ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1056 ยัยแอ๊บแบ๊วหาเหาใส่หัว ตบหน้าตัวเองจัง ๆ (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1056 ยัยแอ๊บแบ๊วหาเหาใส่หัว ตบหน้าตัวเองจัง ๆ (1)
แน่นอน คำพูดนี้ของเฉิงโหรวโหรวไม่ถือว่าถามหยั่งเชิงสักเท่าไหร่ เพราะเธอถามตรงเกินไปแล้ว
คุณนายเหว้ยอึ้งไปเล็กน้อย ถึงแม้เธอมองออกว่าเจ้าหญิงคนนี้ไม่มีอะไรดีสักเท่าไหร่ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเจ้าหญิงคนนี้จะถามคำถามแบบนี้ออกมาตรง ๆ
“เมื่อครู่ฉันได้แนะนำไปแล้วนี่ค่ะ ฉิงฉิงเป็นแก้วตาดวงใจของตระกูลเหว้ยของพวกเรา” คุณนายเหว้ยหันไปมองเวินลั่วฉิง สีหน้าดูมีรอยยิ้มเพิ่มขึ้นมาก : “เอาเป็นว่า ฉันเห็นฉิงฉิงสำคัญกว่าแก้วตาของฉันเสียอีก”
คุณนายเหว้ยไม่รู้ว่าทำไมเจ้าหญิงคนนี้ถึงได้ถามคำถามแบบนี้ออกมา แต่คุณนายเหว้ยเห็นสายตาที่เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้คนนี้มองฉิงฉิงเมื่อครู่ ก็เห็นได้ชัดว่าไม่เป็นมิตร
คุณนายเหว้ยเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมมาก ในเมื่อเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้จงใจถามหยั่งเชิง งั้นเธอก็ต้องพูดให้ชัดเจนมากขึ้นอีกสักหน่อย
เฉิงโหรวโหรวได้ยินคำพูดของคุณนายเหว้ยก็อึ้งไปอย่างเห็นได้ชัด สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เดิมทีเฉิงโหรวโหรวก็เป็นพวกผู้หญิงที่ไม่มีสมองอยู่แล้ว เธอไม่รู้จักเก็บซ่อนอารมณ์ของตัวเอง ฉะนั้นการตอบสนองของเธอจึงหลบสายตาคุณนายเหว้ยไปไม่ได้
แน่นอน เวินลั่วฉิงเองก็เห็นมันอย่างชัดเจน ที่จริงตอนที่เฉิงโหรวโหรวมองเธอครั้งแรกนั้น เวินลั่วฉิงก็รับรู้ได้ทันทีว่าเฉิงโหรวโหรวเห็นเธอเป็นศัตรู ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าทำไมเฉิงโหรวโหรวเห็นเธอเป็นศัตรู? แต่เธอรู้ดีว่าการวินิจฉัยของเธอไม่มีทางผิดพลาดแน่นอน
และคำพูดของเฉิงโหรวโหรวเมื่อครู่นี้ บวกกับการตอบสนองของเฉิงโหรวโหรวหลังจากที่ได้ยินคำพูดของคุณนายเหว้ย ทำให้เวินลั่วฉิงยิ่งมั่นใจในความคิดของเธอ
ดูท่าทาง วันนี้คนที่หาเรื่องเธอจะไม่ได้มีแค่ผู้หญิงเมื่อห้าปีก่อนคนนั้น แต่ยังมีเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้คนนี้อีกด้วย
“คุณเวินมีวาสนาดีจริง ๆ ที่ได้รับความรักและการปกป้องจากคุณนายเหว้ยขนาดนี้” ในใจไป๋หยิงเคียดแค้นแทบตาย แต่ไป๋หยิงรู้สึกเสแสร้งปกปิด สีหน้าตอนนี้จึงมีรอยยิ้มเผยออกมา
“คุณไป๋พูดถูกต้องมากค่ะ ฉันเป็นคนมีวาสนาดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว” เวินลั่วฉิงมองไป๋หยิงที่ยิ้มสดใส : “ในชีวิตของฉันมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือตลอด ไม่ว่าพบเจอเรื่องร้ายอะไรก็กลายเป็นเรื่องดีได้หมด”
เวินลั่วฉิงไม่เพียงแต่ชี้ให้เห็นถึงสถานะของไป๋หยิงเท่านั้น แต่คำพูดนี้ยังแฝงความหมายที่ชัดเจนมากอีกด้วย
“คุณเวินรู้จักฉันเหรอคะ?” ไป๋หยิงอึ้งไปอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นว่าคิดไม่ถึงว่าเวินลั่วฉิงจะรู้จักเธอ วันนี้เธอมาเป็นเพื่อนเฉิงโหรวโหรว และคอยแนะนำเฉิงโหรวโหรวให้เป็นที่รู้จักตลอด ส่วนชื่อของเธอนั้นเธอกลับไม่ได้เอ่ยถึงเลย
ฉะนั้นคนในงานเลี้ยงจึงไม่รู้จักเธอ และไม่รู้ชื่อของเธอ แล้วเวินลั่วฉิงรู้ได้ยังไงว่าเธอแซ่ไป๋?
