ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1155 วิธีการของคุณชายสามเย่ มีความระมัดระวังสูง (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1155 วิธีการของคุณชายสามเย่ มีความระมัดระวังสูง (1)
“ก็คือฉัน ฉันเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ เพียงแค่คุณแต่งงานกับฉัน เพียงแค่เราแต่งงานกัน คุณก็จะเป็นราชบุตรเขยแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ ถึงตอนนั้นคุยก็จะสามารถแย่งชิงทุกอย่างขององค์กรโกสต์ซิตี้มาได้อย่างถูกต้อง” เฉิงโหรวโหรวอดที่จะแย่งพูดขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้ เมื่อครู่เธอฟังอยู่ข้างๆก็แทบจะร้อนใจตายอยู่แล้ว
เจิ้งฉงเห็นว่าเฉิงโหรวโหรวแย่งพูดขึ้นอีกแล้วนั้น ก็แทบอยากจะทำให้เธอสลบไปเสียเลย เธอไม่เห็นรึไงว่าเขากำลังคุยอยู่?
เรื่องแบบนี้จะรีบร้อนไม่ได้อย่างเด็ดขาด ถ้าหากรีบร้อนเผยไผ่ใบสุดท้ายออกมา ก็จะไม่สามารถแย่งผลประโยชน์ที่มากที่สุดมาได้ เขายังไม่ได้คุยถึงปัญหาเรื่องผลประโยชน์ของเขาเลยเสียด้วยซ้ำ
เฉิงโหรวโหรวคนนี้โง่ยิ่งกว่าหมูเสียอีก
“คุณว่าอะไรนะ?” สีหน้านิ่งเฉยไร้อารมณ์ของเย่ซือเฉินนั้นเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาคู่นั้นของเขามองมายังเฉิงโหรวโหรวอย่างรวดเร็ว ขณะนั้นเขาสงสัยว่าหูของตัวเองอาจจะมีปัญหาหรือเปล่า เมื่อกี้นี้เขาอาจจะหูฝาดไป
เวลานี้สีหน้าท่าทางของคุณชายสามเย่นั้นเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งเขาอาจจะเป็นเพราะตกใจมากเกินไป ถึงได้เสียงสูงขึ้นมาแบบนั้น
ทั้งหมดนี้เฉิงโหรวโหรวเห็นแล้วนั้น ก็คิดว่าเย่ซือเฉินตื่นเต้นมากเกินไป เซอร์ไพรส์มากเกินไป ในใจของเฉิงโหรวโหรวนั้นรู้สึกพอใจขึ้นมาในทันที เย่ซือเฉินได้ยินเพียงแค่ว่าแต่งงานกับเธอแล้วก็ตื่นเต้นขนาดนี้ ดีใจขนาดนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นเรื่องราวจากนี้ไปก็จะต้องราบรื่นมากเป็นพิเศษอย่างแน่นอน
เธอมองเย่ซือเฉิน เวลานี้ได้เห็นอย่างซึ่งๆหน้าแบบนี้แล้ว เธอก็สามารถมองเห็นท่าทางของเย่ซือเฉินได้อย่างชัดเจนขึ้น มองใบหน้าที่หล่อเหลาที่ไม่สามารถทำให้ละสายตาไปได้ ในใจของเธอเองก็อดที่จะรู้สึกดีใจขึ้นมาไม่ได้ อีกไม่นานผู้ชายคนนี้ก็จะเป็นของเธอแล้ว
อีกทั้งยังแย่งมาจากมือของเวินลั่วฉิงได้อีกด้วย
ต่อให้เวินลั่วฉิงจะเก่งกว่านี้ก็ไม่มีประโยชน์ เย่ซือเฉินก็จะต้องเลือกเธอ เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้คนนี้
เฉิงโหรวโหรวยิ่งคิดก็ยิ่งได้ใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้นดีใจ รอยยิ้มบนใบหน้าไม่สามารถปกปิดได้เลย มองไปยังเย่ซือเฉินอยู่แบบนี้ ยิ้มออกมาอย่างซื่อๆ
