ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1090 เกิดเรื่องใหญ่แล้ว (2)
เขาคงพูดไม่ได้ว่าเมื่อห้าปีก่อน เขาใช้เงินซื้อตัวหลิวหยิง ซื้อตัวเธอห้าปี อีกทั้งนี่ก็ใกล้จะครบห้าปีแล้ว
ถ้าเขาบอกเวินลั่วฉิงแบบนี้จริงๆ เขาไม่อยากคิดถึงผลที่จะตามมาเลยจริงๆ ผู้หญิงคนนี้ของเย่ซือเฉินเก่งกาจมาก หาเรื่องใครก็ได้แต่หาเรื่องเธอไม่ได้เด็ดขาด
“ฉันจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย” ซือถูมู่หรงไม่ได้อธิบายอะไรมากมาย แต่แสดงท่าทีของตนอย่างชัดเจน ระยะเวลานี้ เขาคิดหาวิธีจัดการเรื่องนี้มาโดยตลอด เขาจะต้องทำให้หลิวหยิงอยู่กับเขาต่อไปให้ได้
แน่นอน ต้องไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่น่ากระอักกระอ่วนแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เขาจะให้ทุกอย่างที่ควรมีกับเธอ
เวินลั่วฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย การเลี่ยงตอบคำถามของซือถูมู่หรงทำให้เวินลั่วฉิงตระหนักได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างซือถูมู่หรงและหลิวหยิงไม่ธรรมดา อีกทั้งยังดูน่าอับอายเล็กน้อยด้วย
“ประธานซือถู หลิวหยิงอยู่กับคุณมานานเท่าไหร่แล้ว” เวินลั่วฉิงไม่แสดงท่าทีใดๆต่อการกระทำของซือถูมู่หรง แต่ถามต่ออีกหนึ่งคำถาม
หลังจากหลิวหยิงย้ายบ้าน เธอก็ขาดการติดต่อกับหลิวหยิง ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับหลิวหยิง
ซือถูมู่หรงชะงัก แววตาสั่นเทา นัยน์ตามีความประหม่ามากยิ่งขึ้น แต่ว่าก็ยังคงพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม “ห้าปีแล้ว”
ดวงตาของเวินลั่วฉิงหรี่เล็กลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองซือถูมู่หรง แววตานั้นมีความเย็นที่อันตรายอย่างเด่นชัด
ห้าปี? หลิวหยิงอยู่กับซือถูมู่หรงห้าปีแล้วเหรอเนี่ย?
หลิวหยิงอยู่กับซือถูมู่หรงมาห้าปี แต่กลับไม่มีคนรู้เรื่องนี้ แม้แต่พวกนักข่าวที่สามารถแทรกซึมเข้าไปได้ทุกที่ยังไม่รู้ข่าวคราวแม้แต่น้อย
เมื่อกี้คุณหญิงซือถูเพิ่งบอกว่าจะให้ซือถูมู่หรงแต่งงานกับมู่ฉู่ฉู่ เท่ากับว่าซือถูมู่หรงยังไม่ได้แต่งงาน ซือถูมู่หรงไม่ได้แต่งงานกับหลิวหยิง พวกเขาไม่แม้แต่จะแต่งงานกันลับๆๆ
ดังนั้น ตลอดห้าปีที่ผ่านมานี้หลิวหยิงไม่มีสถานะอะไรทั้งนั้น เป็นเหมือนมนุษย์ล่องหนที่คอยอยู่กับซือถูมู่หรง?!
เวลาห้าปีของผู้หญิงคนหนึ่ง? ผู้หญิงคนหนึ่งจะมีวัยรุ่นกี่ห้าปีกัน?
งานเลี้ยงตระกูลถังเมื่อคราวที่แล้ว ซือถูมู่หรงพาหลิวหยิงไปร่วมงานด้วย แต่ว่าซือถูมู่หรงไม่แนะนำตัวหลิวหยิงแต่อย่างใด
ดังนั้น ซือถูมู่หรงเห็นหลิวยิงเป็นอะไร?!
