ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1193 คุณชายสามเย่ทรงพลังอำนาจ สั่นสะเทือน(2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1193 คุณชายสามเย่ทรงพลังอำนาจ สั่นสะเทือน(2)
“ซือเฉินของเราเพียบพร้อมขนาดนี้ มีผู้หญิงคนไหนบ้างที่ไม่อยากแต่งงานกับเขา หัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ต้องเห็นชอบด้วยแน่นอน ถึงได้เซ็นชื่อลงบนหนังสือหมั้นหมายแต่งงาน พวกเราเองก็ไม่ต้องกังวลว่าทางองค์กรโกสต์ซิตี้จะปฏิเสธงานแต่งงานเพราะเหตุผลอื่นแล้ว เรื่องนี้ถือว่าตกลงตามนี้แล้ว ฉันรู้สึกว่าเราสามารถเตรียมงานแต่งงานให้ซือเฉินได้แล้ว รีบจัดงานแต่งงานโดยเร็ว เรื่องนี้จะได้ยิ่งรัดกุมมากขึ้น” เวลานี้คุณย่าเย่ใจร้อนยิ่งกว่าคุณปู่เย่ ดังนั้นจึงอยากจะรีบจัดงานแต่งงานให้เรียบร้อย
“ถูกต้อง คุณพูดถูก ตอนนี้คุณเตรียมงานแต่งงานได้เลย อีกฝ่ายเป็นถึงเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ งานแต่งงานจะทำลวกๆไม่ได้เด็ดขาด ต้องจัดให้ยิ่งใหญ่ ต้องจัดให้สั่นสะเทือนไปทั่ว” คุณปู่เย่พยักหน้าติดต่อกัน พึงพอใจกับความคิดของคุณย่าเย่
“หลังจากจัดงานแต่งงานเสร็จ เรื่องนี้สำเร็จลุล่วงแล้ว ถึงเวลานี้ซือเฉินก็จะสามารถรับช่วงงานในองค์กรโกสต์ซิตี้ได้ ด้วยความสามารถของซือเฉิน ใช้เวลาไม่นานอำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้ต้องอยู่ในมือของเขาได้แน่นอน” จุดประสงค์หลักของคุณปู่เย่ไม่ใช่การแต่งงาน แต่เป็นการครอบครองทั้งองค์กรโกสต์ซิตี้
“หัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้มีลูกสาวแค่คนเดียว เมื่อถึงเวลาทุกอย่างขององค์กรโกสต์ซิตี้ต้องเป็นของเจ้าหญิงคนนี้แน่นอน เจ้าหญิงคนนี้ใสซื่อ นิสัยอ่อนโยน ถึงเวลาต้องเชื่อฟังพวกเราทุกอย่างแน่นอน” คุณย่าเย่กับคุณปู่เย่คิดเหมือนกัน คิดถึงผลประโยชน์
“อืม เรื่องแบบนี้คุณถนัดที่สุด ถึงเวลาคุณก็พูดกับเธอให้มากๆ เรื่องทุกอย่าง ความรักสามารถจัดการได้ทั้งนั้น” คุณปู่เย่มองไปที่คุณย่าเย่ ยิ้มจนตาหยี
“อืม ฉันรู้แล้ว” คุณย่าเย่ยิ้มพร้อมกับตอบตกลงโดยไม่ถ่อมตัวแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่าเธอภาคภูมิใจกับงานถนัดนี้ของตน
“จริงด้วย ในเมื่อตอนจบของเรื่องนี้ได้กำหนดเอาไว้แล้ว ควรจะบอกซือเฉินสักหน่อยไหม” ตอนนี้คุณปู่เย่เพิ่งคิดได้ว่าจะต้องบอกเย่ซือเฉิน ตอนจบของเรื่องนี้ได้กำหนดเอาไว้แล้ว เย่ซือเฉินขัดขืนไปก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นคุณปู่เย่จึงค่อยบอกเย่ซือเฉิน
