ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1135 ถังจื่อโม่ฟ้องคุณแม่ว่าถูกลักพาตัว (2)
“เย่ซือเฉิน คุณจับนายน้อยมาทำไมกันแน่?มีอะไรก็รีบพูดมา……”ถังจื่อโม่เห็นการตอบสนองของเย่ซือเฉิน หัวใจก็รู้สึกห่อเหี่ยว เกิดอะไรขึ้น?เย่ซือเฉินตอบสนองอย่างนี้หมายความว่ายังไง?
เย่ซือเฉินอยากทำอะไร?!
ทั้งๆที่เย่ซือเฉินเป็นคนให้ลูกพี่ลักพาตัวเขามา เย่ซือเฉินทำหน้าอย่างนี้ให้ใครดู?
กู้หวูได้ยินคำพูดของถังจื่อโม่ก็ตื่นตกใจมาก เขากลืนน้ำลายด้วยจิตใต้สำนึก อยากปิดปากถังจื่อโม่เหลือเกิน ปีศาจน้อยเรียกเชื่อลูกพี่ก็แล้วไป แต่ปีศาจน้อยอย่าได้พูดคำหยาบคายต่อหน้าลูกพี่เลย
ลูกพี่เกลียดคนพูดหยาบคายที่สุด!!
ยิ่งไปกว่านั้นปีศาจน้อยยังเป็นลูกแท้ๆของลูกพี่ด้วย
หากปีศาจน้อยพูดคำหยาบต่อหน้าลูกพี่จริงๆ ลูกพี่ต้องสั่งสอนปีศาจน้อยแน่ๆ ซึ่งพ่อสั่งสอนลูกมันเป็นเรื่องที่ถูกต้องอยู่แล้ว
โชคดีที่ปีศาจน้อยไม่ได้พูดประโยคหลังออกมา
กู้หวูโล่งอกอย่างเห็นได้ชัด ทว่ากู้หวูกลับนึกอะไรบางอย่างออก เขายังไม่ได้บอกสถานะของปีศาจน้อยให้ลูกพี่ทราบเลย ลูกพี่ยังไม่รู้ว่าปีศาจน้อยคือลูกชายตัวเอง
กู้หวูคิดว่าเขาจำเป็นต้องบอกสถานะของถังจื่อโม่ให้ลูกพี่ทราบก่อนถึงจะได้!!
ถังจื่อโม่หยุดพูด ในห้องก็เงียบเชียบ เย่ซือเฉินหันไปมองกล้องวงจรปิด ซึ่งในภาพพวกนี้สามารถเห็นเหตุการณ์ตรงประตูทางเข้า ดังนั้นที่นี่เห็นทุกอย่างในประตูทางเข้าอย่างชัดเจน!!
และในภาพวงจรปิด เย่ซือเฉินก็ยิ่งแน่ใจถึงเรื่องหลุมพรางกับการดักซุ่ม
มุมปากเย่ซือเฉินยกโค้งขึ้น แต่รูปเรเดียนที่ยกขึ้นไม่พบอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น
กู้หวูยืนอยู่ข้างกายเย่ซือเฉิน กู้หวูเห็นริมฝีปากของลูกพี่ที่ยกโค้งขึ้นเป็นรูปเรเดียนก็ตกใจจนสองขาอ่อนแรง
กู้หวูรู้ว่าลูกพี่คงรู้เรื่องหมดแล้ว ลูกพี่ก็ต้องรู้ว่าเขากับปีศาจน้อยมองภาพประตูทางเข้าผ่านกล้องวงจรปิดอยู่
“ลูกพี่ฟังผมอธิบายนะครับ”กู้หวูรู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องช่วยเหลือตัวเองกับปีศาจน้อยสักหน่อย!!
