ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1029 วิธีการจับชู้ของคุณชายสามเย่ไร้คนเทียบเทียมจริงๆ (5)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1029 วิธีการจับชู้ของคุณชายสามเย่ไร้คนเทียบเทียมจริงๆ (5)
ถึงแม้ตอนนี้เย่ซือเฉินร้อนใจอยากขึ้นไปหาเวินลั่วฉิงแทบเป็นแทบตาย และรีบไปหาถังจื่อโม่คนนั้น แต่เขาก็ต้องกล่าวทักทายกับท่านย่าถังอย่างมีมายาทเสียก่อน
ท่านย่าถังหันไปมองเขา“ดึกขนาดนี้แล้วนายมาทำอะไรเหรอ?”
หลายวันก่อนท่านปู่ถังไล่เย่ซือเฉินออกไป ถึงแม้ท่านปู่ถังไม่ได้พูดอะไรมาก แต่ท่านย่าถังก็พอจะเดาออกว่าสองตาเฒ่าในตระกูลเย่ต้องทำเรื่องเกินเลยเป็นแน่ ดังนั้นเวลานี้ท่านย่าถังก็ไม่ได้ต้อนรับขับสู้เย่ซือเฉินเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้ไล่เขาออกไป
“ผมมาหาฉิงฉิงครับ ฉิงฉิงอยู่บ้านไหมครับ?”เย่ซือเฉินแย้มยิ้ม ยิ่งมีความสุภาพเกรงใจมากขึ้น
“อยู่”มีคำหนึ่งกล่าวว่า ยื่นมือไปตบหน้าคนยิ้ม ท่านย่าถังเห็นรอยยิ้มของเย่ซือเฉินก็ไม่ได้ทำหน้าบูดหน้าเบี้ยวแล้ว “แต่ฉิงฉิงมีเพื่อนอยู่”
“เพื่อน?เพื่อนที่ไหนครับ?”ดวงตาคุณชายสามเย่กะพริบรัวๆ ถามหนึ่งประโยคด้วยจิตใต้สำนึก
“เป็นเพื่อนร่วมงานเก่าของฉิงฉิง”ท่านย่าถังก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แค่ตอบไปตามนั้น ซึ่งคนที่ท่านย่าถังพูดถึงก็คือฉู่หลิงเอ๋อ
ทว่าเห็นได้ชัดว่าคุณชายสามเย่ไม่ได้คิดเหมือนท่านย่าถัง คนที่เขานึกถึงไม่ใช่คนเดียวกัน
“ท่านย่าถังครับ ผมขึ้นไปหาฉิงฉิงได้ไหมครับ?”บัดนี้หัวใจเย่ซือเฉินกระวนกระวายยิ่ง อารมณ์ไม่ดีในชั่วพริบตา แต่ใบหน้าของเขาไม่ได้เผยความผิดปกติแต่อย่างใด
ใบหน้าที่มองท่านย่าถังของเขายังคงประดับรอยยิ้มอยู่
“นายขึ้นไปเถอะ”ท่านย่าถังคิดดูแล้ว สุดท้ายก็ทำใจขัดขวางเขาไม่ได้ ถึงแม้สองชราตระกูลเย่จะทำตัวไม่ถูกต้อง แต่ย่ซือเฉินไม่ได้ผิดอะไร เป็นพ่อของเด็กๆทั้งสองคน ท่านได้ยินฉิงฉิงบอกว่าเย่ซือเฉินกับจื่ซีนับพ่อนับลูกกันแล้ว ดังนั้นท่านก็ไม่สะดวกขัดขวางอีกต่อไป
วินาทีนี้ท่านย่าถังก็ไม่ได้คิดเรื่องจื่อโม่สุดที่รักมากนะ เพราะจื่อซีก็นับพ่อกับเย่ซือเฉินแล้ว เธอรู้สึกว่าจื่อโม่ก็จะนับพ่อกับเย่ซือเฉินด้วย
เย่ซือเฉินได้รับอนุญาตจากท่านย่าถังพลันโล่งอกอย่างเด่นชัด จากนั้นก็ไม่ชักช้าแม้แต่วินาทีเดียว รีบก้าวเท้าขึ้นไปชั้นบนทันที
ท่านย่าถังเห็นการกระทำของเขาก็อึ้ง จากนั้นก็อดหัวเราะไม่ได้ ไม่ว่าเรื่องอื่นจะเป็นเช่นไร แต่เรื่องหัวใจที่เย่ซือเฉินมีต่อฉิงฉิงอย่างจริงแท้แน่นอน
ขอเพียงทั้งสองรักกันจริง เรื่องอื่นก็แก้ไขได้