“เราจัดงานแถลงข่าว ประกาศให้สังคมรับรู้เรื่องงานแต่งงานนี้แล้ว ซือเฉินต้องรู้แน่นอน แต่ว่าซือเฉินกลับไม่พูดอะไร ไม่โทรมาแม้แต่สายเดียว ทั้งยังไม่ถามเราแม้แต่ประโยคเดียว ซือเฉินน่าจะพอใจกับงานแต่งงานที่เราจัดการให้เขาแน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาคงกลับมาที่บ้านเพื่อคัดค้านตั้งนานแล้ว” นัยน์ตาของคุณย่าเย่เปล่งประกาย เธอรู้สึกว่าเย่ซือเฉินไม่ได้พูดอะไร น่าจะพอใจกับงานแต่งงานนี้
แต่ว่าคุณย่าเย่กลับไม่รู้เลย เย่ซือเฉินห่อเหี่ยวใจกับพวกเขานานแล้ว ไม่อยากเปลืองน้ำลายกับพวกเขาอีกแล้ว
“ถูกต้อง คุณพูดถูกมาก พวกเราหาคู่ที่ดีขนาดนี้ให้เขา เขาต้องยินดีแน่นอน” คุณปู่เย่ได้ยินคำพูดของคุณย่าเย่พยักหน้าติดต่อกัน:“อีกฝ่ายเป็นถึงเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ เขาแต่งงานกับเจ้าหญิงองค์กรโกสต์ซิตี้ เท่ากับว่าครอบครององค์กรโกสต์ซิตี้ทั้งองค์กร เขาเป็นผู้ชาย ผู้ชายล้วนมีความทะเยอทะยาน ดังนั้นเขาต้องพอใจกับงานแต่งงานในครั้งนี้แน่นอน ความกังวลของเราก่อนหน้านี้สูญเปล่า”
“ฉันเองก็เป็นังวลว่าเขากับเวินลั่วฉิงจะพัวพันกันไม่หยุด เพราะถึงอย่างไรพวกเขาก็มีลูกสาวด้วยกัน” คิ้วของคุณย่าเย่ขมวดเป็นปม:“คนที่คุณสั่งให้ไปตามหาพวกเธอยังไม่ได้ข่าวคราวอะไรเลยเหรอ? อย่าให้เวินลั่วฉิงทำลายเรื่องมงคลของตระกูลเรา”
“วางใจเถอะ ต้องหาพวกเธอเจอแน่นอน คนที่ผมส่งไปก่อนหน้านี้มีปัญหานิดหน่อย ผมส่งคนกลุ่มใหม่ไปตามหาแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานต้องได้ข่าวคราวแน่นอน” คุณปู่เย่กำลังคิดถึงเรื่องขององค์กรโกสต์ซิตี้ น้ำเสียงเคล้าไปด้วยความดีใจ เรื่องเล็กน้อยๆอย่างอื่นไม่ส่งผลกระทบต่อเขา
“ระวังไว้หน่อยดีที่สุดค่ะ เวินลั่วฉิงคนนั้นเจ้าเล่ห์มาก ร้ายกาจมาก กลัวว่าเธอจะไร้ยางอายแล้วยุ่งกับซือเฉินของเราไม่หยุด ทำลายงานแต่งงานของซือเฉิน ไม่ง่ายเลยกว่าที่หัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้จะยอมตกลงกับงานแต่งงานในครั้งนี้ ทางเราห้ามเกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นเด็ดขาด” คุณย่าเย่รู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย คุณย่าเย่กังวลว่าเวินลั่วฉิงจะมาทำลายงานแต่งงาน
“อืม ผมจะส่งคนไปตามหาให้มากขึ้น” ได้ยินคุณย่าเย่พูดแบบนี้ สีหน้าของคุณปู่เย่เคร่งขรึมยิ่งขึ้น
