ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1058 ศัตรูหัวใจตามมาแล้ว ชักสนุกแล้วสิ (1)
“ฉู่หลิงเอ๋อทำแบบนั้นก็เพราะเวินลั่วฉิง ฉะนั้นการที่พวกเราจัดการเวินลั่วฉิงก็เท่ากับจัดการฉู่หลิงเอ๋อด้วยเหมือนกัน” ไป๋หยิงไม่อยากให้มีปัญหาอื่นเพิ่มขึ้น ไม่ว่ายังไง แผนการของเธอก็สำคัญที่สุด ไม่มีทางให้เรื่องอื่นมากระทบกับแผนการของเธอเด็ดขาด
เพียงแต่ว่า คืนนี้มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นเหนือความคาดหมายของเธอ
การปกป้องของคุณนายเหว้ยที่มีต่อเวินลั่วฉิง อีกทั้งเวินลั่วฉิงรู้เรื่องเมื่อห้าปีก่อน เรื่องพวกนี้ไม่เป็นผลดีกับเธออย่างมาก
“แล้วแผนของพวกเราคืนนี้ยังดำเนินต่อไปไหม?” เฉิงโหรวโหรวรู้สึกเขวเล็กน้อย ดวงตาลุกวาวขึ้น คืนนี้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย เฉิงโหรวโหรวจึงรู้สึกกังวลมาก
“ต้องดำเนินต่อไปอยู่แล้ว” ไป๋หยิงหรี่ตาลง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม แม้ว่าคืนนี้จะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมากมาย เธอเองก็กังวลใจว่าถึงเวลานั้นแผนการของเธอจะไม่ราบรื่นเหมือนอย่างที่คาดการณ์เอาไว้
แต่ไป๋หยิงไม่อยากพลาดโอกาสครั้งนี้ไป
ฉะนั้น แผนการของเธอจำเป็นต้องไปต่อ วันนี้เธอต้องทำให้เวินลั่วฉิงชื่อเสียงป่นปี้ให้ได้……
ไป๋หยิงรู้ดี ว่าวันนี้คนในตระกูลเหว้ยจะต้องปกป้องเวินลั่วฉิงแน่นอน แต่ถ้ารอให้เวินลั่วฉิงกลับเมือง A คนที่คอยปกป้องเวินลั่วฉิงจะมีมากกว่านี้
มีทั้งตระกูลถัง มีทั้งเย่ซือเฉิน ไหนจะหัวหน้าแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ รวมถึงหัวหน้าน้อยคนนั้นอีกด้วย
ถึงเวลานั้น เธอยิ่งลงมือได้ลำบาก
“แต่เมื่อกี้นี้เวินลั่วฉิงบอกว่ารู้จักเธอ และบอกว่าเธอเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่อีกด้วย? ตกลงมันยังไงกันแน่?” เฉิงโหรวโหรวนึกถึงคำพูดเมื่อครู่นี้ของเวินลั่วฉิง จึงรู้สึกสงสัยขึ้นมา
“เธอไม่เห็นเหรอว่าเวินลั่วฉิงจงใจ? มันจงใจให้พวกเราแตกคอกัน” ไป๋หยิงถูกเฉิงโหรวโหรวทำให้โมโหจนอกแทบแตก ยัยโง่ไม่มีสมองคนนี้มันโง่เกินไปแล้ว
“แต่เมื่อกี้นี้เธอไม่ได้ปฏิเสธ แสดงว่าพวกเธอรู้จักกันจริง ๆ ระหว่างเธอกับเวินลั่วฉิงต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่นอน?” น้อยครั้งที่เฉิงโหรวโหรวจะฉลาดขึ้นมาสักนิด เธอดูออกว่าระหว่างไป๋หยิงกับเวินลั่วฉิงมีปัญหาอะไรบางอย่าง
ไป๋หยิงอึ้งไปเล็กน้อย แล้วหัวเราะออกมา แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะโมโห ยัยโง่คนนี้นี่เรื่องที่ควรคิดกลับคิดไม่ได้ เรื่องที่ไม่ควรคิดกลับคิดได้ขึ้นมา
“ใช่ ฉันรู้จักเวินลั่วฉิงนานแล้ว” ตอนนี้ไป๋หยิงไม่สามารถปิดบังได้อีกต่อไป ไป๋หยิงรู้ว่าเฉิงโหรวโหรวไม่ฉลาด ยิ่งไม่ฉลาดก็ยิ่งถูกคนหลอกใช้ได้ง่าย และถูกคนอื่นยุแยงได้ง่ายมากขึ้น
