ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1112 ถูกจับได้แล้ว ผลที่ตามมาจากความโมโหของเขา(3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1112 ถูกจับได้แล้ว ผลที่ตามมาจากความโมโหของเขา(3)
“ชอบแบบไหน ? สีอะไร?”ซือถูมู่หรงได้ยินคำพูดแบบขอไปทีของเธอก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่เขาก็อดทนเอาไว้ แล้วถามความเห็นเธอไปอีกครั้ง
“เลือกเอาสีขาวมาแล้วกัน ที่เหลือคุณก็ดูๆเอาแล้วเลือกมาได้เลย” หลิวหยิงไม่ได้เรื่องมากอะไร แต่เธอรู้ว่าซือถูมู่หรงถามย้ำมาอย่างนี้ หากเธอไม่ตอบ เขาคงไม่หยุดถามแค่นี้แน่ จึงได้สุ่มตอบไปสีหนึ่ง
“สีขาว ? คุณชอบสีขาวเหรอ?”ดวงตาของซือถูมู่หรงไหววูบ แล้วถามย้ำอีกครั้ง เขากำลังคิดว่าปรกติสีที่หญิงสาวชอบนั้น เป็นสีขาวงั้นเหรอ ?
ปรกติของที่เขาซื้อ เธอก็ไม่เคยไปหยิบมันใช้ ของส่วนใหญ่ไม่เคยถูกแกะออกจากห่อเลยด้วยซ้ำ ตอนที่เขาซื้อของพวกนั้นมา เธอเองก็ไม่เคยพูดว่าชอบ หรือไม่ชอบมัน
ปรกติเธอเองก็ไม่ค่อยซื้อของอะไร
เพราะฉะนั้นเขาเลยไม่รู้ว่าเธอชอบสีอะไร
“อืม” หลิวหยิงตอบกลับเสียงเบา เธอหันหลังกลับ แล้วหลุบตาลงต่ำ เก็บซ่อนอารมณ์ความรู้สึกที่มีในดวงตา
อันที่จริงแล้วเธอไม่ได้ชอบสีขาว ตรงกันข้ามเธอชอบสีแดงมากกว่า
เธออยู่กับซือถูมู่หรงมาห้าปี เธอชอบสีอะไรซือถูมู่หรงก็ไม่เคยรู้ เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าซือถูมู่หรงจะบังคับเธอให้อยู่ด้วยไปอีกทำไม ?
เพื่อทรมานกันและกันงั้นเหรอ ?
“ได้ ผมจะไปซื้อให้คุณ”ซือถูมู่หรงมองเธอที่นิ่งเงียบ ไม่ได้พูดมากความอะไรอีก เขาตัดสินเองในใจแล้ว
หลิวหยิงนั่งอยู่บนโซฟาแล้วก้มหน้าลง ไม่ได้ตอบกลับ และไม่ได้ลุกขึ้นยืน
ซือถูมู่หรงมองไปที่เธอ แอบถอนหายใจ จากนั้นก็ก้มตัวลง ใบหน้าของเขาแนบไปที่ลำคอของเธอ แล้วจูบไปที่คอของเธอเบาๆ “ที่รัก อย่านั่งเหม่อลอยอยู่ตรงนี้เลย ขึ้นไปพักผ่อนที่บนห้องเถอะ ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่เหนื่อย ฉันขอนั่งตรงนี่สักพัก” หลิวหยิงไม่อยากขยับไปไหน เธอรู้สึกราวกับว่าตอนนี้เธอแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงไปไหน
“คุณรู้ไหม ? ผมอยากให้คุณมีความสุข”ซือถูมู่หรงมองออกว่าเธอไม่มีความสุข เขาฝืนรั้งเธอเอาไว้ แต่เขาก็หวังอยากจะให้เธอมีความสุขจริงๆ
หลิวหยิงได้ยินที่เขาพูด ร่างกายก็ไหวสั่น แต่ดวงตาของเธอก็ยังคงหลุบต่ำ เอ่ยถามเสียงแผ่วเบาไปว่า “หากฉันอยู่ที่นี่แล้วไม่มีความสุข คุณจะปล่อยฉันไปไหม ?”
หัวใจของซือถูมู่หรงดำดิ่งสู่หลุมลึก เพียงไม่นาน ดวงตาของเขาก็หรี่ลง จากนั้นก็พูดเสียงทุ้มว่า “ไม่”
ต่อให้จะรู้ว่าเธอไม่มีความสุข เขาก็ไม่คิดจะปล่อยเธอไป ไม่มีทาง !!