“หลังจากเจอตัวเวินลั่วฉิง ขายเธอไปที่เขตชายแดนซะ อย่าให้เธอกลับมาได้อีก ฉันไม่มีวันปล่อยให้เธอมาทำลายงานแต่งงานซือเฉินของพวกเราแน่นอน” ตอนที่คุณย่าเย่พูดประโยคนี้ ใบหน้าของเธอฉายความเหี้ยมโหด เพื่อซือเฉินของเธอ เธอจำเป็นต้องทำแบบนี้ ใครบอกให้เวินลั่วฉิงหน้าด้านไร้ยางอายเอาแต่ยุ่งกับซือเฉินของเธอไม่หยุดสักทีล่ะ
“อืม ฟังคุณทุกอย่าง วางใจเถอะ ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน” คุณปู่เย่เห็นด้วยกับคำพูดทั้งหมดของคุณย่าเย่ เรื่องแบบนี้ผู้หญิงคิดได้รอบคอบกว่า
“กล่าวโดยสรุปก็คือ ห้ามเกิดเรื่องไม่คาดคิดในงานแต่งงานครั้งนี้เด็ดขาด” คุณย่าเย่อดไม่ได้ที่จะพูดเสริม:“ทั้งหมดนี้เพื่อซือเฉินของเรา ซือเฉินต้องเข้าใจความหวังดีของพวกเราแน่นอน”
“อืม คุณพูดถูก ถึงเวลาเขาต้องขอบคุณพวกเราแน่นอน” คุณปู่เย่พยักหน้าติดต่อกัน ใบหน้าฉายรอยยิ้มอีกครั้ง
ด้านนอกตึกใหญ่บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปในเวลานี้ล้อมไปด้วยคนจำนวนไม่น้อย หนึ่งในนั้นมีนักข่าวจากหลายสำนักที่รีบมา
สื่อสำนักต่างๆได้ยินว่าคุณชายสามเย่จัดงานแถลงข่าว แน่นอนว่าต้องมาด้วยความเร็วสูงสุด หลายคนที่อยู่ใกล้ รีบมาทันที
“ไม่รู้ว่าคุณชายสามเย่จะประกาศเรื่องด่วนอะไร ถึงได้จัดงานแถลงข่าว ปกติแล้วคุณชายสามเย่ไม่แม้แต่จะให้สัมภาษณ์” นักข่าวที่มาถึงก่อนยืนรออยู่ด้านนอกด้วยความร้อนใจ อดไม่ได้ที่จะพูดคุยกับนักข่าวจะสื่อสำนักอื่นๆ ทั้งยังอยากจะลองเชิงสื่อสำนักอื่นๆด้วย
“ไม่รู้เหมือนกัน ครั้งนี้เลขาหลิวโทรมาด้วยตนเอง แต่เลขาหลิวไม่ได้บอกว่ามีเรื่องอะไร อีกทั้งเลขาหลิวยังกำชับเป็นพิเศษว่าให้รออยู่ใต้ตึก” นักข่าวจากอีกสำนักก็สีหน้างุนงง ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“นี่มันเรื่องอะไรกัน? ทำไมต้องอยู่ใต้ตึก? หรือว่าคุณชายสามเย่จะจัดงานแถลงข่าวใต้ตึก?” นักข่าวคนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะถามคำถามที่อยู่ในใจด้วยความสงสัย
“คงไม่ใช่หรอกมั้ง? ด้วยฐานะของคุณชายสามเย่ เขาจัดงานแถลงข่าว จะจัดที่นี่ได้ยังไง?” มีคนรีบโต้เถียงทันที
“ฉันเองก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ค่อยได้ ถ้าอยู่ใต้ตึกบริษัทจริงๆ ก็ต้องเตรียมงานตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว แต่พวกนายดูสิใต้ตึกไม่มีอะไรเลย แม้แต่เก้าอี้ก็ยังไม่มี”
“แล้วทำไมเลขาหลิวถึงต้องกำชับเป็นพิเศษว่าอยู่ใต้ตึกบริษัท?”
