ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1158 ลูกสาวแท้ๆของเขา (1)
บอร์ดี้การ์ดทั้งสองคนเอาตัวเฉิงโหรวโหรวลงมาทางด้านล่าง หลังจากนั้นก็ลากเธอไปที่หน้าประตูแล้วโยนออกไป
ตอนที่บอร์ดี้การ์ดทั้งสองคนผลักตัวเฉิงโหรวโหรวไปนั้นเห็นได้ชัดว่าใช้แรงอยู่พอสมควร ดังนั้นเฉิงโหรวโหรวจึงล้มไปนั่งลงอยู่ที่พื้น
เวลานี้ด้านนอกบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปมีคนอยู่จำนวนไม่น้อยพอดี เห็นเฉิงโหรวโหรวถูกบอร์ดี้การ์ดของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปจับโยนออกมา ก็พากันล้อมเข้ามาดูกันอย่างคึกคัก
คนที่ชอบดูความคึกคักนี้ก็เป็นเรื่องธรรมชาติ ตอนไหน ที่ไหน ก็มีคนที่ชอบเป็นไทยมุงแบบนี้ไม่น้อยอยู่แล้ว
“เอ๊ะ? นี่มันอะไรกัน? ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้ถูกบอร์ดี้การ์ดของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปจับโยนออกมาแบบนี้กัน?”
“บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปเป็นบริษัทใหญ่ คอยระวังเรื่องภาพลักษณ์มาโดยตลอด อย่างการที่จะจับคนโยนออกมาแบบนี้นี่เป็นครั้งแรกอย่างแน่นอน”
“พูดแบบนี้ ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นกรณีพิเศษน่ะสิ พิเศษมากเลยนะเนี่ย เพียงแต่ว่าไม่รู้ว่าเป็นใครกัน?”
“ฮ่าๆๆ กรณีพิเศษแบบนี้เกรงว่าไม่มีใครอยากจะยินยอมหรอกนะ”
คนที่ล้อมรอบเฉิงโหรวโหรวพากันหัวเราะเสียงดังออกมา
เวลานี้เฉิงโหรวโหรวทั้งร้อนใจและทั้งโมโห เธอพยายามก้มหน้าลงอย่างสุดชีวิต ใช้มือบังหน้าเอาไว้ กลัวว่าจะถูกคนจำได้ และตอนนี้คนที่มุงดูอยู่รอบๆก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย เพราะเฉิงโหรวโหรวกลัวว่าคนอื่นจะจำได้ จึงไม่กล้าลุกขึ้น
แต่เธอเองก็รู้ว่าตัวเองไม่สามารถนั่งอยู่แบบนี้ตลอดได้ เฉิงโหรวโหรวอยากจะลุกขึ้นมาให้เร็วที่สุด หลังจากนั้นก็รีบออกไปจากที่นี่ แบบนั้นก็จะไม่มีคนจำเธอได้แล้ว
ทันใดนั้นเองเฉิงโหรวโหรวก็รู้สึกว่าความคิดนี้ของตัวเองนั้นดีมากแล้ว มือหนึ่งของเธอค้ำเอาไว้ที่พื้น อยากจะลุกขึ้นมาเร็วๆ เพียงแต่ว่าเมื่อครู่ที่บอดี้การ์ดผลักเธอนั้นก็ใช้แรงอยู่เล็กน้อยจริงๆ ตอนที่เธอล้มลงมาเมื่อครู่นี้นั้น ล้มลงมาแรง ดูเหมือนเท้าจะพลิกไปแล้ว แต่คงจะไม่สาหัสมาก ก่อนหน้านี้เธอไม่ทันได้สังเกต
เวลานี้เธอลุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน ด้วยกำลังที่รุนแรงนี้ ตรงข้อเท้าก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา เธอไม่ได้ลุกขึ้นยืน แล้วก็ทิ้งตัวนั่งกลับลงไปอีกครั้ง
แบบนี้ แผนการที่เธออยากจะรีบออกไปจากตรงนี้ให้ได้โดยเร็วนั้นก็ล้มเหลว อีกทั้งเวลานี้เธอยังลืมที่จะบดบังใบหน้าตัวเองเอาไว้อีกด้วย
“เอ๊ะ! ทำไมหน้าดูคุ้นๆ?” จู่ๆหนึ่งในกลุ่มคนนั้นก็เอ่ยร้องขึ้นมาเบาๆ
“ใช่ไหม? รู้จักเธอหรือ?” เพื่อนที่อยู่ข้างๆคนนั้นเอ่ยถามขึ้น
ร่างของเฉิงโหรวโหรวแข็งทื่อ หัวใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นขึ้นมาในเวลานั้น
ไม่เอา อย่าให้คนจำเธอได้เลย