“ค่ะ ฉันรู้แล้ว” ริมฝีปากของหลิวหยิงยกขึ้น เผยรอยยิ้มออกมา แต่ไม่มีความรู้สึกว่ายิ้มปรากฏ จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นยืน แล้วเดินห่างจากเขาไป“ฉันจะขึ้นไปบนห้อง”
หลังจากที่เธอพูดจบ ก็ไม่ได้สนใจเขา หรือไม่แม้แต่จะหันกลับมามองที่เขาอีก เดินตรงขึ้นไปยังชั้นบน
ดวงตาที่หรี่ลงของซือถูมู่หรงก็มืดมน มือข้างหนึ่งยื่นออกไปอย่างไม่รู้ตัว อยากจะคว้าตัวเธอเอาไว้ แต่วินาทีถัดมา ก็หักห้ามใจตัวเอง
เมื่อซือถูมู่หรงเห็นว่าเธอเดินขึ้นชั้นบน แล้วเข้าห้องไป ถึงได้เดินออกมา
ซือถูมู่หรงออกจากบ้านพัก แล้วขึ้นรถไปอีกครั้ง ใบหน้าของเขามืดครึ้มราวกับฝนจะตกลงมาให้ได้
คนขับรถหลี่เองก็ตกใจมาก ตอนที่ท่านประธานกลับมาก็เห็นๆอยู่ว่าดูมีความสุขมาก ทำไมเข้าไปแล้วกลับออกมาถึงได้เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ?
เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?
หรือทะเลาะกับคุณหลิวงั้นเหรอ ?
แต่คุณหลิวที่อ่อนโยนขนาดนั้น และเห็นอกเห็นใจผู้อื่นขนาดนั้น ไม่น่าจะทะเลาะกับท่านประธานได้ ?
ปัญหาน่าจะอยู่ที่ท่านประธานมากกว่า
ก่อนหน้านั้นคนขับรถหลี่ยังพูดมากอยู่เลย ตอนนี้เห็นสภาพของท่านประธานแล้ว ก็ไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
เวลาพลบค่ำหลิวหยิงก็เห็นข่าวของเมื่อวานบนโซเซียลที่ซือถูมู่หรงชี้แจงเรื่องที่กำลังจะแต่งงาน
สื่อหลายสำนักต่างก็ประโคมข่าว ว่าไม่เป็นความจริง และบอกอีกว่ามีคนจงใจเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ
แน่นอนว่า ในข่าวไม่ได้เอ่ยชื่อคุณนายซือถูเดิมทีเรื่องข่าวงานแต่งงานของซือถูมู่หรงก็ไม่ได้เอ่ยถึงคุณนายซือถูว่าเป็นคนให้ข่าว
เพราะคุณนายซือถูได้ชี้แจงกับสื่อหลักไปก่อนหน้านั้นแล้ว
หลิวหยิงเห็นคำชี้แจงเหล่านั้น ก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนหน้านั้นซือถูมู่หรงก็เคยบอกเธอแล้วว่าเรื่องทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องไม่จริง
คำพูดของซือถูมู่หรงนั้นเธอก็ยังคงพอจะเชื่อได้อยู่บ้าง เพราะผู้ชายคนนี้เป็นคนเย่อหยิ่ง และจองหอง ไม่พูดโกหกแน่นอน
ยังไงซะ ไม่ว่าข่าวนั้นจะจริงหรือปลอมสำหรับเธอแล้วมันก็ไม่ได้สำคัญอะไร และเธอก็ไม่ได้สนใจมัน
แต่เธอคิดไม่ถึงว่ากับแค่เพียงช่วงเวลาสั้นๆไม่ถึงวัน สื่อต่างๆก็ออกมาชี้แจง เรื่องทุกอย่างคลี่คลายลงง่ายๆแบบนี้เหรอ ?
