ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1218 เปิดโปงความเสแสร้งของผู้อาวุโสบ้านเย่ทั้งสอง (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- บทที่ 1218 เปิดโปงความเสแสร้งของผู้อาวุโสบ้านเย่ทั้งสอง (1)
ตอนนี้หลักสำคัญคือต้องให้ความร่วมมือกับแผนของคุณชายน้อย ไม่ว่าต่อจากนี้คุณชายน้อยจะทำอะไร พวกเขาก็ต้องทำสุดความสามารถ อีกอย่างต้องให้ความร่วมมือกับเขา ห้ามทำผิดพลาดเด็ดขาด แน่นอนว่าตอนนี้สิ่งที่กู้หวูสงสัยมากที่สุดก็คือคุณชายน้อยจะทำอะไรกันแน่?
แต่น่าเสียดาย คุณชายน้อยไม่บอกเขา เขาอยากจะหลอกถามก็ถามไม่ออก ดังนั้นกู้หวูจึงทำได้แต่เพิ่มคนไปสองสามคน พอถึงเวลาเตรียมป้องกันไว้ก่อนจะดีกว่า
ถังจื่อโม่หยุดเท้าเดิน นัยน์ตาคู่หนึ่งมองไปทางพวกคนที่ยืนอยู่ข้างนอก คนพวกนี้ก็คือคนที่มาลักพาตัวเขา ทว่าตอนนั้นที่ลักตัวเขาไปก็ไม่ได้จริงจังขนาดนั้น จริงๆแล้วถังจื่อโม่ยังไม่เคยเห็นความสามารถของพวกเขา
ตอนแรกถังจื่อโม่อยากจะวางกับดักให้เย่ซือเฉิน ตอนแรกอยากจะลองทดสอบความสามารถของเย่ซือเฉิน ในขณะเดียวกันก็อยากจะลองทดสอบความสามารถของคนพวกนี้ ทว่ากลับถูกเย่ซือเฉินมองทะลุแผนของเขาไปก่อน
ถังจื่อโม่จึงใช้ความรู้สึกเลือกคนไปไม่กี่คน
กู้หวูเห็นคนพวกนั้นที่ถังจื่อโม่เลือกแล้ว นัยน์ตาคู่หนึ่งก็เปล่งประกายขึ้นทันที คุณชายน้อยจะไปทำอะไรกันแน่ เรียกแต่พวกเก่งกาจไปหมดเลย รู้สึกเหมือนจะไปทำการใหญ่เลย?!
ทว่าเรื่องนี้คุณชายก็ออกคำสั่งแล้ว ดังนั้นไม่ว่าคุณชายน้อยจะทำการใหญ่แค่ไหน ก็ไม่ใช่ปัญหา พวกเขาองค์กรยมบาลรับมือไหว
คุณชายออกคำสั่งแล้ว เขาสามารถปล่อยให้คุณชายน้อยทรมานได้เลย!!
ถังจื่อโม่เลือกคนเรียบร้อยแล้ว ก็พาคนขึ้นรถเลย “ตรงไปที่โรงพยาบาลเลย”
ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ที่ห้อง กู้หวูตั้งใจแตกแยกจุดสนใจของถังจื่อโม่ จึงเปิดทีวี ในทีวีประกาศเรื่องที่คุณปู่เย่สลบแล้วเข้าโรงพยาบาล ดังนั้นถังจื่อโม่รู้ว่าตอนนี้คุณปู่เย่อยู่ที่โรงพยาบาลตี้อี
“คุณชายน้อยครับ เรื่องในวันนี้ใหญ่โตบานปลายอยู่แล้วตั้งแต่แรก คุณไปโรงพยาบาลแบบนี้? สถานะของคุณ?” กู้หวูเห็นท่าทีที่เกรี้ยวกราดของถังจื่อโม่แล้วก็ตะลึงงันไปเลย คุณชายน้อยตัดสินใจจะไปโรงพยาบาลแบบนี้เลย?
งั้นคุณชายน้อยจะใช้สถานะอะไรล่ะ?