ตอนนี้หัวหน้าก็ไม่ชอบเธอแล้ว คนที่องค์กรโกสต์ซิตี้ก็ล้วนแต่ไม่ชอบเธอกันทั้งนั้น ถ้าหากพวกเขารู้ว่าเธอถูกบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปจับโยนออกมา จะต้องยิ่งเกลียดเธออย่างแน่นอน
เวลานี้เองในใจของเฉิงโหรวโหรวได้แต่ภาวนาขออย่าให้คนจำเธอได้
แต่พระเจ้าก็ไม่ได้ให้เป็นไปตามที่เธอขอเอาไว้
“อา ฉันจำได้แล้ว ฉันจำได้แล้ว” ครั้งนี้คนๆนั้นก็ส่งเสียงร้องออกมา เสียงสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แล้วเวลานั้นเองที่ทุกคนต่างก็พากันมองไปยังเด็กผู้หญิงที่ร้องเสียงสูงออกมาคนนั้น รอให้เธอพูดผลลัพธ์ออกมา
ร่างของเฉิงโหรวโหรวนั้นแข็งทื่อไปหมดแล้ว เธออึ้งไปพักหนึ่ง คงจะไม่มีใครจำเธอขึ้นมาได้เร็วขนาดนี้จริงๆหรอกมั้ง?
ช่วงที่น่าขายหน้าแบบนี้ เธอหวังว่าทุกคนจะไม่รู้จักเธอ
“เธอคือเจ้าหญิงที่เพิ่งตามตัวกลับมาขององค์กรโกสต์ซิตี้ ฉันเคยเห็นในข่าวเมื่อสองสามวันก่อน นี่ฉันมีรูปด้วยนะ”
เด็กผู้หญิงคนนั้นมองดูเฉิงโหรวโหรว จากนั้นก็หยิบหารูปในโทรศัพท์มือถือ แล้วยื่นส่งให้กับทุกคนที่อยู่ตรงหน้า : “พวกเธอดูสิ ใช่เธอไหม? ใช่หรือเปล่า?”
“จริงๆด้วย เป็นเธอจริงๆ” ทุกคนยื่นหน้าเข้ามา เห็นโทรศัพท์มือถือของเด็กผู้หญิงนั่นแล้ว ก็มาเทียบกับเฉิงโหรวโหรวอีกครั้ง คำตอบก็คือใช่อย่างแน่นอน
เวลานี้เฉิงโหรวโหรวอยากจะปิดบังตัวเองอีกก็ไม่ทันแล้ว อีกทั้งทุกคนก็จำเธอได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะปิดบังตัวเองต่อไปก็ไม่มีความหมายอีกแล้ว
“เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้?” มีคนอดที่จะเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัยไม่ได้
“เธอควรจะถามว่าทำไมเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ถึงได้ถูกคนของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปจับโยนออกมามากกว่า?”
“ใช่ เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ทำไมถึงได้ถูกโยนออกมาแบบนี้? ได้ข่าวว่าองค์กรโกสต์ซิตี้เก่งมากเลยไม่ใช่หรือ?”
“ใช่ ใช่ องค์กรโกสต์ซิตี้เก่งมากๆ ก่อนหน้านี้ฉันเคยได้ยินมานิดหน่อย เป็นเพราะว่าเมื่อก่อนองค์กรโกสต์ซิตี้ตกต่ำมากเกินไป คนธรรมดาทั่วๆไปจะไม่รู้กันหรอก แต่ตั้งแต่ที่หาตัวเจ้าหญิงกลับมา การปฏิบัติการขององค์กรโกสต์ซิตี้ก็ดูสูงขึ้นมาไม่น้อย โดยเฉพาะเจ้าหญิงองค์นี้ เพราะฉันสงสัย ก็เลยได้ไปหาข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรโกสต์ซิตี้นี้มา ถึงได้พบว่าอำนาจขององค์กรนี้มีมาเสียจนน่าตกใจ องค์กรโกสต์ซิตี้นั้นมีตัวตนอยู่อย่างแบบที่พวกเราไม่สามารถคาดคิดได้อย่างแน่นอน”
“ถ้าอย่างนั้นในฐานะที่เป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรไม่ใช่ว่าควรจะต้องเรียกใช้หรอกหรือ? ทำไมถึงได้มาอยู่ในสภาพนี้ล่ะ? คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกคนของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปจับโยนออกมาแบบนี้”
“ใช่ นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลยนะ?”