ครั้งก่อนที่เย่ซือเฉินมา เขาฉวยโอกาสตอนท่านย่าถังไม่ทันสังเกตแอบย่องขึ้นไปในห้องของเวินลั่วฉิง ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าห้องของเวินลั่วฉิงอยู่ตรงไหน ขึ้นมาถึงชั้นบนเย่ซือเฉินก็ตรงไปยังห้องของเวินลั่วฉิงชนิดที่ไม่ยอมให้เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว
บัดนี้ประตูห้องนอนของเวินลั่วฉิงปิดแล้ว ปิดตอนที่ถังจื่อโม่ออกไป
เย่ซือเฉินเดินมาถึงหน้าประตู เขาก็แอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก ข่มกลั้นไม่ให้ตัวเองผลักประตูเข้าไปอย่างวู่วาม จากนั้นก็เคาะประตู
“เข้ามา”มีเสียงหนึ่งส่งออกมาจากด้านในห้อง
เย่ซือเฉินได้ยินเสียงก็ชะงัก เพราะไม่ใช่เสียงของเวินลั่วฉิง แต่เป็นฉู่หลิงเอ๋อ ฉู่หลิงเอ๋อก็อยู่ในห้องของเธอด้วยเหรอ ดังนั้นเธอไม่ได้อยู่กับถังจื่อโม่โดยลำพัง?
เวลานี้คุณชายสามเย่เบาใจลง อารมณ์ของเขาก็ผ่อนคลายลงไม่น้อย เขารีบผลักประตูเข้าไป
จากนั้นเขาพบว่าในห้องมีเพียงเวินลั่วฉิงกับฉู่หลิงเอ๋อสองคน ไม่เห็นเงาถังจื่อโม่
เย่ซือเฉินกะพริบปริบๆ จากนั้นก็กวาดสายตามองภายในห้องหลายรอบ แต่ก็ยังไม่เห็นคนอื่นอยู่ดี
“คุณชายสามเย่หาอะไรเหรอ?หรือคุณสงสัยว่าห้องนอนของฉิงฉิงซ่อนผู้ชายไว้?”ฉู่หลิงเอ๋อเห็นท่าทางของเย่ซือเฉินอดหัวเราะพร้อมกับพูดล้อเล่นไม่ได้
“ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าถังจื่อโม่มาไม่ใช่หรือ?แล้วเขาล่ะ?”เย่ซือเฉินก็ไม่ได้อ้อมค้อม เปิดอกถามโดยตรง สำหรับเรื่องของถังจื่อโม่ หากเขาไม่ถามให้ชัดเจน อารมณ์ของเขาต้องไม่ดีแน่
“ไปแล้ว จื่อโม่ไปตั้งนานแล้ว คุณชายสามเย่จะมาจับชู้เหรอ?เสียดายมาสายไปหน่อย”ฉู่หลิงเอ๋อกลัวโลกจะอลหม่านไม่พอ เธอมองเจตนาการมาของเย่ซือเฉินออก จึงพูดเปิดโปงเขาซะเลย
“ไปแล้ว?เขาไปแล้วจริงๆเหรอ?”เย่ซือเฉินมองไปยังเวินลั่วฉิง เห็นได้ชัดว่ากำลังถามเวินลั่วฉิงอยู่ เขาไม่เชื่อคำพูดของฉู่หลิงเอ๋อ เขาจะฟังจากปากของเวินลั่วฉิ
“ไปแล้วจริงๆ คุณชายสามเย่พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง?หรือคุณคิดว่าฉิงฉิงซ่อนไว้?”ฉู่หลิงเอ๋อไม่รอเวินลั่วฉิงเอ่ยปากพูดก็ชิงพูดก่อนอีกครั้ง
เมื่อสักครู่จื่อโม่สุดที่รักพูดถึงความรุนแรงของเรื่องไว้ ฉิงฉิงจึงไม่สะดวกพูด ดังนั้นตอนนี้ให้เธอเป็นคนพูดจะดีกว่า เพราะเธอกับคุณชายสามเย่ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรต่อกัน
คุณชายสามเย่ไม่ได้พูด เพียงแต่จ้องมองเวินลั่วฉิงอย่างจดจ่อ เห็นได้ชัดว่ากำลังรอคำตอบจากเวินลั่วฉิง
“คุณไม่ได้คิดว่าฉันซ่อนไว้จริงๆหรอกนะ?”เวินลั่วฉิงเห็นเขามองอย่างนี้ พลางรู้สึกผิดในใจ แต่นึกถึงคำพูดของถังจื่อโม่แล้วเธอก็จนปัญญา
ทว่าคำพูดของเวินลั่วฉิงก็เจือความหยั่งเชิงไว้ด้วย เย่ซือเฉินไม่ใช่คิดว่าเธอซ่อนผู้ชายไว้จริงๆหรอกมั้ง?
