ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่952 ช็อกมาก กับผลลัพธ์นี้งั้นหรอ(6)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่952 ช็อกมาก กับผลลัพธ์นี้งั้นหรอ(6)
เฉิงโหรวโหรวมองเจ้าเก้าเล็กน้อย ก่อนจะพูดขอบคุณเบาๆ จากนั้นก็หยิบของหวานวางไว้ในมือ ก่อนจะมองด้วยความอึ้งไป พลางมีความน้อยใจอยู่บนใบหน้า
ลุงเหลียงหันตัว ไม่มองเธออีก
เจ้าเก้าเองก็ไม่รู้จะพูดอะไร
เวลาค่อยๆ ผ่านไป แต่ไม่มีใครออกจากตรงนั้นเลย อาหารเที่ยงนั้นให้ลุงเหลียงให้คนเอามาส่งให้ ซ่างกวนหงเองก็มากินกับคนอื่นด้วย
ตอนที่กินข้าวนั้น เจ้าเก้าดึงเฉิงโหรวโหรวมานั่งด้วย เฉิงโหรวโหรวถือชามข้าวมานั่งกินตรงนั้น ก่อนจะก้มหน้าลง โดยไม่คุยกับใคร และไม่คีบอาหารด้วย
เจ้าเก้านั่งลงข้างๆ เธอ ก่อนจะช่วยเธอคีบอาหาร เธอยังคงขอบคุณเบาๆ โดยที่ไม่พูดอะไรอย่างอื่นออกมาอีก
ท่าทีแบบนั้นของเธอเหมือนอยากจะไม่ให้คนอื่นเห็นอย่างไรอย่างนั้นเลยล่ะ
เพียงแค่ว่า เสียงเบาๆ ของเธอนั้นก็ยังฟังความน้อยใจออกอยู่ดี
อันที่จริงตั้งแต่แรกนั้น ท่าทีที่ทุกคนทำกับเธอออกจะเกรงใจทั้งนั้น ไม่มีใครเคยพูดจาแรงๆ กับเธอเลยแม้แต่น้อย
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างดูดี ไม่มีความโหดร้ายอยู่ในนั้นเลยแม้แต่น้อย
ทุกคนเข้าใจความตึงเครียดของเธอได้ แต่ว่าไม่มีใครเข้าใจความกลัวของเธอได้เลย
ความกล้ามันน้อยเกินไปแล้ว
แถมท่าทีน้อยใจของเธออีกด้วย……
แต่ถึงอย่างไรการตรวจดีเอ็นเออีกครั้งนั้นมันไม่ค่อยยุติธรรมกับเธอไปหน่อย
แต่ว่านี่มันไม่ใช่แค่การหาลูกสาวธรรมดาๆ แต่นี่คือการตามหาเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ เรื่องนี้จะให้เกิดความผิดพลาดไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
องค์กรโกสต์ซิตี้มีอำนาจมากมาย แต่สิ่งที่ต้องการนั้นคงจะไม่เหมือนกับสิ่งที่แสดงออกมา ไม่อย่างนั้นตอนแรกหัวหน้าคงไม่บาดเจ็บมากขนาดนั้น จนเกือบจะเสียชีวิตไปแล้ว
หัวหน้าเคร่งขรึมนั้นก็ไม่ได้ผิดอะไร ถ้าเกิดเธอพูดอะไรที่รู้สึกได้ออกมา เรื่องคงจะอธิบายได้ง่ายๆ
แต่ว่าเธอไม่พูดอะไรเลย แต่กลับแสดงออกว่าน้อยใจเหมือนมีคนคอยแกล้งเธอตลอดเวลา จนทำให้คนอื่นไม่รู้จะพูดอะไรดี
ครั้งนี้ไม่มีใครพูดอะไรเลย ขนาดคุณชายหานหลังจากที่เห็นเฉิงโหรวโหรวก็เบ้ปากใส่ทันที
เวลาใกล้เย็น ในที่สุดหัวหน้าน้อยก็มา เขามาตามเวลา เทคโนโลยีขององค์กรโกสต์ซิตี้นั้นดีกว่าการตรวจดีเอ็นเอขององค์กรอื่นๆ มาก ดังนั้นเลยตรวจเร็วกว่าเล็กน้อย
หัวหน้าน้อยนั้นมาเพื่อดูความสนุก เมื่อผลใกล้จะออกมาเท่านั้น
ครั้งก่อน ไป๋หยิงพาเฉิงโหรวโหรวไปเจอเขา ดังนั้นเมื่อเขาเห็นเฉิงโหรวโหรว เลยไม่ได้มีท่าทีอะไร
เพียงแค่เห็นเฉิงโหรวโหรวนั่งอยู่คนเดียว ตัวแข็ง และขดตัวอยู่ตรงมุมนั้น มีท่าทีเหมือนเต่าที่หดอยู่ในกระดอง หัวหน้าน้อยเลยยักคิ้วขึ้นมาเล็กน้อยทันที
คนพวกนี้ทำอะไรเหรอ?ทำไมถึงได้ต้องกลัวขนาดนั้นด้วย?
