ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1078 แย่งผู้ชายของเธอ (2)
“มู่หรง……”อันที่จริงไม่ต้องแจ้งความ เธอก็มีวิธีพิสูจน์ในสถานที่นี้ เธอแค่รอให้ผู้ชายคนนี้เผยกระบวนท่าทั้งหมดก็เท่านั้นเอง จากนั้นก็จัดการทีเดียวรวด
แน่นอน เวินลั่วฉิงก็เข้าใจว่า หากตำรวจเข้าแทรก ทุกอย่างจะยิ่งราบรื่นขึ้น ถึงเวลาก็จะเป็นผลดีกับเธอมากขึ้น
แน่นอน เวินลั่วฉิงยิ่งรู้ว่า ถึงแม้เธอจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้สำเร็จ แต่ก็ยังคงมีคนกระจายข่าวนี้ไม่น้อยเหมือนกัน ซึ่งเมื่อทางตำรวจมาจัดการ ถึงเวลาคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่กล้าพูดส่งเดชแล้ว
“ฉิงฉิง วันนี้ผมไม่เพียงแต่ทำเพื่อคุณเท่านั้น มีคนกล้าก่อกวนในงานเลี้ยงของตระกูลเหว้ยของผม หากปล่อยไปอย่างนี้ ผมมู่หรงดัวหยางจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร?”มู่หรงดัวหยางตัดบทเวินลั่วฉิง เห็นได้ชัดว่าท่าทีมู่หรงดัวหยางนั้นแน่วแน่มาก
“ฉิงฉิง หนูไม่ต้องสนใจ ให้หยางหยางจัดการเรื่องนี้เอง”ท่าทางของคุณนายเหว้ยก็ชัดเจนมาก
เวินลั่วฉิงจึงไม่ได้พูดอะไรมากอีก เพียงแต่หัวใจของเธอรู้สึกอบอุ่นเท่านั้นเอง
ไป๋หยิงที่เดิมทีอยู่ด้านหน้าเพื่อยุแยง ไม่รู้ว่าถอยไปอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะไป๋หยิงรู้ดีกว่าใครอื่น หากเรื่องนี้ตำรวจสืบความจริงเจอ แผนการเธอก็จะจบสิ้นทั้งหมด
ตอนนี้เธอปล่อยให้เรื่องสาวมาถึงตัวเองไม่ได้เด็ดขาด โชคดีที่เธอไม่ใช่คนสั่งการในเรื่องนี้ ผู้ชายคนนี้ไม่รู้จักเธอ
“ตอนนี้ทำยังไงดี?หากแจ้งความแล้วจะสืบได้ไหม?จะสาวมาถึงพวกเราหรือเปล่า?”หลังฝูงชน เฉิงโหรวโหรวกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด เธอพยายามระงับเสียงให้เบาลงที่สุด แต่ก็ไม่อาจปิดบังความกังวลในน้ำเสียงได้เลย
“คุณกลัวอะไร?พวกเราสองคนไม่ได้ออกหน้าสั่งการเรื่องนี้ซะหน่อย คนในเมืองจิ๋นเป็นคนจัดการ ถึงแม้ตำรวจจะสืบความจริงได้ แต่ก็ไม่สาวมาถึงพวกเราหรอก คุณใจเย็นหน่อยได้ไหม ท่าทางคุณอย่างนี้จะทำให้คนเห็นสงสัยได้”เดิมทีไป๋หยิงก็รู้สึกหงุดหงิดมากอยู่แล้ว เมื่อเห็นใบหน้าเฉิงโหรวโหรวที่ตื่นตระหนกเช่นนี้ก็ยิ่งหงุดหงิดจนอยากกระอักเลือด
“จริงเหรอ?ไม่สาวมาถึงพวกเราแน่นะ?”เฉิงโหรวโหรวได้ยินคำพูดของไป๋หยิงก็รู้สึกเบาใจเล็กน้อย แต่ความตึงเครียดและความกังวลบนใบหน้ายังคงเด่นชัดเจนเดิม
“คุณยังไม่ได้แตกตื่น ไม่ต้องกระวนกระวาย คุณต้องแกล้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขอเพียงคุณไม่เผยพิรุธเองก็ไม่มีใครสืบมาถึงตัวคุณ”ไป๋หยิงเห็นท่าทางของเฉิงโหรวโหรวก็แทบอยากจะถีบเฉิงโหรวโหรวออกไปจริงๆ
“ฉัน ฉันกลัว ฉันกังวล ดังนั้นฉันแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้”เฉิงโหรวโหรวเติบโตมาจากชนบท ทั้งยังเป็นชีวิตที่ไม่ได้กินนอนอยู่ดี ในแต่ละวันยังต้องกังวลว่าจะถูกตีหรือไม่ ตั้งแต่เด็กเฉิงโหรวโหรวจึงไม่เคยเห็นงานใหญ่โตอะไรมาก่อน
ดังนั้น เธอไม่รู้วิธีเสแสร้งเลยสักนิด เมื่อเจอเหตุการณ์ก็กระวนกระวายทันที สถานการณ์เช่นนี้ลำพังคำพูดของไป๋หยิงสองสามประโยค จึงไม่อาจชักจูงเธอได้