เย่ซือเฉินไม่เชื่อใจเธอจริงๆหรือ?
“ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าถังจื่อโม่มาหาคุณ เขาเดินทางจากประเทศMอย่างเหน็ดเหนื่อย กว่าจะได้เจอก็ไม่ง่ายเลย จะไปเร็วขนาดนั้นเลยหรือ?ฉู่หลิงเอ๋อยังไม่ไปเลย เขาก็ไปก่อนแล้วเหรอ?”เย่ซือเฉินไม่เชื่อจริงๆด้วย ท่าทีของถังจื่อโม่ก่อนหน้านี้ บวกกับคำพูดของเวินลั่วฉิงในสาย เขารู้สึกว่ามีความเป็นไปได้น้อยที่ถังจื่อโม่จะออกไป
“ใครบอกคุณว่าถังจื่อโม่เดินทางไกลมาจากประเทศM?”เวินลั่วฉิงอึ้ง อดหัวเราะไม่ได้ ดูเหมือนคำพูดของเธอก่อนหน้านี้ เย่ซือเฉินไม่ได้คิดไตร่ตรองดูเลยสักนิด
เขามัวแต่รีบมาท่าเดียว?
เขารีบมาทำไม?
รีบมาจับชู้จริงๆเหรอ?
เย่ซือเฉินมึนงง มองเธออย่างไม่เข้าใจเท่าใดนัก หรือว่าไม่ใช่?
หรือเขาพูดผิดไป?
เขาพูดผิดตรงไหน?
“เย่ซือเฉินคุณกำลังสงสัยอะไรอยู่?สงสัยว่าฉันซื่อสัตย์ต่อความรักหรือไม่งั้นเหรอ?”เวินลั่วฉิงเห็นการตอบสนองของเขาก็ถอนหายใจเบาๆ เวลาผู้ชายคนนี้หึงขึ้น ไม่มีสติปัญญาหลงเหลืออยู่เลยสักนิด
อีกทั้งดูเหมือนว่าเขากำลังสงสัยเธอจริงๆ!
จุดนี้ทำให้เวินลั่วฉิงตลกเล็กน้อย ทั้งยังรู้สึกโกรธอีกด้วย
“……ไม่มี……”เย่ซือเฉินชะงักไป0.5วินาที เพียงแต่การลังเลของเขาในเวลา 0.5 วินาที แสดงให้เห็นว่ามีปัญหาจริงๆ
“เย่ซือเฉิน หากคุณสงสัยว่าฉันไม่ซื่อสัตย์ต่อความรัก ขอแค่อยากบอกคุณว่า……”แต่ไหนแต่ไรเวินลั่วฉิงก็เป็นคนช่างสังเกต จะไม่เห็นการตอบช้าชั่วอึดใจนี้ได้อย่างไร ทันใดนั้นเธอรู้สึกอับจนหนทางเล็กน้อย
“จะบอกผมว่าอะไร?เลิกกันเหรอ?เวินลั่วฉิง ผมขอบอกคุณไว้เลย อย่าพูดสองคำนี้ง่ายๆ”เย่ซือเฉินได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงดวงตาทั้งคู่พลันหรี่ขึ้น ตัดบทเวินลั่วฉิงกะทันหัน