ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1221 ศึกใหญ่ของถังจื่อโม่(2)
“นายไปซื้อ” ครั้งนี้ถังจื่อโม่ไม่ได้อธิบายอะไรทั้งนั้น คุณชายถังจื่อโม่รู้สึกว่ากู้หวูพูดมากไปหน่อย อีกทั้งจนกระทั่งตอนนี้ เขาเห็นแค่การปากเสียซึ่งเป็น ‘ความสามารถ’เพียงอย่างเดียวของกู้หวู ไม่เคยเห็นกู้หวูมีความสามารถอย่างอื่น
“ครับ” ถึงแม้ภายในใจกู้หวูจะรู้สึกสงสัยมาก แต่ก็ยังคงตอบตกลง ทั้งยังแสดงถึงความดีใจออกมาอย่างชัดเจน เขารู้สึกว่าเรื่องนี้ยิ่งอยู่ก็ยิ่งมีความหมาย การอยู่กับคุณชายน้อยมันส์กว่าจริงๆ ด้วย
กู้หวูรู้สึกว่าเขาสามารถแนะนำพี่ใหญ่ให้คุณชายน้อยดูแลองค์กรยมบาล หลังจากนั้นเขาจะได้อยู่กับคุณชายน้อยทุกวัน ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ หลังจากนี้เขาไม่ต้องกังวลว่าจะเบื่ออีกต่อไปแล้ว
กู้หวูรวดเร็วมาก ใช้เวลาไม่นานเขาก็เอาของกลับมาแล้ว
ถังจื่อโม่ใส่หมวก ใส่แว่นกันแดด หลังจากนั้นเอาปากกาเขียนคิ้วที่กู้หวูซื้อมาวาดจมูกและริมฝีปากปากเล็กน้อย จากนั้นใบหน้าของเขาก็มี ‘กระ’ ขึ้นมา
ปากกาเขียนคิ้วสีน้ำตาลแต่งแต้มลงใบใบหน้า สีเหมือนกระของจริงมาก
ในที่สุดตอนนี้กู้หวูก็รู้แล้วว่าทำไมคุณชายน้อยถึงต้องการปากกาเขียนคิ้ว ที่แท้ก็ต้องการจะวาดกระนี่เอง
ไม่พูดไม่ได้จริงๆ คุณชายน้อยวาดกระได้เหมือนมาก ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเห็นคุณชายน้อยวาดกระด้วยตนเองกับตา เขาคงถูกหลอกไปแล้ว
อีกทั้งเขารู้สึกว่าท่าทีของคุณชายน้อยดูชำนาญมาก ไม่เหมือนวาดเป็นครั้งแรก
หลังจากนั้นกู้หวูก็คิดถึงกระที่อยู่บนใบหน้าเวินลั่วฉิงเมื่อก่อนหน้านี้ ดังนั้นความสามารถในการวาดกระของคุณชายได้มาจากคุณผู้หญิง?