“ประธานเย่ เจ้าหญิงของเราหมายความว่า……”เจิ้งฉงมองดูท่าทางบ้าผู้ชายของเฉิงโหรวโหรว แม้แต่คำถามของเย่ซือเฉินก็ไม่รู้จักตอบ เจิ้งหงรู้สึกโมโหมาก แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขายังต้องยืนไกล่เกลี่ยประนีประนอมอยู่ดี
“ฉันหมายความว่า ฉันยอมแต่งงานกับคุณ เพียงแค่คุณแต่งงานกับฉัน คุณก็จะมีสิทธิที่จะไปแย่งชิงทุกอย่างขององค์กรโกสต์ซิตี้ และแน่นอนว่าฉันเองก็จะช่วยคุณอย่างเต็มที่เหมือนกัน” เฉิงโหรวโหรวได้ยินเสียงของเจิ้งฉงแล้วถึงได้ดึงสติกลับมาได้ในที่สุด หลังจากนั้นจึงแย่งพูดขึ้นมาอีกครั้ง เรื่องแบบนี้ควรจะให้เธอเป็นคนพูดกับเย่ซือเฉินเองอยู่แล้ว
เมื่อครู่ที่เย่ซือเฉินตื่นเต้นขนาดนั้น รู้สึกเซอร์ไพรส์ขนาดนั้น เธอจะต้องยิ่งแสดงออกมาให้เย่ซือเฉินเห็นให้ดียิ่งขึ้นอยู่แล้ว
เวลานี้เธอเน้นย้ำพูดเรื่องที่ว่าเธอยินยอมที่จะแต่งงานกับเย่ซือเฉินขึ้นมาเป็นพิเศษ เธออยากให้เย่ซือเฉินได้ยินคำพูดนี้ จะต้องรู้สึกซาบซึ้ง จะต้องยิ่งรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากยิ่งขึ้น
เดิมทีเย่ซือเฉินคิดว่าตัวเองได้ยินผิด ตอนนี้ได้ยินคำพูดที่เฉิงโหรวโหรวเน้นย้ำอย่างสุดความสามารถแล้ว ดวงตาคู่นั้นก็เย็นชาขึ้นมาในทันที เขาละสายตาออกมา แล้วไม่ได้มองเฉิงโหรวโหรวอีก และไม่ได้สนใจเจิ้งฉงอีกด้วยเช่นกัน
เย่ซือเฉินเอามือออกมาแล้วกดออกโทรหาเลขาหลิว
“ครับท่านประธาน” เลขาหลิวรับสายของท่านประธาน ภายในไม่กี่วินาที
“ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้ดูแลเรื่องของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปแล้ว แต่บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปก็ไม่ใช่ว่าจะปล่อยให้พวกคนบ้าเข้ามาตามใจชอบแบบนี้ได้นะ” เวลานี้น้ำเสียงของเย่ซือเฉินนั้นเย็นชาเสียจนจะสามารถทำให้กลายเป็นน้ำแข็งได้อยู่แล้ว อีกทั้งคำพูดนี้ก็สามารถพูดได้ว่าเป็นการไม่ไว้หน้ากันเลยอีกด้วย
คำพูดนี้ของเย่ซือเฉินสามารถเป็นการด่าว่าทั้งสองคนได้อย่างตรงๆเลยเสียด้วยซ้ำ
“ท่านประธานหมายถึงสองคนจากองค์กรโกสต์ซิตี้หรือครับ?” เลขาหลิวเป็นคนฉลาดเฉียบแหลม มีปฏิกิริยาขึ้นมาในทันที : “ท่านประธานผมผิดเองครับ เป็นความผิดของผมเอง ผมเองก็รู้สึกว่าสมองของเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้นั่นน่าจะมีปัญหาเหมือนกันครับ”
“นายรู้ว่าสมองเธอมีปัญหาแล้วยังจะปล่อยให้เข้ามาอีกอย่างนั้นหรือ?” เสียงของเย่ซือเฉินเข้มขึ้นไปอีก คำว่า ‘ปล่อย’ เวลานี้มีความหมายหนึ่งแฝงเอาไว้อย่างชัดเจน
ต่อให้เฉิงโหรวโหรวจะไม่มีสมองก็ฟังเข้าใจ ในตอนนั้นก็ตกตะลึงไปแล้ว เมื่อครู่ทั้งๆที่เย่ซือเฉินยังดูตื่นเต้น และดูเซอร์ไพรส์อยู่เลย แล้วทำไมจู่ๆถึงได้พูดกับเธอแบบนี้?
ยังบอกว่าเธอเป็นคนบ้าอีกด้วย?
