ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1088 เขาไปสั่งจองแหวนแต่งงานด้วยตัวเอง (2)
“คุณหญิงซือถู คุณเป็นถึงแขกวีไอพี ยินดีต้อนรับ ยินดีต้อนรับค่ะ” เวลานี้ท่าทีของคุณหญิงเว้ยดูอบอุ่นและเป็นมิตรมาก ตระกูลเว้ยและตระกูลซือถูทีแรกก็มีธุรกิจที่ต้องไปมาหาสู่กันอยู่แล้ว วันข้างหน้าอาจจะพัฒนาความสัมพันธ์ไปอีกขั้น คุณหญิงเว้ยจึงต้องอบอุ่นและเป็นมิตรกับคุณหญิงซือถูอยู่แล้ว
“คุณหญิงเว้ยเกรงใจแล้ว วันนี้ฉันพาลูกชายและลูกสะใภ้มาร่วมเพลิดเพลินเท่านั้น” คุณหญิงซืถูกทำสีหน้าที่เคล้าด้วยรอยยิ้ม ขณะเดียวกันก็ดูอบอุ่นเป็นมิตรมาก คุณหญิงซือถูได้ยินคำพูดที่เหมือนจะเกรงใจนี้ กลับสื่อความหมายอย่างหนึ่งออกมาอย่างชัดเจน
เวลานี้คุณหญิงซือถูพามู่ฉู่ฉู่ที่อยู่ห่างจากซือถูมู่หรงสักระยะมา และเวลานี้น้ำเสียงของคุณหญิงเว้ยก็ไม่ถือว่าสูง ซือถูมู่หรงไม่ได้ยินบทสนทนาของพวกเขาอยู่แล้ว
มู่ฉู่ฉู่ที่ถูกคุณหญิงซือถูลากมาได้ยินคำพูดแบบนี้แล้ว ก็รู้สึกตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด แล้วใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นอีกครั้ง และยิ่งเขินอายขึ้น
คำพูดเมื่อครู่ของคุณหญิงซือถู รวมไปกับปฏิกิริยาของมู่ฉู่ฉู่ในตอนนี้ แม้แต่คนตาบอดก็ยังมองออกว่าเกิดอะไรขึ้น
“แหม่ งั้นก็ยินดีด้วยจริงๆ” คุณหญิงเว้ยเป็นคนฉลาด จึงเข้าใจในความหมายของคุณหญิงซือถูทันที ในเมื่อคุณหญิงซือถูพูดออกมาได้อย่างชัดเจนขนาดนั้น คุณหญิงเว้ยจึงต้องเอ่ยชมสองสามคำอยู่แล้ว
“คุณหญิงซือถูกำลังพูดถึงสาวน้อยคนนี้อยู่ใช่ไหม? แวบแรกที่เห็นสาวน้อยคนนี้ก็รู้ว่าเป็นเด็กที่รู้กาลเทศะมาก และรู้ว่าเป็นเด็กที่อ่อนโยนและใจดีเป็นพิเศษ อีกอย่างยังเป็นเด็กที่มีจิตใจดี คุณหญิงซือถูช่างมีบุญวาสนาจริงๆ” คุณหญิงเว้ยมองมู่ฉู่ฉู่ คุณหญิงเว้ยเอ่ยชมแบบนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นการชมอย่างฝืนใจ ความรู้สึกที่มู่ฉู่ฉู่มอบให้นั้นอ่อนโยนมาก และเอาใจคนเก่งมาก และเป็นเด็กที่รู้กาลเทศะ
“ใช่แล้ว ฉันดูเด็กคนนี้โตมา และฉันก็รู้จักนิสัยของเธออย่างดีที่สุด” คุณหญิงซือถูยิ้มได้มีความสุขกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด และดูอ่อนโยนเป็นมิตรเป็นพิเศษ
งานเลี้ยงของตระกูลเว้ยต้องมีนักข่าวอยู่แล้ว และยังไม่ใช่นักข่าวที่ทำข่าวเล็กๆธรรมดา ล้วนเป็นสื่อที่มีอิทธิพลมาก
แค่คุณหญิงซือถูตะโกนขึ้นแบบนี้ ก็ได้มีนักข่าวได้ยินมานานแล้ว มีนักข่าวรู้จักซือถูมู่หรงกับคุณหญิงซือถู นักข่าวเห็นคุณหญิงเว้ยก็เดินมาด้วย แน่นอนว่าต้องเดินไปล้อมรอบไว้อยู่แล้ว