ตอนที่เฉิงโหรวโหรวเจอเขาครั้งก่อน ถึงแม้ว่าจะระแวงระวังเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีหัวหดแบบนี้
แต่ว่าหัวหน้าน้อยเองก็กวาดตามองเฉิงโหรวโหรวด้วยความรวดเร็ว
“คนมาครบขนาดนี้ เป็นไปได้ยากจริงๆ เลย” หัวหน้าน้อยเดินเข้ามา ก่อนจะมองไปที่ทุกๆ คน แล้วยิ้มขึ้นในทันที
เขาหน้าตาดีมากเลย บวกกับรอยยิ้มที่ดูสดใส เวลาใกล้ค่ำนั้นกลับทอแสงสว่างออกมาเลยล่ะ
เฉิงโหรวโหรวที่เอาแต่นั่งขดตัวจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะ เลยเงยหน้าขึ้นมา มองไป ตอนที่เธอเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของหัวหน้าน้อย ก็เหม่อลอยไปในทันที
เธอมองหัวหน้าน้อยด้วยความเหม่อลอย จากนั้นก็ลืมตัวทุกอย่าง จนดึงสติกลับมาไม่ได้ในทันที
คนที่อยู่ตรงนั้นล้วนเป็นคนที่หูตาว่องไวเหลือเกิน เมื่อเห็นท่าทีของเฉิงโหรวโหรวแล้ว อันที่จริงพวกเขาเองก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แต่เพราะว่าปฏิกิริยาของเฉิงโหรวโหรวในตอนนั้นมันเห็นได้ชัดเป็นอย่างมาก
ท่าทีนั้นเหมือนคนโง่ที่ทำอะไรไม่ถูกเลยล่ะ
หัวหน้าน้อยชินกับการที่คนอื่นมองเขาด้วยท่าทีแบบนั้นแล้ว เลยไม่ได้สนใจเฉิงโหรวโหรว
“อะเฉิงมาแล้ว” ผู้ดูแลจ้งเห็นหัวหน้าน้อยปรากฏตัวขึ้นมาก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ถ้าเกิดเขากับหัวหน้าทางไม่ผิด หัวหน้าน้อยอาจจะทำอะไรก่อนที่ผลการตรวจดีเอ็นเอจะออกมา
ถ้าเกิดคนปกติทำเรื่องผิดๆ จะต้องรู้สึกกลัวถูกจับได้อย่างแน่นอน และจะไม่มีทางปรากฏตัวขึ้นในตอนนี้ แต่ว่าหัวหน้าน้อยนั้นไม่ใช่คนธรรมดา
ทำเรื่องผิดแล้วโดนจับได้งั้นเหรอ?
