ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1079 ทิ้งคุณชายสามเย่ (1)
“คุณว่า ถ้าหากฉันเป็นฝ่ายไปหาเย่ซือเฉิน แย่งเย่ซือเฉินมา ถึงเวลาจะเป็นการทำลายเวินลั่วฉิงอย่างหนักหน่วงหรือเปล่า?”เฉิงโหรวโหรวยกมุมปากโค้งขึ้น ใบหน้าเผยความลำพองใจหลายส่วน คงกำลังลำพองใจกับความคิดของตัวเองอยู่
“ถึงอย่างไรฉันก็เป็นองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ น่าจะไม่มีผู้ชายคนไหนปฏิเสธที่จะแต่งงานกับองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้หรอกมั้ง?”เฉิงโหรวโหรวยิ้มแล้วเสริมอีกหนึ่งประโยค“ผู้ชายล้วนละโมบโลภมาก ฉันไม่เชื่อว่าจะมีใครต้านทานการหลอกล่อที่มีผลประโยชน์ยิ่งใหญ่อย่างนี้ได้”
ไป๋หยิงมองไปยังเฉิงโหรวโหรวพลันกะพริบตารัวๆ บัดนี้อารมณ์ไป๋หยิงก็เหมือนกับโดนฟ้าผ่าอย่างไรอย่างนั้น
เฉิงโหรวโหรวยังกล้าคิดอีก?ถึงกลับจะแย่งเย่ซือเฉิน?
ใช่ อำนาจทั้งองค์กรโกสต์ซิตี้ยิ่งใหญ่ค่ำฟ้า สถานะองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ยั่วตายั่วใจคนจริงๆ
แต่สถานะของเวินลั่วฉิงก็ไม่ย่ำแย่ เวินลั่วฉิงคือคุณหนูใหญ่ของตระกูลถัง ซึ่งตระกูลถังเป็นแกนนำในแปดสุดยอดวงศ์ตระกูล และถังหยุนเฉิงก็ใกล้จะเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าแปดสุดยอดวงศ์ตระกูลแล้ว(เพราะตอนนี้ไม่สามารถใช้และเขียนสถานะบางอย่างได้ ดังนั้นสถานะสำหรับถังหลินและตระกูลถังจึงทำการแก้ไขแล้วทั้งหมด)
ถึงแม้แปดสุดยอดวงศ์ตระกูลจะยิ่งใหญ่สู้องค์กรโกสต์ซิตี้ได้ แต่อำนาจของแปดสุดยอดวงศ์ตระกูลก็ไม่ได้ด้อยกว่าใคร
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้เวินลั่วฉิงเป็นที่เอ็นดูของตระกูลถังเป็นอย่างมาก ไม่ เวินลั่วฉิงไม่เพียงแต่ได้รับการเอ็นดูจากตระกูลถังได้เท่านั้น แต่เวินลั่วฉิงมีความสำคัญต่อตระกูลถังมาก มีสิทธิ์มีเสียงในการแสดงความคิดเห็นในตระกูลถังเป็นอย่างดี
หลังการที่สะสางคดีนั้นได้แล้ว เวินลั่วฉิงก็ส่งผลต่อแปดสุดยอดวงศ์ตระกูลด้วย
แต่เฉิงโหรวโหรวมีอะไร?
เฉิงโหรวโหรวแค่มีสถานะที่ไม่ค่อยได้รับการยอมรับว่าเป็นองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ ถึงแม้องค์กรโกสต์ซิตี้จะเปิดเผยสู่สาธารณะถึงสถานะของเฉิงโหรวโหรวแล้ว แต่หัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้ก็ไม่เคยอธิบายอะไรทั้งสิ้น หัวหน้าก็ไม่ได้ยอมรับสถานะของเฉิงโหรวโหรวด้วยตัวเอง
อันที่จริงสถานะองค์หญิงของเฉิงโหรวโหรวนั้นอึดอัดตัวมาก ภายในองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่มีใครนับถือเฉิงโหรวโหรว กระทั่งไม่ยอมรับเฉิงโหรวโหรวด้วย แค่จุดนี้ก็ทำให้เฉิงโหรวโหรวห่างชั้นกับเวินลั่วฉิงมากอยู่แล้ว
แน่นอน หากเทียบในเรื่องของความสามารถ เฉิงโหรวโหรวก็จะห่างชั้นกับเวินลั่วฉิงหนึ่งแสนแปดพันลี้เลยทีเดียว
อย่างนี้แล้ว เฉิงโหรวโหรวยังกล้าแย่เย่ซือเฉินอีกเหรอ?