เวินลั่วฉิงไปได้ยินมาจากใคร?
“คุณไป๋นี่ขี้ลืมจังเลยนะคะ พวกเราเคยเจอกันเมื่อห้าปีก่อน คุณไป๋ลืมไปแล้วเหรอคะ?” เวินลั่วฉิงดูมีรอยยิ้มบนใบหน้ามากขึ้น แต่คำพูดของเธอกลับชะงักลงทันที แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็พูดขึ้นมากะทันหันว่า : “เอ๊ะ ไม่ใช่สิ ถ้าจะพูดให้ถูกล่ะก็ ฉันกับคุณไป๋น่าจะรู้จักกันมานานแล้ว”
ต่อให้ไป๋หยิงใจเย็นแค่ไหน เสแสร้งยังไง แต่สีหน้าในตอนนี้ก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
คนอื่นไม่เข้าใจคำพูดของเวินลั่วฉิง แต่เธอกลับเข้าใจมันเป็นอย่างดี เวินลั่วฉิงรู้แล้วว่าเป็นเธอ
รู้แล้วว่าคนที่อยู่ในโรงแรมเมื่อห้าปีก่อนคือเธอ และเวินลั่วฉิงก็รู้ตัวตนที่แท้จริงของเธออีกด้วย รู้แล้วว่าเธอเป็นใคร
แต่ว่า จะเป็นไปได้ยังไง? !
เธอไม่เคยเจอกับเวินลั่วฉิงมาก่อนนี่นา ตอนอยู่ที่โรงแรมเมื่อห้าปีก่อน เธอก็ปลอมตัวปกปิดมิดชิดขนาดนั้น เวินลั่วฉิงรู้ได้ยังไงว่าเป็นเธอ?
“คุณไป๋ ไม่เจอกันนานเลยนะคะ เห็นคุณไป๋สบายดี ฉันก็วางใจ” เวินลั่วฉิงเห็นปฏิกิริยาของไป๋หยิง ก็มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ คำพูดของเธอฟังดูดี แต่กลับแฝงไปด้วยการข่มขู่อย่างชัดเจน เธอรู้ดีว่าไป๋หยิงสามารถเข้าใจความหมายนี้
แม้ว่าเฉิงโหรวโหรวไม่ค่อยฉลาด แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีสมองเลย เมื่อได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิง เธอก็มองไป๋หยิงด้วยสีหน้าสงสัย : “นี่มันเรื่องอะไร? พวกเธอรู้จักกันเหรอ? พวกเธอเป็นอะไรกัน?”
“อ๋อ ฉันกับคุณไป๋เป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กันมาหลายปีแล้วค่ะ” เวินลั่วฉิงไม่รอให้ไป๋หยิงเปิดปากพูด เธอตอบคำถามแทนไป๋หยิงทันที
ก่อนที่จะเข้ามา เวินลั่วฉิงไม่รู้ว่าเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้คนนี้เห็นเธอเป็นศัตรู ตอนนี้ในเมื่อรู้แล้ว เวินลั่วฉิงจึงต้องใช้ประโยชน์จากจุดนี้สักหน่อย
อีกอย่างเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้คนนี้ไม่ค่อยฉลาดนัก จึงหลอกใช้ได้ง่าย
เฉิงโหรวโหรวได้ยินที่เวินลั่วฉิงพูด สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที แน่นอนว่าสีหน้าดูบูดบึ้งมากขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้คนนี้ไม่ค่อยฉลาดจริง ๆ ด้วย ไม่รู้จักปกปิดอารมณ์ของตัวเองเลยสักนิด
คุณนายเหว้ยเห็นสีหน้าที่บึ้งตึงมาก ๆ ของเฉิงโหรวโหรว ก็อดไม่ได้ที่จะแอบส่ายหน้า
“ได้ยินว่า คนนี้คือเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ สมคำร่ำลือจริง ๆ” ฉู่หลิงเอ๋อเดิมทียืนดูเรื่องสนุกอยู่ด้านหลังเวินลั่วฉิงตลอด เมื่อเห็นว่าสนุกกันพอสมควรแล้ว ฉู่หลิงก็คิดว่าถึงเวลาที่เธอควรออกโรงสักที