หลิวหยิงดูข่าวบนอินเทอร์เน็ต แล้วก็ต้องตะลึง ที่จริงแล้วเธอหวังให้เรื่องที่ซือถูมู่หรงกับคุณมู่จะแต่งงานกันนั้นเป็นเรื่องจริง เพราะมันจะทำให้เธอได้ไปจากที่นี่เร็วขึ้น
หลิวหยิงเปิดดูมันไปผ่านๆ จากนั้นก็ปิดคอมพิวเตอร์ลง เธอคิดขึ้นมาได้ว่า เธอยังไม่ได้ซื้อยาคุมฉุกเฉิน ระยะเวลาของการกินยานั้นก็ทิ้งไว้นานได้อยู่พอสมควร กินตอนนี้ก็ยังทัน
หลิวหยิงจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบลวกๆ จากนั้นก็ลงไปยังชั้นล่าง แล้วเปลี่ยนรองเท้าธรรมดา เพื่อที่จะออกจากบ้าน ห่างจากที่พักไปไม่ไกลนักก็มีร้านขายยาอยู่ร้านหนึ่ง
ก่อนหน้านั้นซือถูมู่หรงเคยบอกเธอว่าห้ามออกไปไหน ด้วยนิสัยของซือถูมู่หรง มีความเป็นไปได้ว่าคงให้คนเฝ้ามองดูอยู่ทางด้านนอก เพราะฉะนั้น เธอคงไปไกลกว่านี้ไม่ได้
เธอคิดว่า หากเธอเดินไปไกลกว่านี้อีกหน่อย ก็คงถูกคนของซือถูมู่หรงพาตัวกลับแน่นอน
หลังจากที่หลิวหยิงออกจากวิลล่า ดวงตาคู่นั้นก็จ้องมองไปยังบริเวณรอบๆ แต่ก็ไม่พบเห็นบุคคลที่น่าสงสัยอะไร
แต่ที่เธอไม่สังเกตเห็น นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าซือถูมู่หรงจะไม่ได้ให้คนเฝ้าดูเธอไว้
คนที่ซือถูมู่หรงหามา ไม่ใช่พวกคนโง่อย่างแน่นอน
หลิวหยิงรู้ว่าเรื่องบางเรื่องก็อยู่เหนือการควบคุมของเธอ และที่เธอทำได้ก็คือเมินเฉยเท่านั้น
หลังจากที่หลิวหยิงออกจากวิลล่า ก็มุ่งตรงไปที่ร้านขายยา ไม่ได้สนใจกับสิ่งใดๆ
“ซื้อยาคุมฉุกเฉินกล่องหนึ่งได้ไหมคะ ?”หลังจากที่หลิวหยิงเข้ามาในร้านขายยา เธอก็เดินตรงไปหาพนักงานขาย
“หนึ่งกล่องเหรอคะ ?ยาแบบนี้เม็ดเดียวก็พอค่ะ ไม่ต้องใช้เป็นกล่อง ยาคุมฉุกเฉินแบบนี้ไม่เหมือนยาคุมทั่วไป ยาคุมฉุกเฉินมีผลข้างเคียงร้ายแรงกว่ามาก กินปริมาณมากๆไม่ได้นะคะ” พนักงานเป็นผู้หญิง ดังนั้นจึงเอ่ยเตือนหลิวหยิงอย่างห่วงใย
“ฉันรู้ค่ะ คุณเอาให้ฉันหนึ่งกล่องเถอะนะคะ ซื้อเผื่อไว้หน่ะ”หลิวหยิงรู้ดีว่ายาคุมฉุกเฉินนั้นกินเม็ดเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่เธอกลัวว่าจะเกิดเรื่องแบบเมื่อคืนขึ้นอีก
แม้ซือถูมู่หรงจะพูดเองว่าหากเธอไม่ยินยอม จะไม่แตะต้องเธออีก แต่เธอไม่เชื่อคำพูดนี้ซือถูมู่หรง
“ยาฉุกเฉินแบบนี้กินมากไม่ได้ ฉันขอแนะนำวิธีคุมกำเนิดแบบอื่น คุณสามารถกินยาคุมแบบทั่วไปได้ ”ความทุกข์ของผู้หญิง มีแต่ผู้หญิงด้วยกันเท่านั้นที่เข้าใจ พนักงานสาวจึงพูดเสริมออกมาอีกหนึ่งประโยค
“ค่ะ” หลิวหยิงรู้ถึงความหวังดีของเธอ พยักหน้าให้เบาๆ
พนักงานหยิบเอายาคุมฉุกเฉินมาให้กล่องหนึ่ง แล้วยื่นมันให้กับหลิวหยิง
หลิวหยิงเปิดออกดูมันทันที แล้วหยิบออกมาด้วยเม็ดหนึ่ง ตั้งแต่เมื่อคืนจนตอนนี้ก็ผ่านมานานหลายชั่วโมงแล้ว เพราะฉะนั้นเธอต้องรีบกินมันทันที
“ฉันเทน้ำให้คุณแก้วหนึ่งแล้วกันนะคะ?” พนักงานเห็นการกระทำของหลิวหยิง ก็รีบเทน้ำให้หลิวหยิงหนึ่งแก้วทันที
หลิวหยิงในตอนนี้คงจะดูอ่อนล้ามาก ทำให้พนักงานถึงกับสงสารจนทนดูไม่ได้
“ขอบคุณค่ะ” หลิวหยิงนิ่งอึ้ง รับแก้วน้ำนั้นมา แล้วยกยิ้มให้ จากนั้นก็หยิบยานั้นใส่เข้าปากไป
“คุณกำลังทำอะไร ?” ในจังหวะที่ หลิวหยิงกำลังหยิบยาใส่เข้าปากไปนั้น เสียงอันเย็นเยือกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น…