ถึงเย่ซือเฉินจะง่ายต่อการถูกยั่วยวน แต่เมื่อนำเฉิงโหรวโหรวกับเวินลั่วฉิงมาเทียบกัน เฉิงโหรวโหรวก็ไม่มีโอกาสชนะเลย เฉิงโหรวโหรวคิดอย่างไรถึงไปแย่งคู่รักของคนอื่นกันนะ?
เฉิงโหรวโหรวยังกล้าฝันกลางวันอีก น่าขันสิ้นดี
การตอบสนองแรกของไป๋หยิงคืออยากพูดจาเย้ยหยันหลายประโยค แต่ไป๋หยิงครุ่นคิดดูก็เห็นว่าทนก่อนเสียจะดีกว่า ถึงแม้ไป๋หยิงจะรู้ว่าเฉิงโหรวโหรวจะฝันลมๆแล้งๆ ทว่าก็ไม่ได้ขัดขวางเฉิงโหรวโหรว ไป๋หยิงกลับพูดส่งเสริมเฉิงโหรวโหรวขึ้นมา“อืม คุณพูดถูก แค่สถานะองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ก็ไม่มีผู้ชายกล้าปฏิเสธคุณแล้ว”
“ใช่ไหม ฉันก็คิดแบบนี้แหละ”เฉิงโหรวโหรวได้ยินคำพูดของไป๋หยิงก็ยิ่งกระหยิ่มใจ“ถ้าฉันแย่งเย่ซือเฉินมา เวินลั่วฉิงก็ต้องเจ็บปวดใจแน่ ฉันอยากให้เวินลั่วฉิงเสียใจมาก”
ไป๋หยิงเบะปาก เธอก็อยากให้เวินลั่วฉิงเจ็บปวดเหมือนกัน แต่เฉิงโหรวโหรวต้องแย่งเย่ซือเฉินมาให้ได้ก่อน
ไม่ได้แย่งเย่ซือเฉินง่ายๆซะหน่อย?
แย่งผู้ชายกับเวินลั่วฉิง มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอก?
คนที่เธอรักมากคนนั้นก็รักเวินลั่วฉิงเสมอมา เธอรอมาหลายปี เฝ้าคอยมานานนับปี หัวใจผู้ชายคนนั้นก็ยังคงไม่มีเธออยู่ดี ……
ใบหน้าไป๋หยิงเผยความโหดเหี้ยมอำมหิต กัดฟันแน่นกว่าเดิม
“งั้นคุณก็ไปแย่งผู้ชายของเวินลั่วฉิงมาก่อน”ไป๋หยิงมองหน้าเฉิงโหรวโหรวด้วยรอยยิ้มตรงมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่ชวนขนลุกชันมาก
“คุณก็เห็นด้วยเหรอ?”เฉิงโหรวโหรวรู้สึกกลัวกับท่าทีของไป๋หยิงในตอนนี้เล็กน้อย ทว่าเวลานี้เฉิงโหรวโหรวคิดแต่จะแย่งผู้ชายของเวินลั่วฉิงท่าเดียว จึงละเลยเรื่องอื่น
“แน่นอน ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ?ทำให้เวินลั่วฉิงลำบาก ทำให้เวินลั่วฉิงเสียใจคือสิ่งที่พวกเราอยากเห็น และความคิดของคุณก็ดีมาก ฉันจะไม่เห็นด้วยได้ไง”ไป๋หยิงรู้ดีว่าเฉิงโหรวโหรวไม่อาจแย่งคนรักของเวินลั่วฉิงได้ ไป๋หยิงยังรู้ดีว่าเย่ซือเฉินไม่มีทางถูกเฉิงโหรวโหรวหลอกล่อ