“ฉันเป็นคุณชายน้อยขององค์กรยมบาลไม่ใช่หรอ? ทำไม? สถานะนี้ไม่พอ?” ถังจื่อโม่หันไปมองกู้หวูหนึ่งที ท่าทีนั้น บุคลิกนั้นเหมือนคุณชายสามเย่มาก
แน่นอนว่าถังจื่อโม่รู้ถึงความหมายที่กู้หวูจะถาม เขาไม่ได้โง่ ไม่มีทางเปิดโปงตัวตนของตัวเองแน่นอน สถานะตัวตนของเขาและน้องสาวต้องรอให้คุณพ่อกับคุณแม่อยู่ด้วยกัน แล้วให้คุณพ่อคุณแม่เป็นคนประกาศกับคนนอก เขาไม่มีทางเป็นคนตัดสินใจเองแน่นอน เขาห้ามเพิ่มภาระให้คุณพ่อและคุณแม่เด็ดขาด และห้ามเพิ่มภาระให้กับบ้านถัง
ถึงแม้ว่าอายุเขาจะน้อย ทว่าเรื่องพวกนี้เขาต่างก็เข้าใจหมด!!
กู้หวูอึ้งไปเลย หลังจากได้สติแล้วก็รีบพยักหน้ารัวๆ “พอ พอแน่นอนครับ สถานะนี้ดีมากครับ”
กู้หวูรู้ว่าเรื่องที่คุณปู่เย่เข้าโรงพยาบาล สถานการณ์นั้นส่งผลไม่ดีกับคุณชายบ้านเขา คุณชายน้อยจะไปคิดบัญชีกับคุณปู่เย่เวลานี้ หากบอกว่าเป็นลูกชายของคุณชายตรงๆ พอถึงเวลาไม่รู้ว่าจะถูกคนอื่นพูดนินทายังไง
คุณชายน้อยอายุเพียงห้าขวบ พวกเขาต่างก็รู้ว่านี่เป็นความคิดของคุณชายน้อยคนเดียว ทว่าคนนอกนั้นไม่รู้แน่นอน ไม่แน่พอถึงเวลาต่างก็จะคิดว่าคุณชายบ้านเขาตั้งใจให้เด็กมาสร้างความวุ่นวาย
ตอนนี้คุณชายน้อยบอกว่าจะไปในสถานะคุณชายน้อยขององค์กรยมบาล กู้หวูก็วางใจแล้ว ไม่ว่ายังไงจนกระทั่งตอนนี้ คนที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของคุณชายก็มีเพียงไม่กี่คน
แต่ว่าพอเป็นเช่นนี้ กู้หวูก็ยิ่งแปลกใจในแผนของถังจื่อโม่แล้ว คุณชายน้อยพาคนไปเยอะขนาดนี้ อีกอย่างยังใช้สถานะของคุณชายน้อยองค์กรยมบาลไปด้วย หรือว่าจะใช้กำลังแรงในการแก้ปัญหา?
ทว่าตอนนี้คุณปู่เย่กำลังสลบอยู่ เข้าโรงพยาบาลแล้วด้วย อีกอย่างคุณปู่เย่อายุปูนนี้แล้ว ใช้กำลังแรงโดยตรงไม่ค่อยดีมั้ง?