ตอนนี้เธอต้องพึ่งพาเฉิงโหรวโหรวเท่านั้น ดังนั้นจะให้เฉิงโหรวโหรวเข้าใจเธอผิดไม่ได้เด็ดขาด
“เวินลั่วฉิงเป็นศัตรูของฉัน” ไป๋หยิงกัดฟันกรอด ๆ ความเคียดแค้นบนใบหน้าปิดบังไว้ไม่ได้อีกต่อไป : “ฉันแทบอยากจะลอกหนังและเลาะกระดูกของมันให้เป็นชิ้น ๆ”
“ฉะนั้น ที่จริงตัวเธอเองอยากจัดการเวินลั่วฉิง ที่จริงเธอกำลังหลอกใช้ฉัน” ตอนนี้ เฉิงโหรวโหรวไอคิวสูงขึ้นมาแล้ว เข้าใจประเด็นสำคัญของเรื่องนี้แล้วล่ะ
ไป๋หยิงหรี่ตาลงเล็กน้อย เธอแอบถอนหายใจออกมา จากนั้นก็มองเฉิงโหรวโหรว แล้วพูดออกมาช้า ๆ ชัด ๆ ทีละคำ : “ใช่ เวินลั่วฉิงเป็นศัตรูของฉัน แต่มันก็เป็นศัตรูของเธอด้วยเหมือนกัน พวกเรามีศัตรูคนเดียวกัน ในเมื่อเป็นแบบนี้ พวกเราก็ได้ผลประโยชน์ร่วมกัน ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันถึงได้ทุ่มเททุกอย่างเพื่อช่วยเธอจัดการกับเวินลั่วฉิง แบบนี้ยิ่งดีกับตัวเธอและตัวฉิงไม่ใช่หรือไง?”
เฉิงโหรวโหรวเม้มปากเล็กน้อย มองไปที่ไป๋หยิง แล้วเงียบไปครู่หนึ่ง
“ทำไม? เธออยากยอมแพ้เหรอ ไม่อยากดำเนินตามแผนของพวกเราแล้วเหรอ?” ไป๋หยิงเห็นเฉิงโหรวโหรวเงียบไปก็ยิ่งแสยะยิ้มออกมา : “เธอคิดให้ดีนะ เวินลั่วฉิงเป็นอันตรายต่อเธอยิ่งกว่าฉันเสียอีก ถ้าไม่กำจัดเวินลั่วฉิง สถานะเจ้าหญิงของเธอก็ไม่มั่นคงหรอก ถ้าหากเวินลั่วฉิงเป็นลูกสาวของหัวหน้าจริง ๆ ถึงเวลานั้นจะมีที่ให้เธอพักพิงเหรอ?”
หลายวันมานี้ ไป๋หยิงได้เข้าใจเฉิงโหรวโหรวมากยิ่งขึ้น เธอรู้ดีว่าสิ่งที่เฉิงโหรวโหรวกลัวมากที่สุดคือการสูญเสียทุกอย่างที่มีอยู่ในตอนนี้ไป
“เวินลั่วฉิงเป็นศัตรูของฉัน ไม่มีทางกระทบกับแผนการของเราเด็ดขาด กลับกัน จะยิ่งทำให้แผนการของพวกเราสำเร็จมากขึ้น เพราะฉันอยากทำลายเวินลั่วฉิงมากกว่าเธอเสียอีก” สีหน้าของไป๋หยิงดูโหดเหี้ยมขึ้นมาอีกครั้ง เธอมองไปที่เฉิงโหรวโหรว แล้วพูดอย่างช้า ๆ ชัด ๆ ว่า : “ฉะนั้น แผนการของพวกเราจำเป็นต้องดำเนินต่อไป……”
“ตกลง แผนการดำเนินต่อ” สีหน้าของเฉิงโหรวโหรวดูโหดเหี้ยมมากขึ้น เมื่อครู่เธอโมโหจนไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ แน่นอนว่าปกติเธอก็ไม่ได้ใจเย็นสักเท่าไหร่อยู่แล้ว
“อืม แต่ตอนนี้พวกเราต้องระมัดระวังให้มากขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าแผนการของพวกเราจะดำเนินไปอย่างราบรื่น” ไป๋หยิงรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เธอต้องระมัดระวังให้มากขึ้น ต้องเพิ่มความรอบคอบให้มากขึ้น
ต่อให้ถึงตอนนั้นแผนการจะล้มเหลว ก็จะไม่สามารถโยงมาถึงตัวเธอได้
“ทำไมเหรอ? ฉันเพิ่งออกไปครู่เดียวเอง ได้ยินว่าที่นี่มีเรื่องสนุก ๆ ให้ดู” ไป๋หยูหนิงเดินเข้ามาจากด้านนอก ได้ยินเสียงคนซุบซิบกัน เธอจึงเดินไปหยุดตรงหน้าของฉู่หลิงเอ๋อ : “ทำไมจู่ ๆ เธอถึงได้มีเรื่องกับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ล่ะ?”