ทว่าไป๋หยิงไม่เพียงไม่ขัดขวางเฉิงโหรวโหรวเท่านั้น แถมยังส่งเสริมเฉิงโหรวโหรวอีกต่างหาก ไป๋หยิงรู้สึกว่าถึงแม้จะเย่ซือเฉินไม่ได้ แต่อย่างน้อยๆก็สร้างความเจ็บปวดใจให้กับเวินลั่วฉิงได้ไม่น้อย
ไป๋หยิงยังรู้สึกยินดีปรีดาที่เห็นเฉิงโหรวโหรวเป็นฝ่ายเสนอตัวเข้ามาแทรกในเรื่องพวกนี้ ถึงเวลานั้นเธอก็ไม่ต้องกังวลว่าเฉิงโหรวโหรวจะไม่เชื่อฟังเธอแล้ว
แน่นอน การที่เฉิงโหรวโหรวทำแบบนั้น จะยิ่งทำให้เรื่องชุลมุนมากขึ้น เมื่อเรื่องชุลมุนมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีโอกาสโจมตีเวินลั่วฉิงมากเท่านั้น เธอยินดีเห็นเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอยู่แล้ว
“ดี งั้นพวกเรากลับไปก็เริ่มลงมือเลย ถึงเวลาฉันจะแย่งเย่ซือเฉินมาให้ได้ ทำให้เวินลั่วฉิงเจ็บปวด จากนั้นฉันก็จะทิ้งเย่ซือเฉิน ทำให้เย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงเจ็บปวดด้วยกัน”เฉิงโหรวโหรวได้รับการตอบรับจากไป๋หยิงก็หัวเราะทันที หัวเราะแบบลำพองใจและหยิ่งผยอง
ถึงแม้ไป๋หยิงจะยุให้เฉิงโหรวโหรวแย่งคนรักของเวินลั่วฉิง แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเฉิงโหรวโหรวในขณะนี้ก็ต้องตะลึง!!
เมื่อกี้เฉิงโหรวโหรวพูดอะไรนะ?เฉิงโหรวโหรวบอกว่าจะแย่งเย่ซือเฉินมา จากนั้นก็จะทอดทิ้งเย่ซือเฉิน?
เธอไม่ได้ฟังผิดใช่ไปไหม?เฉิงโหรวโหรวกล้าพูดจริงๆ
เฉิงโหรวโหรวทอดทิ้งเย่ซือเฉิน?
เธอไม่กล้าคิดความเป็นไปได้นี้เลย
ทันใดนั้นไป๋หยิงรู้สึกว่าเฉิงโหรวโหรวมีพรสวรรค์ด้านการฝันกลางวันโดยแท้
“ทำไม?ทำไมคุณถึงมองฉันแบบนี้?มีปัญหาตรงไหนเหรอ?ฉันพูดผิดตรงไหน?”เห็นได้ชัดว่าเฉิงโหรวโหรวไม่รับรู้ปัญหาของคำพูด ดังนั้นเธอจึงรู้สึกแปลกกับสายตาของไป๋หยิงเล็กน้อย
“ไม่ ไม่มีปัญหา”ในที่สุดไป๋หยิงก็ได้สติกลับคืนมา ไป๋หยิงกระตุกมุมปากอย่างเห็นได้ชัด ทันใดนั้นเธอพบว่าเฉิงโหรวโหรวแค่เป็นองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่กี่วันก็ลุ่มหลงในบรรดาศักดิ์อย่างแปลกประหลาด
เฉิงโหรวโหรวถามเธอว่ามีปัญหาอะไรหรือ?
ไป๋หยิงไม่เข้าใจว่าเฉิงโหรวโหรวถามได้อย่างไร เฉิงโหรวโหรวที่เป็นเพียงเด็กชนบทคนหนึ่ง มีความทะเยอทะยานอย่างแรงกล้าอย่างนี้เมื่อไหร่?
