ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1196 การตัดขาดของคุณชายสามเย่ น่าตกตะลึงอย่างมาก(1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1196 การตัดขาดของคุณชายสามเย่ น่าตกตะลึงอย่างมาก(1)
“นายเอาให้เลขาหลิวตอนนี้ได้เลย” ทว่าเห็นได้ชัดว่าเย่ซือเฉินไม่คิดจะเลี่ยง เขาบอกให้คุณชายห้าฉิงเอาใบรับรองออกมาแล้วยื่นให้เลขาหลิว เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาไม่รู้สึกว่าเรื่องอะไรจำเป็นต้องเลี่ยง!!
“อืม ครับ” คุณชายห้าฉิงชะงัก เหนือความคาดหมายเล็กน้อย ดูเหมือนตอนนี้พี่สามไม่สนใจอะไรแล้วทั้งนั้น
ถึงแม้ภายในใจของคุณชายห้าฉิงจะมีความคิดมากมาย แต่เขาไม่ลังเลที่จะเชื่อฟังคำพูดของคุณชายสามเย่ หยิบใบรับรองที่เพิ่งเขียนเมื่อครู่ออกมา แล้วยื่นให้เลขาหลิว
ถึงแม้เลขาหลิวจะไม่ทราบเรื่องใบรับรองมาก่อน แต่ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในห้องทำงานเขาได้ยินคุณชายห้าฉิงคุยโทรศัพท์กับท่านประธาน เลขาหลิวเองก็พอจะเอาได้แล้วว่าคืออะไร เลขาหลิวรีบรับมาทันที
“คืออะไรครรับ? สิ่งที่คุณชายห้าฉิงยื่นให้เลขาหลิวคืออะไร?!” นักข่าวล้วนสายตาเฉียบแหลม ยิ่งไปกว่านั้นเย่ซือเฉินไม่มีท่าทีจะหลีกเลี่ยงแต่อย่างใด คุณชายห้าฉิงจะไม่ได้ระมัดระวังเป็นพิเศษ ดังนั้นนักข่าวมากมายจึงมองเห็น
“เหมือนจะเป็นเอกสาร? แต่ไม่รู้ว่าคือเอกสารอะไร?”
“คุณชายห้าฉิงเอาเอกสารมาส่งให้ประธานเย่ในตอนนี้หมายความว่าอะไร? เกี่ยวข้องกับองค์กรโกสต์ซิตี้ไหม?”
“เวลานี้คุณชายห้าฉิงเอาเอกสารขององค์กรโกสต์ซิตี้มาให้คุณชายสามเย่ นี่ดูไม่สมเหตุสมผลเลยรึเปล่า?”
“ถ้าอย่างนั้นเวลานี้คุณชายห้าฉิงต้องเอาเอกสารอะไรมาให้คุณชายสามเย่ถึงจะสมเหตุสมผลล่ะ? หรือว่าจะเป็นเอกสารที่เจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้จดทะเบียนสมรสกับคุณชายสามเย่? หรือว่าจะเป็นทะเบียนสมรสระหว่างเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้กับคุณชายสามเย่?”