เวินลั่วฉิงเพียงแค่มองซือถูมู่หรงด้วยแววตาเยือกเย็น ไม่ได้พูดอะไร ทั้งยังถอนสายตาไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว จากนั้นเวินลั่วฉิงก็หมุนตัวหันหลังเดินออกไป
“เวินลั่วฉิง” สีหน้าของซือถูมู่หรงเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด คนที่ใจเย็นมาโดยตลอดอย่างเขาเดินไปขวางหน้าเวินลั่วฉิงเอาไว้
ไป๋หยูหนิงมองตาค้างไปแล้ว ไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
ตอนนี้ฉู่หลิงเอ๋อเองก็ตกตะลึง มองทั้งสองตาค้างเช่นเดียวกัน คนที่ปกติพูดมากอย่างเธอเวลานี้กลับเงียบ
“ประธานซือถู หมายความว่าอะไร?” เวินลั่วฉิงเงยหน้าขึ้น มองไปที่เขา เวลานี้แววตาของเธอเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง ไม่มีอุณหภูมิใดๆ
“เรื่องระหว่างฉันกับเธอซับซ้อนมาก ก่อนหน้านี้พวกเรา……” ซือถูมู่หรงระมัดระวังคำพูดอย่างมาก เขารู้ว่าเวินลั่วฉิงไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา ไม่สามารถหลอกลวงได้ เขารู้ว่าเวินลั่วฉิงเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของหลิวหยิง ทั้งยังเป็นเพื่อนคนสำคัญของหลิวหยิง
งานเลี้ยงตระกูลถังเมื่อคราวก่อน เพื่อเวินลั่วฉิงแล้วหลิวหยิงถึงขั้นอยากจะเอาขวดเหล้าไปฟาดหัวเย่ซือเฉิน
“ก่อนหน้านี้เรามีเรื่องเข้าใจผิดก่อน แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว” ซือถูมู่หรงคิดไตร่ตรอง ไม่ได้พูดเรื่องสัญญาระหว่างเขากับหลิวหยิงออกมา เพราะสัญญานี้มันแย่เกินไป เขารู้ ถ้าเขาพูดออกมา ไม่เพียงแต่ทำให้เวินลั่วฉิงไม่พอใจ เกรงว่าแม้แต่ไป๋หยูหนิงที่อยู่ที่นี่ก็คงจะมองเขาด้วยความดูถูก
ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจมาก ตอนนั้นเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ ทำไมถึงทำเรื่องแบบนั้น
แต่ว่าตอนนั้น เขาไม่ได้รู้สึกกับหลิวหยิงเหมือนตอนนี้ เขาในตอนนั้นอยากจะแก้แค้นเพียงอย่างเดียว ดังนั้นเขาคิดหาทุกวิถีทางเพื่อทำให้เธออับอาย ทำให้เธอเจ็บปวด
ถูกต้อง ตอนนั้นเขาทำสำเร็จแล้ว ทำให้เธออับอายได้สำเร็จ ทำให้เธอเจ็บปวดได้สำเร็จ
แต่ว่าเรื่องผ่านมาห้าปีแล้ว ความเจ็บปวดของเธอค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นยอมรับ จนกระทั่งตอนนี้เธอไม่แคร์แม้แต่น้อย และสุดท้ายคนที่เจ็บปวดก็กลายเป็นเขา
“เข้าใจผิดอะไร? เรื่องเข้าใจผิดอะไรที่ทำให้คุณกักขังผู้หญิงคนหนึ่งให้อยู่กับคนห้าปีโดยไม่ให้สถานะอะไรกับเธอเลย?” ด้านความรู้สึกไป๋หยูหนิงช้าเสมอ แต่ตอนนี้เธอเข้าใจความหมายของซือถูมู่หรงแล้ว
ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ไป๋หยูหนิงไม่สามารถทนกับเรื่องแบบนั้นได้
ตอนนี้ไป๋หยูหนิงใช้คำว่ากักขัง ทำให้เรื่องทุกอย่างดูร้ายแรงขึ้นมาทันที
แน่นอน ตอนนี้ไป๋หยูหนิงยังคงไม่รู้เรื่องที่ซือถูมู่หรงทำ ถ้าหากไป๋หยูหนิงรู้ เธอต้องไม่มีวันแสดงท่าทีอ่อนโยนเหมือนตอนนี้แน่
ปกติแล้วไป๋หยูหนิงดูอ่อนโยน ทำงานด้วยความใจเย็น แต่เธอก็ระเบิดอารมณ์เป็นเหมือนกัน
เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของไป๋หยูหนิง ดวงตาทั้งสองหม่นหมองลงอย่างเห็นได้ชัด เธอรู้สึกว่าไป๋หยูหนิงใช้คำว่ากักขังได้เหมาะสมจริงๆ
คราวที่แล้วตอนที่เธอลองถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างซือถูมู่หรงและหลิวหยิง หลิวหยิงเลี่ยงที่จะไม่ตอบ อีกทั้งในตอนนั้นเธอสังเกตเห็นว่าหลิวหยิงดูประหม่า อับอาย ทั้งยังดิ้นรนเล็กน้อย ดังนั้นหมายความว่าหลิวหยิงไม่ได้ยินดีที่จะคบกับซือถูมู่หรง
มุมปากของซือถูมู่หรงขยับไปมา ทันใดนั้นเขากลับไม่รู้จะสรรหาคำพูดอะไรมาโต้เถียง เขาเองก็ยอมรับว่าคำว่ากักขังของไป๋หยูหนิงคือความจริง