“ฉันเองก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกัน ฉันหาเรื่องราวเกี่ยวกับองค์กรโกสต์ซิตี้ ในนั้นมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับหัวหน้าแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้มากมายว่าหัวหน้าขององค์กรท่านนี้เป็นคนที่น่าลุ่มหลงเป็นอย่างมาก เมื่อยี่สิบห้าปีก่อนแยกจากกับภรรยาของหัวหน้า และในช่วงยี่สิบห้าปีมานี้ หัวหน้าก็ตามหาภรรยามาโดยตลอด และไม่ได้แต่งงานกัน ตอนนี้หาตัวลูกสาวกลับมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว หัวหน้ารักภรรยามากขนาดนั้น สำหรับลูกสาวของพวกเขาแล้วก็จะต้องรักมากอยู่แล้ว เป็นไปได้อย่างไรที่จะยอมให้ลูกสาวตัวเองต้องมาได้รับความทุกข์แบบนี้?”
“เราจำคนผิดกันหรือเปล่า?”
“ไม่มีทาง รูปถ่ายบนอินเตอร์เน็ตชัดเจนมาก เธอเหมือนกับรูปถ่ายมากเลยนะ ไม่มีทางจำผิดคนหรอก”
“ถ้าหากพวกเราไม่ได้จำผิดคน การปฏิบัติตัวของเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้นี้ก็ไม่ดีเลยสิ ถึงแม้ว่าตอนนี้เจ้าหญิงจะถูกคนของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปโยนออกมา แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่าเธออยู่ที่องค์กรโกสต์ซิตี้นั่นก็ไม่ได้รับความรักเท่าไหร่แน่ๆเลย ถ้าไม่อย่างนั้นบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปคงจะไม่ทำแบบนี้หรอก”
เฉิงโหรวโหรวได้ยินคำพูดของเด็กผู้หญิงคนนั้น รู้สึกเพียงแค่ความรู้สึกที่จุกอยู่ในอกนั้นช่างรู้สึกแย่มากเหลือเกิน
ตั้งแต่แรกหัวหน้าก็ไม่ชอบเธอ ตอนแรกนั้นหัวหน้าก็ไม่ได้เชื่อผลตรวจดีเอ็นเอ เขาให้ทำการตรวจดีเอ็นเออีกครั้ง หลังจากพิสูจน์ว่าเธอก็คือลูกสาวของหัวหน้า หัวหน้าก็ยังคงเย็นชากับเธอเช่นเดิม แม้กระทั่งไม่มองเธอเลยเสียด้วยซ้ำ และไม่เคยพูดคุยกับเธอเลยแม้แต่ประโยคเดียว
เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทั้งๆที่ผลตรวจดีเอ็นเอชัดเจนวางอยู่ตรงหน้าแล้ว หัวหน้าก็ยังไม่ยอมรับเธอ?
เธอได้ยินไป๋หยิงพูดว่า หัวหน้านั้นใส่ใจและห่วงใจเวินลั่วฉิงมากเป็นพิเศษ และเอาใจใส่ในเรื่องราวของเวินลั่วฉิงมากเป็นพิเศษอีกด้วย
ต่อให้เวินลั่วฉิงจะเป็นลูกสาวจริงๆของหัวหน้า แต่ตอนนี้ก็ไม่มีหลักฐานใดๆมาพิสูจน์ แล้วหัวหน้ามีสิทธิอะไรถึงได้ทำดีขนาดนั้นกับเวินลั่วชิง แต่กลับไม่สนใจไยดีลูกสาวคนนี้อย่างเธอเลย
ถ้าหากเวินลั่วฉิงเป็นลูกสาวของหัวหน้าจริงๆ ถ้าหากถึงตอนนั้นพิสูจน์ได้แล้วว่าเวินลั่วฉิงก็คือเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ ถึงตอนนั้นเธอกลัวเพียงแค่……
ไม่ ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด!!
เธอจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเป็นอันขาด
ดังนั้น เธอจำเป็นที่จะต้องคิดหาวิธีกำจัดเวินลั่วฉิง
เวลานี้เฉิงโหรวโหรวคิดอย่างมุ่งมั่นมากเกินไป ในใจนั้นกัดฟันด้วยความเกลียดชัง และตอนนี้ใบหน้าก็ปรากฏความโหดเหี้ยมขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
“นี่คืออาการอะไรของเธอน่ะ ไม่ใช่ว่าอยากจะฆ่าฉันหรอกใช่ไหม?” เด็กผู้หญิงที่วิเคราะห์อยู่เมื่อครู่นี้เห็นท่าทางที่ดูโหดร้ายของเฉิงโหรวโหรวแล้วก็ถอยหลังไปด้วยความตกใจ