“นายวางแผนจัดเตรียมพวกนี้ ไม่อยากพูดอะไรหน่อยเหรอ?”ทว่าเย่ซือเฉินกลับหันไปมองถังจื่อโม่ ในที่สุดเย่ซือเฉินก็ยอมเอ่ยปากพูดกับถังจื่อโม่แล้ว
ทว่าน้ำเสียงของเย่ซือเฉินไม่เหมือนคุยกับเด็กห้าขวบเลย มันเหมือนคุยกับผู้ใหญ่มากกว่า
อีกอย่างตอนที่เย่ซือเฉินพูดประโยคพวกนี้ออกมา ไม่ได้มีท่าทีโกรธเลยสักนิด แต่กลับมีความยอมรับหลายส่วน
เดิมทีถังจื่อโม่รู้สึกหดหู่ใจมากๆอยู่แล้ว ตอนนี้ได้ยินน้ำเสียงของเย่ซือเฉิน ถังจื่อโม่ก็สบายใจขึ้น ราวกับเมฆหมอกที่บดบังอยู่ถูกเปิดออกเสียแล้ว
แถมท่าทางเย่ซือเฉินขนาดนี้ทำให้เขาพอใจมาก ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ที่กู้หวูกล่อมเขาราวกับเขาเป็นเด็กอายุสามขวบ!!
“คุณรู้ว่าผมเป็นใครไหม?”ถังจื่อโม่สบายใจขึ้นก็จริง แต่เขากลับไม่ตอบคำถามของเย่ซือเฉินโดยตรง ทั้งยังถามกลับอีกหนึ่งประโยค
“ลูกพี่ชายของฉัน”ดวงตาเย่ซือเฉินมองไปยังถังจื่อโม่ มุมปากขยับเอ่ยออกมาทีละคำอย่างชัดเจน ซึ่งน้ำเสียงของคุณชายสามเย่แน่ใจมาก แน่ใจจนราวกับเป็นอย่างนั้นโดยไม่ต้องสงสัย!!
แวบแรกที่เย่ซือเฉินเข้ามาแล้วเห็นถังจื่อโม่ เขาก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว
เมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดในแง่นี้มาก่อน หรือเขาอาจจะไม่กล้าคิดฝันเลย เขาคิดว่าสวรรค์ประทานลูกสาวให้เขาหนึ่งคนก็เมตตาต่อเขามากอยู่แล้ว เขาจะกล้าคิดได้อย่างไรว่าเขามีลูกแฝดชายหญิง
ตอนเห็นถังจื่อโม่แวบแรก เขาก็ตื่นตกใจและดีใจมาก อายุของถังจื่อโม่กับถังจื่อซีเหมือนกัน ทำให้เวินลั่วฉิงเป็นห่วงเป็นใยได้ ดังนั้นสถานะของถังจื่อโม่จึงเด่นชัดมากเพียงพอแล้ว
ถึงแม้ถังจื่อโม่จะสวมแว่นกันแดดแล้วเขาไม่เห็นหน้าค่าตาก็ตามที
ทว่าในแวบแรก เย่ซือเฉินก็มั่นใจในสถานะของถังจื่อโม่แล้ว
อันที่จริงอารมณ์ของเย่ซือเฉินไม่ได้สงบเฉกเช่นที่เขาแสดงออกมา ทางตรงกันข้ามหัวใจของเขาสั่นสะเทือนเป็นอย่างยิ่ง รู้สึกตื่นเต้นดีใจมาก นี่ลูกชายของเขา ลูกชายของเย่ซือเฉิน ลูกชายของเขากับเธอ!!
แถมลูกชายของเขาคนนี้เก่งกาจมากๆ ถึงกับขุดหลุมพราง สร้างกับดักใส่เขา!!