ในขณะนี้ เมื่อนักข่าวได้ยินคำพูดของคุณหญิงซือถู แต่ละคนก็ดูเหมือนถูกฉีดเลือดไก่ในทันที ทุกคนก็ตื่นเต้นดีใจกันมาก
“คำพูดนี้ของคุณหญิงซือถูหมายความว่าอย่างไร ประธานซือถูแต่งงานแล้วเหรอคะ?” สุดท้ายนักข่าวสาวก็อดไม่ได้ที่จะพูดคำถามสงสัยในใจ นี่เป็นตั้งข่าวใหญ่ สื่อทุกสำนักต้องการถ่ายทอดอย่างรวดเร็ว แน่นอน เรื่องราวของตระกูลซือถูคงไม่กล้าพูดขึ้นเรื่อยเปื่อยได้ ดังนั้นต้องถามให้ชัดเจนก่อนถึงจะดีที่สุด
“ยังค่ะ แต่ใกล้แล้ว” คำพูดเมื่อครู่นี้ของคุณหญิงซือถูเดิมก็มีเจตนาอื่นแอบแฝงอยู่แล้ว ขณะนี้มีนักข่าวถาม เธอก็ตอบอย่างเป็นธรรมชาติ “เด็กทั้งสองมีสัญญางานสมรสกันมานานแล้ว แต่ไม่เคยเปิดเผยตลอดมา ตอนนี้เด็กสองคนก็โตแล้ว และทั้งคู่ก็ได้อายุแต่งงานแล้ว แน่นอนว่าจะแต่งงานกันอยู่แล้ว”
คำพูดนี้ของคุณหญิงซือถูเอ่ยได้ชัดเจนอย่างมาก และความหมายนี้ก็ชัดเจนเป็นพิเศษ
“อ้อ เป็นแบบนี้นี่เอง” นักข่าวพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่คือสิ่งที่คุณหญิงซือถูพูดเอง ต้องไม่ผิดพลาดแน่นอน
“คุณหญิงซือถู ไม่รู้ว่าวันวิวาห์นี้ถูกกำหนดไว้เมื่อไหร่คะ?” เกิดเป็นนักข่าว แน่นอนว่าต้องชำนาญในการขุดข่าวอยู่แล้ว วันกำหนดงานวิวาห์ของประธานาซือถูก็เป็นข่าวใหญ่อย่างหนึ่ง
“ทั้งสองตระกูลคุยกันแล้ว และกำหนดไว้ว่าจะแต่งเดือนตุลาคมค่ะ” คุณหญิงซือถูไม่ได้หลบเลี่ยง คำตอบเป็นธรรมชาติมาก คำพูดก็ตรงไปตรงมาอย่างมาก
เมื่อนักข่าวได้ยินคำพูดของคุณหญิงซือถูก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด แม้เขาจะเพิ่งถามไปเมื่อกี้นี้ กลับไม่ได้คาดหวังว่าคุณหญิงซือถูจะตอบโดยตรงจริงๆ อีกอย่างยังเป็นคำตอบที่ตรงมากขนาดนี้
คุณหญิงเว้ยก็ตกตะลึง คุณหญิงเว้ยเป็นคนฉลาด แค่เห็นก็มองออกว่าคุณหญิงซือถูเจตนา สำหรับเรื่องที่ทำไมคุณหญิงซือถูเจตนาทำแบบนี้ คุณหญิงเว้ยก็ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ คุณหญิงเว้ยก็ไม่สะดวกที่จะพูดมากอะไรอยู่แล้ว
“งั้นก็ยินดีด้วยจริงๆ” ในโอกาสแบบนี้นี้ คุณผู้หญิงเว้ยก็ต้องแสดงความยินดีเป็นเรื่องธรรมดา
“ยินดีด้วยครับ ยินดีด้วยค่ะ” นักข่าวหลายๆคนที่ล้อมรอบอยู่ต่างก็แสดงความยินดีครั้งแล้วครั้งเล่า แน่นอนว่า ในขณะนักข่าวที่แสดงความยินดีอยู่ก็คงไม่ลืมที่จะถ่ายรูปอยู่แล้ว
“ลูกสะใภ้ที่คุณหญิงซือถูพูดถึงคิดว่าน่าจะเป็นคุณผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างท่านใช่ไหมครับ?” ความสนใจของนักข่าวหลายๆคนต่างก็เบี่ยงไปที่มู่ฉู่ฉู่ คุณหญิงซือถูจับมือของมู่ฉู่ฉู่ตลอดเวลา