“ซือถูมู่หรง ฉันคิดไม่ถึงจริงๆว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้……” ไป๋หยูหนิงเห็นซือถูมู่หรงเงียบ รู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่ตนคิดเป็นเรื่องจริง แววตาที่ไป๋หยูหนิงมองไปที่ซือถูมู่หรงเปลี่ยนไปในทันที
“ซือถูมู่หรง คนอย่างคุณควรจะโสดไปตลอดชีวิต อยู่โดดเดี่ยวจนแก่ตาย” ไป๋หยูหนิงต่อว่า หลังจากนั้นก็ถอยตัวออกห่างซือถูมู่หรง
เวินลั่วฉิงพ่นลมหายใจออกมาเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไร แล้วเดินออกไปอีกครั้ง เธอไม่สามารถตำหนิซือถูมู่หรงเหมือนอย่างที่ไป๋หยูหนิงทำ เพราะถึงอย่างไรเธอก็ไม่สนิทกับซือถูมู่หรง อีกทั้งตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างซือถูมู่หรงกับหลิวหยิงกันแน่
ตอนที่ยังไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร เวินลั่วฉิงไม่มีวันทำอะไรง่ายๆ เพราะถึงอย่างไรนั่นก็เป็นเรื่องระหว่างซือถูมู่หรงและหลิวหยิง เธอต้องเคารพความต้องการของหลิวหยิง
ครั้งนี้ซือถูมู่หรงไม่ได้ขวางเวินลั่วฉิง เพราะเขารู้ ตอนนี้เขาอธิบายไปมากมายเท่าไหร่ก็ไร้ประโยชน์ อีกทั้งเขายังไม่สามารถอธิบายให้ชัดจนกว่านี้ได้ เพราะเรื่องแบบนั้นยากที่พูดมันออกมาจริงๆ
“มู่หรง ฉันยังไม่ธุระ ขอตัวก่อน แกช่วยฉันดูแลฉู่ฉู่ด้วย”คุณหญิงซือถูเดินมา เห็นซือถูมู่หรงยืนนิ่งใจลอยอยู่ตรงนั้น นัยน์ตาของคุณหญิงซือถูฉายแสงแวววับอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวผมให้คนส่งพวกแม่กลับไปครับ” ซือถูมู่หรงดึงสติกลับมา คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย ความหมายของเขาชัดเจน คือจะส่งคุณหญิงซือถูและมู่ฉู่ฉู่กลับไปด้วยกัน และเขาก็ไม่คิดจะไปกับพวกเธอด้วย
“มู่หรง……” สีหน้าของคุณหญิงซือถูแสดงความไม่พอใจ เสียงดังขึ้นเล็กน้อย
แต่ซือถูมู่หรงเรียกคนมาแล้ว “ส่งคุณหญิงกับคุณมู่ไปที่สนามบิน”
น้ำเสียงของซือถูมู่หรงในตอนนี้เคร่งขรึมอย่างมาก ไม่เหลือโอกาสให้หารือแม้แต่น้อย
คุณหญิงซือถูทำได้เพียงเก็บความไม่พอใจเอาไว้ เธอรู้จักนิสัยของลูกชายตนเองเป็นอย่างดี ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พูดอะไรมาก พามู่ฉู่ฉู่ออกไป
หลังจากคุณหญิงซือถูพามู่ฉู่ฉู่ออกไป ซือถูมู่หรงโล่งอก แม่ไปแล้ว เขาไม่ต้องกังวลว่าแม่จะพูดอะไรเรื่อยเปื่อยในงานเลี้ยงแล้ว
ซือถูมู่หรงกลอกตาไปมา หันไปมองเวินลั่วฉิงอีกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้เขาไม่ได้เดินไปอีก แต่หลังจากนั้นก็ตามออกไปอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้เขาอยากจะกลับไป ร้อนใจอยากจะรีบกลับไป เขาอยากเจอเธอ อยากเจอเธอมากๆ
พรุ่งนี้เป็นวันครบกำหนดห้าปีแล้ว ซือถูมู่หรงที่ไม่เคยกลัวอะไรเวลานี้กลับรู้สึกหวาดกลัว เขากลัวจริงๆว่าพรุ่งนี้เธอจะไปจากเขา
แต่ว่า เขาตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ปล่อยเธอไป ดังนั้นต่อให้ครบกำหนดห้าปีแล้ว เขาก็ไม่มีวันปล่อยเธอไป
เขาจะให้เธออยู่กับเขา อยู่กับเขาตลอดชีวิต
ซือถูมู่หรงออกไปจากโรงแรมอย่างรวดเร็ว แต่ว่าซือถูมู่หรงไม่ได้ไปสนามบิน ทว่าโทรติดต่อ“เตรียมเครื่องบินส่วนตัวให้ฉันหน่อย ฉันจะกลับเมือง A”
ตอนนี้เขาอยากจะรีบกลับไปหาเธอทันที ไม่อยากเสียเวลาแม้แต่น้อย ดังนั้นเขาไม่อยากเสียเวลาไปรอเครื่องบินแล้ว จึงติดต่อเครื่องบินส่วนตัว
หลังจากซือถูมู่หรงคุยโทรศัพท์เสร็จก็ลอบพ่นลมหายใจ คิดถึงระยะเวลาห้าปีของพวกเขา ภายในใจของเขารู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย หวาดกลัวเล็กน้อย แต่เมื่อคิดว่าจะได้เจอเธอแล้ว เขาก็อดที่จะดีใจไม่ได้
เหมือนเด็กน้อยที่กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
เพียงแต่ ซือถูมู่หรงคิดไม่ถึงว่า จะมีพายุลูกใหญ่กำลังรอเขาอยู่……