“เอ๊ะ เรื่องนี้มีความเป็นไปได้”
“ไม่น่าจะเป็นไปได้รึเปล่า? คุณปู่เย่เพิ่งประกาศข่าวการหมั้นหมายระหว่างคุณชายสามเย่กับเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะแต่งงานกันเร็วขนาดนี้ อีกทั้งถ้าหากว่าคุณชายสามเย่กับเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้จดทะเบียนสมรสด้วยกันแล้วจริงๆ คุณปู่เย่าเป็นคนที่อยากจะป่าวประกาศให้ทุกคนรู้ว่าตระกูลเย่กับองค์กรโกสต์ซิตี้แต่งงานกัน เมื่อเทียบกับการหมั้นหมายแล้วการจดทะเบียนสมรสเป็นเรื่องใหญ่ยิ่งกว่า เป็นจริงยิ่งกว่า ถ้าจริงขนาดนี้ คุณปู่เย่ไม่มีทางที่จะไม่พูด”
ชั่วครู่หนึ่งทุกคนพากันพูดไปต่างๆนานา ล้วนพากันคาดเดา และแน่นอนว่าไม่มีใครเดาถูก
“พี่สาม พี่จะทำแบบนี้จริงๆเหรอ? พี่ต้องคิดให้ดีนะ นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก อีกทั้งถ้าทำเรื่องนี้ลงไปแล้ว ก็……” คุณชายห้าฉิงขยับเข้าไปใกล้เย่ซือเฉิน พูดสิ่งที่เขาเป็นกังวลออกมาเบาๆ เขาต้องการให้พี่สามคิดพิจารณาอย่างมีสติ
เย่ซือเฉินไม่ได้พูดอะไร มีเพียงสายตาคู่นั้นที่มองไปทางเขา มองไปทางเขาครู่หนึ่ง แววตานั้นดูเหมือนนิ่งสงบ ทว่ากลับทำให้คุณชายห้าฉิงรับรู้ถึงความรู้สึกที่แน่วแน่จนไม่มีวันเปลี่ยนใจใดๆได้อีก คำพูดที่คุณชายห้าฉิงยังไม่ทันพูดจบก็กลืนลงคอไปเสียอย่างนั้น
“ต่อจากนั้น ท่านประธานของเราจะแถลงข่าว ทุกคนไม่จำเป็นต้องถามทีละคน ดังนั้นทุกคนไม่ต้องเบียดเสียดมาอยู่ด้านหน้า เบียดมาอยู่ด้านหน้าก็ไร้ประโยชน์ ท่านประธานของเราไม่มีทางตอบปัญหาอื่น” ประสิทธิภาพในการทำงานของเลขาหลิวสูงมาก ถึงแม้จะเชิญนักข่าวมามากมาย ถึงแม้จะอยู่นอกตึกบริษัท ไม่มีเก้าอี้แม้แต่ตัวเดียว แต่เลขาหลิวก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว
“ประธานเย่จะแถลงข่าวเรื่องอะไรกันแน่? จะเริ่มแถลงข่าวเมื่อไหร่?” นักข่าวต่างรู้จักนิสัยของคุณชายสามเย่เป็นอย่างดี รู้ดีว่าเลขาหลิวพูดความจริง ดังนั้นจึงไม่เบียดเสียดมาด้านหน้าอีก เพียงแค่รอเย่ซือเฉินแถลงข่าวด้วยความใจร้อนเท่านั้น
เพราะถึงอย่างไรคุณชายสามเย่จัดงานแถลงข่าวยิ่งใหญ่แบบนี้ ต้องไม่ใช่เรื่องเล็กๆอย่างแน่นอน
เพราะสื่อหลายสำนักต่างพากันถ่ายทอดสด ถึงแม้เย่ซือเฉินจะไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร แต่ตอนนี้ถ่ายทอดสดที่เกี่ยวข้องใกล้จะเป็นพาดหัวข่าวใหญ่แล้ว อีกทั้งช่องแสดงความคิดเห็นด้านล่างก็แทบจะระเบิดแล้ว
บ้านตระกูลเย่ หลังจากคุณปู่เย่และคุณย่าเย่ประกาศเรื่องงานหมั้นแล้วก็ติดตามข่าวสารมาโดยตลอด ดังนั้นพวกเขาจึงเห็นถ่ายทอดสดตั้งแต่แรกทันที
“ซือเฉินแถลงข่าวในเวลานี้ได้ยังไง เขาจะทำอะไร?” สีหน้าของคุณย่าเย่เปลี่ยนไปเล็กน้อยตอนเห็นถ่ายทอดสด น้ำเสียงเคล้าไปด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด:“ซือเฉินคงจะไม่ทำอะไรเหลวไหลใช่ไหม?”
