ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1066 จุดสูงสุดของความไร้ยางอาย (4)
ดวงตาไป๋หยูหนิงเปล่งประกายระยิบระยับ จ้องมองเหมียวเหยียนอย่างไม่กะพริบตา คล้ายกับกลัวจะพลาดได้ยินคำถามของเหมียวเหยียน
เหมียวเหยียนหันไปมองเวินลั่วฉิงด้วยแววตามืดครึ้มเล็กน้อย“ท่านนี้คือ……”
เห็นได้ชัดว่าเขาคาดไม่ถึงว่าจะมีคนถามเขาตรงเช่นนี้ คำพูดของฉู่หลิงเอ๋อเมื่อครู่ยังไม่ได้ตรงขนาดนี้เลย
เธอเล่นถามตรงๆแบบนี้ เขาอยากเอ่ยถ้อยคำหลีกเลี่ยงก็นับว่ายากเสียแล้ว
เพียงแต่ผู้หญิงคนนี้คือใคร มีสิทธิ์อะไรมาถามเขาเช่นนี้?
เหมียวเหยียนเคยเจอเวินลั่วฉิงที่ประเทศM ทว่าตอนนั้นเวินลั่วฉิงไม่ได้ปลอมแปลงโฉมหน้า ส่วนตอนนี้เวินลั่วฉิงนั่นอยู่ในรูปที่อำพรางใบหน้าที่แท้จริงอยู่ ดังนั้นเหมียวเหยียนจึงจำเธอไม่ได้
“เวินลั่วฉิง”เวินลั่วฉิงมองเหมียวเหยียนพลันกล่าวทีละถ้อยคำอย่างช้าๆและชัดๆ
เหมียวเหยียนอึ้งอย่างเห็นได้ชัด แววตาเผยความตกตะลึงหลายส่วน“ที่แท้คุณก็คือเวินลั่วฉิงนี่เอง”
เหมียวเหยียนรีบปั้นยิ้มทันควัน“คุณปลอมตัวอย่างนี้ ผมจำคุณไม่ได้เลย พวเราเคยเจอกัน แต่ก็ผ่านมาสองปีแล้วนะครับ หลังจากที่ไม่เจอหน้ากันสองปี ……”
“คุณเหมียว ฉันกับคุณไม่ได้มีความทรงจำอะไรให้ระลึก ดังนั้น เชิญคุณตอบคำถามฉันเลย”เวินลั่วฉิงนั้นเป็นผู้เฉลียวฉลาด ทำไมจะดูไม่ออกว่าเหมียวเหยียนจงใจเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา
อยากเปลี่ยนหัวข้อการสนทนาของเธอก็ต้องดูด้วยว่าเธอตอบตกลงหรือไม่
วันนี้เธอไม่มีทาปล่อยให้เหมียวเหยียนผ่านแบบขอไปทีได้หรอก ไม่มีทางปล่อยให้เหมียวเหยียนขุดบ่อล่อปลาไป๋หยูหนิงได้หรอก ในเมื่อเธอจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ งั้นก็ต้องทำให้ถึงที่สุด!
เหมียวเหยียนได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิง สีหน้าพลันแปรเปลี่ยนทันที เห็นได้ชัดว่าเขาคาดไม่ถึงว่าเวินลั่วฉิงจะไม่วางหน้าเขาเพียงนี้
ยิ่งไปกว่านั้นเวินลั่วฉิงถามคำถามเดิมจนทำให้เขสจุกคอหอยกันเลยทีเดียว
เขารู้ว่าเมื่อตอบไม่ถูก เกรงว่าคงจะ……
คุณฟู่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ดวงตายังคงจับอยู่ที่ของเหลวในแก้วไวน์ ทว่าแววตาดุจหมาป่าฉายแสงรอยยิ้มเย็นแวบผ่าน
ผู้หญิงของเย่ซือเฉิน ไม่ธรรมดาเสียจริง ตรงมาก น่าเกรงขามมาก
แน่นอน ผู้หญิงของเขาก็ไม่ธรรมดาด้วย ในสายตาเขา ผู้หญิงของเขาย่อมดีที่สุด ยอดเยี่ยมที่สุดอยู่แล้ว!