ยิ่งไปกว่านั้น เวลานี้ในใจไป๋หยิงก็ร้อนรนมาก ไม่มีเจตนาปลอบใจเฉิงโหรวโหรวจริงๆ
“มีอะไรให้คุณกลัวกัน คุณเป็นถึงองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ ถึงแม้จะสืบมาถึงตัวคุณ ใครจะกล้าทำอะไรกับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้?ไป๋หยิงจ้องเขม็งเธอหนึ่งครั้ง พยายามข่มอารมณ์เหี้ยมเกรียมไว้
เฉิงโหรวโหรวได้ยินคำพูดของไป๋หยิงก็รู้สึกโล่งอกไม่น้อย ใช่สิ ตอนนี้เธอเป็นองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ ไม่มีใครไม่ยำเกรงบารมีขององค์กรโกสต์ซิตี้ ดังนั้นไม่มีใครกล้าทำอะไรกับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้หรอก
“และอีกอย่าง คุณเป็นองค์หญิง องค์กรโกสต์ซิตี้ต้องปกป้องคุณอยู่แล้ว ต้องไม่ปล่อยให้เรื่องมาแดงมาถึงคุณหรอก ดังนั้นคุณวางใจได้เลย”ไป๋หยิงรู้สึกดูแคลนเฉิงโหรวโหรวยิ่งนัก แต่เธอยังต้องหลอกใช้สถานะของเฉิงโหรวโหรวอยู่ ดังนั้นเธอจึงต้องอดทนอธิบายให้เฉิงโหรวโหรวฟัง
“พวกเขาจะปกป้องฉันจริงๆเหรอ?แต่ตอนที่พวกเราไปหาพวกเขา ท่าทีพวกเราไม่ค่อยต้อนรับฉันเท่าไหร่เลยนะ”เฉิงโหรวโหรวเบะปาก เธอนึกถึงภาพหลังจากที่มาถึงเมืองจิ๋นแล้วไปหาคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ในเมืองจิ๋น
คนพวกนั้นรู้ว่าเธอเป็นองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้แล้วก็ไม่ได้กระตือรือร้นที่จะต้อนรับขับสู้เท่าที่เธอคิด
เมิ่งหรานที่เป็นหัวหน้าสาขาเมืองจิ๋นขององค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้พบหน้าเธอด้วยซ้ำ แค่สั่งให้ลูกน้องมาพบเธอเท่านั้น
ตอนที่เธอแจ้งแผนการ คนนั้นก็แค่รับปากหนึ่งคำอย่างเรียบเฉย ไม่ได้พูดเรื่องอื่นเลย
คนสาขาเมืองจิ๋นขององค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ได้เสนอให้เธอพักในศูนย์ของพวกเขาเลย แค่จัดให้เธอพักในโรงแรม เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เห็นเธอเป็นคนกันเอง
ไป๋หยิงก็นึกสถานการณ์ตอนนั้นออก คนขององค์กรโกสต์ซิตี้ในเมืองจิ๋นไม่ได้กระตือรือร้นต่อการมาเยือนของเฉิงโหรวโหรวจริงๆ จุดนี้ทำให้ไป๋หยิงประหลาดใจไม่น้อย เดิมทีเธอคิดว่าด้วยสถานะองค์หญิงของเฉิงโหรวโหรว ไม่ว่าเฉิงโหรวโหรวจะไปถึงไหนจะได้รับการต้อนรับอย่างดิบดี ทว่าท่าทีขององค์กรโกสต์ซิตี้สาขาเมืองจิ๋นเหมือนราดน้ำเย็นใส่หัวเธอเลย
“คุณคิดมากแล้ว คนขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็เป็นเสียอย่างนี้ทั้งหมดแหละ”ในใจไป๋หยิงก็ไม่สบอารมณ์และสงสัยเล็กน้อย แต่เวลานี้เธอจำเป็นต้องปลอบใจเฉิงโหรวโหรวก่อน
“ทางเมืองAไม่เหมือนกัน คนทางนั้นปฏิบัติกับฉันดีมาก”เฉิงโหรวโหรวไม่มีมันสมอง แต่ไม่ได้แสดงว่าเธอจะไม่เข้าใจอะไรเลย
“เพราะทางเมืองAมีเจ้าเก้าอยู่ มีฉันอยู่ เฉิ้งฉงก็กระตือรือร้นกับคุณเป็นพิเศษก็เพราะฉัน”คำพูดตอนนี้ของไป๋หยิงไม่ถือว่าเป็นการสร้างหน้าแต่อย่างใด แต่ถือว่าเป็นการพูดความจริงเสียมากกว่า เพราะหลังจากหัวหน้าตรวจดีเอ็นเอกับเฉิงโหรวโหรวครั้งนั้นก็ไม่พบหน้าอีกเลย และคนข้างกายหัวหน้าก็ไม่มีใครใส่ใจต่อเฉิงโหรวโหรวด้วย
