ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1165 ปะทะกับคนแข็งแกร่ง ผลลัพธ์น่ากลัวมาก (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1165 ปะทะกับคนแข็งแกร่ง ผลลัพธ์น่ากลัวมาก (2)
“ผมเคยล่วงเกินพวกท่านตอนไหน?”เย่ซือเฉินรู้สึกว่าตัวเองโดนปรักปรำ เขาไม่เคยทำอะไรที่เกินเลยต่อผู้อาวุโสตระกูลถังเลย
เมื่อก่อนเขานับถือท่านปู่ถังกับท่านย่าถังเป็นพิเศษอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้พวกท่านเป็นญาติของฉิงฉิงด้วย
“คุณรู้ว่าต้องทำยังไงก็ดีแล้ว ผมไปก่อนนะ”ถังหลินจึงพยักหน้าด้วยความวางใจ จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป
หลังจากถังหลินออกจากสนามบินก็โทรหาถังหยุนเฉิงทันที หลังจากเกิดเรื่องครั้งก่อน ถังหลินเฉิงก็อยู่สะสางงานที่เมืองไห่ ยังไม่ได้กลับมา ตอนนี้เกิดเรื่องที่บ้าน ถังหลินก็บอกพ่อของตัวเองและขอคำปรึกษาจากคุณพ่อ?
เพราะครั้งนี้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับซ่างกวนหง
“ทำไมเหรอ?มีเรื่องอะไร?”มือถือดังหลายครั้งมากกว่าถังหยุนเฉิงจะรับสาย เห็นได้ว่าถังหยุนเฉิงอยู่เมืองไห่คงยุ่งน่าดู
ถังหลินเล่าเรื่องทั้งหมดโดยพอสังเขปให้ถังหยุนเฉิงฟัง
“ลูกบอกว่าซ่างกวนหงเหรอ?”ถังหยุนเฉิงได้ยินสีหน้าพลันเปลี่ยนไป น้ำเสียงก็เคร่งเครียดหลายส่วน เห็นได้ชัดว่าถังหยุนเฉิงก็พอจะเคยได้ยินสมญานามของซ่างกวนหงมาบ้าง
“สองครั้งก่อนหน้านี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งขององค์กรโกสต์ซิตี้โจมตีพวกเราครับ ตอนนั้นพวกเขายังวางแผนรัดกุมขนาดนั้น วิธีการก็เลิศล้ำมาก ถ้าไม่มีฉิงฉิงอยู่ เกรงว่าพ่อกับลูกคงยากจะสละปัญหาทิ้ง หากตอนนี้ซ่างกวนหงลงมือเองกับมือ เกรงว่าเรื่องจะรุร้ายแรงมากครับ”ปกติถังหยุนเฉิงนั้นเป็นบุคคลที่น่าเกรงขามมาก มีมรสุมอะไรในชีวิตไม่เคยพบเจอมาก่อน ตอนนี้ได้ยินเรื่องนี้แล้ว ปากบอกว่าไม่กังวลก็คงเป็นเรื่องเท็จ
“อืม ร้ายแรงมากครับ ดังนั้นผมขอบอกพ่อครับว่า ไม่ว่าจะด้วยเรื่องการงานหรือเรื่องส่วนตัว เรื่องนี้ผมต้องยืนฝ่ายเย่ซือเฉินครับ รับมือด้วยกันครับ หากต้องปะทะกับซ่างกวนหง ถึงเวลาคงกระทบต่อผลประโยชน์ของตระกูลถังด้วยนะครับ หวังว่าคุณพ่อจะ ……”ถังหลินโทรศัพท์หาโดยเฉพาะก็เนื่องจากต้องการพูดสิ่งนี้ให้ชัดเจน
คิดจะปะทะกับซ่างกวนหง ถึงเวลาคงไม่อาจปกป้องตระกูลถังได้อย่างไร้ที่ติ ถึงเวลาตระกูลถังต้องพลอยโดนทำร้ายด้วยแน่ๆ สำหรับเรื่องโดนทำร้ายถึงขั้นไหน นั่นก็ต้องดูว่าซ่างกวนหงทำถึงขั้นไหนกัน