“ไม่ใช่จู่ ๆ แต่มีปัญหากันนานแล้ว และพวกเขาต้องการหาเรื่องฉิงฉิง ฉันจะยอมให้พวกเขาอยู่อย่างสงบสุขได้ไงล่ะ” ฉู่หลิงเอ๋อยิ้มออกมาทันที : “แต่เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้เรื่องเลยจริง ๆ นี่เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของหัวหน้าจริงเหรอ? ไม่ใช่ผิดคนหรอกนะ?”
“เธอพูดอะไรน่ะ? หัวหน้าแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้เป็นใคร จะจำลูกสาวผิดคนไปได้ยังไง?” ไป๋หยูหนิงเบ้ปาก ไม่เห็นด้วยกับคำพูดของฉู่หลิงเอ๋อ
“ที่เธอพูดก็ถูก หัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ใช่คนธรรมดา ไม่มีทางถูกคนอื่นหลอกแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องแบบนี้ เรื่องแบบนี้ตรวจดีเอ็นเอก็รู้ผลชัดเจนแล้ว แต่เจ้าหญิงคนนี้ก็……พูดยากแหะ” ฉู่หลิงเอ๋ออดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า
“อย่าเพิ่งกังวลเรื่องอื่นเลย เมื่อกี้นี้ที่เธอบอกว่าเจ้าหญิงคนนั้นหาเรื่องฉิงฉิงหมายความว่าไง?” ไป๋หยูหนิงนึกถึงคำพูดของฉู่หลิงเอ๋อเมื่อกี้นี้ก็ถามออกมาด้วยความสงสัย
ฉู่หลิงเอ๋อกำลังจะตอบออกไป แต่ว่า จู่ ๆ เธอก็รู้สึกได้ว่าอุณหภูมิรอบ ๆ ตัวดูเหมือนจะลดฮวบลง : “ทำไมจู่ ๆ ก็รู้สึกหนาวขึ้นมานะ”
แน่นอน ไม่เพียงแต่ฉู่หลิงเอ๋อที่รู้สึกหนาว ตอนนี้ไป๋หยูหนิงก็รู้สึกหนาวขึ้นมาบ้างเหมือนกัน
เวินลั่วฉิงเงยหน้าขึ้น มองไปทางคุณฟู่ที่ยืนอยู่ข้างไป๋หยูหนิง ตอนที่เห็นแววตาเย็นยะเยือกคู่นั้นของคุณฟู่ ก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมจู่ ๆ ถึงได้หนาวขึ้นมา
แต่คุณฟู่คนนี้ตัวติดกับไป๋หยูหนิงมาตั้งหลายวันแล้ว ท่าทางก็ดูสงบนิ่งมาตลอด แล้วเป็นอะไรขึ้นมา?
เวินลั่วฉิงมองไปตามสายตาของคุณฟู่ ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาพอดี เวินลั่วฉิงตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
มิน่าล่ะ!!
ที่แท้ก็เป็นรุ่นพี่ที่ไป๋หยูหนิงแอบรักเดินเข้ามานั่นเอง
ที่แท้เป็นเพราะศัตรูหัวใจมาแล้ว มิน่าล่ะ!!
ดังนั้นคุณฟู่เลยหึงขึ้นมา?
หึงได้ถึงขนาดนี้เลย เธอได้เปิดประสบการณ์ใหม่เลยนะเนี่ย
เวลาที่เย่ซือเฉินของเธอหึงหวงยังไม่น่ากลัวขนาดนี้เลย
ฉู่หลิงเอ๋อกับไป๋หยูหนิงเป็นคนที่ตอบสนองไวมาก จึงรู้ถึงปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ไม่นานก็พบว่าเป็นเพราะรุ่นพี่เหมียวเหยียนนั่นเอง