“คุณชายน้อย ก่อนหน้านี้คุณก็เห็นข่าวแล้ว คุณปู่เย่ยังสลบอยู่เลยครับ” กู้หวูอยากจะเตือนคุณชายน้อยแบบอ้อมๆ ไม่ว่ายังแล้วสถานการณ์ในตอนนี้ของคุณปู่เย่ก็ค่อนข้างพิเศษ
“เขาเสแสร้งอยู่ โกหกคนอยู่” ถังจื่อโม่หัวเราะอย่างเย็นชา เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าคุณปู่เย่กำลังแกล้งเสแสร้งอยู่ คุณปู่เย่สามารถโกหกคนอื่นได้แต่โกหกเขาไม่ได้นะ เขาได้ฝึกความสามารถด้านการสังเกตจากคุณแม่ตั้งแต่เด็กๆเลย
“คุณแน่ใจได้ยังไงครับว่าคุณปู่เย่เสแสร้งอยู่?” กู้หวูอึ้งไปเลย นัยน์ตาคู่หนึ่งจ้องถังจื่อโม่ด้วยความตะลึงงัน ถึงแม้ว่าเขาเองก็สงสัยว่าคุณปู่เย่กำลังเสแสร้งอยู่ ทว่าเขาไม่แน่ใจ
ไม่ว่ายังไงแล้วเขาเองก็ไม่ได้อยู่ในสถานที่ แค่เห็นภาพที่นักข่าวเผยออกมาแต่ก็ไม่ได้เห็นความผิดปกติอะไร แน่นอน หลักสำคัญก็เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ความสนใจของกู้หวูอยู่แต่บนตัวของถังจื่อโม่ ดังนั้นจึงไม่ได้ดูอย่างละเอียด
“สีผิวของใบหน้าของคุณปู่เย่และลำคอแตกต่างกันมาก แค่ดูก็รู้ว่าวาดลงไป ทักษะการเสแสร้งนี้แย่เกินไปแล้ว” ถังจื่อโม่เบ้ปากเลย ก็ยังรู้สึกไม่เห็นด้วย
“จริงๆด้วย……” กู้หวูรีบหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดรูปคุณปู่เย่ตอนสลบที่นักข่าวเผยออกมาก่อนหน้านี้ เพราะว่ามีการเตือนของถังจื่อโม่ ครั้งนี้เพียงแค่แวบเดียวกู้หวูก็มองออกถึงความปิดปกติ สีผิวบนใบหน้าและบนคอแตกต่างกันเยอะมากจริงๆ
ใบหน้าซีดขาวเกินไป ทว่าลำคอกลับแดงก่ำ
“ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ ข้อบกพร่องที่ชัดเจนขนาดนี้ นักข่าวพวกนั้นมองไม่ออกเหรอ? แล้วก็คุณหมอก็มองไม่ออกเหรอ? มีตากันไว้ทำไมเนี่ย?” ถังจื่อโม่ส่ายหัว เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าไม่สามารถเข้าใจในปัญหานี้จริงๆ
กู้หวูได้ยินคำพูดของคุณชายน้อยแล้ว รู้สึกว่าคำพูดนี้หมายถึงตัวเขาด้วย ดังนั้นจึงรีบอธิบายขึ้นว่า “อาจจะเป็นเพราะว่านักข่าวและคุณหมอมีจุดสนใจที่ไม่เหมือนกันครับ นักข่าวคิดแต่จะรายงานข่าว คุณหมอก็รีบดูอาการของผู้ป่วย ดังนั้นจึงไม่ได้สังเกตอย่างอื่นครับ แน่นอนว่ามีจุดที่สำคัญอีกจุดคือ พวกเขาต่างก็คิดไม่ถึงครับว่าคุณปู่เย่จะแกล้งเสแสร้ง”
“นายก็คิดไม่ถึง?” ถังจื่อโม่กวาดสายตาไปทางกู้หวูหนึ่งที
กู้หวูหมดคำพูดไปเลย เขานึกถึงแล้ว ทว่าตอนนั้นเขากำลังคิดแต่ว่าจะเผชิญหน้ากับพ่อคุณทูนหัวท่านนี้ยังไง ดังนั้นจึงไม่เห็นรายละเอียดพวกนี้เลย