คุณย่าเย่ยังจำเหตุการณ์เมื่อคราวก่อนตอนที่เย่ซือเฉินจัดงานแถลงข่าวได้เป็นอย่างดี ครั้งนั้นเย่ซือเฉินแถลงข่าวตอกหน้าพวกเขา ครั้งนี้เย่ซือเฉินคงจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วใช่ไหม?
“เขาคงไม่แถลงข่าวเหมือนครั้งที่แล้ว ที่บอกว่าจะแต่งงานกับเวินลั่วฉิงแค่คนเดียว ไม่มีวันแต่งงานกับองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้รึเปล่า?” สิ่งที่คุณย่าเย่เป็นกังวลที่สุดคือเรื่องนี้ แน่นอนตอนนี้การแต่งงานกับเจ้าหญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้ได้กำหนดเอาไว้แล้ว ต่อให้เย่ซือเฉินไม่ยอมก็ไม่ได้ คุณย่าเย่เป็นกังวลว่าจะทำให้หัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ไม่พอใจ
ได้ยินว่าหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้คนนี้เข้าข้างคนของตนอย่างมาก
“เขากล้าเหรอ ถ้าเขากล้าทำอะไรเหลวไหลอีก ผมจะไล่เขาออกไปจากตระกูลของเรา อย่าหวังที่จะได้อะไรของตระกูลเย่” สีหน้าของคุณปู่เย่เคร่งขรึม พูดเสียงเหี้ยม:“ผมไม่เชื่อว่าเขาจะยอมทิ้งทุกอย่างของตระกูลเย่ ตอนนั้นเขาทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปอยู่ในกำมือ”
“ฉันเป็นกังวลว่าเขาจะพูดเหลวไหลอะไรออกมา ถึงเวลานั้นถ้าหากหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่พอใจขึ้นมา ไม่เป็นผลดีกับทั้งซือเฉิน ไม่เป็นผลดีกับทั้งตระกูลเย่ และไม่ดีกับการแต่งงานระหว่างทั้งสองตระกูล” คุณย่าเย่พูดจาดี แต่ว่ามีแค่เธอเท่านั้นที่รู้ดีว่าความคิดที่แท้จริงภายในใจของเธอคืออะไร
“ผมโทรหาเขาตอนนี้และจะพูดกับเขาให้ชัดเจน ถ้าเขาลองทำเรื่องเหลวไหลก็ลองดู” คุณปู่เย่ดูเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่เล็กจนโต เย่ซือเฉินไม่ได้เชื่อฟังเขามากเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่บริษัท หรือว่าเรื่องแม่ของเย่ซือเฉิน สุดท้ายเย่ซือเฉินล้วนไม่เชื่อฟังเขา
ครั้งที่แล้วเย่ซือเฉินจัดงานแถลงข่าวเพื่อปกป้องเวินลั่วฉิง ทำเรื่องที่ขัดกับพวกเขา คุณปู่เย่จำได้เป็นอย่างดี
คุณปู่เย่รีบหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรไปหาเย่ซือเฉิน แต่ว่าโทรศัพท์ดังอยู่หลายครั้ง เย่ซือเฉินก็ไม่ยอมรับสาย
คุณปู่เย่ เห็นภาพเหตุการณ์ด้านล่างตึกใหญ่บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปผ่านถ่ายทอดสด ทางด้านเย่ซือเฉินกลับไม่มีปฏิกิริยาแม้แต่น้อย คุณปู่เย่โทรติดต่อกันหลายสาย เย่ซือเฉินไม่ยอมรับสาย สีหน้าของคุณปู่เย่แย่ยิ่งกว่าเดิม
