ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1166 ไปสู่ขอที่บ้าน (1)
เดิมทีเขาอยากเตรียมการที่เมืองA ทว่าตอนนี้ซ่างกวนหงกลับโจมตีคนของพวกเขาที่ประเทศ D เรื่องนี้
เรื่องนี้ซับซ้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
และเวลานี้ ซ่างกวนหงอยู่ในห้องวาดรูป
ผู้ดูแลจ้งผลักประตูเข้าไป ถึงแม้ไม่ได้เสียงดังอะไร ทว่าก็มีความเร่งร้อนกว่าปกติอย่างเด่นชัด ผู้ดูแลจ้งที่มากฝีมือมีความกระวนกระวายใจที่เผยออกทางสีหน้าหลายส่วน
ซ่างกวนหงได้ยินเสียง พูดให้แม่นยำกว่านี้ก็คือซ่างกวนหงได้ยินความเคลื่อนไหวที่ผิดแปลกจากเดิม เขาหยุดวาดภาพ หันไปมองผู้ดูแลจ้ง เมื่อเห็นสีหน้าอีกฝ่าย ซ่างกวนหงก็ไม่ได้ตอบสนองอะไรมากนัก แค่ถามเรียบเฉยว่า “เกิดเรื่องเหรอ?”
“ครับ เกิดเรื่องแล้วครับ คนในองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเราโจมตีคนของเย่ซือเฉินในประเทศ Dครับ และยังโจมตีตระกูลถังด้วยครับ”ระหว่างที่ผู้ดูแลจ้งพูดประโยคนี้ สีหน้าจริงจังกว่าปกติ
“ในที่สุดพวกเขาก็ลงมือแล้ว”ซ่างกวนหงได้ยินคำพูดของผู้ดูแลจ้งก็ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม
“ครับ ครั้งก่อนบอกว่าจะบีบให้พวกเขาลงมือ คิดไม่ถึงว่าไม่รอให้พวกเราทำอะไร พวกเขาก็ลงมือแล้วครับ”ผู้ดูแลจ้งพยักหน้าหงึกๆ สีหน้าเคร่งเครียดนิดๆ“ยังสืบไม่ได้ว่าใครเล่นตุกติกอยู่ครับ”
“ช่วงนี้อะเฉิงทำอะไรอยู่?”ซ่างกวนหงหันไปมองภาพวาดของตนแวบหนึ่ง จากนั้นก็ถามหนึ่งประโยคกะทันหัน
“หัวหน้าครับ เรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือหัวหน้าน้อยแน่นอนครับ หัวหน้าน้อยอยู่แต่ในเมือง A อีกอย่างคนที่ลงมือกับตระกูลถังและเย่ซือเฉินไม่ใช่ลูกน้องของหัวหน้าน้อยครับ”สีหน้าผู้ดูแลจ้งเปลี่ยนเล็กน้อย แก้ต่างแทนหัวหน้าน้อยด้วยจิตใต้สำนึก
พวกเขาเลี้ยงหัวหน้าน้อยมากับมือ ถึงแม้บางครั้งจะชอบทำตัวเหลวไหล แต่ไม่เคยทำอะไรสุ่มสี่ส่มห้าในเรื่องสำคัญ
ซ่างกวนหงมองผู้ดูแลจ้ง พลางยิ้มเบาๆ“ผมรู้ว่าไม่ใช่ฝีมืออะเฉิง ผมอยากให้อะเฉิงไปสืบเรื่องนี้ อะเฉิงสืบสะดวกกว่านาย”
ผู้ดูแลจ้งชะงัก รู้ว่าตัวเองเข้าใจผิด รีบผงกศีรษะ“ครับ ครับ หัวหน้าพูดมีเหตุผลครับ ให้หัวหน้าน้อยสืบเรื่องนี้เหมาะสมที่สุดครับ”
“อะจ้ง ช่วงนี้นายเลอะเลือนมากเลยนะ”ซ่างกวนหงไม่ได้คุยเรื่องที่ผู้ดูแลจ้งกล่าว แค่มองผู้ดูแลจ้ง ใบหน้าเผยรอยยิ้มอย่างลึกซึ้ง“นายติดตามผมมาก็หลายปี เมื่อก่อนไม่เคยเป็นอย่างนี้ แม้แต่ตอนนี้มาอยู่กับผมใหม่ๆก็ไม่เลอะเลือนเหมือนตอนนี้”
“หัวหน้า ผม……”ผู้ดูแลจ้งพูดติดอ่าง หัวหน้าพูดถูก เมื่อสักครู่เขาใจร้อนจริงๆ ทำไมเขาถึงร้อนใจขนาดนี้ล่ะ?เขาเองก็ไม่รู้ช่วงนี้ตัวเองเป็นอะไรไป
“อะจ้ง ไม่ได้เคลียร์เรื่องงานนานเท่าไหร่แล้ว?”ทันใดนั้นซ่างกวนหงก็ถามอีกหนึ่งประโยค ฟังแล้วดูเหมือนไม่ค่อยเกี่ยวข้องเท่าใดนัก
ผู้ดูแลจ้งชะงัก ได้แต่มองหัวหน้าตัวเอง ไม่กล้าตอบไปชั่วขณะ เพราะตอนนี้เขาไม่มั่นใจว่าหัวหน้าถามเขาด้วยจุดประสงค์อะไร
“จัดการเรื่องภายในบ้านกับจัดการเรื่องงานมันต่างกันอยู่แล้ว จะมีความรู้สึกร่วมด้วยกับการแก้ปัญหาเรื่องบ้าน เมื่อมีความรู้สึกแล้วจะยิ่งจริงจังและตั้งใจมากขึ้น และไม่ได้ใจเย็นเด็ดขาดเหมือนเมื่อก่อน”ซ่างกวนหงไม่ให้ผู้ดูแลจ้งตอบ เขาอธิบายเอง
ผู้ดูแลจ้งเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็มีความเข้าใจหลายส่วน ดังนั้นไม่ใช่เพราะฝีมือของเขาด้อยลง แต่เป็นเพราะช่วงนี้เขาใช้ความรู้สึกจัดการปัญหา?