“ผมไม่ได้ตาดีเท่าคุณชายน้อยอยู่แล้วครับ คุณชายน้อยสุดยอดที่สุดเลยครับ ในเมื่อคุณชายน้อยรู้ว่าคุณปู่เย่แกล้งเสแสร้งอยู่ ดังนั้นจะไปเปิดโปงคุณปู่เย่ใช่ไหมครับ?” กู้หวูรู้สึกว่าไม่ควรไปถกเถียงกับเด็กอายุห้าขวบจริงๆ นี่เป็นคุณชายน้อยบ้านเขา เขาไม่สามารถสู้คุณชายน้อยบ้านเขาได้ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร ในตอนที่กู้หวูกำลังประจบประแจงถังจื่อโม่ก็ยังไม่ลืมที่จะหลอกถามถังจื่อโม่
ถังจื่อโม่ยิ้มโค้งที่มุมปากเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร จริงๆแล้วเขาอยากจะไปหาคุณปู่เย่ หนึ่งเพราะคุณแม่และน้องสาว สองก็เพราะว่าเย่ซือเฉิน
คุณปู่เย่แกล้งเป็นลมและโทษไปที่เย่ซือเฉิน ทำให้ทุกคนต่างก็ด่าเย่ซือเฉิน จุดนี้เขามองต่อไปไม่ไหวแล้ว
ถึงแม้ว่าเขายังไม่ได้ยอมรับเย่ซือเฉินทั้งใจ ทว่าเย่ซือเฉินคือพ่อของเขา พ่อแท้ๆ ดังนั้นเขาไม่ยอมให้คนอื่นมารังแกเย่ซือเฉินแบบนี้แน่นอน
ดังนั้น เขาไปในครั้งนี้ต้องไปเปิดโปงคุณปู่เย่แน่นอน ต้องทวงความยุติธรรมกลับมาให้เย่ซือเฉิน
เรื่องนี้ถึงแม้ว่าเย่ซือเฉินจะไม่สนับสนุนเขา เขาก็ต้องคิดวิธีไปหาคุณปู่เย่ด้วยตัวเองแน่นอน
คุณปู่เย่ทำเรื่องอื่นเขาไม่สนใจ ทว่าคุณปู่เย่ห้ามรังแกคนในครอบครัวของเขาเด็ดขาด!!
ใครก็ห้ามรังแกคนในครอบครัวของเขา!1!
กู้หวูเห็นว่าถังจื่อโม่ไม่พูดอะไรอีก อีกอย่างยังทำสีหน้าที่จริงจังอีกด้วย กู้หวูเองก็ต้องเงียบลง
ณ ห้องรับแขกบ้านถังในขณะนี้ สีหน้าของท่านย่าถังเย็นชาเป็นพิเศษ ตั้งแต่ที่ได้ยินเรื่องนั้นก็ทำให้หัวใจของเธอไม่สามารถสงบลงได้
ก่อนหน้านี้ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าคุณปู่เย่และคุณย่าเย่เคยทำเรื่องเลยเถิด ทว่าคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะทำเรื่องเลยเถิดมาถึงขั้นนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะทำร้ายฉิงฉิงบ้านพวกเธอ
“ทำไมพวกเขาถึงทำแบบนี้? พวกเขาทำแบบนี้ได้ยังไง?” ท่านย่าถังใช้แรงสูดหายใจ ยังคงรู้สึกไม่เป็นใจ “พวกเขายังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะส่งจื่อซีจากไป? ยังจะขายฉิงฉิงไปยังเขตบนดอยอีก?”
ท่านย่าถังยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าอารมณ์ถูกกระตุ้นมากขึ้น
“คุณย่าทวด อย่าโมโหเลยนะคะ จื่อซีไม่เป็นอะไรค่ะ คุณย่าทวดอย่าโมโหนะคะ” จื่อซีในขณะนี้ยังพิงอยู่ในอ้อมกอดของท่านย่าถัง จื่อซีเห็นสภาพของท่านย่าถังแล้วก็รีบปลอบใจท่านย่าถัง
ถังจื่อซีฉลาดและเป็นเด็กดี เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเข้าใจในบทสนทนาเมื่อกี้ของทุกคนแล้ว
ท่านย่าถังโอบถังจื่อซีไว้ในอ้อมกอด รู้สึกเอ็นดูมาก “จื่อซีบ้านเราเป็นเด็กดีขนาดนี้ พวกเขาสามารถไม่ชอบได้ พวกเขาก็สามารถไม่ยอมรับได้ ทำไมพวกเขาต้องส่งจื่อซีจากไป? ทำไมหัวใจของพวกเขาถึงโหดเหี้ยมเช่นนี้ล่ะ? พวกเขารู้อยู่แล้วว่าจื่อซีเป็นสายเลือดของเขา ทำไมพวกเขาถึงทำแบบนี้กับจื่อซี?”