแวดวงข่าวของในเมืองไห่ของเจิ้งเยว่นั้นมีประโยชน์เป็นอย่างมาก ในเมื่ออีกฝ่ายอยากจะใช้สื่อเป็นเครื่องมือ งั้นก็ต้องไปหาเจิ้งเยว่แน่นอน
เพียงแต่ไม่รู้ว่าเจิ้งเยว่จะเลือกทางไหน?
อีกอย่างไม่รู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเจิ้งเยว่นั้นคือใครกันแน่?หวังว่าคนที่อยู่เบื้องหลังของเจิ้งเยว่นั้นจะไม่ใช่ตระกูลกู้!
เวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินยังไม่ได้ติดต่อเจิ้งเยว่ตอนเวลาตีห้า มีข่าวหนึ่งออกมาที่สะเทือนไปทั้งเมืองไห่ และอาจจะทั้งประเทศเลยด้วยซ้ำ
เวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินหาโรงแรมใกล้ๆ แต่พวกเขายังไม่นอน ตอนที่ข่าวออกมาตอนตีห้านั้น เวินลั่วฉิงตกใจเป็นอย่างมาก ความเย็นชาและแน่นิ่งของเธอหยิบโทรศัพท์ออกมาด้วยความสั่นเทา