ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1171 ลงชื่อหนังสือแต่งงาน (2)
“พวกเราเคยได้ยินเรื่องนี้แล้วค่ะ องค์หญิงของพวกเราก็รู้ด้วยค่ะ”ไป๋หยิงต้องรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แถมยังรู้ดีมากเลยละ
“องค์หญิงของพวกเราไม่ถือสาที่ประธานเย่เคยหย่าร้างมาก่อนค่ะ เพราะองค์หญิงของพวกเราชอบประธานเย่จริงๆ แต่ถ้ากำหนดเรื่องแต่งงานขององค์หญิงกับประธานเย่แล้ว พวกเราหวังว่าประธานเย่จะไม่ติดต่อและไม่ไปมาหาสู่กับภรรยาเก่าค่ะ”สิ่งที่ไป๋หยิงปรารถนาจะพบเห็นก็คือสิ่งนี้ เมื่อกำหนดเรื่องแต่งงานของเย่ซือเฉินกับเฉิงโหรวโหรวได้แล้ว จากนั้นก็ทิ้งเวินลั่วฉิงทันที
“แน่นอนอยู่แล้ว พวกไม่ยอมให้ซือเฉินไปมาหาสู่กับเวินลั่วฉิงอยู่แล้ว”คุณปู่เย่รีบพยักหน้าอย่างไม่อิดออด
ดวงตาคุณย่าเย่กลับกะพริบรัวๆ ตอนที่พวกท่านเข้าบริษัทแล้วเห็นเด็กผู้หญิงคนนั้น พวกเราตรวจดีเอ็นเอแล้ว ซึ่งผลปรากฏว่าเป็นลูกของซือเฉินจริงๆ
ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงมีลูกด้วยกันหนึ่งคนแล้ว ถึงแม้จะเป็นลูกสาว ชาติตระกูลเย่จะมีลูกสาวคนเดียวไม่ได้ ทว่าเพราะการเกิดมาของเด็กคนนี้ เย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงคงตัดขาดเยื่อใยได้ไม่หมดหรอก
ไม่ได้ ท่านต้องคิดหาหนทางรับตัวเด็กคนนี้กลับมา จากนั้นก็ส่งไปเลี้ยงด้านนอก เมื่อเป็นเช่นนี้เวินลั่วฉิงก็จะใช้เด็กเป็นข้ออ้างในการพัวพันกับเย่ซือเฉินไม่ได้แล้ว
แต่ไม่รู้ว่าเวินลั่วฉิงซ่อนเด็กหญิงคนนี้ไว้ที่ไหนกัน?หลังพวกเขาทราบผลตรวจดีเอ็นเอแล้วก็ตามหาเด็กคนนี้มาตลอด ทว่ากลับไร้เบาะแส ช่วงนี้กระทั่งเวินลั่วฉิงพวกท่านก็ไม่เห็น
“คุณปู่เย่พูดอย่างนี้ องค์หญิงของพวกเราก็วางใจแล้วค่ะ ฉันกลับไปก็จะได้รายงานกับหัวหน้าได้ถูกค่ะ”ไป๋หยิงพอใจกับท่าทีของคุณปู่เย่มาก ขอเพียงมีคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่อยู่ด้วย เย่ซือเฉินก็ต้องพะว้าพะวังกับพวกเขา ถึงเวลาเธอจะหัวเราะเยาะเวินลั่วฉิง
“คุณให้หัวหน้าของพวกคุณวางใจได้เลย ไม่มีปัญหาแน่นอน”คุณปู่เย่รับประกันขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าคุณปู่เย่คิดว่าตัวเองมีความสามารถเช่นนั้น ท่านคิดว่าเย่ซือเฉินยังเชื่อฟังท่านอยู่
คุณย่าเย่หันหน้ามองคุณปู่เย่แวบหนึ่ง อดรู้สึกกังวลไม่ได้ ทว่าสถานการณ์เช่นนี้คุณย่าเย่ไม่มีทางแสดงออกมาเด็ดขาด
“คุณปู่เย่ค่ะ คุณย่าเย่ค่ะ แล้วเรื่องวันนี้พวกท่านเห็นว่าควรทำยังไงดีคะ?”ไป๋หยิงย่อมรู้สึกพอใจมากอยู่แล้ว เป้าหมายที่ไป๋หยิงมาก็เพื่อกำหนดงานแต่งงาน จากนั้นก็เปิดเผยออกสู่สาธารณชน
แน่นอน ตอนนี้ไป๋หยิงไม่ได้พูดออกมาโดยตรง ครั้งนี้เธออยากให้คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่เป็นฝ่ายเสนอความคิดและการกระทำเอง
มีเพียงคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่เสนอด้วยตัวเอง ผลลัพธ์จะดีกว่า