“ฉันก็คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร”เฉิงโหรวโหรวฟังนัยยะที่แอบแฝงไว้ไม่ได้ กลับยิ่งลำพองใจกว่าเดิม“ฉันเชื่อว่าฉันต้องสำเร็จแน่นอน”
“ดี ฉันรอวันนั้นมาถึง”บัดนี้ไป๋หยิงรู้สึกไร้คำบรรยาย ทว่าเธอยังคงกล่าวเห็นด้วยกับเฉิงโหรวโหรวเสียงเบา ตอนนี้เฉิงโหรวโหรวพูดอะไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น เธอขี้เกียจพูดจาไร้สาระกับเฉิงโหรวโหรว
แน่นอน ไป๋หยิงยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเฉิงโหรวโหรวจะทำเรื่องให้อลหม่าน ยิ่งอลหม่านมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น
“คนที่ฉันชอบคือหัวหน้าน้อย ฉันแย่งเย่ซือเฉินเพราะฉันต้องการแก้แค้นเวินลั่วฉิง แต่คงรักเย่ซือเฉินไม่ได้ ดังนั้นสุดท้ายฉันก็ต้องทิ้งเย่ซือเฉิน”เฉิงโหรวโหรวเม้มปาก ตั้งใจครุ่นคิดดูแล้ว เสริมอีกหนึ่งประโยคว่า“ฉันจริงจังกับความรักมาก”
ชั่วขณะนั้นไป๋หยิงเกือบสำลักน้ำลายตัวเอง ครั้งนี้เธอแค่มองเฉิงโหรวโหรวแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร
เกรงว่าคงไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่ชอบหัวหน้าน้อย?เธอเองก็ตกตะลึงเมื่อเห็นหัวหน้าน้อยครั้งแรกเหมือนกัน หัวหน้าน้อยคือผู้ชายที่หล่อที่สุดที่เธอเคยพบเห็นมา
หัวหน้าน้อยไม่เพียงแต่หน้าตาดี ความสามารถยังโดดเด่นเหนือคนอื่นด้วย ยิ่งเป็นบุคคลที่ดูแลองค์กรโกสต์ซิตี้ทั้งหมด ถามหน่อยว่าผู้ชายอย่างนี้จะมีผู้หญิงคนไหนไม่ชื่นชอบ?มีผู้หญิงคนไหนไม่อยากแต่งงานด้วย?
ยังเหลือให้เฉิงโหรวโหรวอีกหรือ?
เมื่อสักครู่เธอบอกว่าเฉิงโหรวโหรวฝันกลางวัน ตอนนี้เธอกลับรู้สึกว่าคำบรรยายนี้ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ ต้องบอกว่าเฉิงโหรวโหรวคิดอะไรผิดมนุษย์จริงๆ
เฉิงโหรวโหรวกล้าคิดจริงๆ!!
เฉิงโหรวโหรวอยากแต่งงานกับหัวหน้าน้อย?หัวหน้าน้อยแทบไม่เคยมองหน้าเฉิงโหรวโหรวตรงๆเลย เกรงว่าตอนนี้หัวหน้าน้อยยังจดจำใบหน้าเฉิงโหรวโหรวไม่ได้ด้วยซ้ำ เฉิงโหรวโหรวยังกล้าแต่งงานกับหัวหน้าน้อยอีก
ยิ่งไปกว่านั้น เฉิงโหรวโหรวยังพูดว่าเพื่อแต่งงานกับหัวหน้าน้อยแล้ว ดังนั้นจำเป็นต้องทอดทิ้งเย่ซือเฉิน?
ครั้งแรกที่ไป๋หยิงรับรู้ว่าการไม่ประสีประสานั้นน่ากลัวขนาดไหน ไม่ประสีประสาก็แล้ว ประเด็นสำคัญคือยังไม่ประสีประสาแบบโง่เขลาชนิดที่เพ้อฝันแบบไม่มีทางเป็นไปได้เลย
หากเฉิงโหรวโหรวเป็นองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ก็ช่างเถอะ แต่เฉิงโหรวโหรวไม่ใช่ เฉินโหรวโหรวก็รู้จุดนี้ดี งั้นเฉิงโหรวโหรวถือดีอะไรที่พูดเช่นนี้?
ระหว่างที่เฉิงโหรวโหรวพูด ในใจคิดอะไรอยู่กันแน่?!
“ทำไมคุณไม่พูดล่ะ?”เฉิงโหรวโหรวเห็นไป๋หยิงไม่ตอบเธอ คงเป็นเพราะรู้สึกว่าตัวเองพูดเองเอ่ยเองไม่มีประโยชน์ จึงเร่งรัดให้ไป๋หยิงตอบเธอ