“อาจจะให้พวกเรารอใต้ตึก ถึงเวลาค่อยย้ายสถานที่มั้ง?” ทุกคนพูดคุยกัน และอดไม่ได้ที่จะคาดเดาไปต่างๆนานา
“จัดงานแถลงข่าวที่ไหนไม่ใช่เรื่องสำคัญ เรื่องสำคัญคือคุณชายเย่จะประกาศเรื่องอะไรกันแน่? นี่ต่างหากคือเรื่องที่สำคัญที่สุด และเป็นเรื่องที่ทุกคนอยากรู้”
“จริงด้วยๆ นี่ต่างหากที่เป็นเรื่องสำคัญ ก่อนหน้านี้พวกนายได้ข่าวอะไรมาบ้างไหม?”
“ไม่ได้ข่าวอะไรเลย เลขาหลิวไม่พูดอะไรทั้งนั้น ตอนนี้ทำได้เพียงรอคุณชายสามเย่ออกมาประกาศ”
“พวกนายว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องแต่งงานรึเปล่า? ก่อนหน้านี้คุณปู่เย่เพิ่งจัดงานแถลงข่าวและประกาศเรื่องหมั้นหมายระหว่างคุณชายสามเย่กับเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ ตอนนี้คุณชายสามเย่รีบจัดงานแถลงข่าวอีก จะเกี่ยวกับเรื่องงานแต่งงานรึเปล่า?”
“จากที่นายพูด มีความเป็นไปได้เหมือนกัน เพราะถึงอย่างไรการหมั้นหมายกับเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้คือเรื่องใหญ่”
“แต่ว่าคุณปู่เย่เพิ่งประกาศเรื่องหมั้นหมายระหว่างคุณชายสามเย่กับองค์กรโกสต์ซิตี้ ตอนนี้คุณชายสามเย่จะพูดอะไร หรือว่าจะพูดเรื่องการแต่งงาน?”
“ไม่นานก่อนหน้านี้ คุณชายสามเย่เพิ่งจัดงานแถลงข่าว เขาเพิ่งบอกว่าชีวิตนี้จะไม่แต่งงานกับใครนอกจากเวินลั่วฉิง ดังนั้นฉันรู้สึกว่าเรื่องที่คุณปู่เย่ประกาศเรื่องแต่งงานคุณชายสามเย่ต้องไม่เห็นด้วยแน่นอน ไม่แน่ว่าคุณชายสามเย่อาจจะออกมาอธิบาย อยากจะบอกว่าตนไม่เห็นด้วย” คนที่พูดตอนนี้คือนักข่าวสาวคนหนึ่ง เมื่อคราวก่อนเธอเองก็เข้าร่วมงานแถลงข่าวของคุณชายสามเย่ ตอนนั้นเธอยังตื้นตันใจกับความรักที่ลุ่มลึกของคุณชายสามเย่
“ความหมายของเธอคือคุณชายสามเย่จะปฏิเสธงานแต่งงานเหรอ? เธออย่าพูดเล่นเลย? คู่แต่งงานที่คุณปู่เย่จัดให้คุณชายสามเย่เป็นถึงเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ เธอเคยได้ยินชื่อขององค์กรโกสต์ซิตี้ไหม? เธอรู้ไหมว่าองค์กรโกสต์ซิตี้ยิ่งใหญ่แค่ไหน? ปฏิเสธงานแต่งงาน? ฉันว่าเธอบ้าไปแล้ว”
“แต่ว่างานแถลงข่าวเมื่อคราวที่แล้วคุณชายสามเย่บอกว่าชีวิตนี้จะไม่แต่งงานกับใครนอกจากเวินลั่วฉิง” นักข่าวสาวคนนั้นเป็นคนจริงจัง:“ตอนนั้นคุณชายสามเย่พูดด้วยตนเอง คงไม่กลับคำเร็วขนาดนี้รึเปล่า?”
“คำพูดบางคำ เธอแค่ฟังก็พอแล้ว อย่าคิดจริงจัง” นักข่าวคนหนึ่งมองนักข่าวสาวที่คิดจริงจังอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า ใสซื่อเกินไปแล้ว เป็นถึงนักข่าวทำไมถึงใสซื่อขนาดนี้ได้?
มีคำพูดมากน้อยแค่ไหนที่พูดแล้วต้องทำให้ได้? ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการแต่งงานของคนมีฐานะอย่างพวกเขา?!