ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1114 พ่อลูกเจอกัน ฟ้าถล่มดินทลาย(2)
ซื้อมาเยอะแยะขนาดนี้เลยเหรอ?”หลิวหยิงตะลึง จ้องมองไปยังโทรศัพท์ในกล่องด้วยความตกใจ
“ไม่รู้ว่าคุณชอบแบบไหน เลยเอามันมาทั้งหมด ให้คุณเลือก” ซือถูมู่หรงตอบ ท่าทางเป็นไปอย่างธรรมชาติมาก ก่อนหน้านั้นที่เขาถามเธอไป เธอพูดแคบเกินไป และไม่เจาะจง เขาเลยตัดสินใจซื้อโทรศัพท์รุ่นที่ผู้หญิงมักใช้กันกลับมาทั้งหมด
“ของพวกนี้เอากลับไปคืนได้ใช่ไหม ?”หลิวหยิงกลอกตาไปมา อยู่ซ้ำๆ โทรศัพท์มือถือมากมายขนาดนี้หากคืนไม่ได้ ก็สิ้นเปลืองมากเกินไปแล้ว
“ของที่ผมซื้อ ไม่เคยเอาไปคืน”ซือถูมู่หรงตะลึงอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็ได้สติกลับมาแล้วตอบกลับไป ของที่เขาซื้อไม่เคยเอากลับไปคืนเลยสักครั้ง
“หากคุณชอบ ก็เปลี่ยนใช้มันวันละเครื่องได้” ซือถูมู่หรงพูดเสริมอย่างใจป้ำออกไปอีกคำ ในเมื่อเขาเองก็ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินอะไร
มุมปากหลิวหยิงกระตุกอย่างห้ามไม่ได้ เปลี่ยนวันละเครื่อง? เธอบ้าไปแล้วหรือไง ?
เขานั่นแหละที่บ้าแล้ว แต่เธอไม่บ้าไปกับเขาด้วยหรอกนะ
ของที่ซือถูมู่หรงซื้อแล้วไม่เคยต้องเอากลับไปคืน แต่หลิวหยิงคิดว่าในห้างสรรพสินค้านั้นน่าจะให้คืนได้ เพราะฉะนั้นเธอจึงจะเลือกเอามาอันหนึ่ง ที่เหลือให้คนขับรถหลี่เอาไปคืน คนขับรถหลี่เป็นคนพาซือถูมู่หรงกลับมา คนขับรถหลี่ก็ต้องรู้ว่าโทรศัพท์นี้ไปซื้อมาจากไหน
หลิวหยิงเดินไปที่กล่องนั่น แล้วหยิบเลือกโทรศัพท์สีแดงออกมา
“ไหนคุณบอกว่าชอบสีขาวไม่ใช่เหรอ ?”ซือถูมู่หรงเห็นเธอหยิบโทรศัพท์สีแดงออกมา คิ้วก็ยกหยักขึ้น คนโกหก เมื่อกี้ยังโกหกว่าชอบสีขาวอยู่เลย ยังดีที่เขาไหวตัวทัน ขนกลับมาทั้งหมดด้วย
“จู่ๆฉันก็ชอบสีแดงขึ้นมา” หลิวหยิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ไม่ได้รู้สึกเขินอายที่ถูกจับได้ ตอบกลับไปเหมือนไม่มีอะไร“ผู้หญิงล้วนไม่แน่นอน คุณไม่รู้เหรอ ? ”
“ของที่ชอบเปลี่ยนได้ แต่คนที่ชอบเปลี่ยนไม่ได้……”ริมฝีปากของซือถูมู่หรงยกหยัก ต่อคำพูดเธอออกมาทันที แต่เขาพูดได้ยังไม่จบประโยค จู่ๆก็นึกขึ้นมาได้ว่าคนที่เธอชอบไม่ใช่เขา แต่เป็นไป๋ยี่รุ่ย
ทันใดนั้นซือถูมู่หรงราวกับถูกฟ้าผ่า เงียบลงในทันที
นี่มันบ้าอะไร เขาอยากให้เธอเปลี่ยนจริงๆงั้นเหรอ ? หรือไม่อยากให้เธอเปลี่ยนกันแน่ ?