เฉิงโหรวโหรวได้ยินคนเอ่ยชมเธอ สีหน้าก็ดูดีขึ้นมาหน่อย แต่ตอนที่เธอเห็นว่าคนที่ชมเธอคือฉู่หลิงเอ๋อ สีหน้าก็ถมึงทึงขึ้นมาอีก : “เป็นเธอเองเหรอ”
เห็นได้ชัดว่าเฉิงโหรวโหรวรู้จักฉู่หลิงเอ๋อ แสดงว่าเฉิงโหรวโหรวจำได้ว่าคราวก่อนเคยมีเรื่องกับฉู่หลิงเอ๋อ
“ใช่ค่ะ ฉันเอง” ฉู่หลิงเอ๋อยิ้มเล็กน้อยแล้วพยักหน้า
ในงานเลี้ยงมีผู้คนมากมาย ในฐานะที่คุณนายเหว้ยเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยง จึงมีคนมากมายห้อมล้อมอยู่รอบตัวคุณนายเหว้ย
บทสนทนาของเวินลั่วฉิงกับไป๋หยิงเมื่อครู่นี้ ผู้คนฟังกันไม่ออกว่ามีอะไรแอบแฝง แม้ว่าภายหลังสีหน้าของไป๋หยิงจะเปลี่ยนไปก็ตาม แต่ทุกคนไม่ค่อยสนใจไป๋หยิงเท่าไหร่ ฉะนั้นจึงไม่ได้สังเกตอะไรมากนัก
ต่อให้สังเกตเห็นอะไรก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่
แต่ตอนนี้สภาพของฉู่หลิงเอ๋อกับเฉิงโหรวโหรวแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เพราะฉู่หลิงเอ๋อคือผู้หญิงที่มู่หรงดัวหยางสารภาพรักเมื่อครู่นี้ และเฉิงโหรวโหรวคนนี้คือเจ้าหญิงที่องค์กรโกสต์ซิตี้เพิ่งให้การยอมรับ
เมื่อครู่ไป๋หยิงพาเฉิงโหรวโหรวเดินไปทั่วงาน และแนะนำให้คนอื่น ๆ ได้รู้จัก ดังนั้นทุกคนจึงรู้จักเจ้าหญิงคนนี้แล้ว
ผู้คนที่สามารถมาร่วมงานเลี้ยงของเว้ยคังได้ล้วนแต่เป็นคนที่มีฐานะ มีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต ฉะนั้นจึงรู้จักองค์กรโกสต์ซิตี้กันอยู่แล้ว และรู้ว่าองค์กรโกสต์ซิตี้ยิ่งใหญ่มากแค่ไหน จะมีเรื่องผิดใจด้วยไม่ได้เด็ดขาด
ดังนั้น เมื่อครู่นี้ทุกคนต่างพากันเกรงใจเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้มาก ให้ความเคารพและเกรงกลัวเป็นอย่างมาก
แน่นอนว่าให้ความสนใจมากเช่นกัน
ตอนนี้มีคนจำนวนไม่น้อยเริ่มห้อมล้อมกันเข้ามา
เฉิงโหรวโหรวจ้องหน้าฉู่หลิงเอ๋อ สีหน้าดูโกรธแค้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ว่า เฉิงโหรวโหรวก็ไม่ใช่คนโง่ รู้ว่าตอนนี้เธอจะโกรธไม่ได้ เธอจึงข่มอารมณ์โกรธแค้นของตัวเองเอาไว้ในใจ
“นี่มันเรื่องอะไรกันเหรอ?” มีคนอดใจไม่ไหวอยากรู้จนเอ่ยถามออกมา สถานการณ์เมื่อครู่นี้ดูแวบเดียวก็รู้ว่ามีปัญหาระหว่างสองคนนี้
โดยเฉพาะปฏิกิริยาของเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ที่เห็นได้ชัดมาก
“ที่จริงก็ไม่มีอะไรหรอก แค่คราวก่อนเกิดเรื่องเข้าใจผิดกับคุณฉู่เล็กน้อย ตอนนั้นฉันไม่ทันระวังเลยชนเข้ากับคุณฉู่ คุณฉู่คงยังโกรธอยู่มั้งคะ” หลังจากที่เฉิงโหรวโหรวข่มอารมณ์โกรธไว้แล้ว สีหน้าก็ดูมีรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
ได้ยินคำพูดนี้ของเฉิงโหรวโหรว คนมากมายก็พากันนิ่งอึ้งไปเลย เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้พูดแบบนี้ดูค่อนข้าง….