“หัวหน้าครับ คุณรู้สึกอย่างนี้กับคุณหนูถังด้วยหรือเปล่าครับ?”ผู้ดูแลจ้งครุ่นคิดดูแล้วพลันอดถามหนึ่งประโยคไม่ได้ เขารู้ว่าใครอื่นว่าหัวหน้าเห็นความสำคัญของคุณหนูถังขนาดไหน
ซ่างกวนหงอึ้ง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ทว่าไม่ได้ตอบอะไร
เมื่อมีความรู้สึก มีใจแล้ว จึงไม่อาจเย็นชากับทุกเรื่องราวได้อีก ซึ่งทุกคนคงรู้สึกเหมือนกันกับจุดนี้
ยี่สิบห้าปีก่อน ตั้งแต่เขาเจอเธอก็ถือเป็นบทสรุปว่าจะเป็นเช่นนี้แล้ว
“หัวหน้าครับ ผมจะไปหาหัวหน้าน้อยเดี๋ยวนี้ครับ จะบอกให้หัวหน้าน้อยรีบสืบความจริงให้กระจ่างเร็วๆครับ ถึงเวลานั้น หัวหน้าก็พบหน้าคุณหนูถังได้แล้วครับ หากคุณหนูถังคือองค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้จริง ตอนนั้นหัวหน้าก็ทำความรู้จักกับคุณหนูถังในฐานะพ่อได้แล้วครับ”ผู้ดูแลจ้งเห็นหัวหน้าไม่พูด จึงพูดหลายประโยคเพื่อปลอบประโลม
“อืม ไปเถอะ”ซ่างกวนหงพยักหน้าเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรอีก
บัดนี้ ภายในองค์กรโกสต์ซิตี้สาขาเมืองA เฉิงโหรวโหรวกลับมาก็เห็นเจิ้งฉงกำลังนั่งดื่มชาอยู่ในห้องโถง เธอที่รู้สึกหงุดหงิดเต็มประดา จึงอดตะคอกใส่เจิ้งฉงอย่างลนลานไม่ได้ “ทำไมคุณถึงกลับมาเอง?ทิ้งฉันไว้คนเดียว?ฉันตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นคุณยังไม่ช่วยฉันอีก?”
เย่ซือเฉินปฏิบัติต่อเธอย่างนั้น มันทำให้เธอขายหน้าหมดสิ้น ทว่าเธอคิดบัญชีกับเย่ซือเฉินไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงพาลใส่เจิ้งฉงแทน
“คุณตะคอกใส่ผมทำไม?”เจิ้งฉงก็อารมณ์ฉุนเฉียวเต็มท้อง“นี่มันก็เป็นเรื่องที่คุณก่อขึ้นมาเอง ผมคุยอยู่ดีๆ คุณดันพูดแทรก ทำให้ทุกอย่างเสียหายหมด ตอนนี้คุณยังมีหน้าโมโหใส่ผมอีกเหรอ?”