และเขาก็จำเป็นต้องยอมรับว่า หลุมพรางที่ขุดกับการดักซุ่มนั้นทำได้สำเร็จทุกประการ หากคนที่เข้ามาไม่ใช่เขา เป็นคนอื่น คงไม่เห็นความผิดปกติแน่ๆ
องค์กรยมบาลคือถิ่นของเขา เขาคือลูกพี่ใหญ่ในองค์กรยมบาล เด็กคนนี้มาครั้งแรกและมาโดยการถูกคนขององค์กรยมบาลลักพาตัว แต่กลับสามารถทำให้ทุกคนในองค์กรยมบาลยอมสยบแทบเท้า เด็กคนนี้ถึงกับใช้คนขององค์กรยมบาลขุดหลุมพรางและซุ่มโจมตีตามคำสั่งของเขาได้?!
กระทั่งกู้หวูก็ฟังเด็กคนนี้ ตอนที่กู้หวูโทรหาเขาก่อนหน้านี้คงรู้สถานะของเด็กคนนี้แล้ว แต่กู้หวูก็ไม่ได้บอกอะไรเขาทั้งนั้น
เมื่อกี้เขาโทรหากู้หวูตอนอยู่หน้าประตูทางเข้า กู้หวูรู้ทุกอย่าง มองเขาผ่านกล้องวงจรปิดอยู่ แต่กู้หวูก็หลีกเลี่ยง ไม่ได้พูดอะไร
ไม่ว่าเด็กคนนี้ใช้วิธีอะไรก็ล้วนเป็นความสามารถของเด็กคนนี้ทั้งสิ้น
เด็กคนนี้มีความสามารถโดยแท้ ดังนั้นเย่ซือเฉินไม่สงสัยความสามารถของเขาด้วยอายุของเขาอย่างแน่นอน
เย่ซือเฉินเชื่อว่าในองค์กรยมบาลไม่ว่าจะกู้หวูหรือลูกน้องคนอื่น ต่างไม่ขุดหลุมพรางและดักซุ่มเขาแน่นอน และไม่มีทางเป็นฝ่ายเสนอตัวช่วยถังจื่อโม่ทำสิ่งเหล่านี้เด็ดขาด
ดังนั้นทุกอย่างเป็นเจตนาของถังจื่อโม่ และถังจื่อโม่เป็นคนคิดออกมาเอง แล้วสั่งการทุกอย่างด้วยตัวเอง
กู้หวูและคนอื่นจึงฟังคำสั่งจากถังจื่อโม่
หากถังจื่อโม่เป็นคนวางแผนทุกอย่างจริงๆ งั้นลูกชายคนนี้ก็ทำให้เขาภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก
ถังจื่อโม่ได้ยินเย่ซือเฉินพูดอย่างไม่สองจิตสองใจ มั่นใจจนไม่รู้จะมั่นใจอย่างไรแล้ว ในใจก็รู้สึกพอใจมาก แต่เขาไม่อยากให้ตัวเองแสดงออกมาอย่างโจ่งแจ้ง ไม่อยากให้เย่ซือเฉินเห็นเขาพอใจ
ถังจื่อโม่มองเย่ซือเฉิน จงใจแบะปาก“คุณช่างเพ้อฝันจริงๆ อยากเก็บลูกชายที่โตขนาดนี้ฟรีๆเหรอ?คุณยอมรับ แต่ผมไม่อยากยอมรับ”
“คิก……”กู้หวูสำลักน้ำลายตัวเอง อะไรที่เรียกว่าเก็บลูกชายที่โตขนาดนี้แล้วฟรีๆ ก็เป็นลูกชายของลูกพี่อยู่แล้วนี่นา
แต่เด็กโตขนาดนี้แล้ว ลูกพี่กลับไม่รับรู้ เรื่องนี้ก็พูดยากหน่อยละ
“นายยอมรับหรือเปล่าไม่สำคัญ”เย่ซือเฉินมองถังจื่อโม่ด้วยแววตาเจือจาง น้ำเสียงเย็นชาที่สุด ฟังแล้วอยากกระทืบที่สุด เห็นได้ชัดว่าคุณชายสามเย่ไม่มีทีท่าจะกล่อมเด็กเลยสักนิด