เหมียวเหยียนเห็นสถานการณ์ตรงหน้า สมองพลันหมุนอย่างไว เขาเคยได้ยินเรื่องของเวินลั่วฉิงมากมาย เขารู้ว่าเวินลั่วฉิงไม่ใช่คนที่จะตบตาได้ง่ายๆ
เวินลั่วฉิงเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา ไม่มีใครสามารถวางเล่ห์กลต่อหน้าเวินลั่วฉิงได้ และไม่มีใครปกปิดหน้าเวินลั่วฉิงได้
หากมีเพียงฉู่หลิงเอ๋อ เขาก็ไม่แยแสได้ ทว่าเวินลั่วฉิงไม่ใช่
เหมียวเหยียนรู้ว่าเมื่อมีเวินลั่วฉิงอยู่ เขาอยากลงมือกับไป๋หยูหนิงก็เป็นการยาก
เหมียวเหยียนรู้อยู่เต็มอกว่า หากวันนี้เขาไม่แสดงท่าทีให้ชัดเจน เกรงว่าคงพาไป๋หยูหนิงกลับไปไม่ได้สักแล้ว
เดิมทีเขามีความมั่นใจในตัวเองสูงที่จะสามารถหลอกล่อให้ไป๋หยูหนิงกลับไป ทว่าเงื่อนไขคือต้องไม่มีเวินลั่วฉิงอยู่ด้วย
เหมียวเหยียนแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก เมื่อประเมินดูแล้ว จากนั้นก็มองไป๋หยูฆนิงด้วยรอยยิ้มเบาๆ พลางกล่าวว่า “ผมต้องชอบหนิงเอ๋อร์อยู่แล้ว ซึ่งผมชอบหนิงเอ๋อร์มากๆมาโดยตลอด”
เหมียวเหยียนพูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงก็อ่อนโยนขึ้นมาก ทว่าในใจกลับหดหู่ เขารู้ว่าไป๋หยูหนิงชื่นชอบเขาเสมอมา
ทว่าเขาไม่ได้ชอบไป๋หยูหนิง เพียงแต่ไป๋หยูหนิงเป็นผู้มีฝีมือชั้นยอด เพื่อจะได้เก็บไป๋หยูหนิงไว้ข้างกาย เขาจึงไม่ได้พูดตรงๆ
แน่นอน ข้างกายเขาไม่ได้มีไป๋หยูหนิงคนเดียวที่ชื่นชอบเขา หากเขารับปากไป๋หยูหนิง งั้นคนอื่นที่ชอบเขาก็จะเสียใจ ไม่แน่ว่าจะจากไปได้
เขาไม่อยากให้ไป๋หยูหนิงหายตัวไปจากชีวิตของเขา ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากให้คนอื่นไปด้วยเช่นกัน
ทว่าเหมียวเหยียนฉุกคิดได้ว่าตอนนี้อยู่ข้างนอก ถึงแม้จะเป็นงานเลี้ยงของบริษัทเว้ยคังกรุ้ปก็ตาม แต่มุมนี้ไม่ค่อยมีคน เขาพูดไม่เบาด้วย นอกจากพวกเขาแล้ว คนอื่นก็ไม่ม่ใครได้ยิน
ไม่ว่าจะอย่างไร สิ่งสำคัญอันดับแรกคือพาไป๋หยูหนิงกลับไปก่อน พอกลับไปถึงเขาก็มีวิธีจัดการอยู่แล้ว
ถึงเวลานั้นเขาก็หาเหตุผลมาอธิบายกับไป๋หยูหนิง อย่างเช่นบอกว่าชอบเธอเหมือนชอบน้องสาวอะไรอย่างนี้ ……
“คุณเหมียว คำว่าชอบของคุณเป็นแบบความชอบของคู่รักหนุ่มสาวหรือเปล่า?”เวินลั่วฉิงฉลาดมากจนไหวตัวทันต่อสถานการณ์ ถึงแม้เหมียวเหยียนจะปิดบังได้ดี แต่เธอก็ยังคงอ่านใจเหมียวเหยียนออก
ดังนั้น ในเมื่อพูดแล้วก็ต้องพูดให้ชัดเจนในคราวเดียว
เธอไม่มีทางให้เหมียวเหยียนมีโอกาสหลอกลวงไป๋หยูหนิงอีก
เห็นได้ชัดว่าเหมียวเหยียนคาดไม่ถึงว่าเวินลั่วฉิงจะถามต่อ เขาอึ้งค้างไปชั่วขณะ แต่ในเมื่อเวินลั่วฉิงไล่ถามแล้ว ถ้าเขาไม่ตอบคงจะไม่ได้
เพราะตอนนี้เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว หากถอยละก็ความพยายามก่อนหน้านี้ก็ไร้ความหมาย
“ใช่ครับ”เหมียวเหยียนจึงได้แต่พยักหน้าอย่างหน้าด้านหน้าทน ตอนนี้มีบทสรุปเช่นนี้ก็ได้แต่ยอมรับมัน รอให้กลับไปถึงแล้วเขาค่อยหาวิธีแก้ไขดีกว่า
ไป๋หยูหนิงเป็นคนมีความรู้สึกช้าต่อความรัก เขามีวิธีรับมือกับไป๋หยูหนิงอยู่แล้ว
“รุ่นพี่ คุณ คุณ……”ไป๋หยูหนิงได้ยินคำพูดของเหมียวเหยียนที่ถือว่าสารภาพรักก่อนแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจยิ่ง
ในที่สุดรุ่นพี่ก็บอกซะที รุ่นพี่บอกว่าชอบเธอ!