“อีกอย่าง คุณมีค่าแค่ไหน ตัวคุณยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ?ใครให้หน้าคุณถึงกับกล้าโมโหใส่ผม?”เจิ้งฉงนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปก็อยากโยนเฉิงโหรวโหรวออกไปทันที
เฉิงโหรวโหรวถูกเจิ้งฉงตะคอกกลับก็อึ้ง มุมปากของเธอขยับหลายครั้ง ทว่าก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ
ไป๋หยิงยืนอยู่ด้านข้างมาโดยตลอด เห็นท่าทางของเฉิงโหรวโหรวแล้ว มุมปากก็อดเผยรอยยิ้มจางๆไม่ได้ “พอแล้ว ทะเลาะกันก็แก้ไขปัญหาไม่ได้ สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือคิดหาวิธีแก้ไขปัญหานี้”
“เป็นแบบนี้แล้วยังแก้ไขยังไงอีก?”เจิ้งฉงกำลังอารมณ์เสียอยู่ จึงตวาดเสียง ซึ่งหลักๆเลยก็เพราะรู้สึกว่าเรื่องถึงขั้นนี้แล้ว มันไม่มีวิธีแก้ไขปัญหาแล้ว
“ยังมี ยังมีวิธีอะไรอีกไหม?”เฉิงโหรวโหรวมองไป๋หยิง แววตาเปล่งประกายแสงเจิดจ้าหลายส่วน “คุณมีวิธีใช่ไหม?”
“อืม ฉันมีอยู่หนึ่งวิธี”มุมปากไป๋หยิงยกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สีหน้าเผยความลำพองใจหลายส่วน เจิ้งฉงกับเฉิงโหรวโหรวออกตัวแล้วยังเสียเปรียบเลย แถมยังก่อเรื่องจนกระอักกระอ่วนแบบนี้ ต้องแก้ไขให้ได้
“คุณยังมีวิธีอะไรอีก ตอนนี้องค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้โดนรปภ.ของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปโยนออกนอกประตู ซึ่งเขารู้กันเต็มบ้านเต็มเมืองแล้ว มีคนบูลลี่องค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ในโซเชียลเยอะมาก กู้ภาพลักษณ์กลับมาไม่ได้แล้ว ส่วนทางเย่ซือเฉินกระทั่งน้ำมันหรือเกลือยังซึมไม่เข้าเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องลงมือทำอย่างอื่น”เจิ้งฉงไม่ได้ตั้งความหวังอะไรกับเรื่องนี้แล้ว
“เคลียร์ทางเย่ซือเฉินไม่ได้ พวกเราก็ไปหาคนอื่นสิ อย่างเช่นคุณย่าเย่กับคุณปู่เย่ เท่าที่ฉันรู้มา ก่อนหน้านี้บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปมีคุณปู่เย่คุมอำนาจ คุณปู่เย่ถือสิทธิ์พูดขาดในบริษัทนี้ และคุณปู่เย่เป็นปู่ของเย่ซือเฉิน เย่ซือเฉินต้องฟังคุณปู่เย่แน่”ไป๋หยิงกะพริบตาปริบๆ มุมปากเผยรอยยิ้มหลายส่วน
“คุณคิดจะทำอะไร?”เจิ้งฉงเลิกคิ้ว พลางมองไป๋หยิงอย่างไม่เข้าใจ
“ฉันได้ยินว่าคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไม่อยากให้เย่ซือเฉินแต่งงานกับเวินลั่วฉิง เพื่อขัดขวางพวกเขาสองคน คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ช่วยเย่ซือเฉินหาคู่ครองที่เหมาะสมมาโดยตลอด คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ให้ความสำคัญกับวงศ์ตระกูลที่ฐานะเท่าเทียมกัน ดังนั้นพวกเราไปหาคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ พวกเขาต้องตกลงแน่”ไป๋หยิงมีความคิดในใจแล้ว ต้องบอกว่าไป๋หยิงรู้สถานการณ์ตระกูลเย่ได้ดีมาก
“แต่เย่ซือเฉินไม่ยินยอม”เจิ้งฉงขมวดคิ้วแน่นเป็นปม ท่าทีของเย่ซือเฉินเด่นชัดมาก เย่ซือเฉินโยนองค์หญิงออกมา เป็นไปไม่ได้ที่จะยอมรับ
“ขอเพียงคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ยินยอม ขอเพียงพวกเขาเห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ จากนั้นก็ประกาศออกสื่อ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องตายตัวแล้ว ขอเพียงตกลงกันแล้วก็ไม่มีที่ให้กลับคำ เย่ซือเฉินจะเก่งแค่ไหนก็ไร้ความหมาย การยกเลิกการแต่งงาน แถมยังเป็นงานแต่งกับองค์กรโกสต์ซิตี้อีก คงไม่มีใครรับผิดชอบไหวแน่!!”
“อีกอย่างขอเพียงคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่เห็นด้วยกับการเกี่ยวดองครั้งนี้ แล้วประกาศสู่สาธารณะว่าเย่ซือเฉินกับเฉิงโหรวโหรวจะแต่งงานกัน มันจะสยบข่าวขายหน้าของเฉิงโหรวโหรวที่บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปได้ แล้วมันก็จะแก้ไขได้โดยปริยาย”เห็นได้ชัดว่าไป๋หยิงคิดทุกอย่างเรียบร้อย ต้องชมว่าวิธีของไป๋หยิงไม่เลวจริงๆ สำหรับเฉิงโหรวโหรวแล้วเป็นวิธีที่ดีกันทั้งสองฝ่าย!!