หลิวหยิงเห็นท่าทางของเขา ก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
“ไป ผมจะพาคุณไปกินข้าว” ซือถูมู่หรงเปลี่ยนเรื่องคุยทันที เขารู้ว่าคนที่เธอชอบคือไป๋ยี่รุ่ย แต่ไม่ว่ายังไง สักวันหนึ่ง คนที่เธอชอบจะต้องเป็นเขา เขาเท่านั้น เขาคนเดียว
การทำงานของคุณนายซือถูนั้นรวดเร็วมาก เรื่องข่าวบนสื่อโซเซียลนั้นจัดการเรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นเขาก็ไม่ต้องกังวลอะไร สามารถพาเธอออกไปกินข้าวนอกบ้านได้
“ตอนนี้?”หลิวหยิงตะลึง รู้สึกตกใจเล็กน้อย ข่าวบนโซเซียลก็เพิ่งจะเงียบไป หากเขาพาเธอออกไปกินข้าว ไม่กลัวว่าจะมีคนแอบถ่ายรูปแล้วเอาไปลงข่าวอีกเหรอ ?
ไม่แน่บางทีอาจจะส่งผลเสียไปยังบริษัทของเขาอีกด้วย
“ใช่ ตอนนี้” ซือถูมู่หรงยกยิ้มแล้วพยักหน้าให้ “ไม่เพียงแค่ในตอนนี้ ต่อไปผมก็จะไปไหนมาไหนเป็นเพื่อนคุณด้วย ไปทำกิจกรรมทุกอย่างที่คุณชอบร่วมกับคุณ”
หลิวหยิงมองไปที่เขา รู้สึกตะลึง และมึนงงเล็กน้อย นี่ใช่ซือถูมู่หรงคนที่เธอรู้จักจริงๆใช่ไหม ?
ซือถูมู่หรงเห็นเธอที่มึนงง มุมปากก็ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ยื่นมือออกไป คว้าตัวเธอเข้าสู่อ้อมแขน จากนั้นก็เดินออกประตูไป
“ฉันอยากกินปิ้งย่าง” หลิวหยิงที่ได้สติแล้ว ก็จึงเอ่ยพูดขึ้น อันที่จริงเธอไม่ใช่คนที่เรื่องมากเท่าไร อีกทั้งเธอกินอาหารจำพวกปิ้งย่างนี้น้อยมาก ที่เธอบอกว่าจะไปกินปิ้งย่างนั้น มันมีเจตนาอื่นแอบแฝง
สถานที่ปิ้งย่างโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะกินกันในที่โล่ง ไม่มีห้องส่วนตัวอะไร และคนก็พลุกพล่านไปมาด้วย ตัวซือถูมู่หรงเองก็รู้ดีว่าสถานที่แบบนั้นย่อมเป็นที่ให้ถูกแอบถ่ายได้ง่าย
“ได้”แต่ซือถูมู่หรงก็ไม่ได้ลังเลอะไร ตอบตกลงไปทันที อย่างรวดเร็ว เร็วจนทำให้หลิวหยิงรู้สึกไม่อยากเชื่อ
จากนั้นหลิวหยิงก็ถูกซือถูมู่หรงพาออกจากบ้านไป
และในเวลาเดียวกันนี้ ที่ด้านนอกของคฤหาสน์ตระกูลถัง
ลูกน้องยอดฝีมือของกู้หวูแอบสอดส่องอยู่ที่ด้านนอกคฤหาสน์ตระกูลถังมาสองวันกับอีกหนึ่งคืนแล้ว คนที่เข้าๆออกๆของบ้านตระกูลถังก็มีไม่กี่คน
ท่านปู่ถังกับท่านย่าถังออกไปสองครั้ง คุณนายถังออกไปสามครั้ง ถังหยุนเฉิงยังไม่กลับเข้ามา ถังหลินกลับมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่แค่เพียงไม่นานถังหลินก็ออกไป
จากนั้นพวกเขาก็ไม่เห็นคนอื่นเข้าออกที่คฤหาสน์ของตระกูลถังอีก
และอุปกรณ์ที่พวกเขาสามารถใช้ได้ก็ใช้มันไปหมดแล้ว รวมถึงอุปกรณ์ไฮเทคตัวจับสัญญาณระยะไกลก็ใช้แล้ว พวกเขาใช้ตัวจับสัญญาณระยะไกลมองดูทั้งในบ้านและนอกบ้านของตระกูลถัง แต่ก็ไม่พบเห็นคนแปลกหน้าในบ้านของตระกูลถังเลย