“เพื่อตัดปัญหาของเช้านี้ เพื่อก่อกู้ภาพลักษณ์ขององค์หญิง ตอนนี้พวกเราก็สามารถกำหนดเรื่องแต่งงานได้เลย จากนั้นจะเชิญนักข่าวมาเปิดแถลงข่าวด้วย แล้วพวกเราจะประกาศเรื่องนี้อย่างอลังการเอง”คุณย่าเย่ฉลาดปราดเปรื่อง เข้าใจความหมายของไป๋หยิง และคล้อยตามไป๋หยิงแสดงจุดยืนให้แจ่มชัด
“อย่างนี้ก็ดีค่ะ ฉันขอบคุณแทนองค์หญิงของพวกเราด้วยนะคะ ฉันกลับไปแล้วต้องบอกกับหัวหน้า ให้หัวหน้ารับรู้ว่าทั้งสองท่านเป็นผู้เห็นแก่ส่วนรวมขนาดไหน”ไป๋หยิงได้ในสิ่งที่ตนต้องการแล้ว พลางยิ้มจนตาหยี เธอคาดไม่ถึงว่าเรื่องวันนี้จะราบรื่นเพียงนี้
คุณย่าเย่ยังบอกว่าจะแถลงข่าว เปิดเผยงานแต่งงาน เมื่อเป็นเช่นนี้จะดีเยี่ยมเลย
หากคุณปูเย่กับคุณย่าเย่แถลงข่าว เรื่องนี้ก็จะยิ่งมีความจริงใจ เคร่งครัดและละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น และจะไม่มีโอกาสเปลี่ยนแปลง
ไม่ต้องกังวลว่าตระกูลเย่จะถอดหมั้นเลย
“ดี ดี คุณเป็นผู้หญิงที่ตรงไปตรงมาและโปร่งใสมาก มีคุณอยู่ข้างกายองค์หญิงทำให้รู้สึกวางใจมาก”คุณย่าเย่ได้ยินวาจาที่ไป๋หยิงเอ่ยก็รู้สึกพึงพอใจมาก
“งั้นเรื่องนี้ก็ตกลงตามนี้”คุณย่าเย่คลี่ยิ้ม ท่านมองเฉิงโหรวโหรวด้วยแววตาที่เปลี่ยนมาเป็นอัธยาศัยดีอย่างยิ่งยวด “องค์หญิงมีข้อคิดต่างจากพวกเราไหม?”
“ไม่มี ฉันไม่มีข้อคิดที่ไม่ตรงกับพวกคุณเลยค่ะ ฉันพอใจกับเรื่องที่พวกคุณจัดการมากค่ะ”หลังจากเข้ามาเฉิงโหรวโหรวถูกไป่หยิงแทรกพูดกลางคันถึงสองครั้งสองครา ดังนั้นจึงรู้สึกอัดอั้นตันใจ ตอนนี้ได้ยินคุณย่าเย่ถามเธอเช่นนี้ เธอย่อมต้องรีบแสดงความรู้สึกนึกคิดของตัวเองอย่างแน่นอน
เธอพอใจมาก พอใจเกินกว่าที่เธอคาดหวังไว้เสียอีก เธอคาดไม่ถึงว่าจะราบรื่นเพียงนี้ คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ไม่เพียงตอบตกลงเรื่องงานแต่ง ทั้งยังบอกจะแถลงข่าวออกสื่ออีกด้วย
หากแถลงข่าวเมื่อไหร่ก็จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง เย่ซือเฉินจะบ่ายเบี่ยงไม่ได้เด็ดขาด
ตอนนี้เธอพอใจจนไม่รู้จะพอใจยังไงแล้ว
“ในเมื่อองค์หญิงไม่มีข้อโต้แย้ง เรื่องนี้ก็ถือว่าตกลงตามนี้ พวกเราจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย”คุณย่าเย่ได้ยินคำตอบของเฉิงโหรวโหรวก็พอใจยิ่งนัก
เห็นทีองค์หญิงจะเป็นคนอ่อนแอมาก อย่างนี้ก็ดี อนาคตจะได้เป็นลูกไก่ในกำมือ
“คุณปู่เย่ค่ะ คุณย่าเย่ค่ะ องค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเราเคร่งครัดในด้านกฎประเพณีมากค่ะ อย่างเรื่องแต่งงานที่ถือเป็นเรื่องใหญ่อย่างนี้ องค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเราจะมีหนังสือแต่งงานเป็นเครื่องยืนยันค่ะ”ไป๋หยิงเรียกคุณย่าเย่ที่ลุกขึ้นเตรียมจะไปจัดการตามที่บอก
“หนังสือแต่งงาน?”คุณย่าเย่ชะงัก เคยได้ยินสิ่งนี้เหมือนกัน ซึ่งมักใช้ในสมัยโบราณ ตอนนี้ไม่นิยมสิ่งนี้แล้วไม่ใช่เหรอ?