เป็นความชอบแบบหนุ่มสาว
ในที่สุดเธอก็ได้รับคำตอบนี้จนได้
คุณฟู่ที่ก้มหน้ามองแก้วไวน์มาโดยตลอด พลางเงยหน้ามองไป๋หยูหนิง เมื่อเห็นความตื่นเต้นดีใจของไป๋หยูหนิงก็จุกจนไม่ออก แววตาของเขาเกิดแสงเกรี้ยวกราดขึ้นมา
“โอเค ทำให้คุณตื่นเต้นแล้ว”เหมียวเหยียนเห็นไป๋หยูหนิงตื่นเต้นก็รู้สึกพึงพอใจเป็นพิเศษ ทั้งยังรู้สึกภาคภูมิใจในความสำเร็จอีดด้วย เพราะถึงอย่างไรไป๋หยูหนิงก็ชื่นชอบเขาจริงๆ
เพราะถึงอย่างไรไป๋หยูหนิงก็ทุ่มเทให้เขาเต็มที่อยู่แล้ว
“คุณออกมาหลายวันแล้ว ควรกลับได้แล้ว กลับไปกับผมนะ”เป้าหมายของเหมียวเหยียนคือพาไป๋หยูหนิงกลับไป ไม่เช่นนั้นเมื่อสักครู่เขาคงไม่ถูกเวินลั่วฉิงบีบบังคับให้พูดเช่นนี้หรอก
เขาคิดว่าเขาให้คำตอบที่เวินลั่วฉิงต้องการแล้ว งั้นเวินลั่วฉิงก็ไม่มีเหตุผลกีดขวางเขาแล้ว
บัดนี้เวินลั่วฉิงไม่มีเหตุผลขัดขวางเขาแล้วจริงๆ เพราะเหมียวเหยียนแสดงความรู้สึกที่มีต่อไป๋หยูหนิงแล้ว หากไป๋หยูหนิงยินดีกลับไปกับเหมียวเหยียน ไม่ว่าใครก็ขวางไม่ได้
ถึงแม้ฉู่หลิงเอ๋อจะรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ทว่าเธอก็ไม่อาจขวางลำได้เช่นกัน
บัดนี้คุณฟู่กำลังจ้องมองไป๋หยูหนิงอยู่ เขาจ้องใบหน้าไป๋หยูหนิงอย่างจดจ่อ
คล้ายกับว่าเขากำลังรอไป๋หยูหนิงตอบ
ทว่าในใจเขารู้ดี ไป๋หยูหนิงชอบรุ่นพี่ของเธอ ตอนนี้รุ่นพี่ของเธอสารภาพรักกับเธอแล้ว
เธอต้องตอบตกลงกลับไปกับเขาแน่
ทั้งๆที่รู้ว่าต้องมีผลลัพธ์เช่นนี้ หัวใจของเขากลับมีความหวังอันริบหรี่ หวังว่าจะมีผลลัพธ์เป็นอย่างอื่น
เพียงใจหัวใจเขารู้ดี ผลลัพธ์ที่คาดหวังนี้เป็นไปได้น้อยมาก น้อยจนเกือบไม่มี ……
บัดนี้ไป๋หยูหนิงรู้สึกมึน อาจเป็นเพราะเซอร์ไพรส์มากเกินไป จึงไม่รู้ว่าควรจะตอบเช่นไร
ไป๋หยูหนิงยืนอยู่ตรงนั้นแบบไม่ขยับเขยื้อน ไม่พูดไม่จา
“ไปเถอะ กลับไปกับผม”เหมียวเหยียนยื่นมือออกไปยังด้านหน้าเธอ เห็นได้ชัดว่าจะจูงมือไป๋หยูหนิง
ไป๋หยูหนิงกะพริบตาปริบๆ เห็นได้ชัดว่ามีความตื่นเต้นเพิ่มขึ้น เธอยกมือขึ้นไปหาเหมียวเหยียนด้วยจิตใต้สำนึก
คุณฟู่หรี่ตาขึ้น ความเย็นยะเยือกกับเพลิงไฟหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
หากเธอตอบตกลงกับพี่รุ่นของเธอ เขา………