คนในบ้านของตระกูลถังเหล่านี้ ท่านกู้ได้บอกพวกเขาไว้อย่างชัดเจน พวกเขาเองก็เห็นรูปถ่ายมาแล้ว และจำได้แม่น ไม่พลาดแน่นอน
“ลูกพี่บอกว่าคนอยู่ในบ้านตระกูลถัง แต่เราก็เฝ้าอยู่ที่นี่มาสองวันหนึ่งคืนแล้ว ไม่เห็นความผิดปรกติอะไรเลย หรือลูกพี่จะเข้าใจผิดไปเองหรือเปล่า?” พวกเขาไม่ใช่ว่าสงสัยในตัวลูกพี่ แต่ไม่สังเกตเห็นความผิดปรกติอะไรเลยจริงๆ
“ลูกพี่ไม่ได้เข้าใจผิดแน่ ท่านกู้ให้เรามาเฝ้า หากพบเจอตัวถังจื่อโม่ก็ให้จับตัวกลับไปให้ลูกพี่ได้เลย ยังไงซะตระกูลถังก็ไม่ใช่ครอบครัวธรรมดา จะจับตัวใครก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะฉะนั้นเราต้องมีความอดทนมากกว่านี้ เราต้องเชื่อลูกพี่ ต้องจับตัวคนคนนั้นกลับไปให้ได้ ”
“เราใช้เครื่องตรวจจับสัญญาณระยะไกลค้นทั้งภายในและภายนอกตระกูลถังมาสองรอบแล้ว ไม่มีความผิดปรกติอะไรเลย ถังจื่อโม่เป็นคนตัวเป็นๆนะ หากเขาอยู่ที่ตระกูลถังจริง ไม่สามารถรอดพ้นสายตาเราไปได้หรอก”
“ก็จริง ลูกพี่จะเข้าใจผิดไปเองจริงๆหรือเปล่า หรือไม่ก็ถังจื่อโม่ไม่ได้อยู่ที่ตระกูลถังแล้ว”
“หรือเราลองคุยกับท่านกู้ดู ถามความคิดเห็นของท่านกู้ ?”
“ท่านกู้สั่งเด็ดขาด ว่าต้องจับตัวถังจื่อโม่มาให้ได้ จากนั้นก็พาตัวกลับไปให้ลูกพี่ ท่านกู้ไม่ได้สั่งให้เราถอนตัว นั้นก็หมายความว่าแผนยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน นายถามท่านกู้ตอนนี้ ไม่เท่ากับรนหาที่ตายหรอกเหรอ?”
“แต่เราเฝ้าอยู่แบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องนะ ยิ่งนานวันเข้า ถูกคนของตระกูลถังจับได้จะทำยังไง ? คนตระกูลถังไม่ได้โง่นะ แม้ตอนนี้ถังหยุนเฉิงจะยังอยู่ที่เมืองไห่ แต่ถังหลินก็อยู่เมืองA หรือหากถูกถังหลินจับได้ เราก็ต้องแบกรับผลที่ตามมาอยู่ดี”
“คุณชายถังยังคุยง่ายหน่อย คุณหนูใหญ่ถังเหมือนจะยังไม่กลับมา ? หากคุณหนูใหญ่ถังกลับมา หรือหากเราถูกคุณหนูใหญ่ถังจับได้ กลัวว่าถึงตอนนั้นจะแย่หนักกว่านี้อีก ”
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดนี้ ต่างก็เงียบไป ใช่สิ วันก่อนคุณหนูใหญ่ถังเพิ่งจะเดินทางไปเมืองจิ๋น เพื่อไปร่วมงานเลี้ยงของตระกูลเหว้ย
ลูกพี่ถือโอกาสที่คุณหนูใหญ่ตระกูลถังไม่อยู่ ให้พวกเขามาที่บ้านตระกูลถังเพื่อจับตัวคน หากว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังกลับมา รู้เรื่องเข้า ? ผลที่ตามมาจะเป็นยังไงพวกเขาแทบไม่กล้าคิดเลย
ลูกพี่เองก็กลัวคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง และยังต้องเชื่อฟังคำของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังเลยแล้วพวกเขาล่ะ ?
หากคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจับพวกเขาได้ แล้วจะคิดบัญชีกับพวกเขา พวกเขาเชื่อว่าลูกพี่ไม่ออกหน้ามาช่วยพวกเขาแน่นอน !!