“คุณชายน้อยครับ คุณชายน้อยวาดแบบนี้ แม้แต่ผมก็จำคุณชายน้อยไม่ได้ คนอื่นก็ยิ่งจำไม่ได้แน่นอนครับ” ครั้งนี้กู้หวูพูดจากใจจริง เวลานี้ถังจื่อโม่สวมหมวก สวมแว่นกันแดด บวกกับวาดกระเสมือนจริงลงบนใบหน้า หน้าตาเปลี่ยนไปเป็นปลิดทิ้งจริงๆ
“อืม พอได้” ถังจื่อโม่เปิดกระจกบนรถขึ้นมาส่อง ถือว่าพึงพอใจอย่างมาก
“ได้ครับ ได้แน่นอน ได้มากๆ” กู้หวูประจบ แน่นอนว่ากู้หวูพูดจากใจจริง
“ไปเถอะ ไปโรงพยาบาลกัน ตอนนี้น่าจะมีนักข่าวอยู่ที่โรงพยาบาล” ถังจื่อโม่จัดแจงเล็กน้อย แล้วนั่งใหม่ คุณชายน้อยวางท่าขึ้นมา ทรงพลังอย่างมาก
“คุณชายน้อย เราจะหลบนักข่าวไหมครับ? หรือว่าจะตั้งใจให้นักข่าวเดินตามเข้าไป?” กู้หวูได้ฟังคำพูดของถังจื่อโม่ ดวงตาเปล่งประกายขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ครั้งนี้คุณชายน้อยมาคิดบัญชีกับคุณปู่เย่ มาคิดบัญชีกับคนอื่นแบบนี้ กู้หวูรู้สึกว่าควรจะสงบเสงี่ยมหน่อย
สำหรับนักข่าว ทางที่ดีที่สุดไม่ต้องไปข้องเกี่ยว
“แน่นอนว่าให้นักข่าวตามเข้าไป” ถังจื่อโม่กวาดตามองกู้หวูอย่างรวดเร็ว:“ฉันเป็นคนเปิดเผย ไม่จำเป็นต้องกลัวใคร”
มุมปากของกู้หวูกระตุกขึ้นมา:“คุณชายน้อย พวกเราไปคิดบัญชีกับคุณปู่เย่ ทำให้ทุกคนรู้แบบนี้คงไม่ดีเท่าไหร่รึเปล่าครับ”
ความใจกล้าของคุณชายน้อยเป็นเรื่องที่ดี ทรงพลังอย่างมาก แต่ว่าการทำอะไรเปิดเผยก็ต้องดูสถานการณ์หน่อย
ถึงแม้พวกเขาองค์กรยมบาลจะไม่กลัวใคร ถึงแม้ปกติแล้วพวกเขาองค์กรยมบาลจะเข้าใกล้เรื่องอันตราย อย่างเช่นการต่อสู้และฆ่าฟัน แต่ว่าพวกเขาองค์กรยมบาลให้ความสำคัญกับกฎระเบียบ
“ต้องการให้ทุกคนรู้” ถังจื่อโม่ไม่สนใจกู้หวูที่คอยเกลี้ยกล่อม ท่าทีของเขาหนักแน่นอย่างมาก
“คุณชายน้อย คุณชายน้อยช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมครับ คุณชายน้อยจะทำอะไรกันแน่ คุณชายน้อยให้ผมเตรียมตัวเตรียมใจหน่อยสิครับ” กู้หวูเห็นว่าไม่สามารถเกลี้ยกล่อมถังจื่อโม่ได้ ภายในใจจึงตกตะลึง
ในเมื่อไม่สามารถเกลี้ยกล่อมคุณชายน้อยได้ ถ้าอย่างนั้นอย่างน้อยเขาก็ต้องรู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาจะได้เตรียมใจ
“เดี๋ยวถึงเวลานายก็รู้เอง” แต่ว่าถังจื่อโม่ยังคงไม่บอกเขา พูดกำกวมแค่ประโยคเดียวแล้วจบบทสนทนากับกู้หวู
กู้หวู:“……”
ติดตามคุณชายน้อยน่าหวาดเสียวเกินไปรึเปล่า?
เขาไม่รู้เลยว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ไม่ได้เตรียมตัวแม้แต่น้อย ถึงเวลานั้นถ้าเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาจะทำยังไง?