ทว่าไม่ว่าอย่างไร เขาจำเป็นต้องยืนแบกรับทุกอย่างด้วยกันกับเย่ซือเฉิน
“ลูกทำอย่างสบายใจได้เลย ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น”ถังหยุนเฉิงตัดบทถังหลินทิ้ง และแสดงจุดยืนตัวเองอย่างฉายชัด
“ขอบคุณครับพ่อ”มุมปากถังหลินยกขึ้นเล็กน้อย รู้สึกปลื้มใจหลายส่วน คุณพ่อสนับสนุนเขาเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งจริงๆ “พ่อจัดการงานทางนี้ก่อน จะพยายามกลับไปวันนี้ ถึงเวลาพวกเราค่อยหารือกันดีๆ”ถังหยุนเฉิงทำอะไรมักจะเป็นคนรอบคอบ สำหรับเรื่องงานก็จะจริงจังและเข้มงวดเป็นอย่างยิ่ง มีน้อยมากที่จะทิ้งงานด้วยเรื่องส่วนตัว ทว่าตอนนี้ถังหยุนเฉิงกลับรีบกลับไป
แสดงให้เห็นว่าเขาเห็นความสำคัญเรื่องนี้มาก พูดให้ตรงกว่านี้ก็คือเขาหวาดกลัวซ่างกวนหง
“หากทางซ่างกวนหงไม่มีการเคลื่อนไหว พวกลูกก็อย่าได้ทำอะไรผลีผลามนะ และถ้าหากท่างซ่างกวนหงมีการเคลื่อนไหวขึ้นมา พวกลูกก็อย่าใช้ไม้แข็งกับเขานะ ถ้าใช้ไม้แข็ง พวกเราก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้องค์กรโกตส์ซิตี้ ถ่วงเวลาได้เท่าไหร่ก็พยายามให้ได้เท่านั้น รอพ่อกลับไปแล้วค่อยคิดหาหนทาง”ถังหยุนเฉิงกำชับอย่างไม่วางใจอีกหลายประโยค หลายปีมานี้ ถังหยุนเฉิงกับถังหลินไม่ค่อยสื่อสารกันเท่าไหร่
เพราะถังหลินทำอะไรก็จะสุขุมมั่นคงอยู่แล้ว ไม่เคยทำให้ถังหยุนเฉิงเป็นห่วง ดังนั้นถังหยุนเฉิงใช้น้ำเสียงอย่างนี้กำชับถังหลินน้อยมาก
“ ครับ ผมรู้แล้วครับ”ถังหลินรีบขานรับ ในใจถังหลินก็รู้สึกกังวลเหมือนกัน ตอนนี้ได้ยินพ่อกำชับหนักขนาดนี้ ในใจก็ยิ่งรู้สึกหนักอึ้งหลายส่วน
เมื่อกี้ถึงแม้คุณพ่อจะพูดอ้อมๆ แต่ความหมายชัดเจนมาก คุณพ่ออยากให้พวกเขาพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะกันซึ่งๆหน้ากับซ่างกวนหง
เห็นได้ว่าคุณพ่อก็รู้ว่าพวกเขาสู้ซ่างกวนหงไม่ได้ ทว่าเรื่องนี้ไม่ใช่พวกเขาอยากหลีกเลี่ยงก็ทำได้เลย
เพราะองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ถูกเย่ซือเฉินโยนออกจากประตูเป็นความจริง ซึ่งมันเกิดขึ้นแล้ว
เรื่องนี้ซ่างกวนหงต้องใส่ใจแน่ ไม่มีทางที่จะไม่คิดบัญชีกับพวกเขา
“ฉิงฉิงมีวิธีรับมือยังไงบ้าง?”ถังหยุนเฉิงครุ่นคิดดูแล้วก็ถามหนึ่งประโยค สำหรับความสามารถของเวินลั่วฉิง เขาเชื่อมั่นเสียสนิท
“ยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับฉิงฉิงครับ ความหมายของเย่ซือเฉินก็คือ หากปิดเธอได้ก็อย่าพึ่งให้รู้ครับ เธอจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ซ่างกวนหงอยากจู่โจมพวกผม คงต้องใช้ความสามารถที่แท้จริงมาจัดการปัญหาแน่นอนครับ ด้วยสถานะและคุณธรรมประจำตัวของซ่างกวนหง เขาไม่มีทางใช้วิธีสกปรกแน่นอนครับ ดังนั้นบอกเรื่องนี้ให้ฉิงฉิงรู้ ฉิงฉิงก็ไม่มีวิธีหรอกครับ”ถังหลินรู้ความสามารถของเวินลั่วฉิงดี แต่เวินลั่วฉิงคือผู้เชี่ยวชาญจิตวิทยาด้านอาชญากรรม หากอีกฝ่ายใช้วิธีสกปรก ฉิงฉิงต้องมีวิธีแน่
ทว่าถังหลินคิดว่าซ่างกวนหงไม่มีทางใช้วิธีสกปรกอย่างนั้นกับพวกเขาแน่ มันไม่ใช่นิสัยการจัดการของซ่างกวนหง ยิ่งไปกว่านั้นด้วยอำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้ ซ่างกวนหงไม่จำเป็นต้องใช้กลลวงใดๆ
ซ่างกวนหงใช้ความสามารถอย่างแท้จริงจัดการปัญหาได้อยู่หมัดแน่
“อืม อย่างนี้ก็ดี”ถังหยุนเฉิงก็เห็นด้วยกับความคิดของเย่ซือเฉิน“ใช่แล้ว ควรบอกเรื่องเด็กๆทั้งสองคนกับเย่ซือเฉินได้แล้ว”
ด้วยความรักในแบบฉบับที่พ่อมีต่อลูกสาว ถังหยุนเฉิงไม่ได้พึงพอใจเย่ซือเฉินเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ปิดเรื่องเด็กๆทั้งสองคนกับเย่ซือเฉินตลอดไปก็ไม่ได้ เย่ซือเฉินในฐานะพ่อของเด็กมีสิทธิ์รับรู้เรื่องนี้
เมื่อก่อนถังจื่อโม่บอกว่าจะทดสอบเย่ซือเฉิน ผู้อาวุโสในบ้านทั้งสองท่านก็ให้การสนับสนุนถังจื่อโม่ด้วย
“เขารู้แล้วครับ”ใบหน้าถังหลินอดเผยรอยยิ้มเบาๆไม่ได้“สองพ่อลูกยังเผด็จศึกครั้งใหญ่ด้วยครับ”
ถังหลินรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นอย่างดี
“อืม อย่างนี้ก็ดี ลูกกับเย่ซือเฉินพยายามวางแผนเรื่องเตรียมรับมือให้สุดความสามารถกันก่อนนะ เพื่อจะได้ป้องกัน เผื่อซ่างกวนหงจะหาเรื่องกะทันหัน พ่อจะกลับไปให้ถึงช่วงบ่ายของวันนี้”ถังหยุนเฉิงยังคงกังวลเรื่องซ่างกวนหง ดังนั้นจึงเน้นย้ำอีกหลายประโยคก่อนวางสาย
หลังวางสาย สีหน้าถังหลินเคร่งขรึมอย่างยิ่งยวด เฮ้อ เย่ซือเฉินขัดใจใครไม่ขัด ดันไปขัดใจซ่างกวนหง!!
โลกใบนี้เกรงว่าคงหาผู้ที่ทรงอำนาจ แข็งแกร่งและน่ากลัวกว่าซ่างกวนหงไม่ได้แล้ว
ตอนนี้เขาหวังเพียงว่าซ่างกวนหงอย่าได้ลงมือเร็วเกินไปนัก อย่างนั้นก็ให้พวกเขาเตรียมตัวรับมือบ้าง
แสดงสายเรียกเข้า จากนั้นก็รีบรับสายทันควัน
“คุณชายครับ แย่แล้วครับ พรรคพวกของเราที่อยู่ประเทศDถูกโจมตีครับ”เมื่อรับสาย อีกฝ่ายก็รีบส่งเสียงมาด้วยความร้อนรน
หัวใจถังหลินหล่นวูบ พลางหรี่ตาขึ้นอย่างรวดเร็ว“รู้ไหมว่าเป็นฝีมือใคร?”