“ใช่ เธอเองค่ะ มู่ฉู่ฉู่ คุณหนูใหญ่ของตระกูลมู่ค่ะ” ครั้งนี้คุณหญิงซือถูไม่ได้หลีกเลี่ยงใดๆ และก็ได้อธิบายขึ้น
มู่ฉู่ฉู่เงยหน้าขึ้น แม้ว่าใบหน้าของเธอยังคงเขินอายเล็กน้อย แต่เธอกลับเผชิญหน้ากับนักข่าวอย่างซึ่งๆหน้า และอนุญาตให้นักข่าวถ่ายรูป อย่างไรก็คือคุณหนูใหญ่ของตระกูลมู่ สถานการณ์แบบนี้ดังกล่าวก็พบเจอจนเคยชินไปแล้ว
มุมปากของมู่ฉู่ฉู่ส่งยิ้มตลอดมา ขณะนี้เธอรู้สึกดีใจและมีความสุขมากจริงๆ
นักข่าวหลายๆคนถ่ายรูปของมู่ฉู่ฉู่ไม่หยุด
“ท่านประธานซือถูก็มานี่ พวกเราก็ไปสัมภาษณ์ท่านประธานซือถูหน่อยเถอะ” นักข่าวเห็นว่ามู่ฉู่ฉู่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ความร่วมมืออย่างมาก คิดว่าถ้าได้สัมภาษณ์ซือถูมู่หรงไปพร้อมๆ กัน งั้นก็คงจะดียิ่งกว่า
“ทุกท่าน วันนี้เป็นงานเลี้ยงตระกูลเว้ย เป็นงานเลี้ยงที่จัดเพื่อประธานคนใหม่ของบริษัทตระกูลเว้ยกรุ้ปเข้ารับตำแหน่งใหม่ วันนี้ประธานคนใหม่ของเว่ยถึงจะเป็นตัวเอก งานนี้อย่าได้เข้าใจผิดกันเลย” คุณหญิงซือถูได้ยินคำพูดของนักข่าวคนนั้น ดวงตาคู่หนึ่งเป็นประกายอย่างรวดเร็ว แล้วขัดจังหวะข้อเสนอแนะของนักข่าวด้วยเสียงหัวเราะอย่างแผ่วเบา
“นี่?นี่?” นักข่าวคนนั้นตกตะลึง เห็นได้ชัดว่าเขานึกไม่ถึงว่าคุณหญิงซือถูจะขัดขวางเขา อย่างไรก่อนหน้านี้คุณหญิงซือถูก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
“ลูกชายฉัน ฉันรู้ดีที่สุด เขาไม่ชอบให้สัมภาษณ์ โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว เขาไม่เคยให้ความร่วมมือกับนักข่าวในการสัมภาษณ์เลย ปกติก็ช่างเถอะค่ะ วันนี้อยู่ที่งานเลี้ยงของตระกูลเว้ย อย่าทำเรื่องอะไรที่ไม่ดีเลย ดังนั้นพวกคุณอย่าไปยุ่งกับเขาเลย ถ้าพวกคุณมีคำถามอะไรอยากถามก็ถามฉันได้ค่ะ” คุณหญิงซือถูพูดคำพูดเหล่านี้แบบไม่มีช่องโหว่เลยจริงๆ
นักข่าวล้วนเป็นคนฉลาด ต้องฟังออกในความหมายของคุณหญิงซือถูอยู่แล้ว แน่นอนว่าเกิดเป็นนักข่าว ก็เข้าใจท่าทีที่ประธานซือถูมีต่อนักข่าวแน่นอน ตอนนี้ได้ยินคุณหญิงซือถู แล้วคงไม่มีใครกล้าไปยุ่งกับซือถูมู่หรงเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
“คุณหญิงซือถู คุณบอกว่าประธานซือถูกำลังจะแต่งงานเป็นความหมายของตัวท่านประธานซือถูเองไหมครับ?” จู่ๆ ก็มีนักข่าวที่อายุไม่มาก และเพิ่งมาทำงานได้ไม่นานก็ถามขึ้น
ทันทีที่คำถามของนักข่าวน้อยนี้ออกมา คนอื่นต่างก็ตกตะลึง ทุกสายตาจับจ้องไปที่นักข่าวน้อยคนนั้นทันที