กู้หวูเป็นกังวลอย่างมาก แต่ถังจื่อโม่กลับทำเหมือนไม่มีเรื่องอะไร ไม่สนใจกู้หวูอีก
ภายในใจของกู้หวูรู้สึกสับสน คุณชายน้อยไม่พูดอะไรเลย เขาเองก็ไม่สามารถลวงคำพูดจากคุณชายน้อยได้ ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เขาก็ทำได้แค่เตรียมทุกอย่างให้พร้อม
ไปถึงโรงพยาบาล ตอนลงจากรถยนต์ กู้หวูบอกให้คนที่ติดตามมาด้วยเตรียมทุกอย่างให้พร้อม คนที่ติดตามมาด้วยเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของกู้หวู พวกเขาก็ดูเป็นกังวลขึ้นมา
หลังจากกู้หวูลงจากรถ เขาก็รีบอ้อมไปอีกทางอย่างรวดเร็ว เปิดประตูรถให้ถังจื่อโม่ แน่นอนว่าคนอื่นๆ ก็รีบตามติดกู้หวู ดังนั้นทันทีที่ถังจื่อโม่ลงจากรถ ด้านหลังของเขาจึงมีคนที่ดูเหี้ยมโหดหลายคนยืนอยู่
แน่นอน ไม่ได้บอกว่าคนพวกนั้นดูน่ากลัว ในทางตรงข้ามพวกเขาดูดีมาก ทว่ารังสีที่แผ่ออกมาจากรอบตัวเขาดูน่ากลัวเท่านั้น
รังสีแบบนั้น ออร่าที่ทรงพลังแบบนั้น พวกเขาฝึกฝนมาจากภารกิจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ใช่สิ่งที่บอดี้การ์ดที่ดูเหมือนมีความสามารถแต่ความเป็นจริงต่อสู้ไม่เก่งจะสามารถเปรียบได้ พวกเขายืนเรียงกันแบบนี้ มีความน่าเกรงขามจนต้องตกตะลึง
ถึงแม้ถังจื่อโม่จะอายุน้อย ตัวเล็ก แต่เขาดูทรงพลังอย่างมาก ถังจื่อโม่ลงจากรถ เชิดคางขึ้นเล็กน้อย ยิ่งดูแข็งแกร่งมากขึ้น
เวลานี้ด้านนอกโรงพยาบาลยังมีนักข่าวจำนวนไม่น้อยล้อมเอาไว้ ก่อนหน้านี้คุณย่าเย่เข้าไปแล้ว ทางโรงพยาบาลไม่อนุญาตให้นักข่าวเข้าไปด้วย มีนักข่าวหลายสำนักหาวิธีจนเข้าไปได้ แต่นักข่าวสำนักเล็กๆ ถูกรั้งเอาไว้ด้านนอก
นักข่าวมีชีวิตด้วยการขุดคุ้ย แน่นอนว่าในสถานการณ์แบบนี้ยิ่งไม่อยากออกไป ไม่แน่นว่าหลังจากนี้อาจจะเกิดเรื่องอย่างอื่นขึ้นก็ได้
การมาที่ยิ่งใหญ่ของถังจื่อโม่ดึงดูดความสนใจอย่างมาก นักข่าวที่ก่อนหน้านี้ล้อมอยู่ด้านนอกโรงพยาบาลเห็นการมาที่ยิ่งใหญ่ของเขาก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที ดูจากการมาที่ยิ่งใหญ่แล้วคนๆ นี้ต้องไม่ธรรมดา ถึงแม้จะไม่ได้ข่าวของตระกูลเย่ ได้ข่าวอย่างอื่นก็ดีเหมือนกัน
นี่เป็นลูกของใครกัน ออกมาแสดงตัวทั้งที่ยังเป็นเด็กตัวแค่นี้ แต่ว่าดูทรงพลังมากจริงๆ
นักข่าวหลายคนรีบวิ่งไปล้อมเขาเอาไว้ ช่างกล้องอดไม่ได้ที่จะรีบถ่ายรูปอย่างรวดเร็ว
“อย่าขวางทางผม วันนี้ผมมาคิดบัญชีกับคนๆหนึ่ง” ถังจื่อโม่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคู่นั้นกวาดมองไปที่นักข่าวพวกนั้น คำพูดแค่ประโยคเดียวของเขาหนักแน่นจนทำให้คนถึงกับแลบลิ้นออกมา
กู้หวูที่เดินตามหลังถึงกับเข่าอ่อน คุณชายน้อยของผม เราช่วยสงบเสงี่ยมหน่อยได้ไหมครับ? สงบเสงี่ยมสักหน่อย?
มาคิดบัญชีกับคนอื่นไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศแบบนี้!!
พวกเขาองค์กรยมบาลให้ความสำคัญกับกฎระเบียบ และต้องการศักดิ์ศรีเหมือนกัน!!