ตอนแรกเจ้าเก้าก็ต้อนรับเฉิงโหรวโหรวหลายวัน แต่ต่อมาเจ้าเก้าก็โยนเฉิงโหรวโหรวทิ้งไว้ในสาขาเมืองAโดยไม่เหลียวแล
เฉิงโหรวโหรวมองหน้าไป๋หยิงแวบหนึ่ง อยากโต้แย้ง แต่สุดท้ายก็หาคำมาโต้ตอบไม่ได้
เฉิงโหรวโหรวก็รู้ดี เธอที่เป็นองค์หญิงองค์กรโกรสต์ซิตี้ไม่ค่อยได้รับการปฏิบัติที่ดีในศูนย์ภายใน
ทว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เธอก็ไม่อยากสูญเสียสถานะนี้ไป เธอต้องจับไว้ให้แน่น ปล่อยให้ใครมาช่วงชิงไปไม่ได้
“ถึงแม้พวกเขาไม่กระตือรือร้นในการต้อนรับคุณ แต่ขอเรียกร้องของคุณ พวกเขาก็ทำตามหมดไม่ใช่หรือ แสดงว่ายอมรับในสถานะของคุณแล้ว และเชื่อฟังคำสั่งของคุณ เพียงเท่านี้ คุณก็วางใจได้เลย”ตอนแรกไป๋หยิงเห็นท่าทีสาขาเมืองจิ๋นที่มีต่อเฉิงโหรวโหรวก็กังวลเล็กน้อย แต่ยังดีที่ยังฟังคำสั่งของเฉิงโหรวโหรว ยอมให้คนจัดการตามแผนการของพวกเธอ
และต่อมาเธอเปลี่ยนแผนการ คนพวกนั้นก็ตอบตกลงโดยไม่ลังเลสักนิด แสดงว่าพวกเขายอมรับในสถานะของเฉิงโหรวโหรว
ในเมื่อพวกเขายอมรับแผนการของเฉิงโหรวโหรว จึงไม่มีทางเปิดโปงเฉิงโหรวโหรวแน่ เพราะถึงอย่างเฉิงโหรวโหรวก็เป็นองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้
นึกมาถึงจุดนี้ไป๋หยิงก็รู้สึกเบาใจบ้าง
เฉิงโหรวโหรวได้ยินไป๋หยิงวิเคราะห์จัดแจงก็ไม่มีทีท่ากระวนกระวายใจเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
“แผนการครั้งนี้ของพวกเราถือว่าล้มเหลวใช่ไหม?เสียดายที่จัดการเวินลั่วฉิงไม่ได้”เฉิงโหรวโหรวมองเวินลั่วฉิงอีกครั้ง แววตาเผยความไม่พอใจหลายส่วนอย่างเด่นชัด“ทำไมคนตระกูลเหว้ยต้องปกป้องเวินลั่วฉิงขนาดนี้ด้วย?พวกเขามีสิทธิ์อะไรที่ปกป้องเวินลั่วฉิงขนาดนี้?เวินลั่วฉิงมีดีอะไรกันแน่?”
เรื่องนี้ไป๋หยิงก็ไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีคนมากมายปกป้องเวินลั่วฉิง
เย่ซือเฉิน คนตระกูลถัง ตอนนี้ยังมีคนตระกูลเหว้ยเพิ่มขึ้นหนึ่งคน เวินลั่วฉิงถือสิทธิ์อะไรที่ทำให้ทุกคนปกป้องเพียงนี้
ถือสิทธิ์อะไร?!
“วางใจเถอะ วันหลังยังมีโอกาส”ไป๋หยิงขบฟันแน่น น้ำเสียงโหดร้ายหลายส่วนอย่างเด่นชัด ถึงแม้แผนการครั้งนี้จะล้มเหลว เธอก็ไม่มีทางปล่อยเวินลั่วฉิงไปเด็ดขาด
ขอเพียงเฉิงโหรวโหรวคือเจ้าหญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ ขอเพียงเฉิงโหรวโหรวฟังเธอ เธอก็ไม่เชื่อว่าจะไม่มีโอกาสทำลายเวินลั่วฉิง
“ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเวินลั่วฉิงชอบเย่ซือเฉินเหรอ พวกเขายังเคยแต่งงานกัน ตอนนี้หย่ากันแล้ว”เฉิงโหรวโหรวมองไปยังไป๋หยิง เธอกะพริบตาปริบๆ ถามประโยคนี้กะทันหัน
“ใช่ ทำไมเหรอ?ทำไมคุณถึงถามเรื่องนี้กะทันหันล่ะ?”บัดนี้ไป๋หยิงรู้สึกมึนงงเล็กน้อย ไมเข้าใจเจตนาที่เฉิงโหรวโหรวถาม เฉิงโหรวโหรวอยากทำอะไร?!
“คุณว่า ถ้าหากฉันเป็นฝ่ายไปหาเย่ซือเฉิน แย่งเย่ซือเฉินมา ถึงเวลาจะเป็นการทำลายเวินลั่วฉิงอย่างหนักหน่วงหรือเปล่า?”เฉิงโหรวโหรวยกมุมปากโค้งขึ้น ใบหน้าเผยความลำพองใจหลายส่วน คงกำลังลำพองใจกับความคิดของตัวเองอยู่