“ซือเฉินอาจจะไม่ได้พกโทรศัพท์เอาไว้ ฉิงถิงก็อยู่ด้วย คุณลองโทรหาฉิงถิงดูสิคะ” คุณย่าเย่เห็นว่าโทรไม่ติดสักที ภายในใจรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก เธอกลัวมากว่าเย่ซือเฉินจะพูดเรื่องที่ไม่ควรพูด
“จริงด้วยๆ โทรหาฉิงถิง” คุณปู่เย่รีบหาเบอร์โทรศัพท์ของฉิงถิงแล้วโทรออกทันที ฉิงถิงอยู่ที่นั่นด้วย ขอเพียงโทรหาฉิงถิงติดก็สามารถคุยกับเย่ซือเฉินได้แล้ว
เวลานี้สถานการณ์ใต้ตึกบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปถูกเลขาหลิวควบคุมได้พอประมาณแล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้วุ่นวายเหมือนก่อนหน้านี้ ทันทีที่โทรศัพท์ของคุณชายห้าฉิงดัง เขาก็ได้ยินทันที เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา หลังจากมองดูเบอร์ที่แสดงบนหน้าจอ มุมปากอดไม่ได้ที่จะกระตุกขึ้น คุณปู่เย่โทรศัพท์มาหาเขาในเวลานี้ ต้องเป็นเพราะเห็นถ่ายทอดสดแล้วแน่นอน
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้คุณปู่เย่ต้องการคุยกับพี่สาม
คุณชายห้าฉิงจับโทรศัพท์แล้วเดินเข้าไปใกล้เย่ซือเฉิน พูดเสียงเบา:“พี่สาม คุณปู่เย่โทรมา ผมควรรับสายหรือไม่รับสาย?”
เย่ซือเฉินเพียงแค่กวาดตามองเขานิ่งๆ ไม่พูดแม้แต่คำเดียว
คุณชายห้าฉิงชะงักเล็กน้อย ท่าทีของพี่สามคือให้เขารับสาย หรือว่าไม่ให้เขารับสายล่ะเนี่ย?
พี่สามช่วยใบ้ให้เขาหน่อยไม่ได้หรือไง?
โทรศัพท์ดังไม่หยุด คุณชายห้าฉิงเห็นเย่ซือเฉินไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ครุ่นคิด แล้วรับสาย เพราะถึงอย่างไรเรื่องที่พี่สามจะทำต่อจากนี้เกี่ยวข้องกับคุณปู่เย่อย่างมาก เวลานี้ควรจะให้โอกาสคุณปู่เย่ในการพูดเกลี้ยกล่อม
บางทีพี่สามอาจจะเปลี่ยนความคิดเพราะคำพูดของคุณปู่เย่ก็ได้
“ฉิงถิง ให้ซือเฉินรับสาย” ทันทีที่คุณชายห้าฉิงรับสายเสียงคุณปู่เย่ก็ดังขึ้น เป็นเสียงตะคอกอย่างชัดเจน เปี่ยมไปด้วยความโมโห โกรธเคืองอย่างมาก
คุณชายห้าฉิงลอบถอนหายใจในใจ ตอนนี้พี่สามยังไม่ได้ทำอะไร คุณปู่เย่ก็โมโหขนาดนี้แล้ว เรื่องที่พี่สามจะทำต่อจากนี้ไม่ทำให้คุณปู่เย่เครียดตายหรือไง?
คุณชายห้าฉิงมองเย่ซือเฉินที่ยืนอยู่ข้างเขา ได้ยินเสียงตะคอกของคุณปู่เย่ดังมาจากโทรศัพท์ จึงยื่นโทรศัพท์ไปข้างหูเย่ซือเฉิน คุณปู่เย่มีอะไรจะพูดก็รีบพูดกับพี่สามเถอะ ไม่อย่างนั้นเกรงว่าจะไม่มีโอกาสพูดแล้ว
“เย่ซือเฉิน แกทำบ้าอะไรของแก แกจัดงานแถลงข่าวในตอนนี้คิดจะทำอะไร?” เวลานี้กล้องของทุกสื่อจับหน้าเย่ซือเฉิน ดังนั้นโทรศัพท์ที่คุณชายห้าฉิงยื่นไปข้างหูของเย่ซือเฉินสามารถมองเห็นผ่านถ่ายทอดสดได้ ไม่รอเย่ซือเฉินพูดอะไร คุณปู่เย่ก็ตะคอกออกมาทันที