“ผมแค่ถามดูครับ ผมรู้สึก รู้สึกว่าเรื่องนี้มันค่อนข้าง……” เมื่อทุกคนมองไป นักข่าวน้อยดูประหม่าอย่างเห็นได้ชัด เขาแค่รู้สึกว่าคุณหญิงซือถูดูเหมือนจะปิดบังจากประธานซือถู เขารู้สึกว่าประธานซือถูดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องนี้
เขารู้สึกอย่างนั้น และแน่นอนว่าในสถานการณ์แบบนี้ เขาไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ
“แน่นอน” คุณหญิงซือถูได้ยินคำพูดของนักข่าวคนนั้น ตาเป็นประกายอย่างรวดเร็ว แต่ไม่มีความแปลกบนใบหน้าใดๆ กลับหัวเราะต่อ “การแต่งงานเป็นเรื่องของลูกชายของฉัน แน่นอนว่าเป็นความหมายของเขาเอง มีหรือว่าจะมีใครไปบังคับเขาเหรอ”
“นั่นสินะ นั่นสิ” นักข่าวน้อยเห็นรอยยิ้มของคุณหญิงซือถู จึงยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อเย็นเฉียบบนหน้าผากอย่างไม่รู้ตัว ทำไมเขารู้สึกว่ารอยยิ้มนี้คุณหญิงซือถูดูแล้วค่อนข้างน่ากลัวล่ะ
ภาพลวงตา ต้องเป็นภาพลวงตาของเขาแน่ๆ!!
“ลูกชายของฉันมักจะดูเย็นชา แต่เขาเป็นห่วงเรื่องของฉู่ฉู่เป็นพิเศษ เมื่อสองวันก่อน เขาได้ไปเยี่ยมอาจารย์เหลียนด้วยตัวเอง เพื่อสั่งจองแหวนแต่งงานให้ฉู่ฉู่” คุณหญิงซือถูไม่ได้มองนักข่าวน้อยคนนั้นอีกเลย แต่กลับหันไปมองเลนส์กล้องตัวอื่น และแจ้งข่าวคราวหนึ่งอีก
เมื่อนักข่าวได้ยินข่าวนี้ ต่างก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด และในทันทีทันใด ก็ทำสีหน้าตื่นเต้นดีใจขึ้นเล็กน้อย ท่านประธานซือถูถึงกับสั่งทำแหวนแต่งงาน อีกอย่างยังไปหาอาจารย์เหลียนด้วยตัวเอง คงไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิดแน่นอน
ในฐานะนักข่าว ตราบใดที่สิ่งที่คุณหญิงซือถูเป็นความจริง พวกเขาก็มีวิธีที่เปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดอยู่แล้ว นั่นก็กลายเป็นค้อนหินไปแล้ว
“นึกไม่ถึงว่าประธานซือถูจะเป็นคนโรแมนติกแบบนี้”
“นั่นก็ขึ้นอยู่กับคนด้วย ความโรแมนติกของประธานซือถูนอกจากคุณมู่ คนอื่นๆก็ไม่ต้องคิดแล้ว”
“ยินดีด้วยครับ คุณมู่ คุณมู่ช่างมีความสุขจริงๆ”
นักข่าวหลายๆคนต่างถ่ายรูปมู่ฉู่ฉู่อีกครั้ง มีเรื่องการสั่งจองแหวนแต่งงานของซือถูมู่หรง เรื่องงานแต่งก็ยิ่งน่าเชื่อถือและยิ่งโด่งดังไปกันใหญ่
นักข่าวหลายสำนักต่างเข้าใจว่าข่าวแบบนี้ต้องยิ่งเร็วยิ่งดี แน่นอนว่า รายละเอียดในนั้นยิ่งเยอะยิ่งดีอยู่แล้ว ดังนั้น นักข่าวหลายสำนักจึงขอให้คนไปหาหลักฐานการสั่งจองแหวนแต่งงานของซือถูมู่หรงที่คุณหญิงซือถูพูดเมื่อกี้นี้
แค่มีหลักฐาน มีรายละเอียด หลังจากเรื่องนี้ถูกเปิดเผย ต้องดึงดูดความสนใจของสาธารณชนในทันทีแน่นอน