“พวกคุณอาจไม่รู้ว่าองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเรามีประวัติความเป็นมานับพันปี ดังนั้นขนบธรรมเนียมประเพณีหลายอย่างถูกสืบทอดต่อกันเป็นรุ่นๆ งานแต่งขององค์หญิงต้องทำตามธรรมเนียมปฏิบัติขององค์กรโกสต์ซิตี้ค่ะ ซึ่งหนังสือแต่งงานคือตัวสำคัญเลยทีเดียวค่ะ อันที่จริงก็ถือเป็นรูปแบบหนึ่งนะคะ เมื่อเซ็นหนังสือแต่งงานแล้วก็เท่ากับกำหนดเรื่องนี้ไว้แล้ว ซึ่งจะหมายความว่าทั้งสองฝ่ายจะเปลี่ยนใจไม่ได้ค่ะ”ไป๋หยิงกลัวเย่ซือเฉินจะกลับคำ หากเย่ซือเฉินกลับคำจริงๆ เธอไม่เท่ากับเสียเวลาเสียแรงเปล่าหรอกเหรอ
องค์กรโกสต์ซิตี้ก็มีธรรมเนียมปฏิบัติเกี่ยวกับหนังสือแต่งงานจริงๆ ผู้บริหารระดับสูงในองค์กรยึดมั่นสิ่งนี้เสมอมา
คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ต่างชะงัก คุณปู่เย่เคยวนเวียนอยู่ในวงการธุรกิจมานานนับปี จึงเป็นคนเข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม ดังนั้นไม่เคยพูดอะไรที่ตายตัวเกินไป
เพราะด้วยสถานะขององค์หญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ จึงรีบร้อนตอบตกลงเรื่องงานแต่ง ทว่าร่างหนังสือแต่งงาน?คุณปู่เย่เกิดข้อขัดแย้งในใจเล็กน้อย เพราะหากร่างเป็นลายลักษณ์อักษรเมื่อไหร่ก็จะมีเรื่องผิดพลาดไม่ได้
หากถึงเวลาเกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรขึ้นมา……
“หนังสือแต่งงานกลายเป็นเรื่องดึกดำบรรพ์เมื่อหลายพันปีมาแล้ว ตอนนี้พวกเราไม่นิยมอย่างนี้กันแล้ว ไม่จะเป็นต้องทำอย่างนี้หรอกมั้ง?”คุณย่าเย่เริ่มพะว้าพะวัง ท่านรู้ว่าร่างลายลักษณ์อักษรแล้วจะเป็นอย่างไร
“คุณย่าเย่ค่ะ หัวหน้าพวกเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากค่ะ หากฉันกลับไปแล้วไม่ได้นำหนังสือแต่งงานติดมือไปด้วย เกรงว่าหัวหน้าจะไม่ยอมรับเรื่องแต่งงานครั้งนี้ค่ะ แล้วหัวหน้าเกิดรู้สึกว่าพวกคุณไม่มีความจริงใจ จนไม่ยอมรับเรื่องแต่งงาน อย่างนี้ก็จบเห่กันเลยนะคะ”เวลานี้ไป๋หยิงแอบอ้างหัวหน้าขึ้นมา ซึ่งมีประโยคหนึ่งที่ไป๋หยิงพูดถูก นั่นก็คือหัวหน้าให้ความสำคัญกับเรื่องอย่างนี้มาก ทว่าหัวหน้าไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของเฉิงโหรวโหรว
ดังนั้นไม่ว่าเฉิงโหรวโหรวจะทำอะไร อย่างไร หัวหน้าก็ไม่สนใจทั้งนั้น
อันที่จริงในใจไป๋หยิงรู้จุดนี้ดี แต่เธอดันหลอกคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่อย่างไม่รู้สึกหน้าแดง
“คุณปู่เย่ค่ะ คุณย่าเย่ค่ะ พวกเรามาด้วยความจริงใจ เชื่อว่าพวกคุณก็อยากเกี่ยวดองกับองค์กรโกสต์ซิตี้จริงๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้ หนังสือแต่งงานถือเป็นหลักประกันของทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นเรื่องดี ทำไมคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ยังลังเลอยู่ล่ะคะ?”ไป๋หยิงรู้ทันความคิดของคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ ดังนั้นเธอรู้วิธีเกลี้ยกล่อมพวกท่าน
“หากเป็นเพราะรายละเอียดข้อนี้เกิดปัญหา ทำให้หัวหน้าของพวกเราไม่พอใจ แล้วทำให้ไม่อาจแต่งงานกันได้ งั้นก็เสียดายมากค่ะ ครั้งนี้หัวหน้าสงสารองค์หญิงจึงตามใจองค์หญิง แต่ครั้งต่อไป ไม่แน่ว่าหัวหน้าอาจไม่ตามใจองค์หญิงแล้วก็ได้นะคะ”ไป๋หยิงเห็นคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ลังเลจึงจุดจี้แรงๆอีกหนึ่งครั้ง ถ้อยคำนี้ยังแฝงการข่มขู่ไว้ในทีอีกด้วย
หากไม่ทำหนังสือแต่งงาน เรื่องนี้หัวหน้าก็จะไม่ยอมรับ เรื่องเกี่ยวดองก็จะถือเป็นโมฆะ
ไป๋หยิงรู้ว่าตอนนี้คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่พอใจการแต่งงานครั้งนี้มาก ซึ่งพวกเขาอยากเกี่ยวดองกับองค์กรโกสต์ซิตี้มาก ดังนั้นคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ยิ่งไม่หวังให้เรื่องนี้เกิดเหตุเหนือการควบคุมขึ้น