“ท่านประธานครับ ผมจะจัดการเดี๋ยวนี้ครับ” เวลานี้เลขาหลิวรู้ตัวว่าตัวเองทำผิด เขาติดตามท่านประธานมาหลายปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาด่าว่าออกมาตรงๆแบบนี้ ทั้งสองคนนี้คงจะหาเรื่องท่านประธานของเขาเข้าแล้วจริงๆ
แต่เขารู้ว่าคนขององค์กรโกสต์ซิตี้สองคนนั้นยั่วยุท่านประธานอย่างไร
ขณะที่เลขาหลิวกำลังคิดว่าจะจัดการอย่างไรอยู่นั้น ทางปลายสาย เย่ซือเฉินก็ได้เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา : “เรียกบอร์ดี้การ์ดมาสองคน มาเอาตัวสองคนนี้โยนออกไปซะ”
พอเป็นแบบนี้ ไม่เพียงแต่ไม่เป็นการไว้หน้าองค์กรโกสต์ซิตี้เพียงเท่านั้น แต่ยิ่งเป็นการตัดขาดเรื่องราวอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการกอบกู้ทางหนีทีไล่ใดๆทั้งสิ้น
เห็นได้ชัดว่าเย่ซือเฉินเองก็ไม่ได้อยากจะได้การกอบกู้ทางหนีทีไล่อะไรแล้ว
นับตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่องค์กรโกสต์ซิตี้ใส่ร้ายถังหลิน เขาก็ได้กำหนดเอาไว้แล้วว่าจะเป็นศัตรูกันกับองค์กรโกสต์ซิตี้ คิดไม่ถึงเลยว่าในเวลานี้เจ้าหญิงโง่ๆที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยจะต้องการให้เขาแต่งงานกับเธอ?
แต่งงานกับเธอ? เลขาหลิวพูดถูก ว่าสมองของเจ้าหญิงคนนี้มีปัญหาจริงๆ
เขามีภรรยาแล้ว ตอนนี้ยังได้ลูกสาวและลูกชายกลับมาอีกด้วย ถ้าหากว่าเป็นองค์กรโกสต์ซิตี้ ตอนนี้ต่อให้เอาโลกทั้งใบนี้มาอยู่ตรงหน้าเขา ให้เขาเลือกระหว่างโลกทั้งหมดนี้กับเวินลั่วฉิง เขาก็จะเลือกเวินลั่วฉิงอย่างไม่ลังเล
“ประธานเย่ พูดกันดีๆก็ได้ ทำไม่ต้องทำแบบนี้ นี่คือเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ของเราเชียวนะ ประธานเย่ทำแบบนี้ ไม่กลัวว่าจะทำให้องค์กรเราไม่พอใจอย่างนั้นหรือ” เจิ้งฉงรู้สึกอึ้งไป เขาคิดไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินจะพาลไม่เล่นด้วยเอาดื้อๆแบบนี้ อีกทั้งยังจะตัดขาดเรื่องราวขนาดนี้ด้วย
ไม่คิดเลยว่าเย่ซือเฉินจะให้บอร์ดี้การ์ดมาพาตัวพวกเขาออกไป เจิ้งฉงมองออกว่าเย่ซือเฉินไม่ได้ล้อเล่น แล้วก็ไม่เพียงแค่พูดๆไปเพียงเท่านั้นอีกด้วย เย่ซือเฉินจริงจังเป็นอย่างมาก
ถ้าหากวันนี้เขาถูกบอร์ดี้การ์ดโยนออกไปจากบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป เขาจะเอาใบหน้าแก่ๆนี้ไปไว้ที่ไหนกัน?
และยังมีเฉิงโหรวโหรวอีก ถ้าหากเรื่องนี้เผยแพร่ออกไป เฉิงโหรวโหรวก็จะยิ่งเสียหน้า ตอนนี้คนขององค์กรโกสต์ซิตี้ยังไม่ให้ความสำคัญกับเฉิงโหรวโหรว ก็เป็นเพราะเฉิงโหรวโหรวไม่ได้ทำให้พวกเขาเชื่อในความสามารถ ถ้าหากวันนี้เฉิงโหรวโหรวถูกคนโยนออกไปจากที่นี่ ถึงตอนนั้นก็จะกลายเป็นจุดอ่อนที่น่าหัวเราะน่าดู
คนขององค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ให้ความสำคัญกับเฉิงโหรวโหรว และยิ่งไม่ฟังคำพูดของเธออีกด้วย ถึงตอนนั้นเฉิงโหรวโหรวในนามของเจ้าหญิงก็จะกลายเป็นการประดับเอาไว้เท่านั้น
อีกทั้งวันนี้เรื่องที่เขากับเฉิงโหรวโหรวมาหาเย่ซือเฉินที่บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปนี้ คนอื่นๆที่องค์กรไม่มีใครรู้ ถ้าหากให้หัวหน้าและหัวหน้าน้อยรู้จุดประสงค์ของเฉิงโหรวโหรว ถึงตอนนั้นตำแหน่งเจ้าหญิงของเฉิงโหรวโหรวเกรงว่าจะรักษาเอาไว้ไม่ได้แล้ว
เจิ้งฉงยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจ เขาไม่ควรรับปากไป๋หยิงมาที่บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปกับเฉิงโหรวโหรวเลย
มุมปากของเย่ซือเฉินยกยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา กลัวว่าจะทำให้องค์กรโกสต์ซิตี้ไม่พอใจอย่างนั้นหรือ?