สำหรับหัวหน้าน้อยนั้นมันไม่มีทางอยู่แล้ว
ดังนั้นการปรากฏตัวของหัวหน้าน้อย เลยไม่ได้ทำให้ผู้ดูแลจ้งสงสัยหัวหน้าน้อยน้อยลงเลย แต่กลับทำให้ผู้ดูแลจ้งสงสัยหัวหน้าน้อยมากขึ้นกว่าเดิมด้วย
คนอื่นๆ ทำเรื่องร้ายๆ ก็อยากจะปกปิดกันทั้งนั้น แต่ว่าหัวหน้าน้อยของพวกเขานั้นกลับคนอื่นจะไม่รู้ว่าตัวเองทำผิด เลยอยากจะบอกให้คนอื่นรู้ด้วยวิธีของตัวเอง
“ผู้ดูแลจ้งยังจำฉันได้เหรอ พวกเราไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” หัวหน้าน้อยมองไปทางผู้ดูแลจ้ง ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มอยู่ไม่น้อย แถมเสียงนั้นมันก็เพราะอีกด้วย
“หัวหน้าน้อย หลายเดือนก่อนพวกเราเพิ่งจะเจอกันเลย” มุมปากของผู้ดูแลจ้งนั้นกระตุกขึ้นมา เขาขี้ลืมงั้นเหรอ?อีกอย่างถึงเขาจะขี้ลืม ถึงจะลืมทุกคนไปแล้ว แต่ก็ไม่มีทางลืมหัวหน้าน้อยเด็ดขาด
เรื่องที่หัวหน้าน้อยเคยทำให้โกรธจนแทบบ้านั้น เขาอยากจะลืมก็ไม่มีทางลืมหรอก
“งั้นเหรอ?ทำไมฉันคิดว่าพวกเราไม่ได้เจอกันนานแล้วล่ะ” หัวหน้าน้อยขมวดคิ้วเล็กน้อย เหมือนกับว่าตั้งใจคิดกับคำถามนี้มาก
“หัวหน้าน้อย อาจจะเป็นเพราะคุณคิดถึงผู้ดูแลจ้งมาก ดังนั้นเลยรู้สึกเหมือนไม่ได้เจอผู้ดูแลจ้งนาน……” บอดี้การ์ดอะเฉียงอยากจะช่วยรู้สึกดีกับหัวหน้าน้อยของเขาหน่อย ใครๆ ก็รู้ดีเกี่ยวกับอำนาจของผู้ดูแลจ้งในองค์กรโกสต์ซิตี้
ขนาดหัวหน้ายังต้องเกรงใจผู้ดูแลจ้งเลยล่ะ
ต้องทำให้ผู้ดูแลจ้งรู้สึกดีก่อน เดี๋ยวถ้าหัวหน้าน้อยทำอะไรผิดไป ไม่แน่ผู้ดูแลจ้งอาจจะช่วยหัวหน้าน้อยได้บ้าง
“ฉันจะไปคิดถึงคนแก่อย่างเขาทำไม?” แต่ว่าหัวหน้าน้อยกลับตัดบทของอะเฉียงทันที ก่อนจะพูดแต่ละอย่างที่ไม่น่าฟังออกมา
อะเฉียงงงเป็นไก่ตาแตก ตอนแรกเขาอยากจะช่วยให้รู้สึกดีกับหัวหน้าน้อยสักหน่อย แต่สุดท้ายหัวหน้าน้อย……
“คนแก่อย่างฉันไม่ต้องให้หัวหน้าน้อยจำหรอก วันนี้หัวหน้าน้อยมาที่นี่ได้ มีเรื่องคาใจอะไรหรือเปล่า?” ผู้ดูแลจ้งกลับไม่ได้โกรธ ถ้าเขาโกรธหัวหน้าน้อย คงจะโกรธก่อนหน้านี้นานแล้วล่ะ
“ไม่ได้เจอกันหลายวัน ตาแกนี่ เสแสร้งมากขึ้นเรื่อยๆ เลยนะ ฉันมาทำอะไรคุณจะไม่รู้เลยเหรอ?” หัวหน้าน้อยมองไปทางผู้ดูแลจ้ง โดยไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย
ผู้ดูแลจ้ง: “……”
ทำไมเขากับหัวหน้าต้องเลี้ยงเด็กบ้านี่ขึ้นมาด้วยนะ ถ้ารู้ว่าเขาโตมาแล้วจะยั่วโมโหคนเก่งขนาดนี้ คงจะโยนเขาทิ้งไปตั้งแต่แรกแล้วล่ะ
“ฉันมาดูผลของการตรวจดีเอ็นเอ ผลออกมาหรือยัง?” หัวหน้าน้อยไม่สนใจว่าผู้ดูแลจ้งจะคิดอย่างไรเลย แต่ก็ถามออกไป
“นั่งรอตรงนี้” ครั้งนี้ไม่ต้องรอให้ผู้ดูแลจ้งตอบ ซ่างกวนหงก็พูดออกมา
เมื่อได้ยินคำพูดของซ่างกวนหง มู่เฉิงก็อึ้งไป ด้วยความตกใจเล็กน้อย ความดื้อรั้นบนใบหน้าของเขาก็หายไปในทันที