“ฝีมือคนองค์กรโกสต์ซิตี้ครับ พวกเราอยู่ตรงนี้ไม่เคยบาดหมางกับคนขององค์กรโกสต์ซิตี้มาก่อนนะครับ ปกติพวกเรากับพวกเขาก็ไม่เคยคบค้าสมาคมกันด้วยครับ แต่วันนี้คนขององค์กรโกสต์ซิตี้โจมตีพวกเรากะทันหันครับ”คู่สายเล่ารายละเอียดตอนเกิดเหตุ
สีหน้าถังหลินเคร่งเครียดอย่างฉายชัด เขารู้ว่าภายในองค์กรโกสต์ซิตี้มีกฎระเบียบที่เข้มงวดมาก ไม่มีทางโจมตีพวกเขาโดยไร้สาเหตุเป็นแน่ ดังนั้นมีความเป็นไปได้เพียงทางเดียว ซึ่งก็คือ ซ่างกวนหงลงมือแล้ว
เพียงแต่เขาคาดไม่ถึงว่าซ่างกวนหงจะลงมือที่ประเทศDก่อน?
ทว่าเมื่อพินิจพิจารณาดูดีๆแล้ว ถังหลินก็เข้าใจได้ไม่ยาก เพราะประเทศDไม่เหมือนประเทศของพวกเขา ปกติประเทศ Dก็เกิดความวุ่นวายภายในอยู่แล้ว ซ่างกวนหงลงมือที่ประเทศDจะยิ่งสะดวกมากขึ้น ตรงไปตรงมามากขึ้น
อารมณ์ถังหลินยิ่งเคร่งเครียดขึ้นหลายส่วน หากซ่างกวนหงจู่โจมพวกเขาที่เมือง A เพราะด้วยกฎหมายควบคุมภายในประเทศ องค์กรโกสต์ซิตี้ไม่กล้าทำอะไรส่งเดชมากนัก อย่างน้อยองค์กรโกสต์ซิตี้ก็ไม่กล้าใช้อาวุธสงครามในเมือง A
ทว่าหากลงมือที่ประเทศ Dก็ไม่ต้องหวาดหวั่นต่อสิ่งเหล่านี้ องค์กรโกส์ซิตี้สามารถกำเริบเสิบสานได้เต็มที่มากขึ้น
ซ่างกวนหงเก่งกาจดังคาด เป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมมาก
อีกอย่างที่ประเทศD อำนาจและอิทธิพลของพวกเราอ่อนแอกว่าที่นี่มาก ตระกูลถังพึ่งบุกเบิกและพัฒนาที่ประเทศ Dได้ไม่นาน
แต่เย่ซือเฉินเจริญในประเทศDไม่น้อย
“ฝ่ายคุณชายสามเย่มีอะไรเกิดขึ้นไหม?”สีหน้าถังหลินเปลี่ยนไปมา รีบถามหนึ่งประโยคทันที
“ผมกำลังอยากบอกคุณชายอยู่พอดีเลยครับ คนของคุณชายสามเย่ก็โดนโจมตีด้วยครับ และเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้เช่นกันครับ คนขององค์กรโกสต์ซิตี้คิดจะปะทะกับพวกเราแล้วใช่ไหมครับ?”คนนั้นได้ยินคำพูดของถังหลินก็รีบตอบทันที
ถังหลินได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็ยิ่งรู้สึกหนักอึ้งมากขึ้นหลายส่วน เห็นทีเป็นฝีมือของซ่างกวนหงเป็นแน่ ซ่างกวนหงจะแก้แค้นแทนองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้แล้ว
เดิมทีเขาอยากเตรียมการที่เมืองA ทว่าตอนนี้ซ่างกวนหงกลับโจมตีคนของพวกเขาที่ประเทศ D เรื่องนี้……