ตอนนี้คุณชายน้อยยังไม่ได้รับช่วงดูแลองค์กรยมบาล ก็จะทำลายชื่อเสียงขององค์กรยมบาล?
เวลานี้ภายในใจของกู้หวูโอดครวญด้วยความเศร้า แต่ว่าในสถานการณ์แบบนี้เขาไม่มีวันพูดอะไรเหลวไหล และไม่มีวันพูดขัดคุณชายน้อย เวลานี้ไม่ว่าคุณชายน้อยจะทำอะไร เขาจำเป็นต้องให้เกียรติคุณชายน้อย
“มาคิดบัญชี? มาคิดบัญชีกับใคร? ที่นี่คือโรงพยาบาลนะ? มาคิดบัญชีกับใครที่โรงพยาบาล?” นักข่าวที่ล้อมวงเอาไว้ได้ฟังก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที เหตุการณ์แบบนี้เหมือนจะเคยดูในโทรทัศน์ วันนี้คิดไม่ถึงว่าจะเจอของจริง
ข่าวแบบนี้รายงานออกไปต้องได้รับความสนใจอย่างมากแน่นอน มาคิดบัญชีถึงโรงพยาบาล ดูจากเหตุการณ์แล้วน่าจะอยู่ระหว่างทาง?
อีกทั้งยังมีเด็กตัวเล็กแค่นี้ ทั้งหมดนี้สามารถกลายเป็นที่ถกเถียงได้
นักข่าวหลายสำนักที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้มารีบเข้ามาล้อมอย่างรวดเร็ว ชั่วขณะหนึ่งนักข่าวล้อมถังจื่อโม่เอาไว้
ดวงตาคู่นั้นของถังจื่อโม่กวาดมองคนที่ล้อมเขาเอาไว้ ครั้งนี้ถังจื่อโม่ไม่ได้พูดอะไร แต่เดินตรงเข้าไปในโรงพยาบาล
“เฮ้อ ทำไมถึงไปแล้วล่ะเนี่ย? เมื่อกี้หนูบอกว่าหนูมาคิดบัญชีกับคนๆหนึ่ง มาคิดบัญชีกับใคร? แล้วหนูชื่ออะไร เป็นลูกของใคร” นักข่าวจะยอมปล่อยให้ถังจื่อโม่เดินไปได้ยังไง พวกเขายังมีอีกหลายคำถามที่ยังไม่เข้าใจกระจ่างแจ้ง
“ถอยไปให้หมด อย่ามาขวางทางคุณชายน้อยของเรา” กู้หวูเห็นนักข่าวขวางทางถังจื่อโม่ ถังจื่อโม่เดินเข้าไปไม่ได้แล้ว กู้หวูจึงก้าวไปยืนตรงหน้าเขา
“คุณชายน้อย? นี่คือคุณชายน้อยตระกูลอะไรคะ” นักข่าวได้ยินคำพูดของกู้หวู คว้าตัวกู้หวูแล้วถามใจความสำคัญ
สามารถถูกเรียกว่าคุณชายน้อย ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน แค่ไม่รู้ว่าเป็นคุณชายน้อยตระกูลไหนกันแน่
“เมื่อก่อนไม่เคยเห็นเด็กคนนี้ และไม่เคยเห็น……” เป็นครั้งแรกที่ถังจื่อโม่เผยตัวต่อสาธารณชน อีกทั้งถังจื่อโม่ยังปลอมตัวมาเป็นอย่างดี แน่นอนว่าไม่มีใครรู้จักเขา
“หนูน้อย หนูเป็นใครกันแน่ครับ?”
“หนูน้อย หนูชื่ออะไรครับ?”
“หนูน้อย คุณพ่อคุณแม่ของหนูเป็นใครครับ?”
กู้หวูเห็นท่าทีของกู้หวูแล้วรู้สึกกลัว ไม่กล้าถามกู้หวู จึงยื้อแย้งกันไปถามถังจื่อโม่ พวกเขามั่นใจว่าสามารถได้รับคำตอบที่อยากจะได้จากปากเด็กอายุห้าขวบอย่างง่ายดาย